|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ย้อนเวลาหาอดีตไปกับค่ายอาสา วันที่ 2-3
ที่ค่ายเราตื่นกันแต่เช้าครับ ตี 5 ครึ่งก็ต้องตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน เคารพธงชาติ เช้าวันนี้ฝนยังตกพรำ ๆ ชวนให้หลับต่อจริง ๆ แต่โชคดีที่ฝนหยุดก่อนที่จะเริ่มทำงาน
วันนี้ก็เลยได้ทำงานกันเต็มที่ แบบไม่ร้อนซะด้วย งานที่ต้องเร่งทำคงเป็นงานเทพื้นปูนให้โรงเรียน เพราะยังเหลืออีกบานเลย ที่ค่ายเราใช้แรงควายในการผสมปูนครับ ไม่ได้ใช้เครื่องผสมปูน วิธีผสมปูนก็คือ
เอา ปูน หิน ทราย เทรวมกันเข้าไปแล้วคลุกด้วยน้ำ อาศัยแรงคน คลุกเคล้ากันจนได้เป็นปูนเทพื้น ไอ้ตอนคลุกให้ส่วนต่าง ๆ มันเข้ากันนี่แหละ ที่ต้องใช้แรงมาก เราเลยเรียกขั้นตอนนี้ว่าไถนา เพราะฉะนั้นคนที่ไถ ก็มักจะเป็นคนตัวใหญ่ ๆ แรงดี ๆ
ถ้าเป็นตอนปี 2 ไอ้หนอน หรือ ไอ้กอล์ฟ ของพวกเรานี่แหละ ที่มักจะได้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ และอีกคนก็คือ ไอ้จิว สองคนนี้มีคุณสมบัติครบทั้งสองข้อพอดี ไถกันไม่รู้จักเหน็ดจะเหนื่อย
แหมแล้วช่างบังเอิญจริง ๆ ที่ตอนนี้ทั้งสองคน ก็เพิ่งแต่งงานไปไม่นานนี่เอง ถ้าเป็นตอนนี้คงไม่มีแรงมาไถนาซะแล้วล่ะ โดยเฉพาะไอ้หนอน เพราะเพิ่งเข้าพิธีไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง : ) .........................................................................
งานวันนี้ไม่เหนื่อยเพราะแดดไม่ร้อน แต่ก็ไม่วายมีปัญหา เพราะไอ้ลูกน้องของผมบนหลังคานี่สิ มันทำของตกบ่อยเหลือเกิน ทั้งค้อน ทั้งสิ่ว ทั้งไม้ ตกลงไปที ก็โดนคนข้างล่าง ดjาให้ที เพราะบางทีมันก็เฉียดหัวคนข้างล่างไปไม่ไกลเลย
แต่บางอย่างก็ห้ามไม่ได้จริง ๆ เช่นพวกเศษไม้ เศษขี้เลื่อยที่เกิดจากการเลื่อยไม้ ทำยังไงมันก็ต้องมีปลิวลงไปอยู่ดี แล้วมันก็มักจะทำให้ผมมีปัญหากับพวกปาดปูนข้างล่างทุกที
พื้นโรงเรียนของเราจะเรียบเนียน ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ ก็ด้วยฝีมือของคนปาดปูนครับ ปาดกันอยู่นั่นล่ะ ปาดแล้วก็ปาดอีก กะเอาให้เนียนเหมือนก้นเด็กกันเลย มักเป็นงานที่ต้องเลิกงานช้าที่สุดเพราะความละเอียดและพิถีพิถัน
แล้วเวลาที่มันเนียนสวยแล้ว เพียงแค่รอเวลาให้แห้ง นี่แหละครับ ที่พวกผงขี้เลี่อย จากผีมือผมเองจะปลิวลงไป ตกแหมะลงบนพื้นปูนอันเรียบเนียน เกิดเป็นร่องเป็นรอยให้ทีมปาดปูนทำกันใหม่ เป็นใครก็คงโกรธเหมือนกัน
ผมจำได้ดีว่า ไอ้เป็ด เป็นหนึ่งในทีมปาดปูนครับ เวลาผมทำเศษไม้ตกแหมะลงไปบนปูนทีไร ผมก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ ดูจากสายตาไอ้เป็ดแล้ว ถ้ามันบินได้ คงบินขึ้นมาถีบผมแน่ ๆ ..........................................................................
