Bloggang.com : pinestand : ไปเที่ยวทุ่งแสลงหลวงกันเถอะ 3

ไปเที่ยวทุ่งแสลงหลวงกันเถอะ 3

สวัสดีครับ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้มา update ต่อ (หายไปตั้ง 10 วัน)

บังเอิญว่า เนตที่ใช้มันมีปัญหาครับ เอาหละครับเอาเป็นว่าต่อกันเลยดีกว่า

ต่อจากครั้งที่แล้วนะครับ

จากที่บอกไว้ตอนก่อนนะครับ ผมวางแผนจะออกไปถ่ายรูปแต่เช้า (อุตส่าได้จักรยานมา แต่ไม่ได้ดูอะไรเล๊ย รีบจัด)

เช้านี้ผมก็เลยตื่นแต่เช้าเลยครับ ออกไปตั้งแต่ 6 โมง กะว่าถ้ามีหมอกบางๆ คลอเคลีย กับทุ่งหญ้าเขียวๆนะ ผมก็จะได้เก็บรูปพวกนี้ มาด้วย

แต่เรื่องที่มีปัญหาก็คือ ผมไม่ได้เตรียมน้ำหรือว่าอะไรไปด้วยเลยครับ กะว่าไปไม่ไกลเท่าไหร่หรอก อากาศไม่ร้อนคงไม่หิวน้ำมาก ไปนิดเดียวก็คงถึงแล้ว(ประมาทมากๆ) มีแค่ขาตั้งกล้อง แล้วก็กล้องแค่นั้น

เอาหละครับ หมอกบางๆตอนเช้า

ไม่อยากจะบอกว่าขาไปนี่สดชื่นๆสุดๆ (หารู้ไม่ว่าจะเจอะอะไรอีก อิอิอิอิ)

หน้าบานเชียว อิอิอิ

สองข้างทางก็เป็นทุ่งหญ้าเขียวสุดลูกหูลูกตาครับ

อิอิอิอิ หน้าตาสดชื่นจริงๆครับ ป้าย 3 แยกครับ ตรงไปก็ทุ่งโนนสน ส่วนอีกทางไปทุ่งนางพญา ที่ ผมจะไปหละครับ

ช่วงแรกที่ขี่จักรยานนี่ ล้อจักรยานมีดินมาติดเยอะมากครับ ด้วยความที่ไม่เคยขึ่จักรยานเสือภูเขามาก่อน ผมก็ลุยอย่างเดียวเลยครับ ผลก็คือ ดินมาติดที่ล้อเยอะมากๆ

เยอะจนขี่ไม่ไหว ต้องจอดขูดเอาดินที่ติดล้อออก (แรกๆก็ทำอย่างนี้ตลอดเลยครับ) ขึ่ไปซักพักก็มองย้อนกลับไปทางที่ทำการ

เป็นไงครับสวยมั้ย หมอกบางๆกับทุ่งหญ้าเขียวๆ(จริงๆถ้าเป็นตอนเย็นคงจะเหลืองสวยกว่านี้ครับ)

ภูเขาที่ข้างหลังก็เขาหญ้าหละครับ(รูปที่เป็นเครื่องหมายการค้าของที่นี่เลยแหละ)

ส่วนนี่ก็ภาพถ่ายดาวเทียมหน่วยหนองแม่นา แล้วก็พื้นที่รอบๆ หน่วย รวมถึง เส้นทางที่จะไป ทุ่งนางพญา ด้วยครับ(ก็เส้นขาวๆในรูปนั่นแหละ)

ส่วนนี่ก็เส้นทางตั้งแต่ ทางหลวงหมายเลข 21 ไปจนถึงหน่วยหนองแม่นาครับ

เอาหละครับ เดินทางกันต่อ แต่ว่าก่อนเดินทาง เอารถไปล้างเอาดินออกจากล้อซะหน่อยดีกว่า

นี่ก็สภาพพาหนะ ที่พาผมเข้าทุ่งครับ (เข้าไปแบบทุลักทุเลเลยแหละ)

สังเกตนะครับว่า จานหน้ามีจานเดียวไม่มีทด (ปั่นกันปวดก้นปวดขาเลยแหละ)

