นิยายที่กำลังอัพเดท>ดาราจักรรักลำนำใจ----------------------------------------------------------------------โลกส่วนตัวของคนช่างฝัน

Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
19 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 
หลงป่าในลาว...ถึงคราวจะโด่งดัง หรือไร?


วันที่ 17 ส.ค. 2555

นักวิชาการป่าไม้จาก สบอ.9 จำนวน 3 คน ได้แก่ Mr.Rod น.ส.อ้อยใจ และน.ส.จิรัญญ์นันท์ ได้เดินทางเข้าไปสำรวจพรรณไม้ในป่าชุมชนของบ้านโพนสิมโดยมีผู้นำทางสองคนคือลุงแก้ว และน้องตุ๊ก โดยลุงแก้วเป็นครูสอนสามัญคือสอนชั้นมัธยม ส่วนน้องตุ๊กกำลังเรียนเกี่ยวกับเกษตรศาสตร์ที่สะหวันนะเขตอยู่ปีที่สาม



ช่วงเช้าทำงานอย่างราบรื่นไม่มีปัญหาแม้ว่าลุงแก้วจะรู้พรรณไม้บ้างไม่รู้บ้าง พอตกบ่ายมาเราเริ่มงานกันอีกครั้ง ฝนตกพรำๆ แต่ไม่เป็นอุปสรรคเพราะเรามีเลือดนักสู้และความอึดที่แตกต่างจากใบหน้าอันงดงามและหล่อเหลา

 



หลังจากสำรวจเสร็จไปหนึ่งเส้นทางด้วยเวลาไม่ถึงชั่วโมงจึงเห็นว่าหากกลับไปก็คงต้องรอรถยนต์ของพี่หนึ่งณัฐวุฒิมารับอยู่ดีเราจึงเดินไปอีกเส้นทางหนึ่งแล้วค่อยวกกลับไปยังจุดนัดพบ ผู้เชี่ยวชาญ Mr.Rod ซึ่งถือว่าเป็นหัวหน้าคณะนักวิชาการในวันนี้ขะมักเขม้นและดูจะสนุกกับพรรณไม้ที่หายากในประเทศไทยแต่พบในป่าชุมชนบ้านโพนสิมแทบทุกสิบตารางเมตร ด้วยความที่คิดว่ามีผู้นำทางแล้วถึงจุดเลี้ยวเขาก็คงบอกเองจึงไม่มีใครสนใจเรื่องอื่นนอกจากการสำรวจและถ่ายภาพ



ที่ไหนได้...อนิจจา ไม่รู้ว่าเป็นเวรเป็นกรรมหรือชะตาของสามเราพี่น้อง สองป่าไม้สาวกับหนึ่งป่าไม้หล่อ ที่อาจเคยทำบุญหรือทำกรรมร่วมกันมากับลุงแก้วและน้องตุ๊กแต่ชาติปางไหน จึงดลบันดาลให้ลุงแก้วไม่ได้เอะใจเลยว่าเส้นทางที่เดินไปนั้นมันไม่ได้วกกลับไปยังจุดนัดพบ แต่มันกำลังพาเราเข้าสู่ความรกทึบของป่าดิบโดยไม่รู้ว่าจะออกไปจุดใด

เพราะเห็นว่าเดินมาไกลสักพักแล้วยังไม่มีวี่แววจะมีทางเลี้ยวที่ไหน นักวิชาการป่าไม้สาวที่หลงใหลในงานเขียนนิยายก็ผิดสังเกต จึงเอ่ยกับสาวป่าไม้รุ่นน้องคนเก่ง

“อ้อยใจ พี่ว่าจุดนัดพบไม่น่าจะไกลขนาดนี้นะ”

“ลุงแกเก่งแล้วไม่ต้องกลัวหลงหรอกพี่นาง” อ้อยใจ กะวิเศษ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการตอบอย่างไม่มีท่าทีเดือดเนื้อร้อนใจเพราะเชื่อมั่นในลุงแก้วคนนำทาง

