ชีวิตมีความสุข จริงรึเปล่า?

วันนี้คิดขึ้นมาได้ขณะขับรถ
ว่าช่วงนี้ช่างมีความสุขจริง
พยายามนึกให้ออกว่าทำไมมีความสุข?

คงเป็นเพราะเดือนนี้มีตังเก็บแล้วล่ะมั้ง
เป็นเดือนแรกของการมาอยู่ที่นี่ ที่ไม่ต้องใช้เงินเดือนชนเดือน.. ทำเท่าไหร่ก็เก็บเท่านั้นเลย

เพราะที่ผ่านมาฉันต้องส่งเงินกลับบ้านประมาณครึ่งนึงของรายได้ทุกเดือน บางเดือนก็ไม่สบายมั่ง ไปเที่ยวต่างเมืองมั่ง ทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ ได้ตังเยอะแค่ไหน ก็ใช้เกือบหมด

เดือนนี้ฉันรู้สึก secure ที่สุดเท่าที่เคยเป็นมาในชีวิต
ฮืม...ใครที่บ้านไม่เป็นหนี้แบบฉันอาจจะไม่เข้าใจ ว่าความเครียดที่เกิดจากการหาเงินมาหมุนให้ทันแสนบาทใน สองวันเป็นยังไง

ฉันไม่เคยมีเงินเก็บหลังจากเรียนจบ..เพราะฉันเริ่มกระโดดเข้าไปรับภาระของที่บ้านเกือบทันทีที่เรียนจบ

ฉันไม่เคยมีตังเหลือ ..อาจเป็นเพราะฉันใช้จ่ายไม่เป็นเองก็ได้ หรือว่า รายได้ที่เมืองไทยมันไม่พอที่ฉันจ่าย..ไม่แน่ใจเหมือนกัน

เหตุผลหลักที่ฉันมาที่นี่ ก็หาตังส่งกลับบ้าน..
เป้าหมายต่อไปคือเก็บเงินก้อนไว้ลงทุนเมื่อกลับเมืองไทย
หนึ่งปีที่ผ่านมาฉันล้มลุกคลุกคลานกะการค้นหาวิถีทาง และงานที่จะทำให้มีรายได้เพียงพอต่อการส่งกลับบ้าน และเก็บเป็นทุน

เดือนนี้ฉันเริ่มทำได้ดีแล้ว และรู้สึกภูมิใจในตัวเองอย่างบอกไม่ถูก

ถามว่ามีความสุขจริงมั้ย...ฉันก็ตอบได้แน่นอนว่าเป็นความสุขจริง ที่มีความหวั่นกลัวอยุ่ในใจอยู่เสมอ ว่าฉันจะมีความสุขอย่างนี้ได้อีกนานเท่าไหร่กัน

ฉันทำงานเป็นเงินสด ทุกวันหอบตังกลับบ้านเป็นฟ่อน จนฉันเริ่มกลัวว่าทำไมฉันถึงมีตังเยอะขนาดนี้ล่ะ

ไม่ได้พูดเพื่ออวดเลยนะ แต่ฉันเล่าให้เธอฟังเพราะว่า ฉันตกใจในสิ่งที่เป็นไปอยู่นี่ ... ฉันหาเงินได้เยอะกว่าที่คาดคิด ฉันรู้สึกผิด ที่ฉันหาตังได้เยอะ ..ประหลาดไหม

พ่อฉันเคยพูดกับฉันว่า...บางทีที่พ่อจน เป็นเพราะพ่อกลัวที่จะเป็นคนรวย..
ฉันเคยปรามาสคำพูดของพ่อในใจว่า..มันคือคำแก้ตัวของคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจต่างหาก

แต่วันนี้..ที่ฉันมีตังกลับบ้านวันละเยอะๆ....เงินในบัญชีธนาคารพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้มันจะไม่เยอะสำหรับเศรษฐีที่มีเงินเป็นล้านๆ แต่สำหรับฉัน มันทำให้ ฉันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้

อาจจะเป็นเพราะ ฉันฟังเทปธรรมมะของสันติอโศกมาแต่เด็ก ในสมองของฉันมีลอจิคเรื่องการสละและไม่สะสมเป็นพื้นฐาน...แต่มันต้องเปลี่ยนไป เพราะบ้านฉันมีมูลหนี้เยอะเกินกว่าที่ฉันจะทำตัวสมถะได้

