...ปล่อยให้รักมันลวงตาต่อไป
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
23 มีนาคม 2552
 
 

The Curious Case of Benjamin Button : ข้อดีของการมีชีวิต

สมัยเรียนมัธยมฯ ผมมีโอกาสได้เรียนวิชาพระพุทธศาสนากับพระอาจารย์ และท่านก็เคยบอกกับผมและเพื่อนร่วมห้องของผมถึงข้อดีของการเกิดเป็นมนุษย์ว่า การเป็นมนุษย์นั้นทำให้เรามีโอกาสได้ทำบุญทำกุศล จริงอยู่ที่การเป็นเทวดานั้นทำให้เราได้อยู่บนสวรรค์แต่การอยู่บนนั้นทำให้เราไม่มีโอกาสได้ทำบุญทำความดี สรุปใดการเรียนคาบนั้นก็คือการมีชีวิตอยู่ทำให้เรามีโอกาสทำอะไรๆมากกว่าการไม่มีตัวตนอยู่บนโลก

The Curious Case of Benjamin Button หนังเรื่องล่าสุดของ เดวิด ฟินเชอร์ ผู้กำกับที่ทำหนังระทึกขวัญได้สนุกที่สุดคนนึงของฮอลลิวูด เป็นหนังที่ค่อนข้างแปลกแหวกแนวจากหนังเรื่องอื่นๆของอย่าง Se7en หรือ Zodiac เพราะหนังเรื่องนี้มาในรูปแบบของหนังรัก แต่ชื่อของ ฟินเชอร์ แล้วคงไม่มีทางที่มันจะเป็นหนังรักธรรมดาๆไปได้แน่นอน

หนังเล่าเรื่องของ เบนจามิน บัตตัน (แบรด พิตต์) ชายผู้เกิดมาโดยมีร่างกายภายนอกเหมือนคนแก่อายุแปดสิบ ซึ่งใครๆก็คิดว่าเขาคงอยู่อีกไม่ได้นาน...แต่กลับเป็นว่ายิ่งโตขึ้นเขาก็ยิ่งดูหนุ่มขึ้นโดยอาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา จนถึงช่วงวัยรุ่น (ที่ดูแก่) เขาจึงตัดสินใจออกผจญภัยในโลกกว้างกับเรือเดินทะเลลำเล็กๆลำหนึ่ง และออกเดินทางในโลกของความเป็นจริงที่ตัวเองเกิดมาแตกต่าง

ในระหว่างที่อยู่ในบ้านพักคนชรานั้น เบนจามิน ได้รับรู้และสัมผัสถึงสิ่งที่เรียกว่า “การพลัดพราก” และมันยังเป็นการพลัดพรากอันเกิดจาก “ความตาย” ด้วย มันเป็นเหมือนสถานที่ที่คละคลุ้งไปด้วยความโศกเศร้าแม้มันจะถูกอาบด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าก็ตาม แต่บรรยากาศก็มืดหม่นเพราะเกือบทุกคนใช้ชีวิตด้วยการรอคอยความตายว่าจะมาเคาะประตูเรียกหาเมื่อใด

การที่ เบนจามิน ตัดสินใจออกเดินทางหาประสบการณ์ในชีวิตที่เหลืออยู่และไม่มีใครรู้ว่ามันมากหรือน้อยเพียงใดนั้น มันคือการใช้ชีวิตที่พระเจ้าหรือใครก็ตามมอบมาให้เราแม้ชีวิตที่ให้มานั้นจะไม่สมบูรณ์หรือไม่เหมือนกับคนอื่นก็ตาม แต่นี่ก็คือสิ่งที่มีค่าที่สุดเท่าที่มนุษย์ทุกคนเคยมีมา เพราะการมีชีวิตมันหมายถึงการมีโอกาสที่เราจะได้เลือกทำและเรียนรู้สิ่งต่างๆ