สภาพเส้นทางก็เป็นทางดินลูกลังค่อนข้างลื่นครับ ตรงไหนฉ่ำๆหน่อยขี่จักรยานเข้าไปก็ติดแหมะ(แรกๆก็ไม่สนใจขี่ลุ่ยไปเลยครับ ติดก็จอดขูดเอาดินออก แต่ว่าพอขี่ไปซักพัก คิดว่าน่าจะฉลาดขึ้นนะครับ พอถึงที่มันฉ่ำๆหน่อยก็จะจอดจูง อิอิอิอิอิอิ)

ช่วงแรกที่ขี่จักรยานเข้าไปนี่อย่างเหนื่อยเลยครับ ผมหนักไปทางขี่ซัก 1 ส่วน จูงซัก 2 ส่วน(ไม่คิดว่าจะต้องทำอย่างงี้เล๊ยแต่ไม่ไหวครับ ปั่นไม่ขึ้นจริงๆ จักรยานก็ไม่มีจานหน้าซะงั้น)

สภาพเส้นทางก็อย่างที่เห็นครับ ดีอย่างว่าแดดยังไม่แรง

อ้อ ลืมไป ตรงทางไปทุ่งนางพญาถ้าคุณตื่นกันแต่เช้าหน่อย ถ้าเข้ามาทันจะได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นโดยมีเขาหญ้าเป็นฉากหลัง (เหมือนในรูปที่ผมถ่ายมานั่นหละครับ ผมถ่ายมาจากตรงจุดชมวิวที่มีชื่อว่า ดุสิตา : ถ้าจำไม่ผิด อิอิอิอิอิ)

เลยจากจุดชมวิวขึ้นไปอีกหน่อย(เน้นนะครับว่าขึ้นเพราะผมจูงรถขึ้นไปเพราะถีบขึ้นไปไม่ไหว )

อิอิ จูงขึ้นไปถึงป้ายนี้ก็อีก แค่ 8 กิโลเอง

ปล. อากาศร้อนมากๆจนผมต้องถอดเสื้อครับ ไม่ไหวจริงๆ (ขอโทษทีโป๊หน่อย อิอิอิอิ)

เอาหละครับ เลยจุดที่ว่า ทางก็ค่อนข้างดีขึ้นแล้วครับ แล้วก็ไม่ค่อยชันด้วย ช่วงนี้ผมสามารถปั่นจักรยานได้แล้วครับ

ป่าหน้าฝนมันก็เขียวสบายตาอย่างนี้แหละครับ

ขี่ไปเรื่อยๆ ผ่านป่าเขียวๆ ผ่านป่าสนไปเรื่อยๆครับ

ต้นสนเริ่มมีให้เห็นเยอะขึ้นครับ แต่ก็ยังมีต้นไม้ชนิดอื่นๆอีกครับ

บางช่วงทางก็พาวิ่งเข้าไปในป่าบ้างครับ

วิ่งผ่านออกจากป่ามาก็เป็นทุ่งหญ้าปนกับไม้ครับ

แล้วก็วิ่งกลับเข้าไปในดงสนอีกครับ (stand of pine; pinestand = ชื่อผมเองครับ)

ช่วงก่อนจะถึงทุ่งนางพญาผมจะชอบเป็นพิเศษครับ สนขึ้นเป็นดง ตรงแน๋วขึ้นไปบนฟ้า เสียดายถ้าผมมาเช้ากว่านี้แล้วก็มีหมอกคลอเคลียๆ อยู่นะบรรยากาศจะดีมากเลย

ออกจากแนวสนตรงนี้ก็ถึงขอบทุ่งนางพญาแล้วครับ จากจุดนี้ไปก็อีก 1.5 กิโลเมตรครับ ดงสนที่เห็นในภาพก็คือที่ผมขี่จักรยานออกมาครับ

นี่หละครับชายทุ่งนางพญาครับ เขียวสดชื่นดีมากๆ

ผมเองไม่ได้เข้าไปต่อแล้วครับ หมดแรง หิวน้ำมากๆ แล้วก็หมดแรง อารมก็ประมาณเนี่ยหละครับ

ผมนั่งได้ซักพักก็เอาหาที่นอนหละครับ เอาแรงซักหน่อยก่อนที่จะขึ่จักรยานกลับอีก 8 กิโลเมตร ????????