มันทำให้ฉันต้องกระเสือกกระสนจากบ้านมาอยู่ที่นี่ หาตังที่นี่ กับอาชีพที่ถ้าฉันอยู่เมืองไทย ฉันก็คงไม่ทำ

ปัญหาคือ ฉันรู้สึกดี ชีวิตเรื่อยๆ แต่เวิ้งว้าง ว่างเปล่า
ฉันคิดว่า ช่วงเวลาชีวิตที่ผ่านมา ฉันมัวแต่ยุ่งกะการหาเลี้ยงปากท้องและ ครอบครัว ...สมองทำงานหนักอยู่ตลอดเวลากะการหาเงินๆๆ

ตอนนี้.....ฉันอยู่ในเมืองที่อากาศดี 24-29 องศาตลอดปี ไม่ร้อน ไม่หนาว ไม่มียุง
บ้านที่ฉันอยู่ไม่แพงมาก เล็กๆ การเรียนก็เรื่อยๆ สนุกสนาน มีรูมเมทดี มีเพื่อนดีๆ มีลูกค้าดีๆ

ฉันอยู่ที่นี่อย่างถูกกหมาย ทำงานไปเรื่อยๆ เก็บเงินๆ และใช้ชีวิต สบายๆ ฉันไม่ช๊อปปิ้งเสื้อผ้า ไม่ไปเที่ยวเธค มีแต่ขับรถไปถ่ายรูป กะ ไปบีช บ้างบางเวลาเท่านั้น

...............ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าฉันรู้สึกเวิ้งว้างเพราะอะไร................

ป้าฉันที่เป้นซิติเซ่นที่นี่ เคยบอกฉันเมื่อนานมาแล้วว่า ชีวิตในเมกา เป็นชีวิตที่ดี แต่ไม่มีวิญญาณ
ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกว่าที่ป้าพูดมา..ช่างตรงอะไรอย่างนี้

แต่ฉันไม่คิดถึงเมืองไทยเลย...พูดจริงๆ มาปีกว่า ยังไม่เคยโฮมซิกเลยซักครั้ง มีแค่รู้สึกเป็นห่วงพ่อแม่บ้าง คิดถึงเพื่อนๆนิดหน่อย แต่เราก็คุยกันทั้งในบล็อกในเอ็มเกือบทุกวันแล้วนิ่

ฉันไม่กังวลว่าต้องมีแฟน ฉันไม่ค่อยสนใจสังคม ใช้ชีวิตกะการทำงาน รูมเมท เพื่อนสองสามคนเท่านั้นเอง..

ฉันไม่ต้องการบ้านหลังใหญ่หรูหรา รถราคาแพง หรืออาชีพการงานที่มั่นคง มีรายเป็นล้าน ฉันต้องการแค่ขยับฐานะ จากต่ำกว่าศูนย์ขึ้นมาสูงกว่าศูนย์นิดหน่อย เท่านั้นเอง

แต่ทำไมในความรู้สึกสงบเป็นสุขของฉัน ฉันยังรุ้สึกโหยหาบางอย่างลึกๆ
หรือฉันอาจจะต้องการแค่แมวซักตัวมาอยู่ด้วย..รึเปล่านะ??


ไปเที่ยวบีชมา วันนี้



Create Date : 06 กันยายน 2548
Last Update : 6 กันยายน 2548 19:18:59 น. 17 comments
Counter : 522 Pageviews.

 


โดย: wbj วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:19:03:43 น.  

 


... สวัสดีค่ะ นุชแวะเข้ามาทักทายค่ะ ...


โดย: Vannessa วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:19:40:28 น.  

 
น่าภูมิใจจริงๆ แหละค่ะ

ยินดีด้วยจริงๆ นะคะ




ซาดิสม์แบบเบอร์ตันจริงเหยอ?

แล้วชอบเดปป์ด้วยป่าวง่ะ?


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:20:18:39 น.  

