ไวรัสรุนแรงในน้องแมวไปหลายเชื้อ ไม่ว่าจะไวรัสเอดส์แมว ไวรัสลิวคีเมีย ไวรัสช่องท้องอักเสบติดต่อ แต่ในแมวนั้นยังมีไวรัสสำคัญๆอีกหลายเชื้อที่ทำให้น้องแมวเจ็บป่วยได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ไวรัสไข้หัดแมว ไวรัสชนิดนี้มีความรุนแรงสูงและอาจทำให้น้องแมวเสียชีวิตได้ในเวลารวดเร็วค่ะ

โรคไข้หัดแมวเกิดจากเชื้ออะไร

โรคไข้หัดแมวเกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Feline Panleukopenia Virus (FPV) หรืออาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Feline Infectious Enteritis (FIE) เป็นไวรัสในกลุ่ม Parvovirus (คล้ายกับไวรัสลำไส้อักเสบในน้องหมา) โดยไวรัสนี้จะก่อโรคในสัตว์ตระกูลแมว และสัตว์ที่อยู่ในตระกูลใกล้เคียง เช่น แรคคูน ตัวมิงค์ ส่วนในน้องหมานั้น พบว่าไวรัสสามารถเข้าไปอยู่อาศัยในตัวน้องหมาได้ แต่จะไม่สามารถเพิ่มจำนวนและก่อโรคในน้องหมาค่ะ

ไวรัสนี้ติดต่อได้อย่างไร

น้องแมวจะได้รับเชื้อไวรัสไข้หัดแมวจากการกินสิ่งที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสนี้ ซึ่งอาจมาจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง อุจจาระ น้ำลาย จากแมวป่วยโดยตรง หรืออาจได้รับเชื้อที่ปนเปื้อนมากับข้าวของเครื่องใช้ในบ้านก็ได้ค่ะ ดังนั้นถ้าพบว่ามีแมวป่วยด้วยไวรัสชนิดนี้จึงจำเป็นจะต้องแยกแมวป่วยจากแมวตัวอื่นโดยเด็ดขาด ไม่ควรใช้ข้าวของร่วมกัน ทำความสะอาดบริเวณบ้านด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม นอกจากนี้คนที่ดูแลแมวที่ป่วยด้วยโรคไข้หัดแมวนี้ ถ้าไปต้องไปจับน้องแมวตัวอื่นที่ไม่ได้ป่วย ก็ต้องล้างมือและตัวให้สะอาดเสียก่อนด้วย

โรคไข้หัดแมวมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน

โรคไข้หัดแมวนั้นจัดว่าเป็นโรคที่มีความรุนแรงสูงค่อนข้างมาก กล่าวคือ พบว่ามีอัตราตายสูงถึง 50-90% โดยเกิดขึ้นได้กับแมวทุกช่วงอายุ แต่จะพบมากในน้องแมวอายุน้อย (น้อยกว่า 1 ปี) มักพบในแมวที่ไม่เคยทำวัคซีนป้องกันโรคนี้มาก่อนหรือทำวัคซีนมาแล้ว แต่ไม่ครบถ้วนตามโปรแกรมวัคซีน และมักพบโรคนี้ในแมวที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่หนาแน่น (แมวหลายตัวอยู่ร่วมกันในพื้นที่แคบ) หรือแมวที่มีภาวะเครียดค่ะ

อาการของโรคไข้หัดแมวเป็นอย่างไร

น้องแมวจะแสดงอาการป่วยภายใน 3-7 วันหลังจากได้รับเชื้อ โดยแมวจะแสดงอาการดังนี้ ซึม มีไข้ เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสีย อุจจาระมีกลิ่นเหม็นคาวผิดปกติ มีภาวะขาดน้ำ อ่อนเพลีย บางตัวอาจนอนตลอดเวลา แม้แต่ขณะขับถ่าย มีแก็สและของเหลวในทางเดินอาหาร แสดงอาการเจ็บเมื่อคลำท้อง ตัวสั่น เดินไม่ตรง หัวตก บางตัวอาจมีขี้ตา/ขี้มูก และตาอักเสบร่วมด้วย ในกรณีที่เป็นมากและอาการเข้าสู่ระยะท้าย น้องแมวจะมีภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ ช๊อค หมดสติ และเสียชีวิตภายในที่สุด น้องแมวอาจตายได้ภายใน 5 วันแรกที่มีอาการ โดยมากพบว่า น้องแมวที่อยู่รอดมาได้เกิน 5-7 วันหลังจากเริ่มมีอาการ มักจะไม่เสียชีวิตค่ะ

