ชีวิต...คือความหลากหลาย
Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
23 กันยายน 2549
 
All Blogs
 
ดีเกินไป มีด้วยเหรอ ?

3 ปีก่อนเมื่อครั้งที่เริ่มทำงานใหม่ๆ ตึกอายุรกรรมเป็นตึกที่งานหนักที่สุดแห่งหนึ่งสูสีกับตึกศัลย์

ผมหมอจบใหม่ เวลาอยู่เวรก็ต้องมีหน้าที่คอยดู ตรวจ ให้คำสั่งการรักษาเมื่อมีคนไข้รายใหม่เข้ามานอนในตึก จากนั้นก็จะต้องเตรียมรายงานให้พี่ๆ สต๊าฟทราบ

วันนั้นผมอยู่เวรตั้งแต่ 4 โมงเย็น จนกระทั่งสองทุ่ม มีคนไข้รับใหม่เข้ามาตลอด รวมแล้ว 20 ราย วันนั้นวิ่งไปวิ่งมาจนหัวหมุน ข้าวเย็นก็ไม่ได้กิน

จนกระทั่งพี่สต๊าฟมา ผมก็รายงานอาการของผู้ป่วยแต่ะละรายไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็มีคนไข้เข้ามาอีก จนเกือบเสร็จแล้วผมก็ชักจะเบลอๆ พี่ถามกลับไปกลับมาก็เริ่มสับสน

พี่คงเห็นผมดูมั่วๆ เหนื่อยๆ ก็เลยถามว่า กินข้าวหรือยัง ?
ยังเลยครับ ?
พี่ก็เลยเอากระดาษตีหัวผมทีนึง แล้วบอกว่า ไปกินข้าวก่อนไปไม่ต้องมารับคนไข้แล้ว
"ก่อนไปดูแลคนอื่นต้องดูแลตัวเองก่อนด้วย "

หลังจากวันนั้นผมก็เอาคำพูดของพี่คนนั้นมาคิดอยู่บ่อยๆ ก็คล้อยตาม การที่หมอจะดูแลคนไข้ได้ดี ก็ต้องดูแลตัวเองด้วย ไม่ปล่อยให้ตัวเองท้องหิว นอนน้อย ทำงานเกินเวลาการทำตัวดีเกินไปก็ใช่ว่าจะดี
..........................................................................
มีคนเคยบอกว่า พอแต่งงานแล้วก็ต้องดูแลครอบครัว อย่างน้อยครอบครัวก็ต้องพร้อม มีรถใช้ มีบ้านอยู่ มีเงินมีทองสำหรับอนาคตของลูก เมื่อนั้นการช่วยเหลือผู้อื่นค่อยพูดกัน

ฟังดูตอนนั้นก็รู้สึกดี เห็นด้วย การที่เราจะช่วยเหลือใครได้อย่างน้อยเราก็ควรจะพร้อมซะก่อน

ตอนเรียนมีตังค์ใช้เดือนละ 2000 - 3000 บาท ชอบดูหนังมาก ก็ได้ดูเดือนละครั้ง อยากจะซื้อ DVD มาเก็บไว้ก็ไม่มีปัญญาซื้อแผ่นจริง ก็ต้องแผ่นผี ตอนนั้นก็ใช้หลักคิดแบบเดียวกัน ตอนนี้เรายังไม่พร้อม ไว้พร้อมเมื่อไหร่จะซื้อแผ่นแท้ล่ะกัน
..........................................................................
เวลาผ่านมา ความคิดก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ผมพบว่าคนเราทั่วไปนั้นย่อมคิดถึงตัวเองเป็นหลัก ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และเมื่อโตขึ้น เรื่องครอบครัวเรื่องเงินๆ ทองๆ เรื่องปากท้องก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

น้อยคนนักที่จะดีเกินไป
และคำว่าพร้อมแล้วของแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน

ผมเห็นบางคนมีรายได้ออกรถใหม่มาขับได้แล้ว แต่เวลาซื้อ CD เพลงมาฟัง ไม่เคยสักครั้งที่จะซื้อแผ่นจริง

หมอบางคนไม่ยอมตรวจคนไข้เลย ถ้าคนไข้มาเลยเวลาทำงานไปแม้จะแค่ 4-5 นาที

บางคนมีตังค์ออกรถได้สองคัน ซื้อบ้านได้สองหลัง แต่ว่าไม่มีสักนิดที่จะเอามาให้พ่อแม่ได้ใช้

ผมเองตรวจคนไข้จนกว่าจะหมด หรือคนไข้มาช้าจริงๆ เช่น เที่ยงครึ่งแล้วเพิ่งมา กรณีแบบนี้ก็ไม่ตรวจ ขอไปกินข้าวก่อนยกเว้นอาการหนัก ก็ตรวจก่อน