 
ชอบเดปป์ กะเบอร์ตัน(ยกเว้นเรื่องแบทแมน) กะโรอัลด์ ดาห์ลที่สุด เพราะฉะนั้น หนังเรื่องนี้ถึงต้องซื้อเก็บไงคะ อิอิ สุดยอดฮีโร่มารวมกันในหนึ่งเดียว
ปล.เรื่องเด็กชายหอยนางรมเราก็เก็บนะ...ไหนสาวไกด์ฯบอกไม่ชอบเบอร์ตัน ทำไมซื้อเด็กชายหอยนางรมด้วยนะ..อิอิ


โดย: เกือกซ่าสีชมพู วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:20:24:21 น.  

 
คุณนัท ความสุขของแต่ละคนก็มันก็ต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าอะไรทำให้เรามีความสุข แต่ไม่ว่าจะอะไรเน๊อะถ้าเราสบายใจ สุขใจมันก็ดีทั้งนั้นเลย

อ่านแล้วรู้สึกได้ว่าคุณนัทมีความมากๆ อยากให้คุณนัทมีความสุขแบบนี้ไปอีกนานๆ นะคะเพราะมันคือกำลังใจและพลังขับเคลื่อนให้เราทำงาน รับผิดชอบหลายๆ อย่างได้ดีเลยค่ะ แล้วเพื่อนจะได้ไม่เห็นคุณนัทเศร้าอีกน๊า

ขออวยพรและเป็นกำลังใจให้จ้า


โดย: JewNid วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:20:47:30 น.  

 
สำหรับมังคุด พ่อมังคุดเองก็ล้มเหลวทางธุรกิจจนตอนนี้ต้องกลับมานอนอยู่เฉยๆที่บ้าน
แต่ก่อนแกจะมาอยู่เฉยๆ แกก็ยอมทำงานทุกอย่าง รวมทั้งการขับแท็กซี่เก่าๆ
เป็นคนขับรถเจ้าสัว โดนคนดูถูก แม้กระทั่งญาติพี่น้องตัวเองก็ยังดูถูกเลย เพียงเพื่อรอมังคุดเรียนจบ
จนวันนี้ มังคุดบอกให้พ่ออยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำงานแล้ว เพราะรู้สึกว่าไม่อยากให้พ่อไปเสี่ยงกับการขับรถแท็กซี่ และการขับรถให้เจ้าสัวขากถุย มังคุดเข้าใจพ่อค่ะ เพราะคนเรามีสิทธิ์ล้มเหลวกันได้ และตอนนี้ก็ยังมีหนี้รอให้ใช้อยู่
ชีวิตมันก็อย่างนี้แหละค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามา ก็สอนให้เราเข้าใจชีวิต
ความรู้สึกโหยหาอยู่ลึกๆของคุณเกือกซ่า ก็เป็นสัญญาณเตือนว่า เรายังมีชีวิตอยู่ไงคะ ไม่ได้ตายทั้งเป็นซะหน่อย
การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
แต่ถ้ามีไปแล้ว ก็ค่อยๆใช้มันไป วันนึงเราก็จะกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง


โดย: mungkood วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:21:30:03 น.  

 
ใช่ค่ะ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ
แต่มีใครบ้างล่ะเนอะที่อยากจะมี เฮ้อ...

ความสุขของแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกัน
อะไรทำให้เรามีความสุข? ทุกวันนี้ยังตอบไม่ค่อยจะได้เลยอ่ะค่ะ


โดย: asita วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:22:13:19 น.  