ในกรณีที่แม่แมวที่กำลังตั้งท้องป่วยด้วยไวรัสไข้หัดแมวหรือเป็นพาหะของโรคนี้ มักจะพบว่าเชื้อสามารถผ่านรก ติดไปยังลูกแมวในท้องได้ ส่งผลให้เกิดการแท้ง หรือลูกตายแรกคลอดได้ ถ้าลูกแมวไม่ตายตอนคลอด ก็มักจะมีอาการทางระบบประสาท มีสุขภาพอ่อนแอและตายในที่สุด

น้องแมวที่โตเต็มที่บางตัวที่ติดเชื้อไวรัสนี้ อาจจะไม่แสดงอาการป่วยให้เห็นชัดเจน แต่อาจเป็นพาหะปล่อยเชื้อให้แก่น้องแมวตัวอื่นได้ โดยเฉพาะน้องแมวที่อายุน้อยไม่ถึง 1 ปี หรือน้องแมวที่ไม่เคยทำวัคซีนค่ะ

จะทราบได้อย่างไรว่าน้องแมวป่วยด้วยโรคนี้

การตรวจวินิจฉัยโรคนี้นั้นทำได้โดยการดูจากอาการ กลิ่นอุจจาระ ร่วมกับการตรวจเลือด ซึ่งจะพบว่ามักจะมีเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าปกติ คุณหมอบางท่านอาจใช้ชุดตรวจสำเร็จรูป ชนิด Snap test ที่ใช้ตรวจหาเชื้อลำไส้อักเสบพาร์โวไวรัสของน้องหมา มาตรวจหาเชื้อไข้หัดแมวร่วมด้วยเพื่อวินิจฉัยโรคเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ

โรคนี้รักษาได้หรือไม่ และจะรักษาอย่างไร

การรักษาโรคไข้หัดแมวนั้นมักจะเป็นการรักษาตามอาการ (เช่น ถ้ามีอาการอาเจียนก็ให้ยาแก้อาเจียน) เน้นทำให้สภาพร่างกายน้องแมวป่วยได้รับสารอาหารและสารน้ำได้มากพอ (ให้น้ำเกลือและสารอาหารเข้าทางหลอดเลือดดำ ถ้าอาการไม่หนักมากอาจให้น้ำเกลือเข้าทางใต้ผิวหนัง) เพื่อที่จะให้ร่างกายแข็งแรงพอที่จะต่อต้านเชื้อไวรัสได้ และควบคุมการติดเชื้อแทรกซ้อนต่างๆ (ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมการติดเชื้อแทรกซ้อน)

นอกจากนี้ในปัจจุบันมีการให้ยาในกลุ่ม Interferon แบบฉีดในขนาดสูงเพื่อต่อต้านเชื้อไวรัสร่วมกับการรักษาตามอาการ ซึ่งพบว่าถ้าฉีด Interferon ในแมวที่แสดงอาการป่วยไปแล้ว พบว่าเพิ่มอัตรารอดได้ประมาณ 10-20% เมื่อเทียบกับการรักษาตามอาการแบบเดิมเพียงอย่างเดียว และพบว่าถ้าเริ่มฉีด Interferon ในน้องแมวที่ได้รับเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการ พบว่าเพิ่มอัตรารอดได้ค่อนข้างสูง (ประมาณ 80-90%) ข้อเสียของ Interferon แบบฉีดก็คือ ราคาค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงค่ะ

การจัดการทั่วไปที่ควรทำเมื่อพบว่าน้องแมวป่วยด้วยโรคไข้หัดแมว

นอกจากการรักษาทางยาแล้ว การทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อที่ตกค้างปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมและข้าวของเครื่องใช้ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเชื้อไวรัสไข้หัดแมวนี้ สามารถคงทนอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายเดือนหรืออาจเป็นปีก็ได้ และเชื้อนี้มีความทนทานต่อยาฆ่าเชื้อทั่วๆไปที่นิยมใช้ทำความสะอาดตามบ้านเรือน เช่น เดทตอล น้ำยาทำความสะอาดพื้นที่มีขายทั่วไป เป็นต้น น้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้ผลในการฆ่าไวรัสชนิดนี้ที่หาได้ง่ายที่สุด คือ น้ำยาซักผ้าขาวที่มีส่วนผสมของไฮโปคลอไรท์ โดยผสมน้ำยาซักผ้าขาว 1 ส่วน ต่อน้ำเปล่า 16-32 ส่วน เช็ดทำความสะอาดจุดต่างๆในบ้านทิ้งไว้อย่างน้อยประมาณ 10-30 นาที แล้วจึงเช็ดออกด้วยน้ำเปล่าค่ะ

