มีนาคม 2560

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
31
 
 
25 มีนาคม 2560
แมวกัด 1st Time


ทุกอย่างย่อมมีครั้งแรก...และเมื่อมีครั้งแรกมันก็จะมีครั้งต่อๆไป...



...แมวกัด 1st Time...


ที่บ้านนุ้ยเลี้ยงแมว 2 ตัว ชื่อสำลี เป็นแมวสาว พันธุ์ขาวมณี จริงๆ มันก็ไม่สาวแล้วแหละ เลี้ยงมาตั้งแต่นุ้ยเรียนอยู่ปี 2 ตอนนี้ทำงานมาได้หลายปี จากแมวสาวน่าจะกลายป็นแมวป้าตัวอ้วนอืด ไม่สุงสิงกับใคร รังเกียจคนแปลกหน้าและหน้าแปลก อยากจับอยากลูบต้องขออนุญาตก่อนทุกครั้ง ไม่งั้นอาจจะโดนปั่นจักรยานขาหลังได้แผลเลือดซิบๆกลับไปได้ สำลีเป็นแมวขี้รำคาญ ชอบทำหน้าบูด รำคาญทุกอย่างบนโลกใบนี้รวมถึงเจ้าของด้วย

ส่วนอีกตัวหนึ่งชื่อหรงหรง เขียนชื่อแบบนี้แล้วดูดีมีชาติตระกูล จริงๆ มันก็เป็นแมวตัวผู้หลงทางที่โดนรถมอเตอร์ไซด์ชนสะโพกหักนอนพะงาบอยู่กลางซอย จนที่บ้านสงสารพาไปรักษาจนหาย และได้ใช้ชีวิตใต้ชายคากับสำลี อายุประมาณ 4 ปีนิดๆ กำลังซ่าส์สั่นๆ เห็นแมวจรเดินผ่านหน้าบ้านก็จะเก่งขึ้นมาทันที พองขนจนฟู ขาหน้าแทบลั่น ติดตรงที่ไม่กล้าออกจากบ้านเท่านั้นแหละ ส่วนแมวจรที่เดินผ่านหน้าบ้านก็จะเดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่สำคัญคือด้วยความซ่าส์สั่นๆนี้ หรงหรงเลยชอบแหย่สำลีอยู่บ่อยๆ จากที่สำลีอยู่เฉยๆก็หงุดหงิดระดับ 2 พอหรงหรงเดินมาเขี่ยหางก็จะหงุดหงิดระดับ 8 พร้อมถวายขาหน้าสองป้าบแล้วเดินหนี บางทีเดินมาฟ้องว่าถูกหาเรื่องก็มี 

ร่ายประวัติ 2 แมวมาพอสมควรแล้ว เข้าเรื่องเลยแล้วกัน เนี่ย! แมวกัด 1st time ให้ทายว่าตัวไหนกัด....หึ

เหตุเกิดตอนเที่ยงคืนนิดๆเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนที่นุ้ยกลับจากทำงานด้วยแท็กซี่ พอจอดหน้าบ้านปุ๊บ สายตาก็เหลือบไปเห็นแมวขาวส้มตัวนึงกำลังเดินผ่านหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามไป แต่พอนุ้ยไขกุญแจ เปิดประตูบ้านตัวเองปุ๊บ หรงหรงที่มักจะมาต้อนรับหน้าประตูเป็นประจำพอเห็นแมวขาวส้มตรงข้ามบ้านปุ๊บ หูยยยย ตัวพองป็นซุปเปอร์ไซย่า เสียงขู่นี่ดังไปถึงปากซอย จากปกติที่เก่งอยู่แต่ในบ้านอยู่ดีๆ วันนี้ไม่รู้นึกคึกอะไร ดีดตัวออกจากธรณีประตูด้วยความเร็วแสง กะว่าจะไปแสดงแสนยานุภาพให้แมวชะตาขาดได้รู้ว่า แถวนี้พี่คุม!!! 