 
สวัสดีค่ะ

แอบเป็นคล้ายๆ กันเลย
แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยเป็น เพราะปั่นๆ จักรอยู่
จะว่าไปก็มีความสุขนะคะ ที่เป็นแบบนี้
ยิ่งตอนทำอะไรเสร็จไปทีละเปาะ เนี่ย จะยิ่งมีความสุขเลย
ชีวิตก็ยุ่งวุ่นวายเรื่อยๆ แต่ก็มีความสุขดี
แต่ มันมีช่วงที่ โหยหา อะไรบางอย่าง อยู่จริงๆ ด้วย (แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมากแฮะ เทียบกับช่วงแรกๆ ที่ชีวิตวุ่นวาย)
ชีวิตเริ่ม วุ่นวายตั้งแต่ ปี 2 ตอนขึ้นภาค
ควิซแทบจะทุกอาทิตย์ อีกทั้งเล่นบาส รักบี้ ไปชมรมนู้นนี้ และแล้ว Robot ก็เข้ามาในชีวิต ช่วงก่อนนี้ก็ใช้ชีวิตกับเพื่อน เรื่อยๆ ติดเพื่อนเลยแหละ แบบว่าไม่คุยไม่ได้ แต่พอยุ่งๆ ชีวิตส่วนนี้มันก็หายไปได้อย่างไม่รู้ตัว ( แต่มันก็โหยหาอยู่ลึกๆ รู้สึกได้เลย พอเราหายยุ่งสักพัก มันรู้สึกไม่มีใครจริงๆ จังๆ )
เริ่มยาวแฮะ มะใช่ blog ตัวเองเสียด้วย
แต่ตอนนี้ ความรู้สึกโหยหาอันนั้นเริ่มหายไป เพราะอยู่ตัวกับชีวิตที่วุ่นวาย และมีความสุขกับมันได้แล้วหละมั้ง ถึงชีวิตจะวุ่นวาย ก็อย่ายอมให้ใจมันวุ่นวายไปด้วย แม้มันจะยากหน่อย เนอะ
ไอ้เราก็ถือซะว่า เป็นการฝึกอยู่กับตัวเองไป
แต่นั่นนะสิ เมื่อไรที่เราไม่มีงานทำวุ่นวายๆ มันก็แปลกๆ ไปเหลือเกิน

เขียนซะยาว
จากการเดา(ทำยังกะมีหลักการ) เด็กเล็กเลยคิด่ว่า ความรุ้สึกโหยหานั่น คือ ความต้องการปฏิสัมพันธ์ แน่ๆ เลย แบบว่า มีใครสักคนที่เรารัก (รวมถึง ถ้ารักตัวเองด้วย)


โดย: เด็กเล็ก วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:0:52:28 น.  

 
อาจจะเป็นอย่างนั้นล่ะมังเจ้าหนูเด็กเล็ก..

พี่ไม่ค่อยรักตัวเองเท่าไหร่เลย
รู้สึกว่า..มีชีวิตอยู่เพื่อพ่อแม่..จบงานหนี้เมื่อไหร่ มีตังให้เค้าอยุ่ได้สบายๆไม่เดือดร้อน ก็จบงานในชาตินี้แล้ว...จะได้ตายตาหลับได้ซะที

บางทีอาจเป็นเพราะ ไม่มีฝันสำหรับตัวเองเลย..ไม่มีความหวังใดๆสำหรับตัวเองอีกต่อไปแล้ว เพราะกว่างานชิ้นนี้จะลุล่วง พี่คงแก่เกินกว่าจะมีฝันเหลืออยู่ให้ตามหา

..ไม่เศร้านะ..แค่ปลงกะความเป็นจริงของชีวิต ฮ่าๆๆ

ชีวิตเรามันสั้นนัก ..นิ


ทุกวันนี้พี่มีชีวิตที่มีความสุขกว่าตอนอยู่เมืองไทยมาก ไม่ต้องดิ้นรนหาเงินทุกเดือนอีก อยากกินไรก็ได้กิน อยากเที่ยวก็ได้เที่ยว แต่ เหมือนกับ..เป็นเพียงแค่สุขทางกาย ส่วนด้านจิตวิญญาณ เหมือนมีอะไรหายไป

บางทีอาจจะต้องไปวัดบ้างแล้วล่ะ



asita ... จริงค่า ไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสิรฐ


หนูมังคุดกับคุณนิด ..ขอบคุณสำหรับคำอวยพรจากใจจริงค่า


โดย: เกือกซ่าสีชมพู วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:2:46:39 น.  

 
อ้างว้าง เพราะเริ่มสงสัยว่า
จุดหมายที่แท้จริงของตัวเองคืออะไรหรือเปล่า
เพราะที่ผ่านมี มีแต่จุดมุ่งหมายของคนอื่น

พอภาระเริ่มเบาบาง
ความไม่ชัดเจนของตัวเองก็เริ่มเข้ามา

แต่ถ้าอยากได้คนช่วยใช้เงินนี่
บอกนะจ๊ะ มีภาระส่วนตัวเหมือนกัน 5 5 5

take care

คิดถึงคนอื่นมาเยอะแล้ว คิดถึงตัวเองให้ดีๆ มั่ง
จะเรียนอะไร จะทำอะไรต่อไปข้างหน้า
เอาใจช่วย และอย่ามัวแต่เก็บเงินล่ะ
หาอะไรที่ทำให้ตัวเองภูมิใจในคุณค่าของตัวเองมากกว่าเงินดีกว่านะ


โดย: cocoa butter วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:4:09:21 น.  