การป้องกันโรคนี้ทำได้อย่างไร

การป้องกันโรคนี้ที่ทำได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก คือ การทำวัคซีนป้องกันโรคนี้ให้น้องแมวทุกตัวที่เลี้ยง ซึ่งวัคซีนป้องกันโรคนี้สามารถทำได้ตั้งแต่น้องแมวอายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป (โดยมากมักเริ่มทำที่อายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป) ทำการฉีดซ้ำทุก 2-3 สัปดาห์ จนกว่าน้องแมวจะอายุครบ 16 สัปดาห์ขึ้นไป และทำการกระตุ้นวัคซีนทุก 1-3 ปี (แล้วแต่ความรุนแรงในการระบาดของโรคในพื้นที่นั้นๆ) นอกจากนี้เจ้าของไม่ควรสัมผัสแมวป่วยนอกบ้าน ถ้าสัมผัสมาก็ควรล้างมือให้สะอาดก่อนจะมาจับแมวของตัวเอง ไม่ควรปล่อยน้องแมวออกนอกบ้าน เพื่อลดการติดเชื้อจากแมวนอกบ้านซึ่งอาจเป็นพาหะของโรคได้ ถ้าจะนำแมวตัวใหม่เข้าบ้านก็ควรแยกเลี้ยงอย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อสังเกตอาการว่าไม่มีโรคไข้หัดแมวติดมาด้วย

Source : catinlove.com

เพื่อน ๆ อ่านเรื่องโรคหัดแมวไปแล้วใช่ไม๊คะ...

อยากบอกว่าเราเจอเรื่องนี้มาแล้วค่ะ จะเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังนะคะ

เรามีน้องบู่หวาเหลืออยู่ตัวนึงหลังจากที่น้องหยู่หยีตายไป

ก็เห็นว่าน้องบู่หวาเหงา อยากได้แมวมาเป็นเพื่อนเค๊า

วันนึงได้น้องโบโบ้มา คือ สก็อตติสโฟล์ อายุ 2 เดือน 2 สัปดาห์

สีเทาน่ารักดี แต่ว่าออก ๆ เหมือนกับหยู่หยีตรงที่มีโรคส่วนตัวสูง

ไม่ค่อยเล่น ทั้ง ๆ ที่เป็นเด็ก เราก็ไม่ทันได้คิดอะไร เดินไปไหนก็เดินตาม

ร้องไม่ค่อยมีเสีย แล้ววันทั้งวันก็นอน บู่หวาก็ยังไม่คุ้น ขู่กันทุกครั้งที่เจอกัน

ได้น้องโบโบ้มาวันอาทิตย์ นะคะ แล้วก็เป็นแบบนี้ตลอด ไม่ค่อยจะเล่นด้วยไม่ซนเลยยยยยย

คืนวันพุธ ฝนตก ฟ้าร้อง ขอบอกว่า ดังมาก ๆ เลยค่ะ เราเองยังกลัวเลย

ก็ไปดูน้อง 2 ตัวกันหน่อย (เค๊าก็เริ่มดี ๆ กันบ้างแล้วค่ะ) ก็เห็นน้องบู่หวานอนในกล่อง

แล้วซักพักน้องโบโบ้ก็เดินมาหา ก็บอกว่าบู่หวาดูแลน้องด้วยนะ ไปนอนแล้ว

เราเห็นว่า o.k. เราก็ไปนอน ไม่มีอะไร จนตื่นเช้ามา จะไปอาบน้ำ ก็ได้เห็นว่า

น้องโบโบ้นอนนิ่งอยู่ข้างกล่องที่นอน เรารู้เลยว่าน้องต้องไม่ไหว เป็นอะไร

รีบอาบน้ำจะพาไปหาหมอ พอกำลังจะไปน้องโบโบ้ก็ร้องขึ้นมา แล้วก็ฉี่ไหล สิ้นใจ

ในอ้อมกอดของเรา รู้ไม๊คะว่าเสียใจนะคะ ที่ช่วยน้องไม่ได้ เลยพาไปฝากเผาที่ ร.พ.จุฬาค่ะ

