❤ ซื้อจากศูนย์ใน The Mall บางแค เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2548 ในราคา 13,300 บาท (ไม่เอาบลูทูธ)

❤ สาเหตุที่ซื้อ เพราะหลานจะคลอดวันที่ 1 กันยายน แล้ววีดีโอที่มีอยู่เสีย อาการเกินจะเยียวยา เลยอยากได้โทรศัพท์เครื่องนี้ไว้ถ่ายวีดีโอ

❤ ที่เลือกรุ่นนี้เพราะไม่เคยใช้โทรศัพท์แบบสไลด์ เห็นแล้วชอบ รูปร่างหน้าตาถูกใจมั่กๆ แถมถ่ายรูป ฟังเพลง ถ่ายวีดีโอได้ แค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ

❤ที่มาของเครื่องแรกในชีวิต ❤

- ย้อนไปเมื่อปี 41 โทรศัพท์มือถือยังมีราคาเครื่องและค่าโทรที่แพงมาก เลยคิดว่าเป็นเรื่องที่ยังไม่จำเป็นสำหรับเรา แต่ก็มีเหตุให้เกิดความผิดพลาดในการนัดหมายธุระสำคัญ จึงคิดได้ว่าเจ้าสิ่งนี้ น่าที่จะเป็นปัจจัยที่6 ในการดำรงชีวิต

- ดังนั้นเราจึงยอมควักเงินออกจากกระเป๋าด้วยความเต็มใจ

- ค่ายน้องใหม่ที่มาแรงในสมัยนั้นคือ HELLO ไปไหนก็จะได้ยินแต่คำว่า "อยากจะพูด พูดฮัลโหล" เราเองก็อยากจะฮัลโหลบ้าง ก็เลยไปมาบุญครอง เลือกแล้วว่ารุ่นที่สะดุดตาที่สุกก็คือ Siemens S-10 ในราคาเครื่องและซิมพร้อมบริการเปิดใช้ 15,000 กว่าๆ (โอ้ว!!แพงชะมัด)

- ซึ่งรุ่นนี้มีแถมกระเป๋า เวลาจะไปไหนสะพายไปแบบนี้ เก๋ เท่ห์ ดูเดิ้นสุดๆ ของสมัยนั้น (เน้นสมัยนั้น) 555

❤ต่อมาทางHello ซึ่งเช่าสัญญาณจากค่ายใหญ่อยู่ ก็มีอันต้องปิดตัวลงและโอนทั้งหมดไปอยู่กับ AIS เครื่องที่2นี้ จึงได้มาฟรีๆ(เอาเครื่องเก่าไปแลก) เพราะจำเป็นต้องใช้ Dual Brand คือเครื่องที่สามารถหาสัญญาณที่บริการได้ ทั้ง 900 และ 1800

- จำได้ว่าต้องไปนั่งรอคิวเปลี่ยนเครื่องที่ตึกชินวัตร มีเครื่องให้เลือก2ยี่ห้อ คือ Siemens กับ Alcatel ไหนๆใช้ซีเมนส์มาแล้วก็เลือกใช้ต่อ

- รุ่นนี้คือ Siemens C25 ชอบที่ตัวเครื่องเล็กลงจากเดิมมาก และมีฟังก์ชั่นให้เราได้แต่งเพลงเสียงเรียกเข้า ไปซื้อโน๊ตเพลงมาแล้วก็ให้เพื่อนนั่งกดเล่นกันทั้งวัน

❤ใช้เครื่องที่2มาสักพักใหญ่ๆ พอช่วงมีการแข่งขันฟุตบอลของต่างประเทศ ไม่แน่ใจว่าบอลโลกหรือบอลยูโร เพื่อนชอบถามว่าวันนี้ทีมไหนชนะ อ้าว!แล้วชั้นจะรู้มั๊ยเนี่ย ดูบอลไม่เป็น เล่นบอลไม่เป็น แต่ก็ทายมั่วๆไป ผลปรากฎว่า พอจบซีซั่น เพื่อนพาไปมาบุญครองแล้วก็ถอยเจ้าเครื่องที่3นี้มาให้คือ Nokia 8250