สรุปแล้วใช้เวลาเดินทางตั้งแต่เช้าที่ออกมาจนถึงจุดนี้ก็ 3 ชั่วโมงพอดีครับ(ทั้งจอดเอาดินออกจากล้อ, จอดถ่ายรูป,จูงจักรยาน,พักเหนื่อย)

แฮะ ๆ เสียดาย ผมไม่มี GPS เช็คตำแหน่ง ไม่งั้นคงจะลงตำแหน่งให้แล้วหละครับ

เอาหละครับสรุปแล้วผมก็ไปไม่ถึงทุ่งนางพญาครับ ขาดอีก 1.5 กิโลเมตร แต่ยังไงผมก็ถือว่าคุ้มกับการมาแล้วแหละ(จริงๆเหนื่อยมากกว่า อิอิอิอิ)

พอหายเหนื่อยก็ต้องรีบเดินทางกลับแล้วครับ เพราะว่า ฝนตั้งเค้ามาแล้วกลัวจะเปียกระหว่างทางแล้วก็หิวข้าว หิวน้ำมากๆ ขากลับใช้เวลาเท่าไหร่ลองทายดูครับ

อิอิอิอิอิ แค่ ชั่วโมงครึ่งเองครับ (นี่รวมทั้งจูงจักรยานผ่านแอ่งน้ำ/แอ่งเลนด้วยนะครับ)

เอาครับมีแถมอีก 2 รูปก่อนจะกลับถึงที่พักครับ ก็ตรง จุดชมวิวดุสิตาอีกนั่นแหละ ครับ แต่คราวเนี่ยมีฝนปรอยๆมาแล้วครับ

ผมก็กลับมาถึงที่เต้นท์ตอน 11 โมง นิดๆครับ

ลองดูครับ เที่ยวป่าหน้าฝน มันดียังไง(ไม่ดีแน่ๆก็เรื่องเปียกนี่แหละ แต่เรื่องแย่งกิน แย่งเที่ยว แย่งขี้ ซึ่งผมเจอะประจำเวลาไปเที่ยวหน้าเทศกาล ทริปนี้ ไม่มีครับ)

ลานการเต็นท์โล่ง กลางคืนเงียบสนิทจนผมได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง

อิอิ ผมอาบน้ำ แล้วก็เก็บข้าวของต่างๆครับ เก็บเสร็จก็ไปที่ ที่การครับจ่ายค่าเช่าเตนท์แล้วก็ค่าพักค้าง แล้วก็เดินทางกลับครับ

สรุปแล้ว สบายใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เที่ยวป่าหน้าฝนก็ดีอย่างนี้หละครับ

ปล.ใครมีอะไรสงสัยถามได้ครับ ตอบได้ก็จะตอบครับผม

อ้อ แถมหน่อย แผนที่ท่องเที่ยวทุ่งแสลงหลวงครับ

อันนี้เป็นตัวทุ่ง(ผมเดาเอานะครับ)

เอาหละครับ จบการเที่ยวทุ่งแสลงหลวงแค่นี้แหละครับ

แต่เรื่องเที่ยวผมยังไม่จบนะครับ คืนนี้ที่ผมกำลังเขียนblog นี่กำลังคิดอยู่ครับว่า เสาร์-อาทิตย์ นี้จะไปเที่ยวมั้ยหรือจะไปไหนดี อิอิอิอิอิ

สวัสดีครับ........................................................

Create Date : 15 สิงหาคม 2551

Last Update : 15 สิงหาคม 2551 23:35:37 น.

3 comments

Counter : 4014 Pageviews.

เที่ยวคนเดียวหรอครับ ถ้าไปอีกอย่าลืมชวนผมได้ด้วยนะครับ อยากเที่ยวแบบนี้มั้งแต่ไม่ค่อยมีเพื่อนแบบลุย ๆ 5555

โดย: ตู่ (sutiwattu

) วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:11:01:46 น.

อยากทำไร ทำ
จะถ่ายรูปนานๆ ถ่ายไปเลย
หิว ก็กิน
เบื่อๆ จะเปลี่ยนที่เที่ยว ก็ ไปเลย
นี่หละครับวิธีการเที่ยวของผม
อิอิอิอิ

โดย: pinestand (pinestand

) วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:14:02:25 น.

ชอบเที่ยวละไมไทยแลนด์เหมือนเราเลย....มีความสุขดีสำหรับการท่องเที่ยวนะคะ..แวะมาเที่ยวด้วย...ไม่เคยไปอะ...ดูแล้วอยากไปเนอะ

โดย: รุ่งฤดี

วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:13:31:11 น.