อี แอล เจมส์ คือ นามปากกาของ เอริกา เลียวเนิร์ด อดีตผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ก่อนจะหันเหมาเป็นแม่บ้าน และ นักเขียนชื่อดังจากนิยายอีโรติกโรแมนซ์ ฟิฟตี้ เชดส์ ออฟ เกรย์ เพราะเธอหลงใหลนิยายชุด ทไวไลท์ ของ สเตเฟนี่ เมเยอร์ จึงเขียนแฟนฟิคบนอินเตอร์เน็ตเรื่อง มาสเตอร์ ออฟ เดอะ ยูนิเวอร์ส โดยใช้นามปากกา สโนว์ควีนส์ไอซ์ดรากอน ปรากฏว่าได้รับความนิยมจากนักอ่าน แม้จะถูกวิจารณ์เนื้อหาโจ๋งครึ่มในการแสดงออกทางเพศก็ตาม ส่งผลให้เธอติดใจขยายเรื่องราวเป็นสามเล่มจบออกขายแบบอีบุ๊ก และ พิมพ์ตามสั่ง ขณะสำนักพิมพ์ใหญ่มาซื้อลิขสิทธิ์จำหน่ายภายใต้ชื่อ ฟิฟตี้เชดส์ ได้กระแสโหมกระพือทำยอดขายมากกว่า 90 ล้านเล่มทั่วโลก ไม่แปลกอะไรหากเวอร์ชั่นภาพยนตร์จะได้รับความสนใจจากทุกสื่อตั้งแต่ประกาศสร้าง มีแฟนคลับเฝ้ารอติดตามชม เพิ่มดีกรีกลายเป็นหนังร้อนแรงที่สุดแห่งปี

     ผู้อ่าน ฟิฟตี้ เชดส์ ออฟ เกรย์ คงรู้จักตัวละคร คริสเตียน เกรย์ (เจมี่ ดอร์แนน-แสดง) ดีอยู่แล้วว่าเขาไม่เคยรักใครจริง และ ไม่เคยหยิบยื่นช่อดอกไม้ให้ใครด้วย เขาชอบวางอำนาจ และ ควบคุมคนอื่น โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ เปิดฉาก แอนัสเตเชีย สตีล (ดาโกต้า จอห์นสัน-แสดง) นักศึกษาสาววิชาเอกวรรณกรรมจำใจต้องไปสัมภาษณ์นักธุรกิจผู้อุปถัมภ์มหาวิทยาลัย และ จะร่วมพิธีมอบปริญญาบัตรแก่บัณฑิตด้วย เพราะเคท (อีลอยส์ มัมฟอร์ด-แสดง),รูมเมทป่วยเป็นไข้หวัดจึงขอให้แอนาไปแทน เธอพบว่า คริสเตียน เกรย์ ประธานบริษัทด้านสื่อสารโทรคมนาคมผู้ร่ำรวยเป็นหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ แอนาติดตาต้องใจเขาตั้งแต่แรกเจอเช่นเดียวกับคริสเตียน ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งภายในเวลาอันรวดเร็ว แอนาเพิ่งรู้ว่าเขามีรสนิยมทางเพศแบบ BDSM (Bondage - ถูกพันธนาการ Disipline - ถูกลงโทษ Sadism และ Masochism - ชื่นชอบการทารุณ และ ถูกทารุณ) 