มนุษย์คนนึงบนโลกอาจพิการขาขาดแขนขาดแต่ก็ยังใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่กับบางคนเพียงผิดหวังจากคนที่รักเท่านั้นก็ถึงกับไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกแล้ว มันเป็นการตัดโอกาสตนเองในการจะทำสิ่งต่างๆในชีวิตที่เหลืออยู่ และผมเองขอยอมรับว่าครั้งนึงผมก็เคยคิดจะทำลายชีวิตตนเองเพราะความรักเหมือนกัน แต่ตอนนี้เมื่อผมมองกลับไป ณ จุดนั้นผมรู้ดีว่ามันรู้สึกยังไง ดังนั้นผมจึงไม่ค่อยชอบเวลาที่มีคนจะฆ่าตัวตายแล้วพวกไทยมุงก็มักจะไปตะโกนว่า เอาเลยๆ เพราะถ้าคุณไม่เคยมายืนในจุดที่เขายืนอยู่คุณก็ไม่มีทางรู้หรอกว่ามันกดดันแค่ไหน และการตะโกนเช่นนั้นมันก็เป็นการท้าทายเขาเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาอาจไม่ใช่คนในครอบครัวคุณ แต่ถ้าวันนึงคนที่เอาปืนจ่อหัวตัวเองเพราะความรักเป็นคนในครอบครัวของคุณแล้ว คุณยังจะกล้าท้าทายอยู่อีกมั้ยและที่สำคัญคือคุณเรียนรู้การพลัดพรากด้วยความตายมาเพียงพอหรือยัง

ชีวิตที่เรามีอยู่นี้เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดไม่ว่าใครจะเป็นผู้มอบให้เราก็ตาม ขอจงใช้มันให้คุ้มค่าแต่อย่าทำลายมันแม้มันจะเป็นของเราก็ตาม

ในบ้านพักคนชราที่ เบนจามิน อาศัยอยู่นั้นมีชายชราผู้นึงมักจะเล่าเรื่องการถูกฟ้าผ่าถึงเจ็ดครั้งแต่ไม่ตายให้ฟัง และทุกครั้งที่เล่าก็จะมีภาพเหตุการณ์นั้นปรากฏมาให้เห็นแล้วคนในโรงก็จะหัวเราะกับภาพที่เห็น แต่ครั้งสุดท้ายที่เขาเล่านั้นกลับทำให้ทั้งโรงเงียบกันหมดด้วยประโยคต่อท้ายที่ว่า "...ผมขอบคุณพระเจ้าทุกครั้งที่ผมยังมีชีวิตอยู่"




 

Create Date : 23 มีนาคม 2552
9 comments
Last Update : 23 มีนาคม 2552 13:25:20 น.
Counter : 1197 Pageviews.

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกไปจากเรื่องอื่นๆนะคะ ฟังทีแรกยังสงสัยไม่หายว่า กรณีแบบนี้มีจริงไหม
แต่เมื่อได้อ่านวิจารณ์ของคุณkomyooth ทำให้มองกว้างขึ้นกว่าทีแรก จริงๆแล้วยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ หนังหลายเรื่องอยากดูก็ไม่ได้ดูหรอกค่ะ นี่ก็เป็นอีกเรื่อง รอลงเคเบิ้ลคงจะได้ดูค่ะ
สิ่งที่คุณเขียน น่าอ่านดีนะคะ โชคดีจังที่มีโอกาสได้รู้จักบล็อกนี้ ตัวเองก็ชอบดูหนังเหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้ดูแต่ในเคเบิ้ลเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

อ้อ เกือบลืม ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีดีที่ให้ไว้ที่บล็อกค่ะ

 

โดย: จัสมิน 23 มีนาคม 2552 14:43:47 น.  

 

สาหวัดดีครับ in the city of sylvia หนังดีครับ แต่ดันไม่ชอบ

 

โดย: Ghoeby 23 มีนาคม 2552 15:29:03 น.  

