ส่วนประกอบของกล้อง Digital
Digital Camera มีส่วนประกอบที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนกว่ากล้องถ่ายภาพประเภทใช้ฟิล์มพอสมควร แต่หลักการใช้งานคล้ายกันมากแถมยังใช้งานง่ายกว่ากล้องฟิล์มค่อนข้างมาก และส่วนประกอบที่สำคัญของกล้อง Digital ที่สำคัญ ประกอบไปด้วย

1. Body หรือตัวกล้องเป็นส่วนที่หุ้มส่วนประกอบต่างๆที่อยู่ภายในโดยส่วนใหญ่ทำจาก Polymer (พลาสติก) โดยกล้องที่ทำจากวัสดุชนิดนี้จะเป็นกล้องราคาถูกซะส่วนใหญ่เนื่องจากเป็นวัสดุราคาถูกแล้วก็ที่ทำจากวัสดุจำพวกโลหะเช่น อลูมินั่มอัลลอยหรือแมกนิเซียมอัลลอย(พลาสติกผสมโลหะ) และสแตนเลสด์ ส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุที่ใช้ทำกล้องประเภทราคาสูงและกล้องประเภทมืออาชีพ

2. จอ LCD จะใช้สำหรับจัดองค์ประกอบภาพและเช็ครายละเอียดของภาพที่ถ่ายมาแล้ว ความคมชัดของจอ LCD ขึ้นอยู่กับพิกเซลที่ผู้ผลิตใส่เข้าไปและไม่มีผลใดๆเกี่ยวกับภาพถ่าย ขนาดของจอ LCD มีผลเกี่ยวกับพลังงานไฟที่ใช้ยิ่งขนาดของจอ LCD ขนาดใหญ่ก็ยิ่งกินไฟมากขึ้นครับ

3. เลนส์ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งซึ่งมีความสำคัญต่อการรับสี แสง ของภาพที่เราจะถ่ายบางยี่ห้อก็จะใช้เลนส์ของผู้ผลิตจากค่ายอื่นเช่น Sony ใช้เลนส์ของ Carl Ziess (คาร์ลไซส์), Panasonic ใช้เลนส์ของ Leica (ไลก้า) หรือเลนส์ Schneider (ชไนเดอร์) ซึ่งติดมากับกล้องของ Kodak, Samsung บางรุ่น ซึ่งเลนส์เหล่านี้จะเป็นเลนส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและเป็นเลนส์ที่ผลิตให้กับกล้องประเภทแบบ Mediam Format หลายยี่ห้อในอดีตซึ่งปัจจุบันเลนส์ยี่ห้อเหล่านี้ได้ถูกซื้อลิขสิทธ์หรือที่นิยมเรียกว่า Take Over จากบริษัทอื่นๆเรียบร้อยแล้ว

และหน้าที่หลักของเลนส์คือการรับแสง ทำหน้าที่หักเหแสงที่ตกกระทบวัตถุเพื่อส่งไปยังตัวรับสัญญานภาพนั่นเอง

4. Image Sensor (CCD, Cmos) หรือตัวรับสัญญานภาพที่ใช้แทนฟิล์มทำหน้าที่รับแสงที่ส่งมาจากเลนส์เพื่อเปลี่ยนสัญญานคลื่นแสงให้เป็นคลื่นสัญญานไฟฟ้าหรือที่เรียกว่าสัญญาน ดิจิตอลอ่ะครับโดยเปลี่ยนเป็นระหัสตัวเลขซึ่งเป็นตัวเลข 0 และเลข 1

