The Social Network : ระหว่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กับ โนบิตะ ใครน่ารักกว่ากัน
1. ยุคนี้เวลาผมเดินผ่านร้านอินเตอร์เน็ตสิ่งที่ผมมักจะเห็นเหมือนๆกันเกือบทุกร้านคือ เกือบทุกเครื่องในร้านแทบจะพร้อมใจกันเปิดหน้าเวปไซท์สังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลกที่ชื่อ facebook
ตอนนี้ facebook กลายเป็นพื้นออนไลน์แห่งหนึ่งที่คนในยุคปัจจุบันทุกคนจะต้องมี (ผมเองยังมีเลยครับ) และผมว่าบางคนอาจใช้แทนอีเมล์ไปแล้วก็ได้
แต่ถึงแม้ตอนนี้พื้นที่ออนไลน์ดังกล่าวจะฮิตถล่มทลายขนาดไหนก็ตาม แต่ภาพส่วนใหญ่ที่เป็นสังคมที่ฉาบฉวยและปิดบังด้วยการโกหกนั้นยังคงอยู่เช่นเดิม เหมือนกับตอนที่ msn เข้ามาใหม่ๆหรือตอนที่ hi5 กำลังบูม ที่ถึงแม้จะดูทันสมัยแค่ไหนแต่ก็ยังได้ยินข่าวการหลอกลวงกันผ่านโลกออนไลน์อยู่เสมอ ตั้งแต่ข่าวเมาท์กันในที่ทำงานยันข่าวลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
2. ผลงาน (น่าจะ) ล่ารางวัลชิ้นใหม่ของ เดวิด ฟินเชอร์ ที่เล่าเรื่องการก่อกำเนิดของเวปไซท์สังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง facebook นั้น แท้จริงแล้วการเกิดของมันนั้นไม่ได้สวยงามเหมือนหน้าเวปที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน มันกลับเป็นหนึ่งผลิตผลจากการทำร้ายกันในโลกแห่งความเป็นจริง
หนังเล่าเรื่องเน้นความสัมพันธ์ของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (เจซซี่ ไอเซนเบิร์ก จริงๆแล้วอีตา ซัคเคอร์เบิร์ก ตัวจริงหน้าเหมือน บิล เกทส์ มากกว่า) กับ เอดูอาร์โด ซาเวอริน (แอนดริว การ์ฟิลด์) ที่ตอนต้นเรื่องดูเหมือนจะเป็นเพื่อนซี้ที่รักกันมาก จนเมื่อเวปไซท์ที่ทั้งคู่สร้างขึ้นเริ่มกลายเป็นธุระกิจ และการเข้ามายุ่งวุ่นวายของ ฌอน พาร์เกอร์ (จัสติน ทิมเบอร์เลค) ผู้ปลุกปั้นเวปไซท์โหลดเพลงที่ดังที่สุดในอเมริกา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มสั่นคลอน
ด้วยความดังของ facebook แล้วความกร่างในความอัจฉริยะของ ซัคเคอร์เบิร์ก ทำให้เขาเริ่มมองไม่เห็นหัว ซาเวอริน และเริ่มทำร้ายเขาด้วยการ สร้างข่าว และปล่อยให้ต้องอยู่อย่างลำพัง
3. ผมว่าคนที่ติดโลกออนไลน์ขั้นงอมแงมอย่าง ซัคเคอร์เบิร์ก จริงๆแล้วน่าจะเป็นคนที่โดดเดี่ยวพอสมควร เพราะการเป็นเด็กเนิร์ดแบบโนบิตะนั้นในโลกแห่งความเป็นจริงเขาเป็นคนที่ดูด้อยกว่าการเป็นเด็กธรรมดาเสียอีก ดังนั้นในโลกออนไลน์หรือโลกที่มีโดราเอม่อนอยู่ข้างกายเขาจึงค่อนข้างกร่างและไม่สนใจใคร เพราะน้อยคนนักที่จะรู้จักเขาในโลกของความเป็นจริง
แตที่ต่างกันคือ เด็ก ป.4 อย่างโนบิตะ คงจะแค่เอาของวิเศษในกระเป๋าของโดราเอม่อนมาแกล้งคนอื่นให้สนุกเล่นๆ แต่กับ ซัคเคอร์เบิร์ก เขากลับใช้โลกออนไลน์มาทำร้ายคนเคยรักอย่างไม่เหลือเยื่อใย และจริงๆแล้วคำบอกเล่าต่างๆจากโลกออนไลน์นั้นจะมีสักกี่เหตุผลทำให้เราเชื่อได้ทั้งหมด ในเมื่อมันเป็นเรื่องของคนคนหนึ่งกับคนอีกคนหนึ่งเล่าให้คนอีกเป็นสิบเป็นร้อยฟัง และคนเป็นสิบเป็นร้อยนั้นก็นำไปเล่าต่ออีกเป็นหมื่นเป็นล้าน
แต่ก็น่าแปลกที่คนเรากลับใส่ใจกับตัวตนของเราในโลกออนไลน์มากตัวตนจริงๆที่จับต้องได้ และชอบคุยกันผ่านตัวกรองความจริงใจที่เรียกว่าเทคโนโลยีมากกว่าการนั่งคุยกันแบบเห็นหน้าเห็นตา นี่เองคงเป็นช่องว่างให้การหลอกลวงแทรกตัวลงไปฝังตัวอยู่ในความสัมพันธ์ทางสังคมออนไลน์แบบที่เราไม่รู้ตัว
และอีกอย่างนึงระหว่าง โนบิตะ กับ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก คือ โนบิตะ ดูน่ารักกว่าเยอะ
Create Date : 20 ธันวาคม 2553 |
|
7 comments |
Last Update : 20 ธันวาคม 2553 15:41:40 น. |
Counter : 1434 Pageviews. |
|
|
|
ขอเชิญชมเรื่องอื่นๆ ..
เพื่อรำลึกถึงความหลังนะคะ
บล็อกอื่นๆ ก็สนุกค่ะ
เชิญลองเลือกอ่านดูนะคะ