พอลุงแก้วได้ยินก็บอกว่า “ไม่ต้องกลัวหรอก แต่ก่อนขี่รถจักรมาบ่อย”

พวกเราก็พอจะวางใจได้เปลาะหนึ่ง แต่พอเดินไปได้สักพักฝนก็ค่อยแรงขึ้น เส้นทางก็ไกลออกไปทุกที คราวนี้คนเดือดร้อนกลับเป็นลุงแก้วคนนำทาง แกเดินนำไปข้างหน้าแล้วเดินกลับมาด้วยอาการหน้าเสีย หน้าที่ค่อนข้างดำเริ่มมีแววกังวล

“แต่ก่อนเคยขับรถจักรมาแต่มันนานมาแล้ว”

อ้าว สรุปว่าพาเรามาหลงทางเหรอ ฮ่วย!

นักวิชาการป่าไม้สามคนเริ่มสุมหัวกัน Mr.Rod บอกด้วยสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด

“พ่อใหญ่นี่ไม่ได้ความเลย ดูเหมือนจะรู้แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย”

อ้าว ซวยล่ะสิ Mr.Rod บ่นแล้วนะ ปกติไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา

“ในเมื่อหลงแล้วก็ไปข้างหน้าเลย เดินกลับก็คงไม่ไหวแล้วแหละ” Mr.Rod บอก เพราะว่าตอนนั้นเดินมาไกลมาก...ก...ก แถม G.P.S. ที่มีอยู่ก็ใช้ไม่ได้เพราะไม่มีสัญญาณ ดีหน่อยว่ามีสัญญาณโทรศัพท์จึงติดต่อกับพี่หนึ่งได้ หลังจากที่แจ้งว่าเราหลงป่าพี่เขาก็กลับไปหาพ่อบ้านเขียวเพื่อขอความช่วยเหลือ

ระหว่างนั้นเราก็เดินต่อไปตามทางเดิน น้องตุ๊กซึ่งอายุน้อยสุดใจไม่ดี พอเห็นป้ายก็ตะโกนบอกเราเสียงดัง

“นี่ มีป้ายอยู่ตรงนี้ บ่หลงหรอก”

พอเราเดินไปยืดคอดู

‘ห้ามตัดไม้ทำลายป่า’

ฮ่วย! ป้ายห้ามตัดไม้มันช่วยคนหลงทางได้ยังไงไอ้น้อง...ง...ง

เมื่อได้เดินหน้าไปเรื่อยๆ ขาก็เริ่มอ่อน ป่าเริ่มทึบ เถาวัลย์สองข้างทางหนาแน่น เสียงนกในป่าดิบร้องทักทาย ทางเดินที่โล่งบัดนี้เริ่มรกขึ้น ลุงแก้วเริ่มไม่เป็นผู้นำแล้ว น้องตุ๊กเดินลิ่วนำทางแทนเสียเองพร้อมกับพูดให้ใจเสียเป็นระยะ

“ทางมันลงต่ำเรื่อยๆ ล่ะ กลัวออกไปบ้านโคกนะเนี่ย”

มารู้ทีหลังว่า บ้านโคก คืออาณาเขตอยู่แถวเวียดนาม โอ้...แม่เจ้า เดินป่าลาวจะหลงไปเวียดนาม



และแล้วก็มาถึงสี่แยก เราก็หลงดีใจว่าลุงแก้วน่าจะดีใจที่เห็นทางออก แต่ลุงแก้วกลับมึนหนักไม่รู้จะพาเราไปทางไหน Mr.Rod เลยบอกว่าตรงไปเลย ลุงแก้วก็กลายเป็นผู้ตามอีก เอ๊า ตรงก็ตรง...