หลังจากนั้น...วันเดียวกันแหล่ะคะได้น้องแมวสีขาวมาใหม่ เป็นเปอร์เซีย น่ารักมาก ๆ

ขี้อ้อน ขี้เล่น ซนสุด ๆ เราตั้งชื่อให้ว่าเจ้าหญิง แฮริ กะว่าอีกซักสัปดาห์จะพาไปฉีดวัคซีน

แต่ก็พาไปให้หมอตรวจสุขภาพแล้วก็ให้ยาถ่ายพยาธิก่อนเลยค่ะ

กลับบ้านมา เล่นซนไม่หยุดเลย ซนมาก ๆ จริง ๆ หน้าตาน่ารักมาก จนทำให้เราลืมเรื่องเศร้าไปได้

วันที่สอง ก็ยังซน เวลานอนก็นอนในกะบะพลาสติกใส่เอกสารของเรา เห็นว่าเปิดแอร์กลัวหนาว

เลยเอาแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดมาปิดไว้ เพราะว่าด้านข้างจะมีรูทุกทิศ พอเค๊าตื่นก็จะร้องเรียกค่ะ

เวลาเช็ดตัวก็นิ่งให้เช็ดอย่างดี หวีก็ไม่ดิ้น ปิดตาพริ้มเลย ไม่ดื้อค่ะ

ก็ไม่เห็นมีอะไรปกติ แต่กินน้อย มัวแต่เล่นค่ะ ก่อนที่จะขึ้นไปนอนนั้น เราเห็นว่าน้องเค๊าถ่ายเหลว

ก็ไม่ได้คิดอะไร กะว่าพรุ่งนี้ถ้ายังไม่ดีขึ้นจะพาไปหาหมอ วันเสาร์บ่าย เริ่มท้องเสียเป็นของเหลว

เลยรีบพาไปหาหมอที่จุฬา แล้วก็ดีขึ้นค่ะ กลับมาบ้านให้อาหารแต่ก็ยังไม่ทานอะไร

ก็เล่นปิงปองกัน คิดว่าเค๊าหายแล้วค่ะ ป้อนยาให้อีก แล้วเค๊าก็ไปนอน วันอาทิตย์เค๊านอนทั้งวัน

เราก็คิดว่าเค๊าคงเพลีย ๆ แล้วก็ไม่ทานอะไรเลย เราก็ให้อาหารแต่น้องไม่กิน ก็ไม่รู้จะทำไง

พอบ่าย ๆ เริ่มอาเจียน เราก็รีบพาไปหาหมออีกครั้ง แล้วขอให้น้ำเกลือด้วย

เรากอดเค๊านอนให้น้ำเกลือเหมือนเลี้ยงลูก เลี้ยงเด็กเลย สงสารเค๊ามากค่ะ

หมอให้น้ำเกลือพร้อมฉีดยา เสร็จแล้วก็นั่งรถกลับ ระหว่างกลับบ้านน้องแฮริก็อาเจียน

น่าสงสารมาก เราก็ไม่รู้ว่าเมารถหรือว่าไม่หาย คงยังไม่ดีขึ้นกลับบ้านไปพักผ่อนดีกว่า

เห็นน้องก็น่าสงสารค่ะ เรานอนเฝ้าน้องแฮริทั้งคืน ก็เห็นว่าอาเจียนเป็นระยะ

เช้าวันจันทร์เรารีบไป ร.พ.จุฬาอีกครั้งเพื่อให้หมอช่วย หมอแจ้งว่าน้องคงเป็นหัด

เพราะดูจากอาการแล้ว จึงฉีดยาให้แล้วให้น้ำเกลือ ด้วยว่าเราก็ไม่เคยเจอแบบนี้

เพราะเลี้ยงแมวมาก็แข็งแรงกัน มาเจอน้องสองตัวนี่แหล่ะคะ งง ไปเลย

ระหว่างที่ให้น้ำเกลือน้องแฮริก็อาเจียนมากขึ้น หมอบอกว่าเดี๋ยวทำเรื่องส่งตัวไปที่

โรงพยาบาลที่มีแอดมิด หมอดูแลตลอด มีคนดูแล เรารู้จักโรงพยาบาลเจริญสุข ที่เอกมัย

แล้วหมอก็พาไปหน้าห้องฉุกเฉิน ฝากหมอคนอื่นดูอีกทีในระหว่างให้น้ำเกลือ

ให้ไปซักพัก ก็ไม่เห็นมีใครมาสนใจอะไรเลย ก็เลยแจ้งหมอว่าจะไปโรงพยาบาลเจริญสุขแล้ว

ก็พาน้องแฮริไป ระหว่างทางน้องก็ร้องเป็นระยะ น่าสงสารมาก เราอุ้มน้องตลอดเวลา

น้องอยู่ในอ้อมกอดเรา น้องแห้งลงไปเยอะ เรากลัวมากไม่อยากเห็นเค๊าเป็นอะไรไป

ยิ่งอยู่ในอ้อมกอดของเราด้วย พอถึงที่โรงพยาบาล คุณหมอบอกว่าน้องน้ำตาลต่ำ ให้กลูโคส

