The best way to describe my way is no way
<<
สิงหาคม 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
17 สิงหาคม 2551

เพลงของแม่

ผมเงยหน้าขึ้นมองฟ้า

เึคยมีคนบอกว่าทำแบบนี้แล้ว นอกจากจะได้รับกำลังใจจากฟ้าแล้ว

มันยังช่วยไม่ให้มีคนเห็นน้ำตาที่กำลังร่วงลงดิน...





วันนี้ผมเดินออกมารอรถเมล์ด้วยใจที่ห่อเหี่ยว

เรื่องราวมากมายยังคงก่นด่าและสร้างความขัดแย้งในสมอง

ผมไม่รู้จะรับมือหรือทำให้มันสงบลงได้อย่างไร ในขณะที่ใจยังไม่สงบ

ผมก็ต้องพากายไปทำหน้าที่ที่ยังเหลืออยู่ให้เสร็จ ทั้งๆที่ในใจอยากให้กายแน่นิ่ง

และไม่รับรู้สิ่งใดตลอดไป





รถเมล์ค่อนข้างว่าง ก็ปกติสำหรับบ่ายอ่อนๆของวันธรรมดา

ตรงข้ามกับที่นั่งของผม เป็นครอบครัวหนุ่มสาว คุณแม่หน้าตาจิ้มลิ้ม โฉบเฉี่ยว

อายุไม่น่าจะเกิน 30 คุณพ่อรูปร่างหน้าตาก็ำเป็นขวัญใจสาวๆได้สบาย

ลูกสาวตัวน้อยไม่น่าเกิน4ขวบ เค้าหน้าคุณแม่ของเธอไม่ผิดเพี้ยน

เธอช่างพูด ช่างถาม นัยน์ตากลมโตสอดส่ายหา

มือเล็กนั้นกำลังชี้ชวน ปากนิดเจื้อยแจ้วและหัวเราะคิกคักในจินตนาการของเธอเอง

ผมแอบสังเกตการณ์ครอบครัวนี้ด้วยรู้สึกสนเท่ห์ มันช่างเป็นครอบครัวแบบที่

นักโฆษณาวาดให้เราในโฆษณาขายบ้านเสียนี่กระไร ผมเพลิดเพลินกับการมอง

ครอบครัวนี้ได้สักพัก มันช่วยให้ผมรู้สึกผ่อนคลายและเลิกคิดมากได้ดีทีเดียว

โดยเฉพาะ้เด็กน้อย ที่ชีวิตยังคงบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา เหมือนกับผ้าขาวที่ใครเปรียบไว้





มาถึงกลางทางแล้ว วันนี้รถไม่ค่อยติด ชีวิตคนในช่วงเวลานี้ดูไม่รีบร้อน

คนส่วนใหญ่ในรถก็เป็นวัยกลางคน ผมมองไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เห็น

กับน้องคนนั้น เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คะเนอายุแล้วไม่น่าเกิน12ขวบ

ผมคงมองผ่านเลยเธอไำป ถ้าท่าทางเธอไม่ได้ฟังเพลงที่เปิดในรถอย่างตั้งใจ

และร้องคลอเบาๆอย่างเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เราไม่อาจรู้