เดินมาได้สักพักก็เจอกับหนองน้ำกลางสภาพพื้นที่ค่อนข้างโล่ง กำลังจะใจชื้นแต่น้องตุ๊กดันพูดขึ้นว่า

“สงสัยจะเป็นหนองกลางดง”

ตายห่า...หนองกลางดงก็คือหนองน้ำกลางป่าดิบน่ะสิ

เอาวะ...มาถึงขนาดนี้จะเดินกลับไปก็ใช่ที่จำต้องเดินหน้าต่อไป โชคดีเหมือนในนิยาย เมื่อเดินลุยน้ำไปก็เห็นวัว และเห็นกระท่อมกับผู้คน เรารอดตายแล้ว แต่...

“ที่นี่ที่ไหน” นี่หรือคือคำถามของลุงแก้วที่ถามคนเหล่านั้น โถ...ที่แท้ลุงไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม

“โห...มาจากบ้านโพนสิมเลยเหรอ” คนเหล่านั้นว่าแล้วก็หัวเราะกันขนานใหญ่

“แล้วเราจะไปบ้านโพนสิมยังไง” ลุงแก้วถามทาง

 



พอชาวบ้านธาตุซึ่งมานอนนาบอกทางเราก็เดินไปตามคันนา (ยิ่งกว่านิยายเลย) ลุยน้ำ ข้ามสะพาน และไปเจอคนอีกกระท่อมหนึ่งก็ถามอีก คราวนี้ดูเหมือนว่าจะแนะให้เดินลัดทุ่งนาเลียบไปตามป่า พวกเราค้านกันเลยเพราะรู้ว่าหากเดินไปอย่างนั้นมืดก็ไม่ได้ออกแน่จึงขอเดินไปตามทาง โชคดีเจอคนที่สามบอกจะพาไปส่งเขาก็ขับรถเครื่องนำทางไป คนที่ไปส่งบอกว่าระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร แต่เราเดินรู้สึกเหมือน 3 หรือมากกว่านั้น (เคยเห็นแต่กิโลแม้วเพิ่งมาเห็นกิโลลาวก็คราวนี้) ดีหน่อยที่เรารู้ว่าทางนี้ชัวร์แน่ไม่หลงอีกจึงเดินลิ่ว พอโผล่ออกจากป่าชาวบ้านที่รู้ว่าเราหลงทางก็หัวเราะกันใหญ่

 

 

 



พี่ๆ ที่เอารถมารอเห็นเราก็รีบเดินมารับหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนจะโล่งอก (ความจริงกำลังหัวเราะในใจใช่ไหมล่ะพี่)

และพี่ๆ ก็ถ่ายภาพประวัติศาสตร์การหลงป่าในลาวของพวกเราไว้

“เจ้าหน้าที่ลาวรู้เรื่องเขาแจ้งให้นำเฮลิคอปเตอร์ออกบินตามหา และจะส่งคนเดินตามหาภาคพื้นดินพร้อมสุนัขไล่ล่าอีกประมาณร้อยกว่าตัว” พี่หนึ่งรายงานเสียงแจ๋วทีเดียว

พี่...พวกเราไม่ใช่คนค้ายาบ้านะ จะได้ส่งสุนัขออกตามล่า โฮ่ง!

เจ้าหน้าที่ลาวมาสมทบในเวลาไม่กี่นาทีพร้อมกับต่อว่าลุงแก้วยกใหญ่ น่าสงสารลุงเหมือนกัน คงจะไม่กล้ามาทำงานด้วยเสียก็ไม่รู้

ใครอ่านนิยายแล้วบอกว่าพล็อตหลงป่าเป็นพล็อตเก่า น้ำเน่า พวกเรานี่แหละเจอมาเองกับตัวสดๆ ร้อนๆ ป่าที่เดินพอๆ กับรพินทร์ ไพรวัลย์ พา ม.ร.ว.ดารินทร์ เดินไปตามหาพี่ชาย

หลงจริง เหนื่อยจริง ขาลากจริง กระท่อมกลางป่าก็มีจริงๆ

งานนี้คุยได้ว่า ป่าลาวแถวสะหวันนะเขต น่ะเหรอ เดินมาหมดแล้ว

เสียดาย...น่าจะเดินช้าลงอีกนิดเผื่อจะได้เป็นข่าวดังและมีเฮลิคอปเตอร์บินตามหา

แต่เอาน่า...อย่างน้อยงานนี้เราก็ดังไปทั้งบ้านธาตุ (อิงฮัง) กับบ้านโพนสิม หากได้ไปอีกรอบรับรองว่าคนรู้จักกันหมดแน่นอน


สบายดีโพนสิม แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว

*********************
รัณณา
๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๕







Create Date : 19 สิงหาคม 2555
Last Update : 19 สิงหาคม 2555 13:25:02 น. 4 comments
Counter : 2752 Pageviews.