 
ก็คิดว่าเป็นงั้นนะโกโก้
คงเป็นเพราะตอนนี้ทำงานเพื่อเงินอย่างเดียวจริงๆ
จน self esteem ต่ำกว่ามาตรฐาน
แต่จริงๆแล้ว อาจจะเป็นเพราะภาระเริ่มหมดไปอย่างที่โกโก้ว่าล่ะ..

ตอนนี้เรยเริ่มเคว้งคว้าง ว่างเปล่า

เรื่องของเรื่อง..คือเราไม่มีความทะยานอยากที่จะประสพความสำเร็จในชีวิตอ่ะจิ่

เรื่องที่ทำให้ภูมิใจในคุณค่าของตัวเองมากที่สุดน่าจะเป็นการช่วยคนอื่นที่เดือดร้อน หรือผลักคนอื่นให้ดีกว่าเราอ่ะ แต่ก่อนที่จะทำอย่างงั้นได้ เราก็ต้องทำให้ตัวเราเองยืนหยัดได้ด้วยตัวเองก่อนใช่มะ ไม่งั้นก็กลายเป็นเตี้ยอุ้มค่อมกันไปใหญ่

คงจะเป็นเพราะตอนนี้มันอยู่ในช่วงกึ่งกลางของการเดินทางละมัง...ดูไปเรื่อยๆ..มันอาจจะดีขึ้น และดีขึ้น


โดย: เกือกซ่า IP: 66.74.195.102 วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:4:34:15 น.  

 
ดูแลสุขภาพนะคะคุณนัท
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^



...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:9:00:08 น.  

 
ม๊าวววววววววววววววววววว อันนี้แบบตัวผู้

เมี๊ยวววววววววววววววววววว แบบตัวเมียเสียงกระมิดกระเมี้ยนหน่อย


เลี้ยงแทนแมวไปก่อนนะจ้ะ..




โดย: แม่ปุ้มปุ้ย IP: 203.146.79.178 วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:10:29:07 น.  

 
แค่เราอ่านเรื่องราวของนัทเพียงเศษเสี้ยวที่นัทเล่ามานะ เรายังเหนื่อยแทนเลยอ่ะ...ไม่รู้ว่าทำไมคนเราต้องมาแบกภาระอะไรหนักอึ้งกันถึงขนาดนี้...

อยากจะบอกว่า...เวลาแค่เพียงนิดหน่อย ตักตวงเอาไว้ให้ตัวเองบ้าง..ทำทุกนาทีให้มีความสุข อยากทำอะไีรก็ทำนะนัท..พอเติมเต็มแล้วค่อยเดินต่อ เพราะเรารู้ว่าสิ่งที่นัททำอยู่มันคือความสุขที่ได้เห็นพ่อแม่มีความสุข ...สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดแล้วนะในชีวิตของการเป็นลูก...ตอนนี้นัทอาจจะเหนื่อย อาจจะเคว้ง แต่พอถึงจุดนึงแล้วเราว่านัทจะรู้เองแหละว่าตัวเองต้องการอะไีร..เดินต่อไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักนะ...

ขนาดว่าเราเองไม่ต้องดิ้นรนไรเลย ยังต้องมาติดกับดัีกของ...ของ อะไรดีล่ะ เราจะเรียกมันว่ากิเลสแล้วกันนะ...คือเราอยากมีลูกมากๆ อยากมีจนทุกข์ แล้วเนี่ยะทำให้เรื่องอื่นๆ กลายเป็นทุกข์ไปหมด แทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นก็มานั่งหมดหวังหมดกำลังใจอ่ะ...อ้าวๆๆๆๆ มาปลอบนู๋นัทแล้วมาเอาเรื่องตัวเองมาบ่นซะละ..

เราเิริ่มจะปลงแล้วหล่ะ จะปล่อยให้มันเป็นไปตามวิืถีที่มันควรจะเป็น จะไปพักซักหน่อย จะเที่ยวให้หนำ...ยังไงก็จะเป็นกำลังใจให้นัทนะ ปลอบกันไปปลอบกันมางี้แหละ เผื่อจะได้บรรลุ และตาสว่างกันซัีกวันนึง อิอิ ไม่เึีครียดนะ ไม่เครียด


โดย: tiny IP: 68.68.29.123 วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:10:45:43 น.  

