ชื่ออื่น : พิลา (หนองคาย) พิลาขาว มะก่องแก้ว (น่าน) มะเก๊าะ (ภาคเหนือ) หมากลิง (แม่ฮ่องสอน) เซียะลิ้ว เจียะลิ้ว (จีน)
ลักษณะ : ทับทิมเป็นไม้พุ่มแตกกิ่งก้าน โคนต้นมีกิ่งที่เปลี่ยนไปเป็นหนามยาว แข็ง ใบ เดี่ยว แผ่นใบแคบ ขอบใบเป็นรูปขอบขนาน ยอดอ่อนเป็นสีแดง ใบออกเป็นคู่ ๆ ตรงข้ามกัน หรือใบออกสลับกัน ดอก เดี่ยว กลีบเลี้ยงหนาสีแดง จะคงทนอยู่จนเป็นผล กลีบดอกสีแดง หรือสีเหลืองอ่อน ถ้ากลีบดอกสีแดง ผลเมื่อแก่จัดจะมีเปลือกแดงปนชมพู ปนน้ำตาลเหลือง ถ้ากลีบดอกสีเหลืองอ่อน ผลแก่จัดสีเหลืองปนน้ำตาล ผล กลมโต แล้วแต่พันธุ์ เปลือกนอกของผลหนาค่อนข้างเหนียว เปลือกด้านในสีเหลือง ภายในมีเมล็ดเป็นจำนวนมาก อัดกันแน่นเต็มเปลือก แต่ละเมล็ดมีเนื้อสีชมพู หรือสีแดงลักษณะใส มีรสหวาน หวานอมเปรี้ยว
สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้ : *
แผลเนื่องจากมีหนองเรื้อรังบนหัว ใช้ใบสดนำมาต้มกรองเอาน้ำใช้ล้าง หรือใช้ใบสดนำมาตำให้ละเอียด แล้วเอาไปพอกในบริเวณที่เป็นแผลถลอก เนื่องจากหกล้มได้
*
แก้หูชั้นในอักเสบ ใช้ดอกทับทิมแห้งประมาณ 3 - 6 กรัม นำมาต้มกรองเอาน้ำดื่ม
*
แผลหิด และกลากเกลื้อน ใช้เปลือกผลที่แห้งแล้วประมาณ 2.5 - 4.5 กรัม นำมาบดให้ละเอียด หรือนำมาต้มน้ำกิน
*
แก้โรคปวดจุกแน่น เนื่องจากโรคกระเพาะอาหาร บำรุงกระเพาะอาหาร ทำให้เจริญอาหาร และแก้ท้องร่วง ใช้เมล็ดที่แห้งแล้วประมาณ 6 - 9 กรัม นำมาบดให้ละเอียด หรือทำเป็นยาก้อนกิน
*
แก้ระดูขาว ตกเลือด ถ่ายพยาธิ หล่อลื่นลำไส้ แก้ท้องเสีย และโรคบิดเรื้อรัง ใช้เปลือกรากที่แห้งแล้ว ประมาณ 6 - 12 กรัม นำมาต้มน้ำกิน
*
แก้ท้องเดิน ใช้เปลือกผลแห้งประมาณ 1 ใน 4 ของผล ฝนกับน้ำฝนหรือ น้ำปูนใสข้นๆ รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะหรือต้มกับน้ำปูนใสแล้วดื่มน้ำที่ดื่มก็ได้
* แก้บิด โรคนี้จะมีอากาปวดเบ่งและมีมูกออกมาด้วย หรืออาจจะมีเลือดออกมาปนกับมูก ให้ใช้เปลือกผลแห้งของทับทิมครั้งละ 1 กำมือ (3-5 กรัม) ต้มกับน้ำดื่มดื่มวันละ 2 ครั้ง อาจใช้กานพลูหรืออบเชยแต่งกลิ่นให้น้ำดื่มก็ได้
*
ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน รับประทานทับทิมเป็นประจำช่วยได้ เพราะทับทิมเป็นผลไม้มีรสหวานหรือเปรี้ยวอมหวานมีวิตามิน ซี
*
รักษาน้ำกัดเท้า ใช้เปลือกทับทิมแห้ง ฝนกับน้ำหรือน้ำปูนใสจนข้น ทาทุกครั้งหลังล้างเท้าสะอาด ใช้เปลือกผลฝนกับน้ำสะอาดข้นๆ ใช้ทาบริเวณที่น้ำกัดเท้า ทาวันละ 4-5 ครั้งจนกว่าจะหาย
* แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ใช้เมล็ดทับทิมสด 1 ลูก ตำคั้นเอาแต่น้ำ ผสมน้ำผึ้ง ทานบ่อยๆ
*
แก้แผลพุพอง ใช้เปลือกทับทิมสด ที่เด็ดจากต้นใหม่ๆ ฝนกับน้ำหรือน้ำปูนใสจนข้นทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง
* ช่วยให้เลือดกำเดาแข็งตัว ใช้ดอกทับทิมที่แห้งแล้วประมาณ 3 - 6 กรัม นำมาใช้ต้มแล้วกรองเอาน้ำดื่ม และถ้าหากเลือดกำเดาไหลไม่หยุดให้ใช้ดอกทับทิมสดโขลก หรือหั่นฝอยแล้วอุดรูจมูก
* บาดแผลที่มีเลือดออก ใช้ดอกทับทิมแห้งสามารถนำมาบดให้ละเอียด แล้วใช้ทาหรือโรยบริเวณที่เป็น จะช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็วยิ่งขึ้น
*
คลื่นไส้อาเจียน ให้เอาเนื้อในของผลสุก 1 ลูก คั้นเอาแต่น้ำดื่ม ยานี้เหมาะกับคนท้อง ให้ดื่มตอนเช้า ครั้งละ 1 แก้ว ในขณะท้องว่าง
อ้างอิงจาก หนังสือผลไม้รักษาโรคได้ มุ่งสู่อัจฉริยะ GO GENIUS
//www.siamhealthy.net
//www.phuketjettour.com
//www.tungsong.com
ขอบคุณครับที่เอาข้อมูลดีๆมาฝาก
และขอเพิ่มเติมให้นะครับ
ผลการทดลอง โดยใช้สารจากทับทิมในหนูทดลอง ก่อนที่จะให้สารพิษคาร์บอนเตตราคลอไรด์ต่อตับ พบว่าหนูที่ได้รับสารจากทับทิมมีฤทธิ์ป้องกันการเป็นพิษต่อตับได้จริง และยังมีวิจัยอีกว่า ในน้ำสดหรือผ่านการหมัก ก็จะมีผลต่อเซลล์มะเร็งหน้าอกของคน เพราะว่ามีฤทธิ์ในการยับยั้งเซลล์มะเร็งได้