     นั่นคือเรื่องราวคร่าวๆของนิยายขายดีทะลุหลักล้านเล่มภายใน 11 สัปดาห์ หนอนหนังสือหลายรายต่างเคยค่อนขอดว่า อ่อนวรรณศิลป์ หรือ เป็นเพียงนิยายลามกสำหรับเหล่าแม่บ้านอารมณ์เปลี่ยว แต่ไม่อาจห้ามสตูดิโอยักษ์ใหญ่ฮอลลีวู้ดมารุมทึ้งแย่งซื้อลิขสิทธิ์เอาไปทำหนัง และ ยูนิเวอร์แซล กับ โฟกัส ยอมจ่ายเงิน 5 ล้านดอลลาร์ แซม เทย์เล่อร์-จอห์นสัน ผู้กำกับหญิงเคยมีผลงานหนังดราม่าชีวิตวัยหนุ่ม จอห์น เลนนอน ชื่อเรื่อง โนแวร์ บอย มานั่งกุมบังเหียน ส่วน เคลลี มาร์เซล (เซฟวิ่ง มิสเตอร์แบ็งส์) ได้เขียนบทร่างแรก เธอบอกเล่าเรื่อง หญิงสาวบริสุทธิ์คนหนึ่งเข้าไปสำรวจเรื่องความต้องการทางเพศ ตกเป็นทาสอารมณ์ และ ได้ค้นพบตัวของตัวเอง ดุจเทพนิยายสองพี่น้องกริมม์ฉบับมืดหม่นอนธการ แซมชอบเห็นการเปลี่ยนผ่านบุคลิกภาพของแอนัสเตเชีย รวมไปถึงการเดินทางของเธอ มันคือความท้าทายรูปแบบใหม่ในการนำตัวละครในหนังสือมาโลดแล่นบนจอ

     เจมี่ ดอร์แนน ในตอนแรกไร้แววตาสีเทาดูเยียบเย็น ลึกลับ และ ทรงอำนาจอย่าง คริสเตียน เกรย์ แต่การแสดงของเขาดูดีมีเสน่ห์มากขึ้นเมื่อปรากฏตัวในร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่แอนาทำงานอยู่ เธอช่วยเขาหาสินค้าที่ต้องการคือ เชือก และ ที่รัดสายไฟ ซึ่งเธอจะรู้ภายหลังว่าเขานำเอาของพรรค์นี้ไปใข้ทำอะไร หนังมีจุดแข็งกว่าหนังสือตรงเดินเรื่องกระชับเพราะตัดคำพรรณนา และ การรำพันความในใจของนางเอกออกไป (ฉบับแปลไทยความหนา 582 หน้า) เรื่องราวน่าติดตามยิงขึ้นเมื่อคริสเตียนเผยข้อตกลง และ พาแอนาไปดูห้องเล่นเสียวของเขา ดอร์แแนนแสดงได้หลากหลายอารมณ์ ภายใต้ท่าทีตึงเครียดเพราะมีบาดแผลในใจเจ็บซ่อนลึกของเกรย์ จนกระทั่งเขาพาแอนาขึ้นเครื่องร่อนบินอยู่บนท้องฟ้า สองดารานำแสดงสะท้อนความสุขดื่มด่ำโดยไร้คำบรรยาย

     ดาโกต้า จอห์นสัน รับบท แอนัสเตเชีย ใบหน้าเธอดูมีเสน่ห์ ไร้เดียงสา มีความเป็นตัวของตัวเอง อยากรู้อยากเห็น และ โหยหาความรักโรแมนติก เธอเปิดใจกว้าง อ่อนไหว แต่ไม่ใช่คนโง่ และ กล้าปฏิเสธ หนังมีข้อจำกัดในฉากเปลือยขณะร่วมเพศ การอวดเนื้อหนังมังสา มัดกล้าม แลดูไม่น่าเกลียด จังหวะจะโคนลื่นไหลเร้ากิเลสตัณหาพอประมาณ ฉากคริสเตียนใช้เข็มขัดเฆียนแอนาสื่อความหมายรุนแรงสะใจ สอดคล้องกับฉากแอนาร้องไห้โศกเศร้ากับการรับโทษทัณฑ์คือ ไคลแม็กซ์ ที่แท้จริง นักรณรงค์เพื่อสิทธิสตรีไม่มีทางยอมรับการกดขี่ทางเพศอย่างนี้ ในยุคสมัยที่ผู้หญิงคือช้างเท้าหน้าของครอบครัว หาเลี้ยงสามี และ ลูกด้วยซ้ำไป และ บทบาททางสังคมที่ผู้หญิงก้าวไปถึงผู้นำทางการเมือง และ ขับเคลื่อนองค์กรทางธุรกิจขนาดใหญ่ หนังกลับสวนกระแสโดยสถาปนาอำนาจผู้ชายขึ้นมาใหม่ โดยไม่ลืมความหมายของรักแท้ และ ค่าของคน ..