แต่คุณคะ...มืออิชั้นไวกว่า คว้าปลอกคอหรงหรงไวมาก ยังตกใจตัวเองอยู่เลยความรู้สึกตอนนั้นเหมือนวิญญาณแบร์รี่ อัลเลนเข้าสิง คว้าได้ปุ๊บก็ดันหรงหรงเข้าบ้านปั๊บ หันไปดูนังแมวหวิดชะตาขาด เออ เห็นมันทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ นั่งเก็บขามองด้วยสายตาเฉยเมยอยู่ แต่เสี้ยววินาทีเท่านั้นและ นังแมวเนรคุณก็ซัดขาอิชั้นโชว์คนอื่นเฉยเลย เลือดพุ่งสิคะ รออะไร ตอนนั้นรู้แน่ๆ ว่าต้องเป็นแผล แต่ไม่คิดว่าจะใหญ่จนกระทั่งก้มมองผลงานรอยเขี้ยวของหรงหรงตรงหลังเท้าขวา หูยยยยยย เนื้อหายเลยค่ะคุณ แว๊บแรกในความคิดคือ 'เป็นคีลอยด์แหงๆ ใส่รองเท้าแบบเปลือยเท้าไม่สวยชัวร์' หลังจากนั้นสติก็มา สมองประมวลผลว่าเวลานี้มีคลินิคไหนเปิดให้ไปทำแผลบ้าง....

เวลาเที่ยงคืนครึ่งในขณะที่หอบร่างกายไปโรงพยาบาลย่านกล้วยน้ำไท เพราะคงไม่มีคลินิคที่ไหนเปิดเวลานั้น มือก็เสิร์ทหาวิธีรักษาคีลอยด์ในโทรศัพท์ ตอนนั้นมองข้ามไปทุกเรื่อง คือกลัวเป็นแผลเป็นอยู่อย่างเดียว จนกระทั่งถึงโรงพยาบาล แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าเวลานี้คงมีแต่แผนกฉุกเฉิน ระหว่างทางที่เดินจากลานจอดรถเข้าไปที่เค้าท์เตอร์ด้วยขาสั่นๆ ก็ถามตัวเองว่าเคสแบบนี้มันฉุกเฉินมั้ยอ่ะ เพราะเคยอ่านเจอว่าคุณหมอบ่นเนื่องจากมีคนไม่สบาย เป็นไข้แล้วไปโรงพยาบาลตอนกลางดึก ซึ่งมันก็ลำบากหมอที่เข้าเวรแล้วต้องลากตัวเองออกมารักษาทั้งๆ ที่ไม่ได้ฉุกเฉินอะไรเลยสักนิด แล้วก็ได้คำตอบจากคุณพยาบาลว่า เคสโดนสัตว์กัดต้องประเมินจากแผล ซึ่งแผลเราคุณพยาบาลเห็นแล้วคือให้พบหมอเลย 

เราเข้าไปซักระวัติกับคุณหมอเวรว่าสัตว์ที่กัดเป็นสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์จรจัด เคยฉีดวัคซีนให้สัตว์เลี้ยงหรือไม่ภายใน 1 ปีที่ผ่านมา สัตว์เลี้ยงมีลักษณะอาการผิดปกติหรือไม่ เลี้ยงในระบบปิดหรือเปิด มีเหตุอะไรที่ให้สัตว์เลี้ยงมากัดเรา ตัวเราเคยฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้ามาก่อนหรือไม่ (อันนี้จำไม่ได้จริงๆ จำได้แค่ว่าตอนเด็กๆเคยหยอดและฉีดวัคซีนตามที่โรงเรียนให้ทำ) หลังจากซักประวัติเสร็จ คราวนี้ก็ขึ้นเตียงค่ะ พี่พยาบาล 2 คนเดินถือน้ำเกลือขวดลิตรมาหาเลย ทั้งล้าง ทั้งฟอกแผลให้ คนนึงล้างแผลส่วนอีกคนยืนคุยเบี่ยงเบนความสนใจ แหกปากไม่ทันเลยค่ะ 