 
รู้สึกเหมือนกันเลย

ตกใจกับคำพูดของป้าของหนูนัทด้วย เพราะว่ามันใช่เลย

นี่ถ้าเจ๊ไม่อยู่เพื่อแจมมี่ล่ะก้อ

กลับไปนานแล้ว

"ชีวิตที่ดี แต่ไม่มีวิญญาน" ช่างตรงเผงอะไรเช่นนี้


โดย: พฤษภาคม 2510 วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:14:22:18 น.  

 
เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ คนเราเมื่อมาถึงจุดจุดนึงในชีวิตเนี่ย จะมีช่วงเวลาที่เคว้งคว้าง ไม่รู้ว่าจุดยืนของตัวเองอยู่ที่ไหน หรือชีวิตนี้ต้องการอะไร อันนี้เป็นบ่อยเลย เมื่อก่อนนะ สุดท้าย เรารู้ว่าสิ่งที่ตัวเองขาดและโหยมามานาน คือความรัก เราต้องการคนที่รักเรามากๆ และคนที่เรารักเค้าด้วย อืมม.. เป็นจุดอ่อนอย่างแรงเพราะเราสูญเสียอย่างรุนแรงตั้งแต่เด็ก..(อย่างที่เล่าให้ฟัง) วันนึงนัทจะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรแล้ววันนั้นแหละ จะเป็นวันที่มีความสุขมากที่สุดจริงๆ

เหมือนที่คุณทอยบอกข้างบนว่าพยายามตักตวงเวลาบ้าง ทำทุกนาทีให้มีความสุข อันนั้นคือใช่เลย เป๊ะ seize the moment อย่างเร็ว

เราว่านัทเก่งนะ หาเงินเก่ง เป็นผู้หญิง เก่งและแกร่ง ชอบมากๆ เลย นี่ถ้ามีความสามารถซักหนึ่งในสี่ของนัทก็คงจะดีไม่น้อย เรามันอ่อนแอเกินไป จริงๆ นะ เป็นโรคสงสารตัวเอง โอ๋ตัวเองมากไปหน่อย อิอิ รู้ทุกอย่างแหละ แต่บางทีไม่ทำ นิสัยเสียของคนที่เป็นลูกโทนอ่ะ มีเยอะเหมือนกัน
แต่จะทำไงได้ล่ะ เอาเป็นว่าจะไม่อยากให้ลูกเราเป็นลูกคนเดียวหรอก อยากมีน้องให้โคอาอีกคนอ่ะ (อ้าวๆ มาเล่าเรื่องตัวเองอีก เฮ้อ)

คิดถึงและห่วงใยมากๆ เลยนะคะ อย่าเครียด อย่าหักโหมน๊า รักษาสุขภาพด้วยล่ะ

รูปบีชสวยจังอ่ะ ฟ้าใส๊ใสเนอะ เข้ากับสีทะเลดีจัง บรรยากาศดีอ่ะ



โดย: ปุ๊ง (sandpainter ) วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:14:26:35 น.  

 
อ่านแล้วหลากหลายความรู้สึกดีจัง

ไม่คิดถึงเมืองไทย
หากมีความสุขที่เมกา จงอยู่กับสิ่งที่เลือกเถอะนะ

เบาบาง...อาจจะเหมือน เด็กที่เคยต้องเร่งรีบเรียน ชีวิตมีแต่เรียน ๆ พอวันหนึ่ง จบการเรียน . . . เคว้ง ? แต่นู๋นัท ไม่ใช่อะไรที่มากเกินขอบ และน้อยจนตกกระป๋อง เจ๊ว่านู๋รับมือได้ ทุกอย่างอยู่ที่ใจ


โดย: มีอมยิ้ม วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:13:41:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เกือกซ่าสีชมพู
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




:บล็อกล่าสุด:
*นิราศอิตาลี (๑)
*นิราศอิตาลี (๒) โปรแกรมอิตาลีหฤโหดต่อ
*นิราศอิตาลี(๓) Roman Holidays วันเเรก
*อีกเรื่องราวของการเดินทาง

Group Blog
 
<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
6 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เกือกซ่าสีชมพู's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.