Almost Famous : รัก ใน ร็อก
ผมว่าผมโชคดีในการฟังเพลงค่อนข้างมาก เพราะพ่อผมเคยเป็นนักดนตรีที่เล่นตามผับและยังเป็นสาวกตัวยงของ Led Zeppelin และ Jackson Browne ดังนั้นอิทธิพลในการฟังเพลงของผมส่วนหนึ่งจะมาจากกองเทปคาสเสตเก่าๆของพ่อ และอีกส่วนมาจากการขวนขวายหาฟังของผมเอง (ซึ่งส่วนใหญ่มาจากคลื่น Fat Radio 104.5) ซึ่งนั้นทำให้ผมฟังเพลงค่อนข้างหลากหลายกว่าคนรุ่นเดียวกับผมหรืออย่างน้อยก็เพื่อนในรุ่นโรงเรียนเดียวกับผม
ด้วยความที่ผมโตมากับเพลงร็อกยุค 60,70 และ 80 ทำให้เวลาที่ผมดูหนังแล้วได้ยินเพลงจากยุคนี้ ต่อมความตื่นเต้นในหัวใจจะทำงานกันอย่างกรี๊ดกร๊าด อย่างล่าสุดผมเพิ่งมีโอกาสได้หยิบหนังของ คาเมร่อน โครว์ เรื่อง Almost Famous มาดูหลังจากซื้อแผ่นมาดองอยู่บนชั้นไว้นาน
บรรยากาศในหนังไม่ต่างอะไรจากการนั่งอยู่ในรถของพ่อผม เพราะด้วยความที่เป็นหนังโรดมูฟวี่ที่เล่าเรื่องการเดินทางตระเวนแสดงสดของวง StillWaters โดยมีเด็กน้อยคอลัมนิสวัย 15 ที่คอยติดตามวงไปสัมภาษณ์ในทุกๆที่เพื่อเขียนบทความลงนิตยสาร Rolling Stones โดยมี รัสเซล แฮมม่อนด์ (บิลลี่ ครูดั้ป) มือกีตาร์และหัวหน้าวงเป็นดั่งเพื่อนสนิท
ที่ว่าบรรยากาศเหมือนนั่งรถไปกับพ่อผมนั้นก็เพราะว่าตลอดระยะทางที่เราไปด้วยกันไม่ว่าจะที่ไหน พ่อมักจะเปิดเพลงร็อกยุค 60,70 และ 80 ให้ฟังอยู่เสมอ และด้วยความไม่รู้ตัว...ผมไม่รู้ว่าผมหลงรักเพลงพวกนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่นี่ทำให้ผมซื้อเทปเพลงม้วนแรกในชีวิตเป็นอัลบั้ม Supernatueral ของ Santana หลังจากนั้นก็เริ่มซื้อเทปเพลงสัปดาห์ละม้วนซึ่งมีทั้ง ร็อก แอนด์ โรลล์ , เฮฟวี่ เมทัล หรือแม้แต่ อัลเทอร์เนทีฟยุค 90 และมีบ้างครั้งที่จะแวะไปฟังพวก เดธ เมทัล , แบล็ก เมทัล บ้าง โดยผมจะมีเพื่อนอีกคนนึงที่ชอบฟังเพลงแบบนี้เหมือนกันเป็นคู่หูและเราก็จะมีร้านเทปประจำที่เราจะไปซื้ออยู่บ่อยๆจนเจ้าของร้านลดให้
แม้ผมจะเกิดไม่ทันยุครุ่งเรืองของวงดนตรีร็อกเหล่านี้ แต่ผมก็มีความรักที่จะฟังดนตรีร็อกเหมือนกับเจ้าหนูคอลัมนิสที่เพิ่งมาหลงรักดนตรีร็อกในช่วงที่มันกำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดในโลกดนตรี และแม้เราจะรู้ความจริงถึงพฤติกรรมของศิลปินเหล่านี้ที่มั่วยา มั่วเซ็กส์อย่างไม่เป็นผู้เป็นก็ตาม แต่ผลงานของเขานั้นมันเด่นจนกลบภาพในแง่ลบเหล่านั้นเสียจนแทบมองไม่เห็น อย่างเดียวกับที่เราเห็นในหนังว่า รัสเซล แฮมม่อนด์ เมายาแล้วโดดจากหลังคาบ้านใครก็ไม่รู้ลงสระน้ำอย่างหมดสภาพ แต่เขาอยู่บนเวทีเขากลับเป็นศิลปินที่เท่มากจนเราลืมเรื่องที่เขาปีนหลังคาไปเลย
นอกจากเพลงและด้านมืดของศิลปินแล้วหนังยังให้เราเห็นความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินกับแฟนเพลงและระหว่างเพื่อนสมาชิกในวง ซึ่งเราอาจจะไม่เห็นความสัมพันธ์แบบนี้ในพวกศิลปินเกาหลีหรือพวกพยายามเหมือนเกาหลี เพราะเราไม่มีการแหกปากแหกคอกรี๊ดกร๊าดเพราะหน้าตาหรือเพราะท่าเต้น แต่กรี๊ดแหกปากเมื่อได้ยินเสียงกีตาร์อินโทรในเพลงที่เราเคยได้ยินแต่ในวิทยุ และพนันได้เลยว่าถ้าเราได้รักวงดนตรีวงไหนแล้วเรามักจะทุ่มเทเวลาส่วนตัวไปจนหมดเหมือนคนหมกมุ่น เราจะตามเชียร์แม้ว่าวงของเราจะทำเพลงออกมาห่วย เพราะถึงแม้จะห่วยในสายตานักวิจารณ์แต่กับคนที่ได้ชื่อว่าแฟนเพลงแล้วเราก็ยังแหกปากกรี๊ดและร้องเพลงห่วยๆเพลงนี้ตามกันได้ เพราะเราเชื่อว่าแม้มันจะออกมาห่วยแต่มันเต็มไปด้วยความจริงใจและความเก๋า
ผมไม่รู้ว่าน้องๆที่ตามกรี๊ดศิลปินเกาหลีหรือพยายามเหมือนเกาหลีเหล่านั้นจะรับได้มั้ยถ้าพวกเขาเป็นเกย์หรือติดยา แต่ตอนนี้ไม่ต้องมองไปถึงว่าศิลปินเป็นเกย์หรือติดยาหรอก ผมอยากรู้แค่ว่าพวกที่กรี๊ดกร๊าด 4 หนุ่ม F4 ตอนนี้พวกเขายังคลั่งไคล้พวกสี่ตี๋นี่กันอยู่หรือเปล่า
ปล.ถ้าเจ้าหนูเรื่องมีเพื่อนเป็นมือกีตาร์วง Stillwaters ล่ะก็ ผมขอเป็นเพื่อนกับ จิมมี่ เพจ แห่ง Led Zeppelin ก็พอ
Create Date : 26 สิงหาคม 2552 |
|
14 comments |
Last Update : 26 สิงหาคม 2552 9:05:09 น. |
Counter : 2071 Pageviews. |
|
|
|
น่าน...โดนแซวซะนี่
แต่เรื่องของเราเกิดก่อนโฆษณานะ