และไอ้เจ้าตัว Image Sensor เนี่ยมีความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นตัวรับแสงหรือเซลล์รับแสงแล้วยังเป็นที่อยู่ของเม็ดสีที่เราเรียกมันว่า พิกเซลล์ด้วยซึ่งเม็ดสีพวกนี้จะไม่เป้นรูปเป็นร่างที่แน่นอนชัดเจนบางตำราบอกว่าเป็นตารางสี่เหลี่ยมบางตำราบอกเป็นวงกลมอันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อครับแต่สรุปแล้วมันคือเม็ดสีที่ประกอบกันขึ้นจากสี แดง เขียวและน้ำเงินหลายๆเม็ดสีหรือที่เรียกว่าพิกเซลนั่นเองถ้ากล้องมีความละเอียดสองล้านพิกเซลก็เท่ากับว่ามันมีเม็ดสีพวกนี้รวมกันอยู่ สองล้านตารางสีครับ และหลายท่านคงจะงงว่าไอ้เจ้าตัวรับสัญญานภาพเนี่ยทำไมมีทั้ง CCD และ Cmos ซึ่งไอ้สองตัวนี้วัตถุประสงค์ในการใช้งานเหมือนกันครับคือเปลี่ยนคลื่นแสงอนาล็อกให้เป็นสัญญานดิจิตอลแต่ลักษณะการทำงานแตกต่างกันแค่นั้นเองครับ

5. Image Processor หรือชิพประมวลผลทำหน้าที่รับสัญญานต่อจากตัว Image Sensor อีกทีเพื่อประมวลผลให้คุณภาพที่ดีขึ้น มีผลต่อคุณภาพของภาพหลายจุดเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสีสันของภาพ ลดสัญญานรบกวนหรือที่เรียกว่า Nois ซึ่งเป็นจุดสีขาวบนภาพให้น้อยลง ลดการคลาดเคลื่อนของสี การถ่ายภาพที่ทำได้เร็วขึ้นไม่ต้องรอนานเหมือนกล้อง Digital รุ่นเก่าที่ถ่ายภาพทีต้องรอถึง 4-5 วินาที กว่าที่จะถ่ายภาพต่อไปได้เสียเวลาค่อนข้างมาก ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันครับเช่น Canon ชื่อ Digic I, II, Kodak ชื่อ Color Science เป็นต้น แต่ลักษณะการทำงานคล้ายกันครับ ต่างกันที่กระบวนการปฏิบัติการของซอฟท์แวร์ ที่ผู้ผลิตคิดค้นขึ้นเท่านั้นเองครับ

6. สื่อบันทึกมีมากมายหลายชนิดขึ้นอยู่กับผู้ผลิตว่าจะทำให้กล้องของตัวเองใช้ได้กับเมมโมรี่การ์ดชนิดใดและสื่อที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบันคือ SD Card ครับเนื่องจากขนาดของการ์ดมีขนาดที่เล็กและการเข้าถึงข้อมูลที่ทำได้เร็ว อีกทั้งมีตัวป้องกันการก็อปปี้ซ้ำหรือป้องกันการลบด้วย อีกทั้งการ์ดชนิดนี้สามารถที่จะทำให้ผู้ผลิตทำกล้องที่มีขนาดเล็กและบางลงได้อีกด้วย ซึ่งกล้องเล็กและบางเป็นเทรนใหม่ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานจำนวนมากทำให้ผู้ผลิตหลายรายหันมาใช้การ์ดชนิดเป็นจำนวนมาก

XD Picture Card เป็นการ์ดที่มีขนาดเล็กอีกรายแต่เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Fuji กับ Olympus เท่านั้นจึงทำให้การ์ดชนิดนี้ใช้กับ 2 ยี่ห้อนี้เป็นส่วนใหญ่แม้จะมี Kodak บางรุ่นใช้งานด้วยก็ตาม

Memory Stick คงรู้อยู่แล้วนะครับว่าการ์ดชนิดนี้ใช้กับสินค้าของ Sony เป็นหลัก

Compact Flash Card เป็นการ์ดที่ใช้กับกล้องรุ่นใหญ่ทั่วไปและยังได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ความจุสูง ราคาถูก เสียหายยาก นั่นคือจุดเด่นของเค้าล่ะ

ครับและนี่คือส่วนประกอบหลักๆของกล้องถ่ายภาพดิจิตอลซึ่งเรื่องต่อไปก็คงจะเป็นประเภทของกล้องแบบต่างๆ แล้วคอยพบกันนะครับ ตอนนี้ขอตัวไปคิดมุขก่อนครับ บับ....บาย



Create Date : 20 สิงหาคม 2549
Last Update : 20 สิงหาคม 2549 19:08:50 น.
Counter : 1232 Pageviews.