เรื่องทำแผลก็คิดไว้แล้วแหละ แต่ไม่รู้จะต้องเย็บรึเปล่าเพราะเหมือนเนื้อมันบุ๋มลงไป ในใจก็กลัวเข็มสุด แค่คิดก็เสียวไส้แล้ว เจ็บนำไปไกลมาก แต่ถามพี่พยาบาลแล้วบอกว่าไม่ต้องเย็บเพราะเสี่ยงเป็นหนอง ก็โล่งใจไปนิด จริงๆ ตัวเราเองมีความรู้เรื่องการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าน้อยมาก ตอนเด็กๆ แม่เคยบอกว่าถ้าโดนหมากัดต้องฉีดยารอบสะดือ นี่เลยถามเลยว่าต้องฉีดรอบสะดือจริงมั้ย พี่พยาบาลที่ล้างแผลอยู่ก็หันมายิ้มหวานแล้วบอกว่า 
"ไม่ต้องฉีดรอบสะดือค่ะ"........."แต่เดี๋ยวฉีดเข้าไปที่แผล"

หัวใจตกลงไปอยู่ตาตุ่ม หันไปมองหน้าพี่พยาบาลตาเหลือก ทุกอย่างตอนนั้นเงียบมาก ขาก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วชาไปหมด นี่เลยพยายามยิ้มแล้วถามพี่พยาบาลกลับ
"อันนี้ล้อเล่นใช่มั้ยคะ?" 
"ไม่ค่ะ ฉีดเข้าไปในแผลจริงๆ"...."ถ้าโดนกัดที่หน้าก็ต้องฉีดเข้าไปที่หน้าค่ะ"
ถ้าเปรียบซีนนี้เป็นฉากในละครมันจะต้องมีซาวด์ที่โคตรระทึกใจดังผ่าม!!! ขึ้นมาแน่ๆ

หลังจากนั้นไม่รู้อะไรเลยค่ะ เหมือนภาพตัดตั้งแต่พี่พยาบาลบอกว่าต้องฉีดยาเข้าแผล แต่ก่อนฉีดยาพิษสุนัขบ้า และบาดทะยัก คุณหมอสั่งให้ทดสอบอาการแพ้ยาก่อน คือต้องลองฉีดเข้าผิวหนังทั้งสองข้างแล้ววาดวงกลมด้วยปากกา แล้วรอดูว่าที่ฉีดเข้าไปจะบวมขึ้นมั้ย ถ้าไม่บวมก็คือไม่แพ้วัคซีน ซึ่งทำมาจากสัตว์ แต่ถ้าแพ้ก็ต้องเปลี่ยนมาฉีดวัคซีนที่ทำมาจากคน นี่ก็หลุดปากถามพี่พยาบาลไปว่า "ใครอ่ะ" 

พี่พยาบาลหายออกไปนอกห้องสักพักก็กลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับเข็มฉีดยาบนถาดสแตนเลส และถุงใส่ยาซึ่งมียาขวดเล็กๆ อยู่ในนั้น 3 ขวด เลยถามเขาว่าต้องฉีดทั้งหมดกี่เข็ม คำตอบที่ได้รับคือ ฉีดจนกว่ายา 3 ขวดนั้นจะหมด และต้องฉีด 3 ที่ คือ 1. ฉีดเข้าที่แผล 2. ฉีดที่ต้นแขน และ 3. ฉีดที่สะโพก เอาจริงๆ นะ ถ้าฉีดเข้าที่แผลได้ หลังจากนั้นมันก็ไม่มีอะไรเจ็บไปกว่านี้แล้วแหละ ด้วยความสัตย์จริง 

