การตากแดดมากเกินไปเหมือนทำร้ายผิวหนังทางตรง ขอแนะนำว่าถ้าคุณเลี่ยงได้น่าจะเลี่ยง เพราะเวลาที่ผิวไหม้นั้นทรมานไม่น้อยเลย ยิ่งถ้าเกิดผิวแดง แสบ บางคนอักเสบด้วยยิ่งไปกันใหญ่ ที่สำคัญคือถ้าตากแดดมากๆ ทำให้ผิวขาดน้ำหล่อเลี้ยง เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็ว นอกจากจะคล้ำแล้วยังเกิดรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย ผสมด้วยตกกระ เป็นรอยด่างดำ หรือซ้ำร้ายกว่านั้นคือมีโอกาสเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง แม้ว่าคนไทยจะเป็นน้อยกว่าฝรั่งผิวขาว แต่ก็มิใช่ว่าจะปลอดภัย ปกป้องอย่างไรดีล่ะทีนี้
คุณไม่ควรอาบแดด และใส่หมวกปีกกว้าง ใส่แว่นกันแดด และใส่เสื้อผ้าแขนขายาวที่ช่วยปกป้องแสงแดด ในกรณีที่ต้องออกแดดควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 15 ขึ้นไป อย่าลืมว่าแสงอัลตร้าไวโอเลตสามารถเล็ดรอดทะลุผ่านชั้นบรรยากาศได้แม้วันเมฆมาก สามารถสะท้อนจากพื้นทราย พื้นน้ำ ระเบียง ดาดฟ้า กระจกอาคารสูงก็ได้ด้วย
ครีมกันแดดตัวใหม่ๆ ในท้องตลาดปัจจุบันจะมีสารกันแดดได้ทั้ง UVA และUVB ควรทาอย่างเต็มที่ และทาซ้ำทุก 1 ½ ชั่วโมง จึงจะได้ผลและขอให้ระลึกไว้เสมอว่า ครีมกันแดดเป็นแค่ครีมกรองแดด กันไม่ได้100 % จึงไม่ควรทาครีมกันแดดแล้วคิดว่าจะตากแดดได้เป็นเวลานานๆ คุณสามารถเลี่ยงผิวไหม้ และมะเร็งผิวหนังได้โดย
ใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB SPF 15 ขึ้นไป ทาผิวบริเวณถูกแดด ส่วนริมฝีปาก ก็อย่าลืมใช้ลิปที่ป้องกันแดดได้ด้วย ถึงวันนั้นจะมีเมฆฝนมืดครึ้ม ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ใช้ครีมกันแดดก่อนออกแดด ½ ชั่วโมง และทาซ้ำทุก 1 ½ ชั่วโมง ควรจะถี่กว่านี้ ถ้าแสงแดดจ้ามาก หรือเหงื่อออกมากๆ เลี่ยงบริเวณรอบดวงตา
กรณีที่เปียกน้ำ ไม่ว่าจากการว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมากๆ ควรใช้ครีมกันแดดที่กันน้ำได้ด้วย
ใส่หมวกปีกกว้าง และใส่แว่นกันแดด
พยายามหลบใต้ร่มเงาให้มากที่สุด ตามแต่โอกาสจะอำนวย
ใส่เสื้อผ้าสีขาวถักทอเนื้อละเอียด ผ้าเนื้อแน่นหนาขึ้นจะยิ่งปกป้องแสงแดดได้มากขึ้น ส่วนเสื้อผ้าเปียกน้ำที่ทาบติดกับผิวกายจะทำให้กันแดดได้น้อยลง
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องโดนแดดระหว่างเวลา 10.00-16.00 ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today