8 comments
  
วิธีใส่รูปนะคะ
ก่อนอื่น เราต้องหาลิงค์รูปที่เราต้องการก่อน
ถ้าอยากได้รูปตัวเอง ก็ไปอัพโหลดไว้ที่เวบฟรี ต่างๆที่เค้ามีบริการ เช่น //www.photobucket.com และอื่นๆ

เสร็จแล้ว ก็ใส่ตามสูตรนี้นะคะ

เอาไปวางตรงไหนก็ได้ที่เราอยากใส่น่ะค่ะ
ถ้าอยากให้มันอยู่กลางๆ ก็เอาตัวนี้ครอบ
.............ใส่สูตร .........


สรุปก็จะได้ดังนี้ะ
โดย: mungkood วันที่: 20 สิงหาคม 2549 เวลา:20:09:51 น.
  
เอาใหม่
สูตรดันขึ้นเป็นอะไรก็ไม่รู้

ต้องใส่อย่างนี้นะคะ (เปลี่ยนจากเครื่องหมาย [ เป็น < และ ] เป็น > นะคะ)

[img src=....... url ของรูปที่เราต้องการ....]

ถ้าต้องการให้ตรงกลาง
ก็เอาตัวนี้ครอบ

[center]...............[/center]

โดย: mungkood วันที่: 20 สิงหาคม 2549 เวลา:20:23:55 น.
  
เอ๊ะ เราเข้าผิดบ้านหรือเปล่างะ เอ ทำไมเปลี่ยนไป เป็นงัยคะสบายดีมั้ยเอ๋ย ......สอบเสร็จแล้ว คะแนนก็ออกตามมาติดๆ ด้วย....
โดย: ชาจัง (สุรัสวดี ) วันที่: 20 สิงหาคม 2549 เวลา:21:16:40 น.
  
โดย: mungkood วันที่: 20 สิงหาคม 2549 เวลา:21:52:07 น.
  
สามารถเอาไปวางตรงช่องคอมเม้นเวลาที่เราจะคอมเม้นคนอื่นแล้วใส่รูปประกอบน่ะค่ะ
ส่วนสูตร center นั่น
สามารถครอบประโยคก็ได้ ถ้าอยากให้สิ่งที่เราเขียนอยู่ตรงกลาง
โดย: mungkood วันที่: 20 สิงหาคม 2549 เวลา:21:53:37 น.
  
งงๆ เหมือนกันค่ะ
แบบว่าเจอวิชาการเรื่องกล้องเข้าไปเต็มๆ
หุหุ

โดย: ธาร (ธาร นาวา ) วันที่: 28 สิงหาคม 2549 เวลา:2:32:09 น.
  
งงเหมือนกันค่ะ อะ!!แบบว่าlowมากๆนะค่ะ(อายจัง)
โดย: เจี๊ยบ (ข้าวพอง ) วันที่: 10 ตุลาคม 2549 เวลา:9:30:02 น.
  
สวัสดีค่ะ

ขอบคุณนะคะที่แวะไปอ่านบล็อก
โดย: หน้าแง๊ว~* วันที่: 20 สิงหาคม 2553 เวลา:17:29:24 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pippojuve
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



นักเดินทางที่ดี............ย่อมไม่หวังถึงจุดหมาย

โค้ดเพลง บรรจุเป็นคนรู้ใจ โค้ดเพลง
สิงหาคม 2549

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31