วันแม่ปีนี้ซื้อพวงมาลัยมาให้คนไข้ที่นอนในตึก คุณป้าคุณยายดีใจกันใหญ่ (เพิ่งรู้ว่าพวงมาลัยวันแม่แพงสูสีกับกุหลาบวันวาเลนไทน์เลยล่ะ)

คนไข้มารับยาไม่ได้ มานอนรพ.ไม่ได้ ก็ขับรถออกไปรับมาตรวจ ออกไปรับมานอน ออกไปเอายาไปให้ถึงที่

แต่ผมก็ยังไม่ดีเกินไป เพราะหลายครั้ง ตอนดึกๆ โดนตามก็รู้สึกขี้เกียจ วันเสาร์อาทิตย์อยู่เวรก็ไม่ได้ตรวจคนไข้เองทุกราย ปล่อยให้พยาบาลตรวจเป็นส่วนใหญ่

ทุกวันนี้คิดใหม่แล้ว คิดดีได้แล้วก็ทำๆ เข้าไปเถอะไม่ต้องรอให้พร้อมมากมายหรอก เพราะโลกใบนี้ต้องการความดีกันคนละนิดละหน่อย

นึกถึงฉากหนึ่งในเรื่อง constant gardener พระเอกขับรถผ่านเด็กสามพี่น้อง ที่กำลังเดินกลับบ้าน นางเอกบอกให้จอดรถช่วยรับ พระเอกบอกว่า เราช่วยแล้วจะได้อะไร ในเมื่อยังมีคนอีกมากมายที่เป็นแบบนี้ เราไม่สามารถช่วยทุกคนได้หรอก

“ เมื่อไหร่ที่เราพร้อมหรือเรามีเหลือก็ค่อยมาช่วยคนอื่น ช่วยตนเองไม่ให้เป็นปัญหาก่อนดีที่สุด เพราะอย่างน้อยสังคมเราก็ลดคนมีปัญหาไปหนึ่งคน ”
By bouble

เราคงไม่ต้องรอให้เราพร้อมจนช่วยคนได้ทั้งโลกนะครับ
ผมว่า ลุกขึ้นมาช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่ทำได้ตอนนี้เลยดีกว่า
ไม่ต้องกลัวว่า จะดีเกินไปหรอกครับ
และไม่ต้องรอให้ตัวเองหมดปัญหาไปก่อนหรอกแล้วจึงจะช่วยคนอื่นได้ เพราะเกิดมาเป็นคนอย่างไรก็ไม่มีวันหมดปัญหาอยู่แล้ว
.........................................................................


Create Date : 23 กันยายน 2549
Last Update : 23 กันยายน 2549 17:29:50 น. 2 comments
Counter : 630 Pageviews.

 
แสงตะวันรายงานตัวค่ะ
ชอบที่คุณเขียนไว้นะคะ อ่านเพลินเลย
เป็นการเขียนที่ถูกถ่ายทอดมาจากจิตสำนึก ที่ตรงไปตรงมามาก ตอนท้ายมีเขียนในเชิงการปลุกระดมด้วยนะคะ อิอิ

ความพร้อมของแต่ละคนไม่เท่ากัน
แต่ของแสงตะวันความพร้อมที่ว่าคือ
มีแรงกำลังหรือว่ามีทรัพย์ไม่จำเป็นต้องว่ามีมากแล้วค่อยช่วยเหลือผู้อื่น
เราสามารถแบ่งปัน จะมาก-น้อย เท่าไหนก็ตามไปช่วยเหลือผู้อื่นได้

เห็นด้วยนะคะ กับตอนท้ายที่ว่า ไม่ต้องรอให้หมดปัญหาหรอกแล้วค่อยมาช่วย
เพราะโดยมากเเล้ว คนเรามักจะคิดว่า อะไรกันปัญหาของตัวเองก็ยังไม่รอด แล้วจะให้ไปช่วยใครที่ไหนอีก

มัวแต่มองแต่ตัวเองก็เท่านั้นล่ะ....คนเรา




โดย: เเสงตะวัน วันที่: 24 กันยายน 2549 เวลา:17:11:48 น.  

 
เขียนได้ดีมากๆๆครับ ถ้าเราคิดว่ายังไม่พอ จึงงยังไม่ให้คนอื่น โลกคงร้อนกว่านี้พิลึก พวกเราที่ยังอยู่ได้ก็เพราะมีคนจำนวนมากถือคติยิ่งให้ยิ่งได้นะแหละ

ขอบคุณสำหรับข้อเขียนดีๆนะครับ


โดย: นายเบียร์ วันที่: 29 กันยายน 2549 เวลา:5:10:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

pigletdora
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add pigletdora's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.