แล้วก็ไปให้น้ำเกลือดูแลน้องต่อ เรารู้ตัวว่าความรู้สึกเราแย่มาก อยากร้องไห้มาก ๆ รับไม่ได้

รับไม่ได้จริง ๆ กลับมาถึงบ้านก็ไม่สบายใจ แฮริมาแค่ไม่กี่วันแต่เราก็เล่นกับเค๊า แฮริน่ารักมาก

อ้อน ผูกพันธ์จนร้องกันทั้งบ้าน ด้วยความกลัว น้องคงจะรับไม่ไหว แต่ตอนนี้อยู่ในมือหมอ

คุณหมอต้องช่วยเต็มที่อยู่แล้วค่ะ อยู่ที่น้องจะไหวไม๊ ไมไหวกันทั้งบ้านต้องปิดร้านนอนซม

ตอนค่ำ ร.พ. โทร.มาว่าน้องอาการดีขึ้น แต่เราก็ไม่รู้ว่าดีขึ้นคือ ดีแค่ไหน ดีขึ้นกว่าที่เอาไปให้

แต่ก็ยังไม่ดี หรือว่าดีขึ้นแล้ว ถ้ามีอะไรจะโทร.แจ้ง จนสายหน่อยมีโทร.มาบอกว่าแฮริช็อค

โทร.มาอีกแจ้งว่าน้องไม่หายใจแล้ว เสียใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ เราไม่รู้ว่าเราทำอะไรไม่ถูก

หรือว่าหมอที่ จุฬา ไม่เก่ง เพราะเป็นเด็ก ๆ กัน ได้แต่ทำตามทฤษฎี แล้วบอกว่าเป็นหัด

ส่วนใหญ่จะเสียชีวิต แฮริก็ไม่ไหว แต่ไม่เห็นจะช่วยอะไรเลยนอกจากฉีดยาให้น้ำเกลือ

แล้วปล่อยให้มันเป็นไป ผลักไปที่คนอื่น ชีวิตนึงนะคะ ช่วยหรือทำได้แค่นี้หรือคะ

คือ ไม่ได้ว่าหมอทุกคนนะคะ ไม่ได้ว่าหมอคนนั้นด้วย แต่ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไม

น้องแฮริก็ตายไปแล้ว เหลือไว้แค่ความทรงจำ เราเลยหลงรักแมวพันธ์นี้ไปเลย "เปอร์เซีย"

แล้วเราก็พาน้องบู่หวาไปฉีดยาด้วย เพราะคุณหมอบอกว่าต้องกันการติดเชื้อ เพราะน้องเค๊า

อยู่ด้วยกัน แล้วเราก็ฝากทาง ร.พ.เจริญสุขให้เผาน้องแฮริด้วยค่ะ ไปดีนะคะน้องแฮริ

พวกเรากลับบ้านมาก็ทิ้งของทุกอย่าง ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อด้วยการใช้ ไฮเตอร์ ผสมน้ำ

ทั้งเช็ด ล้าง ถู ทุกวันนี้ก็ทำแบบนั้น เพื่อล้างฆ่าเชื้อให้หมดไป เพราะเชื้อจะฝังตัวอยู่ได้ถึง 1-2 ปี

ร้ายมาก ๆ ค่ะ เราคงเลี้ยงเฉพาะบู่หวาไปอีกนาน เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์มันซ้ำรอยอีก

และต้องดูน้องบู่หวาไปอีกระยะ ว่าถ้าไม่ปกติต้องรีบหาหมอ แต่คิดว่าน้องบู่หวาคงไม่เป็นอะไร

เพราะน้องเค๊าแข็งแรงมาก จริง ๆ แต่ก็ต้องระวังค่ะ

"คิดถึงแฮริมาก ๆ ค่ะ"

Create Date : 10 ตุลาคม 2555
Last Update : 10 ตุลาคม 2555 0:06:08 น.		11 comments
Counter : 17258 Pageviews.
Share Tweet