คืนที่สอง เพื่อน ๆ กลับไปกันหมดแล้ว ครับ ก็คือไอ้แป๊ะ เคียมและดิว รวมทั้งพี่ตู๋ จู่ ๆ ผมก็กลายเป็นคนที่แก่ที่สุดในค่าย
ตกกลางคืนวงประชุมของกรรมการ ผมก็กลายเป็นพี่แก่ ๆ ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว (เพราะไอ้เม้งมันหลับเป็นตาย ปลุกยังไงก็ไม่ยอมตื่น) ร่วมประชุมกับน้อง ๆ
พอเริ่มดึก น้องแต่ละคนก็ผล็อยหลับไปทีละคน ทีละคน บางคนต้องเรียกแล้วเรียกอีก ถึงจะตื่น บางคนถูกปลุกขึ้นมาตอบคำถาม พอตอบยังไม่ทันรู้เรื่อง ก็หลับกลางอากาศเลย บางคนก็ตอบวนไปวนมาไม่รู้เรื่องสักที บางทีคุยกันเรื่องนี้ก็โยงไปนู่น ไปนี่
สมัยนั้น พี่ ๆ ก็คงมองพวกเรา เหมือนผมมองเห็นน้องตอนนี้ มันทั้งเซ็ง เพราะพูดอะไรไปก็ไม่รู้เรื่อง ทั้งเบื่อ เพราะสอนอะไรก็งง ๆ คิดไม่ทัน ทั้งขำ เพราะคำตอบที่ตลก ๆ ทั้งสงสาร เพราะบางคนก็พยายามฝืนแล้วฝืนอีก พยายามที่จะไม่หลับ
แต่ก็แปลกพอมาเป็นพี่ดูบ้าง ผมกลับไม่หลับเลย และก็รู้สึกอยากพูดอีกหลายเรื่อง อยากสอนอีกหลายอย่าง ถ้าไม่ติดว่า กลัวน้องไม่ได้นอนก็คงพูดได้อีกเยอะ ต้องยั้งปากตัวเองไว้เยอะเหมือนกัน แต่ถึงขนาดนั้นกว่าจะได้นอน ก็ตี 3 นู่น .......................................................................
วันสุดท้ายแล้วสำหรับค่าย 38 วันนี้ตั้งใจทำงานอย่างเดียว เพราะเวลาเหลือน้อยแล้ว วันนี้แดดก็กลับมาร้อนเหมือนเดิม วันนี้ตั้งใจจะสอนให้น้องขึ้นกระเบื้องกันเป็นก่อนผมกลับ
ก็ไม่รู้เพราะทำไม ค่ายนี้ไม่มีใครปูกระเบื้องเป็นกันเลยสักคนเดียว เหลือผมอยู่คนเดียว วิกฤตจริง ๆ แล้วถ้าบังเอิญปีนี้ผมมาไม่ได้ จะทำกันยังไงว่ะเนี่ย วันนี้ก็เลยต้องค่อย ๆ สอน ค่อย ๆ ทำกํนไป
ตอนบ่ายก็ค่อย ๆ ขนกระเบื้องขึ้นไปวางบนหลังคา ปีนี้หลังคาสีเขียว เหมือนค่ายตอนผมอยู่ปีสองเลย แต่สีปีเราสวยกว่านี้ (ขอเข้าข้างตัวเองหน่อยเถอะ) ตอนนั้น แก๊งค์กระเบื้องของผมก็มี ไอ้ตี๋(หนึ่ง อรรถสิทธิ์) กับ ไอ้แม็ก ส่วน 'จารย์บ๊วบไม่นับเพราะตอนปี 1 มันชอบเหยียบกระเบื้องแตก
ถ้าถามว่าในค่ายที่ไหนร้อนที่สุดก็ต้องตอบว่า บนหลังคาตอนปูกระเบื้องนี่แหละ ไอ้ตี๋ เมื่อปีที่แล้วยังแวะมาช่วยผมตั้ง 1 วัน แต่ปีนี้ก็ไม่ได้มาซะแล้ว ส่วนไอ้แม็ก สงสัยจะลืมวิธีปูกระเบื้องไปแล้วแหง ๆ .........................................................................
