|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
คิดถึงคนอื่น เมื่อมีความทุกข์
บทความนี้จาก " บ้านใส่ใจ "
ความทุกข์นั้นบางทีมันเกิดจากการที่เราคาดหวังว่าทำดีแล้วต้องมีคนเข้าใจ พอทำดีแล้วคนอื่นเขาไม่เข้าใจก็ทุกข์ นี่แสดงว่าเราปล่อยให้ความดีมากัดเรา...
พระไพศาล วิสาโล
ในการทำงาน นอกจากเราจะต้องเจอความยากลำบากของเนื้องานแล้ว ปัญหาอีกอย่างก็คือปัญหาความสัมพันธ์กับผู้คนที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง ปัญหาข้อหลังนี้อาจจะยากกว่าปัญหาที่เป็นเนื้องาน ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่บั่นทอนจิตใจของเราก็คือการกระทบกระทั่งกับผู้คนที่เราเกี่ยวข้องด้วย
บางทีเราไม่ได้ไปกระทบกับเขา แต่เขามากระทบเราเอง เช่น ตำหนิต่อว่าเรา ไม่เข้าใจเรา หรือกลั่นแกล้งเรา เจอแบบนี้เข้าก็ยิ่งเครียดมากขึ้น
เจอเรื่องแบบนี้ก็ขอให้ตระหนักว่าคนภายนอกที่เข้ามากระทบเรา เราไม่สามารถไปแก้เขาได้ หรือควบคุมให้เขาเป็นไปตามใจเราได้ สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือรักษาใจของเราให้ดี ดูใจของเราไม่ให้ทุกข์
ความทุกข์นั้นบางทีมันเกิดจากการที่เราคาดหวังว่าทำดีแล้วต้องมีคนเข้าใจ พอทำดีแล้วคนอื่นเขาไม่เข้าใจก็ทุกข์ นี่แสดงว่าเราปล่อยให้ความดีมากัดเรา ทำความดีก็ดีแล้ว แต่อย่าเผลอให้ความดีมากัดเรา เราจะทุกข์และเศร้าหมอง ท้อแท้ง่าย
ทำอะไรก็ตามย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องเจอสิ่งกระทบมากมาย รวมทั้งคำต่อว่าจากคนที่ไม่เข้าใจเรา หรือคนที่สูญเสียผลประโยชน์ มันเป็นเรื่องของนานาจิตตัง อย่าไปคาดหวังคนอื่นจะเข้าใจเราหมด
เวลาทำความดีหรือเสียสละ ก็อย่าไปคาดหวังว่าใครเขาจะเข้าใจเรา อย่าไปคาดหวังแม้กระทั่งว่าเขาจะเห็นบุญคุณของเรา ทำดีอะไรก็ตาม ทำให้ดีที่สุดแต่อย่าไปติดยึดกับผลที่ตามมา โดยเฉพาะผลที่เกิดขึ้นกับเรา ถ้าทำใจอย่างนี้ได้เวลามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือต่อว่าเราอย่างโน้นอย่างนี้ เราจะไม่ทุกข์ เพราะทำใจไว้แต่แรกแล้ว
ถ้าจะให้ดีกว่านั้น ก็น่าจะหาประโยชน์จากคำวิพากษ์วิจารณ์ด้วย เช่น ถือว่าคำวิจารณ์เหล่านี้มาช่วยฝึกให้เราอดทนเข้มแข็ง หรือไม่ก็นำเอาคำพูดเหล่านั้นมาพิจารณาว่าได้แง่คิดอะไรบ้าง สิ่งที่เขาพูดมาอาจไม่เป็นประโยชน์หรือเป็นเท็จเสีย ๙๙ เปอร์เซ็นต์ แต่ ๑ เปอร์เซ็นต์ที่เหลืออาจมีประโยชน์ก็ได้
ไม่ว่าเราจะเจอแรงกระทบกระแทกเพียงใดก็ตาม ก็ขอให้เรานึกถึงคนอื่น มันอาจช่วยให้เราอดทนได้ดีขึ้น
บทเรียนอย่างหนึ่งจากผู้ประสบภัยสึนามิก็คือ หลายคนผ่านวิกฤตมาได้ก็เพราะนึกถึงคนอื่นที่ลำบากกว่าตัวเด็กอายุ ๑๐ ปีที่ลอยคออยู่กลางทะเล ทั้ง ๆ ที่ตัวเองกำลังอยู่ในอันตราย แต่เขากลับคิดถึงพ่อ เป็นห่วงพ่อ ทำให้ไม่สนใจความทุกข์ของตนเองเลย
มีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ลูกหลุดมือไป เธอเสียใจมาก กรีดร้องด้วยความทุกข์ แต่พอมีคนพูดให้สติ เธอก็หันไปช่วยเหลือคนอื่นที่กำลังเดือดร้อน ทำให้สามารถเผชิญกับความสูญเสียได้
ดังนั้นเวลาเรามีความทุกข์ ถูกคนต่อว่า เจอแรงเสียดทานต่าง ๆ ขอให้นึกถึงคนที่สูญเสียคนรักและสิ้นเนื้อประดาตัว เขาทุกข์กว่าเรามาก เวลาจะระเบิดออกมาก็ขอให้นึกถึงเขา ระลึกว่าหากเราต้องการจะช่วยเขาให้ได้ผล เราต้องมีสติควบคุมตัวเองให้ดี เพราะหากเราระเบิดออกไป งานอาจจะเสียหายและไปมีผลกระทบกับเขาเหล่านั้น
การจะช่วยเขาให้ได้ผล เราต้องมีความอดทน ไม่ลุแก่โทสะง่าย ๆ ขอให้ถือว่าความอดทนอดกลั้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลืออื่น และเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนตนเอง เราเองได้ทำสิ่งยาก ๆ มามากแล้ว น่าจะลองฝึกอีกขั้นหนึ่ง นั่นคือการควบคุมเองไม่ให้ลุแก่โทสะ เพื่อจะได้มีสติปัญญาหาทางออกอย่างแยบคาย ซึ่งน่าจะดีกว่าการตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรงกลับไป
อย่างไรก็ตามถ้าความเครียด ความขุ่นข้องหมองใจ หรือความโกรธเกิดขึ้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา อย่าไปปฏิเสธมัน หรือรู้สึกแย่กับตัวเอง บางทีเราอยากเป็นคนดี ก็เลยคาดหวังว่าฉันจะต้องไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ทำตัวแย่ ๆ แต่ในเมื่อเรายังเป็นปุถุชนอยู่ก็ต้องมีปัญหาแบบนี้บ้าง
แต่เมื่ออารมณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้วก็ขอให้รู้เท่าทัน และหาทางจัดการกับมัน หรือให้มันอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม บางทีเราอาจต้องหาโอกาสพูดคุยหรือระบายกับเพื่อน เราอาจไม่พร้อมที่จะพูดคุยหรือเล่าความรู้สึกในกลุ่มใหญ่ ก็พูดคุยในกลุ่มเล็ก ๆ พวกเราควรจัดหาโอกาสหรือช่องทางในการพูดคุยกันเองเกี่ยวกับเรื่องอารมณ์ความรู้สึกด้วย เพื่อจะได้เป็นการเยียวยาหรือปรับใจให้เป็นปกติ อันนี้เป็นการบ้านที่อยากจะฝากไว้
Create Date : 17 เมษายน 2551 |
Last Update : 17 เมษายน 2551 14:35:18 น. |
|
0 comments
|
Counter : 511 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|