วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ล่องเรือแม่เจ้าพระยาขึ้นท่าไหว้พระริมฝั่งสายชล


แผนที่การเดินทาง //g.co/maps/nebe9

แฟนเพจเฟสบุ๊คไปไหว้พระ //www.facebook.com/paiwaipra

เว็บไซต์ของเรา //www.paiwaipra.com

ทุกท่านที่ติดตาม BLOG ของผมถ้าชื่นชอบในงานเขียนหรือมีข้อเสนอแนะในงานเขียนรบกวนช่วยแวะเวียนไปเป็นแฟนเพจไปไหว้พระดอทคอมได้นะครับที่ facebook และเร็วๆนี้เตรียมพบกับเว็บไซต์ของเรา paiwaipra.com เพราะในเฟซบุ๊คจะมีการอัพเดทรูปหรือรายละเอียดต่างและพูดคุยเเลกเปลี่ยนข้อมูลข้อคิดเห็นกันเพื่อจะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นในเรื่องข้อมูลครับ



วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี

สวัสดีครับวันนี้เรามาพบกันเป็นครั้งที่ 4 แล้วนะครับ วันนี้จะพาไปทำบุญวัดในกรุงเทพนะครับ ไม่พาไปตากแดด ตากลมแล้วนะครับ หลังจากที่พาไปตากแดดมาเมื่อคราวที่แล้ว วันนี้จะพาไปวัดที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเลยครับ แค่ฝั่งธนบุรีแค่นี้เองการเดินทางแสนจะสะดวก ไปได้ทั้งรถยนต์ จักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถเมล์ เรือข้ามฟากซึ่งเราสามารถนั่งเรือข้ามฟากหวานเย็นจากท่าเรือฝั่งด้านปากคลองตลาดข้ามไปได้ ค่าเรือ 3.50 บาทต่อคนครับ ระหว่างนั่งเรือข้ามฟากจะมองเห็นสะพานพุทธอยู่ทางด้านซ้ายมือของท่าเรือ ซึ่งแม้ปัจจุบันสะพานพุทธจะไม่สามารถยกขึ้นเพื่อให้เรือสินค้าขนาดใหญ่วิ่งผ่านได้แล้วแต่ ความอลังการของสะพานเหล็กขนาดใหญ่ยังคงความขลังอลังการทุกครั้งที่ได้เห็น



สะพานพุทธสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมกรุงเทพกับฝั่งธนบุรี

วัดที่พาไปวันนี้มีนามที่ไพเราะและมีความหมายที่ดี ชื่อว่า วัดกัลยาณมิตรราชวรวิหาร ซึ่งชื่อมีความหมายที่ดี คือโชคดีมีมิตรแทัรักและเดินทางปลอดภัย ซึ่งในชีวิตเราขอแค่มีมิตรแท้สักคนที่คอยช่วยเหลือเราอย่างจริงใจก็พอแล้ว แต่อาจจะหายากสักหน่อยเพราะเพื่อนกินมีมากกว่าครับ



ด้านหน้าทางเข้าวัดกัลยาณมิตร วิหารทรงไทยขวามือคือวิหารหลวงพ่อโต ซ้ายมือแบบจีนคือพระอุโบสถ

ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกว่า วัดกัลยา หรือ วัดหลวงพ่อโตซำปอกง ซึ่งเป็นชื่อที่พ่อค้าชาวจีนที่ล่องเรือสำเภาสมัยก่อนและชาวบ้านที่นี่เรียกกัน เพราะมีความเชื่อว่าถ้าได้สักการะท่านจะได้พบมิตรที่ดีและค้าขายเดินทางปลอดภัย ซึ่งอาจจะคล้ายๆกับวัดหลวงพ่อโตซำปอกง หรือวัดพนัญเชิงที่ อยุธยา วัดนี้สร้างโดย ท่านเจ้าพระยานิการบดินทร์ (โต) ซึ่งท่านเป็นต้นตะกูลกลัยาณมิตร และเป็นคหบดีใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 3 ท่านได้บริจาคพื้นที่บริเวณบ้านท่านและที่ใกล้เคียงและทุนทรัพย์ก่อสร้างวัดนี้ขึ้นมาและได้ถวายวัดนี้ให้แด่ สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 และเมื่อได้รับมอบแล้วรัชกาลที่ 3และเพื่อเป็นอนุสรณ์ยืนยันถึงน้ำพระทัยของพระองค์ที่ทรงมีต่อเจ้าพระยานิกรบดินทร์ซึ่งทรงถือว่าเป็นมิตรที่ดีคนหนึ่งของพระองค์ว่า “วัดกัลยาณมิตร” และยกฐานเป็นพระอารมหลวงชั้นโท มีชื่อทางการว่า วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร











