เนื่องจากเราต้องไปมหาลัยโดยลงสถานนีเอกมัยทุกวัน
แม้แต่ขากลับก็ต้องผ่านเอกมัย เลยแวะ Gateway ทุกครั้ง เอิ๊กๆ
ตอนที่เปิดแรกๆ เราตื่นตาตื่นใจกะร้านอาหารญี่ปุ่นมากมาย เนื่องจาก
ร้านอาหารเยอะมว๊ากก ละลานตาเต็มไปหมด แถมยังมี ป้ายบอก สาขาแรกในประเทศไทยด้วย
การเดินสำรวจทุกวัน ทำให้เรา ตัดสินใจว่าจะค่อยๆ ชิมไปทีละร้าน นานๆครั้ง
เพราะถ้า ชิมหลายๆร้าน บ่อยๆ อาจทำให้เรา อ้วนตายได้ ( แค่นี้ก็อ้วนมากพอแล้ว) เอิ๊กๆ
แต่ แต่ อุปสรรคมักจะชอบแกล้งคนที่กำลังคิดจะไดเอ็ท...ฮือๆ
ขณะที่เพื่อนเรา มันกำลังจะขับรถผ่าน เอกมัย ไปส่งเราที่ BTS
(ติดรถมันกลับทุกวัน ประหยัดดี อิอิ)
จู่ๆ มันก็พูดขึ้นว่า "เห้ยย gateway มันมี ร้านTomato Noodleป่ะว้า"
เรา: เอ่อๆ น่าจะมีมั้ง เคยเห็นอยู่
เพื่อนเงียบไปแปปนึง( เนื่องจากรถติด) แล้วมันก็พูดว่า ไปกินข้าวเหอะ หิว
เรายังไม่ทันได้คิดอะไรมากมาย....พอมารู้ตัวอีกที
ก็เดินมาหยุด เลือกเมนูอยู่หน้าร้าน Tomato Noodle แล้ว
ระหว่างกำลังเลือกดูเมนูหน้าร้าน (เราไม่ค่อยชอบราเมงอ่ะ) เลยบอกเพื่อน
ถ้ามันไม่อร่อยนะ แกเสร็จแน่ แฮ่! เพราะมันบอก ว่า เพื่อน(อีกคน) แนะนำมา
บอกว่า อร่อยนะเว้ย แล้วมันก็จิ้มๆ พร้อมบอก อาหารเพื่อสุขภาพด้วยนะ ไม่อ้วน
(ไม่อ้วนบ้านเอ็งเด่ะ ใส่ชีส เส้นทำจากแป้ง จัดเต็มอ่ะ) เราก็บ่นๆ
เพราะอาทิตย์ก่อน เราจัดหนักทั้งเค้ก อาหารปิ้งย่า่ง หนม นม เนย
เพื่อนก็บอก น่าๆ ถ้าไม่อร่อยเดี๋ยวเลี้ยงเอง เราเลยบอก งั้นก็ได้ (ฮ่าๆ)
ใจง่ายป่ะเนี้ยย โดนเลี้ยงที เดินเข้าร้านโดนไม่มีข้อโต้เถียงใดๆอีก
มาถึงร้านเพื่อนก็เลือกๆ ราเมง เราได้ เมนูแนะนำ ว่า ขายดี มาชามหนึ่ง
มีให้เลือกขนาด Size S M L ถ้าจำไม่ผิด ราคา S น่าจะ 160
เพราะเราสั่ง Size S มา เอิ๊กๆ
ทะแด๊นนน บะหมี่มะเขือเทศดีลักซ์
ประกอบไปด้วย ข้าวโพด หมู ไข่ สาร่าย และเครื่องอีกเยอะแยะ
น้ำซุปออกรสชาติ มันๆ ข้นๆ และจะให้ได้รสชาติแปลกแหวกแนว
ใส่ผง ชีส ที่อยู่บนโต๊ะ พร้อมซดน้ำซุปไปด้วยน้าา
สำหรับเรา ก็โอเค ผ่านอยู่ แต่ไม่ค่อยชอบอ่ะ เอิ๊กๆ
ส่วนของ คุณเพื่อน เป็น บะหมี่เบนิโซยุ
เราแอบชิมไปหนึ่งนิด รสชาติก็จืดๆ มันๆ แต่...
ขอบอกว่าไอ้ที่ผัดใส่ซอสเผ็ดๆถ้วยเ็ล็กๆที่ติดมาด้วย
ตอนแรกเราเห็นนึกว่า รสชาติประมาณ น้ำพริกเผา (สีเหมือนมาก)
เราเลยตักมาชิมช้อนหนึ่ง ปรากฏว่า เผ็ดมากกก!