 

สวัสดีค่ะ
สันติภาพ เพื่อต้องการครอบครองประเทศ
เรียกว่าสันติภาพหรอค่ะ
การฆ่า ล้างเผ่า หรอค่ะ
กับข้ออ้างจากความเชื่อในว่า แผ่นดินนี้เป็นของตนเอง
แล้วจึงลุล้ำแผ่นดินนั้นหรอค่ะ เรียกว่าสันติภาพ

 

โดย: little nurse 23 มีนาคม 2552 17:00:18 น.  

 

หลานหวังว่าจะได้ดูเรื่องนี้คะ คอยอยู่
จากบล็อกนะคะ
หลานชอบเรียนพิเศษคะ แต่ไม่ชอบเรียนติว สำหรับหลานการเรียนทั้ง 2 อย่างนี้ต่างกัน การเรียนพิเศษหลานจะได้เพื่อนมากกว่าได้เรียนเพราะหลานจะเรียนกะอาจารย์ในโรงเรียน เมื่อไปเรียนก็ไปนั่งเฮฮากันพร้อมๆกับได้ความรู้กลับบ้าน แต่เรียนติวนี่เป็นการเรียนในสถาบันกวดวิชาหลานว่า...เครียดเกินไป หลานไม่ชอบการเรียนแบบนี้ ที่ไปเรียนเพราะมันก็ให้อะไรหลายอย่างนะคะ หนึ่งในนั้นคือประสบการณ์ที่สอนหลาน เหมือนอย่างตอนนี้ที่หลานมาตอบบล็อกได้ อย่างน้อยๆหลานก็เคยเรียนล่ะ และสามารถบอกได้ว่าชอบหรือไม่ชอบ ดีหรือไม่ดี หลานว่าคุณควรให้ลูกของคุณตัดสินใจเองนะคะ ว่าจะเรียนมั้ย ถ้าเค้าไม่ชอบ ก็ไม่ต้องให้เค้าเรียน เหมือนเพื่อนหลานที่กลายมาเป็นปมเพราะไม่ได้เรียน จากการที่พ่อแม่หวังดี กลายเป็นการสร้างปมให้ลูก

 

โดย: karnkraw 23 มีนาคม 2552 18:48:27 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปดู blog เราค่ะ
ต้องบอกตรงๆ ว่ายังไม่ได้อ่าน blog คุณ komyooth เลยค่ะ เพราะว่ายังทำงานอยู่เลย นี่แอบแว่บมา check blog นิดหน่อย เด๋วเลิกงานจะเข้ามาอ่านใหม่นะคะ

 

โดย: Sweety P IP: 58.136.119.20 24 มีนาคม 2552 14:35:03 น.  

 

ไม่ได้ดูเรื่อง Benjamin Button เพราะปกติไม่ค่อยชอบหนังแนวนี้เลย แต่เขียนมาน่าสนใจจัง ต้องไปลองหามาดูแล้วล่ะ

 

โดย: Sweety PB 24 มีนาคม 2552 17:27:54 น.  

 

สวัสดีค่ะ
ขอโทษที่น่ค่ะ
แล้วจะไปหามาดูค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

โดย: little nurse 25 มีนาคม 2552 16:22:25 น.  

 

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

 

โดย: little nurse 25 มีนาคม 2552 16:23:27 น.  

 

เค้าไม่เคยคิดจะดูหนังเรื่องนี้มาก่อนแต่มีใครบางคนบอกกะเค้าว่าเป็นหนังที่เนื่อเรื่องแปลกดีน่าดูเค้าได้ดูแล้ว ขอบคุณนะ
สุขสันต์ววันสงกรานต์

 

โดย: ถังขยะ IP: 203.130.159.3 13 เมษายน 2552 1:04:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

komyooth
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผมชอบดูหนังที่มีพลังทำให้ผมไปคิดต่อได้ แม้บางเรื่องอาจจะไม่ใช่หนังที่ดีเลิศก็ตาม
[Add komyooth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com