 
อ่านแล้วก็เหนื่อยตามแล้วค่ะสู้ๆ น่ะค่ะ ตอนนี้กำลังเป็นแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาอ่านนิยายอยุ่ค่ะ


โดย: กุ้ง (kungviyada ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:59:25 น.  

 
ยินดีต้อนรับคุณกุ้งค่ะ เปิดบ้านต้อนรับอย่างเต็มใจเลย


โดย: รัณณา วันที่: 21 พฤศจิกายน 2555 เวลา:23:03:11 น.  

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: กุ้ง (kungviyada ) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2555 เวลา:12:16:51 น.  

 
อ่านเพลิน เหนื่อยตาม
รู้สึกสนุกด้วย แต่ถ้าไปด้วยแย่แน่


โดย: happyna sud IP: 115.87.148.110 วันที่: 10 มีนาคม 2557 เวลา:20:20:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รัณณา
Location :
ศรีสะเกษ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




เมื่อสาวป่าไม้เป็นนักเขียน

ชื่อเล่น นาง ค่ะ

รัณณา มาจากคำอ่าน รัน = run หรือ ran แปลว่าวิ่ง นา ก็คือท้องนา ^ ^

รัณณา ก็เลยมีความหมายแบบกวนๆ ว่า วิ่งไปบนท้องนา รัณณา เป็นนามปากกาของนักเขียนที่ทุกอณูของจิตวิญญาณและความรู้สึกมีความเป็น นักอนุรักษ์พงไพร เป็นผู้ที่มุ่งหวังเก็บเกี่ยวความสุขจากความคงอยู่ของธรรมชาติ และหวังการก่อเกิดงานเขียนที่กลั่นกรองจากประสบการณ์และจินตนาการที่ผุดพราวขึ้นทุกย่างก้าวที่เยื้องกราย...


โลกของรัณณา พระเอกหรือนางเอกส่วนใหญ่แล้วเป็นคนหล่อ สวย ดี น่ารัก มีเหตุผล(บ้าง) นั่นเพราะว่าคนเขียนอยากให้โลกนี้มีแต่คนดีๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่เพราะว่าคนเขียนมีความสุขกับความคิดฝันโดยไม่ได้หวังจะทำร้ายใคร เนื่องจากความเป็นจริงที่พบเจอก็เหนื่อยล้ามากพออยู่แล้ว ส่วนตัวร้ายก็สร้างมาเพื่อความบันเทิงหรืออาจให้ข้อคิดเล็กน้อยบ้างตามแต่ช่วงนั้นจะพบเจอกับอะไรที่กระแทกใจ

หวังว่านิยายของรัณณาคงสร้างความสุขให้คนที่คิดเหมือนกันบ้างนะคะ

ติดตามสาวป่าไม้ใจรักเขียนได้ที่เฟสบุ้ค
รัณณา ริมธาร
ยินดีต้อนรับสู่บ้าน รัณณา

ผลงานในรูปแบบ e-book

นิยายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตการทำงานบนดอยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ

แรงบันดาลใจจากการไปเที่ยวบาหลีก่อให้เกิดให้นิยายเรื่อง ณ ดารันหัวใจฉันมีเพียงเธอ



Code Calendar
จากใจนักเขียน
งานเขียนในเวบนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ห้ามคัดลอก ดัดแปลง เผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นอาจมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537

ฟังเพลงเพราะๆ

New Comments
Friends' blogs
[Add รัณณา's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.