มันมาได้รสเผ็ดตอนหลังอ่ะ แง้งงงง เจ็บแสบมากกอ่ะ น้ำตาไหลเลย
หลังจากที่ทานราเมงหมด แต่เพื่อนเรามันยังไม่จบ มันบอกไม่อิ่มว่ะ
(เห้ยยยย อิจฉาว้อยย กินเยอะแล้วไม่อ้วนเนี้ย) เลยสั่ง ข้าวหน้าไข่เจียวทองคำมา
ไอย๊ะ! ข้าวหน้าไข่เจียวทองคำซะด้วย
เป็นเมนูโฆษณาที่น่าสนใจอ่ะ เพื่อนสั่งมาปุ๊บ
หน้าตาออกมาประมาณนี้...ส่วนรสชาติเราตักชิมไปคำหนึ่ง
ก็อร่อยดีอ่ะ เหมือนข้าวหน้าไข่ มีซุปหนืดๆราด รสชาติใช้ได้
(เราว่าอร่อยกว่า ราเมงอ่ะ เอิ๊กๆ)
ทานเสร็จจ่ายตังค์ สรุปคือเราบอกมันไม่อร่อยอ่ะ เพื่อนเลยเลี้ยง
(ฮ่าๆๆ ไม่ได้งกกินนะ แต่เราไม่ชอบราเมงอยู่แล้ว ถึงกินสุดยอดราเมงเข้าไป)
เราก็คงบอกว่า เฉยๆ อิอิ สุดท้ายเลยได้กินฟรี
แต่ แต่ แต่ มันคือจุดเริ่มต้นของการกินแหลกก
(ฉันเกียดแก เำพราะตั้งแต่วันนั้น น้ำหนัก ฉันเพิ่มขึ้นและไม่ลดอีกเลย ฮือๆ ช้ำใจ)
เพื่อนเรา มันบอกว่า ให้เดินย่อยไปดูร้านอาหารใหม่ๆกัน
เราก็ตามมันไป แล้วมันก็ไปหยุดอยู่ที่ร้าน
Omuto Tomato Rice omelet
แล้วหันมาพูดว่า มันน่าอร่อยป่ะ? เราหันไปมองหน้ามันแวบหนึ่ง
ก็น่ากินดี (อ๊ากกก ตูเป็นบ้าอะไร โดนอะไรเข้าสิงไม่รู้)
สุดท้ายมารู้ตัวอีกทีก็คือสั่งข้าวเรียบร้อยแล้ว แง้งงง
เราสั่งข้าวไข่เมนูนี้มา
มีผักและรสชาติ อร่อยมว๊ากกก!! ขอบอกว่า ข้าวกะไข่และรสชาติน้ำซอส
และคลุกกับกิมจิ อร่อยมากอ่ะ ทั้งๆที่เราจุกมาก จากราเมง
แต่เราก็ซัดไปคนเดียวเกือบหมด ให้ตายสิ! แบบ มันหยุดไม่อยู่จริงๆ
ส่วนของเพื่อนเรา
สั่งแบบมีหมูทอดมา มันตัดแบ่งให้เราชิม
อร่อยอ่ะ เนื้อหมูทอดชิ้นใหญ่มาก เราชอบมากอ่ะ ร้านนี้
ค่าเสียหาย หมดไป เกือบ ห้าร้อยกว่าบาท รอบนี้เราจ่ายของเราเอง
เพราะว่า เราว่า มันอร่อย อิอิ ถ้าอร่อย เรายอมจ่ายเอง ระหว่างรอเงินทอน
พี่พนักงานก็เอา บัตรสมาชิกมาให้ทำฟรี
สรุปคือเราพุงแตกกลับบ้านค่า อึดอัดมากก กินเยอะมากกวันนั้นอ่ะ
เห้อออ อิจฉาเพื่อนมั่กมาก มันกินเหมือนเรา แต่เยอะกว่า ดันไม่อ้วน
(หรือเพราะมันเป็นผู้ชายหว่า?) เกิดเป็นผู้หญิงนี้ ลำบากนะ ต้องมาห่วงเรื่องน้ำหนัก
แถมต้องออกกำลังกาย เพื่อคุมน้ำหนัก เพื่อนเรากินมื้อนั่นเข้าไป กลับบ้านมันยังกินมื้อดึกต่อ
ส่วนเราหรอ กินมื้อนั้นเข้าไป อดอาหารไป สามวัน น้ำหนักก็ยังไม่ลดลงเลย
แง้งงงง ช้ำใจๆ ฮือๆๆ แต่เอาน่า เกิดมาทั้งที ก็ต้องกินให้คุ้มอ่ะ เอิ๊กๆๆ ><