ก่อนโดยฉีดยาพี่พยาบาลก็ใจดีให้เรานอนทำใจ แต่คือมันทำไม่ได้อ่ะ รู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องโดนฉีด ตอนนั้นก็เริ่มปวดแผลแล้วด้วย หันไปเจอเข็มฉีดยาที่อยู่ในมือแล้วน้ำตาจะไหล เข็มใหญ่มาก!!! กลั้นใจบอกพี่เขาฉีดเลยค่ะ ในมือก็ม้วนผ้าห่มแล้วกัด ตอนเข็มทิ่มแผลนี่กลัวขาตัวเองจะดีดขึ้นมามากๆ กัดผ้าแหกปากจนคุณป้าที่นอนทำแผลอยู่ข้างๆ ชะโงกหน้ามาให้กำลังใจ ขอบคุณคุณป้าไว้ ณ ที่นี้ค่ะ *กราบ* 

เสร็จสิ้นไป 1 เข็ม ซึ่งเป็นเข็มที่เจ็บที่สุด หลังจากนี้คงชิวๆ (มั้ง) พี่พยาบาลก็ไม่ให้หายใจเลย จิ้มแผลเสร็จเดินมาทาแอลกอฮอลล์ที่แขนต่อ มันก็เจ็บแต่น้อยกว่าเข็มแรก มาถึงเข็มสุดท้ายขอเวลาทำใจ 10 วิ แต่พอนอนคว่ำลงเท่านั้นแหละ พี่พยาบาลทาแอลกอฮอล์เสร็จก็ทิ่มเข็มลงมาเลย ขานี่ดีดดังปั๊ก เป็นการฉีดยาที่ทรมานสุดๆ แต่ก็จบๆ ไปสักที ให้นานกว่านี้คงเป็นลมลงไปแล้ว พอฉีดยาเสร็จเงยหน้ามาอีกทีคือพี่เขาก็ทำแผลให้เสร็จแล้ว สรุปโดนเข็มทิ่มทั้งแบบทดสอบแพ้ยาและฉีดจริงๆไปทั้งหมด 5 เข็ม เยอะที่สุดเท่าที่เคยถูกฉีดยามาเลยค่ะ คุณหมอบอกว่าต้องมาฉีดยาให้ครบคอร์ส คนส่วนใหญ่ฉีดแค่เข็มสองเข็มพอหายก็ไม่มาฉีดต่อ ส่วนบาดทะยักถ้าฉีดครบก็ป้องกันได้ 10-15 ปี ถ้าโดนกัดอีกก็แค่มาฉีดกระตุ้นเท่านั้น 
ประสบการณ์โดนแมวกัดหนักๆ ครั้งแรกที่ต้องวิ่งไปโรงพยาบาลเพื่อฉีดยาพิษสุนัขบ้า และบาดทะยัก แค่ครั้งนี้ก็เกินพอแล้ว กลับบ้านไปก็ไปยืนชี้หน้าหรงหรง บอกว่าวันหลังถ้าจะเปรี้ยวก็วิ่งออกไปฟัดเค้าเลย ไม่ต้องเหยียบเบรคไว้ที่ประตูบ้าน ฟัดเสร็จเดี๋ยวตามไปเก็บซากให้เอง นี่ยังไม่รวมกับที่ต้องแบกตัวเองไปล้างแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน แถมยังต้องหยุดงานทั้งๆที่ทุกคนวุ่นวายทำสต๊อกเตรียมหยุดวันสงกรานต์อีก ชีวิตน่าสงสารมากเลยค่ะ 




โฉมหน้าของตัวต้นเหตุที่ไร้ความสำนึกผิดโดยสิ้นเชิง...






Create Date : 25 มีนาคม 2560
Last Update : 25 มีนาคม 2560 23:29:01 น.
Counter : 780 Pageviews.

1 comments
  
แวะมาทักทายจ้าา ^__^ อิอิ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4507140 วันที่: 3 พฤษภาคม 2561 เวลา:17:58:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมีน้อยพุงพลุ้ย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]