ก่อนจะกลับบ้านแวะไปดูส้วมโรงเรียน น้องบอกว่าปีนี้จะใช้วิธีเทพื้นใหม่ ไปยืน ๆ ดู ก็ไม่เห็นมีอะไรใหม่นี่หว่า และให้ตายเถอะ ไม่อยากจะคุยเลยว่า
ไปมาตั้งหลายค่ายยังไม่เห็นค่ายไหน พื้นส้วมจะสวยเท่าส้วมของไอ้หนวด (ไอ้เก่ง) เลย เพราะปีนั้นพวกเราใช้หินแม่น้ำเป็นหินกลม ๆ แบน ๆ ลงพื้นแล้วมันก็ขัด ๆ พื้นส้วมก็จะเป็นพื้นลายก้อนหิน แบบห้องน้ำญี่ปุ่นเลยล่ะ สวยเชียว
ไม่รู้คนอื่นไม่เห็นว่ามันสวยหรือไง ค่ายต่อมาไม่เห็นมีใครทำเลย : ) .........................................................................
เลิกทำงานตอน 5 โมงเย็น ก็ขับรถกลับอุดรครับ ระยะทางจากที่ค่ายถึงอุดร ก็ 350 กิโล ตอนแรกกะว่าจะขับมาถึง รพ.เลย แต่ไม่ไหว เพราะอยู่ห่างจังหวัดไปอีก 120 กิโล แค่มาถึงตัวจังหวัดอุดร ผมก็แทบจะลืมตาไม่ไหวแล้ว ถึงบ้านตอน 4 ทุ่มเกือบ 5 ทุ่มเลย ....................................................................................
ปีนี้จะเจอผมได้ไปเจอเพื่อนเราแค่ 4 คน คือ ไอ้แป๊ะ ดิว เคียมและเม้ง แต่คนอื่น ๆ ผมก็ยังเห็นอยู่นะครับ
ผมยังเห็นไอ้หนวดที่ส้วมโรงเรียน เห็นไอ้เป็ดกับไอ้บีช่วยกันปาดพื้นโรงเรียนหลังเลิกงาน เห็นกะตาพาน้อง ๆ ค่าย ร้องเพลง เห็นไอ้หนอนกับกางเกง รด. ตัวเดิม เห็นไอ้ตุ้มยืนอู้ใต้ร่มไม้ เห็นไอ้แม็กบนหลังคา เห็นไอ้ตี๋ลุกขึ้นพูดในวงประชุมเช้า เห็นน้องเล็ก พาน้องค่าย ไปเล่นกับเด็ก ๆ เห็นปานทิพย์กับแก๊ก แอบไปนั่งทำของที่ระลึกกัน เห็น'จารย์บ๊วบ ในวงบันเทิง
คิดถึงทุกคนครับ ...................................................................... เมื่อ 7 ปีก่อนตอนไปเตรียมค่าย ตอนนั้นผมกำลังขุดดิน สำหรับลงเสา ขุดนานมาก เพราะมันต้องลึกเป็นเมตร ชาวบ้านเดินเข้ามาถามว่า ถามจริง ๆ เถอะ มาทำแบบนี้ทำไม ผมก็ตอบไปว่า ก็ไม่มีอะไรมาก แค่รู้สึกว่าค่ายนี้มันมีอะไรดี ๆ ก็เลยอยากให้มีค่ายนี้ต่อไปเท่านั้นเอง
การมาค่ายของผม ก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่า มาเพื่อให้เห็นว่ายังมีค่ายอาสา ดำรงอยู่ เหมือนช่วยเตือนว่ายังมีสิ่งดี ๆ ดำรงอยู่ท่ามกลางสังคมที่นับวันจะหาสิ่งดี ๆ ยากเหลือเกิน .........................................................................
Create Date : 19 มีนาคม 2549 |
|
0 comments |
Last Update : 21 มีนาคม 2549 21:55:18 น. |
Counter : 714 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|