❤ คุณผู้ชายที่บ้านเห็นแล้วอิจฉาภรรเมีย ที่ได้ใช้รุ่นใหม่ไฉไลกว่าเดิม พอทางบริษัท อนุมัติให้ไปเลือกซื้อเองได้ พี่แกเลยไปสอยรุ่นนี้มาบ้าง แล้วเรื่องอะไรหล่ะที่ต้องมามีรุ่นเดียวกัน หยิบผิดหยิบถูกกันบ่อยๆ เลยไปบอกคุณเพื่อนที่น่ารักว่า "ชั้นอยากได้รุ่นใหม่ที่ฟัง FM ได้" อิอิ ได้ผลค่ะ คุณเพื่อนเลยจัดการไปแลกรุ่น Nokia 6510 สีทองผ่องอำไพมาให้ หลังจากนั้นก็เลยต้องทนใช้มาอีกนาน เพราะไม่มีใครสนใจจะซื้อให้อีกแล้ว แงๆๆๆ

❤ ปัจจุบันยังเก็บเครื่องไว้ ลูกสาวเคยเอาไปใช้เล่นๆ แล้วเปลี่ยนหน้ากากจากสีทองสุดสวย มาเป็นลายการ์ตูนคิกขุ สภาพอย่างที่เห็นในรูปนั่นแหละค่ะ

❤ ส่วนคุณผู้ชายเหรอคะ อยากเลียนแบบเราดีนัก ใช้ได้แค่เดือนเดียว แวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางก่อนกลับบ้าน เผลอวางไว้ ขับรถออกมาได้ 2นาที กลับไปหายเข้ากลีบเมฆไปแล้วค่ะ แต่ทุกวันนี้พี่แกเปลี่ยนของใหม่ปีละครั้งเพราะบริษัทจัดหาให้ค่ะ ไม่ต้องเสียตังค์คุ้มสุดๆ

ตั้งแต่ซื้อครั้งแรกกับเครือค่ายฮัลโหล ในเบอร์ 01-318-XXXX ก็ไม่เคยเปลี่ยนใจจากเบอร์นี้ งง งง กับการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนค่าย อยู่เหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิดตอนนี้น่าจะอยู่กับค่าย AIS ในนาม DIGITAL PHONE ใช่มั๊ยคะ

เมื่อก่อนจะใช้แบบโปรสูงสุด จ่ายกันเดือนละหลายตังค์ แต่ก็ไม่เคยใช้คุ้มกับโปรที่เลือกไว้เลย หลังจากที่ไม่ได้ทำงานประจำ ความจำเป็นในการใช้ก็น้อยลง ล่าสุดใช้แบบ โทรไม่เกิน 1,000 จ่าย 500 ซึ่งใช้จริงอยู่ที่ประมาณ700กว่าบาท ใครๆก็ว่าไม่คุ้ม แต่ไม่ค่อยใส่ใจกับตรงนี้ค่ะ จึงไม่ได้ไปขอเปลี่ยน

ถ้าเป็นเครื่องนี้ก็คงต้องบอกว่าวีดีโอ เพราะตอนซื้อใช้ฟังก์ชั่นนี้เป็นหลักในการเลือก แต่ในปัจจุบันมี เครื่องรุ่นใหม่ๆฟังก์ชั่นให้เล่นอีกมากมาย ก็เลยสนใจอยากลองอยู่เหมือนกัน

ก็ร่ำร้องจะซื้อใหม่อยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครสนใจจะซื้อให้ ถ้าให้ซื้อเองก็แบบว่า "งก" ค่ะ เสียดายตังค์เลยยังไม่ซื้อ

เมื่อเดือนที่แล้วพี่ชายไปเที่ยวลาว ได้โทรศัพท์เก๋ไก๋มาในราคา 2,500 บาท ซึ่งของแท้เครื่องศูนย์จะอยู่ในหลักหมื่น คุณผู้ชายถามว่า "ทำไมไม่ฝากพี่เค้าซื้อหล่ะ ถูกดี" ดูดิ ตัวเองใช้ของดีๆจะให้เค้าใช้ของก๊อป

อีกเดือนกว่าๆ หลานจะอายุครบ4ขวบแล้วน๊า นั่นหมายความว่า โทรศัพท์เครื่องนี้ก็จะครบ4ปีเหมือนกัน แล้วทำไม๊ ทำไม สปอร์นเซอร์รายใหญ่(ที่บ้าน) ยังไม่คิดจะซื้อของใหม่ให้ซะที รอ ร๊อ รอ