ผมกำลังสับสนว่านี่ผมกำลังอยู่ในนิยายแนวทดลอง

หรืออาจจะเป็นภาพศิลปแบบเหนือจริงที่ทุกอย่างกำลังขัดแย้งกันอย่างไม่มีเหตุผล

ภาพครอบครัวสุขสันต์ที่ยังคงหยอกล้อกันอยู่ตรงหน้า

และ้ภาพของเด็กหญิงแสนเหงาที่ยังคงร้องคลอเพลงเศร้าไปด้วยน้ำตารื้น

คนที่นั่งข้างๆเธอที่ขึ้นมาด้วยกัน ไม่น่าจะใช่แม่เพราะดูเป็นวัยรุ่นมาก

อาจจะพี่สาวหรือญาติ เราไม่อาจรู้ แต่ที่เราสังเกตได้คือเธอไม่ค่อยให้ความสนใจ

กับน้องคนนี้เลย มีเพียงผมเท่านั้นที่ยังคงมองเธออยู่ด้วยความรู้สึกที่อธิบายยาก

หลังจบเพลง ตาเธอเหม่อลอยออกไปนอกรถ ฝนเริ่มโปรยปรายเป็นหยาดเล็กๆ

เกาะหน้าต่างรถ ทำให้น้องคนนั้นดูเหมือนถูกทิ้งโดดเดี่ยวท่ามกลางผู้คน

ผมไม่รู้และไม่อยากรู้จริงๆว่าทำไม เหตุใด ทำให้เธอต้อง"รู้สึก"กับเพลงนี้ขนาดนั้น

หวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่ผมคิด ด้วยใจจริง





ลงจากรถมาแล้ว รถเมล์เคลื่อนตัวต่อไป เหมือนชีวิต

ผมยังคงมีธุระที่ต้องสะสาง ไม่อาจจะมีส่วนร่วมหรือรับรู้ความทุกข์ของใคร

ผมเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ฝนเริ่มตกหนักขึ้น

เม็ดฝนตกกระทบใบหน้าหนักและหนาเม็ดขึ้น

ในใจครุ่้นคิดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งประสพและความผิดหวังของตัวเอง

ผมไม่อาจให้คำตอบตัวเองได้ว่าผม หรือ น้องคนนั้น จะมีทุกข์ในใจมากกว่ากัน

มีความรู้สึกเกิดขึ้นมากมายระหว่างเดินไปยังปลายทาง

ผมเดินเดี่ยวดายท่ามกลางฤดูฝนที่ทารุณของเมืองร้อน






ปล่อยให้มันไหลลงดินกลมกลืนกับสายฝน

เพราะในเมืองใหญ่

ไม่มีใครสังเกตน้ำตาของคนอื่น





ผมคงไม่รู้สึกอะไรมากมายขนาดนั้นถ้าเพลงที่เธอร้องคลอไป

ไม่ใช่เพลงนี้



และวันนั้นไม่ใช่ 12 สิงหาคม...


Create Date : 17 สิงหาคม 2551
Last Update : 10 เมษายน 2552 5:41:09 น. 2 comments
Counter : 481 Pageviews.  

 
เข้ามาเจิมให้คนแรก....อิอิอิ

บรรยายได้เห็นภาพเลยค่ะ ในเมืองใหญ่ ยังมีอะไร
หลายสิ่งหลายอย่างที่เรายังไม่รู้และไม่อาจจะรับรู้ได้
สุข ทุกข์ เศร้า เหงา ผิดหวัง ต่างคนต่างต้องดำเนิน
ไปตามวิถีทางของตัวเอง จนทำให้บางครั้งไม่ได้มอง
ว่ายังมีอีกหลายคนที่ต้องทุกข์ใจหรือเสียน้ำตาให้กับเรื่อง
อะไรบ้างชอบประโยคนี้ของคุณจังเลยค่ะ
"เพราะในเมืองใหญ่ ไม่มีใครสังเกตน้ำตาของคนอื่น"


โดย: เด็กแนวแถวชายแดน วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:38:44 น.  

 
รู้สึกเช่นเดียวกับเม้นท์แรกเลยค่ะ


ลองคิดแต่งดูเล่นๆ ..

เมืองใหญ่
ทุกอย่างเบียดเสียดกันหมด
แต่ทำไมฉันรู้สึกอ้างว้าง~


แง้ คิดถึงบ้านนอก อยากกลับบ้านนอกแล้วว 55


โดย: สวย ให้ชายห่วยเสียดายเล่น IP: 61.90.73.233 วันที่: 26 ตุลาคม 2552 เวลา:21:56:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

NiGht pRincE
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




I'm Stranger in the moonlight...
[Add NiGht pRincE's blog to your web]