บรรยากาศโดยรอบของวัดมีวิหารสองหลังและพระอุโบสถหนึ่งหลัง

ซึ่งบริเวณที่ตั้งวัดแห่งชาวบ้านทั่วไปคนจะเรียกว่า ชุมชนกุฎีจีน ซึ่งบริเวณแถวนั้นเป็นชุมชนจีน ไทย โปรตุเกส อยู่รวมกันซึ่งเวลาเรานั่งเรือข้ามฟากไปจะเห็นเป็นภาพศาสนาสถานของสามชนชาติตั้งเรียงกัน จากทางขวามือวัดกัลยา ถัดไปศาลเจ้าแม่กวนอิมเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพ โบสถ์ซางตาครูส ซึ่งวัดกัลยาอยู่ทางด้านขวามือจะอยู่ใกล้กับป้อมวิไยประสิทธิ์หรือป้อมพระยาพิชัยเยนทร์ซึ่งสร้างขึ้นสมัย สมเด็จพระนารายณ์ ในสมัยอยุธยาเพื่อป้องกันการรุกรานของต่างชาติและเป็นเหตุหนึ่งที่สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเลือกฝั่งธนบุรีเพราะมีป้อมขนาดใหญ่อยู่แล้วและพระราชวังเดิมของพระองค์ก็อยู่ติดป้อมแห่งนี้ และชุมชนกุฏีแดงมีชื่อเสียงอีกอย่างที่เราน่าจะคุ้นเคยกัน คือ ขนมฝรั่งกุฏีจีน ซึ่งเป็นคัพเค้กโบราณกรอบนอกนุ่มใน มีผลไม้แห้งโรยประดับหน้าอร่อยแบบโปรตุเกส และยังมีอาหารโบราณโปรตุเกสด้วยซึ่งอาหารหลายอย่างก็หน้าตาคล้ายอาหารไทย เรียกว่าเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมที่กลมกลืน ใครไปก็ลองไปเดินเล่นละแวกนั้นดูนะครับเผื่อเจออะไรอ่รอยมาแนะนำกันบ้าง





บรรยากาศโดยรอบเวลานั่งเรือจะเห็นโบสถ์วัดซังตาครูสและป้อมพระยาวิชัยเยนทร์

เมื่อได้รับมอบวัดนี้แล้วรัชกาลที่ 3 ท่านทรงสร้างพระวิหารหลวงพ่อโต ขึ้นมาตามแบบอย่างวัดหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิงเพื่อเป็นพระโต ประจำเมืองเหมือนดั่งเช่นอยุธยา ซึ่งช่วบ้านบางคนเรียกว่าหลวงพ่อโตซำปอกงเช่นเดียวกัน ซึ่งพระวิหารหลวงพ่อโตจะอยู่ตรงกลางระหว่างโบสถ์และวิหารเล็ก และเมื่อสร้างเสร็จทรงพระราชทานพระนามว่า พระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่ชาวบ้านร้านตลาดเรียกท่านว่า หลวงพ่อโต หลวงพ่อซำปอกง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แบบเชียงแสน หน้าตักกว้าง 5 วา 3 ศอก มีความสูง 7 วา 2 ศอก กับอีก 10 นิ้ว ซึ่งท่านทรงเสด็จมาเป็นองค์ประธานในการก่อสร้างด้วยในวันปี พ.ศ.2380





หลวงพ่อโต หรือหลวงพ่อซำปอกง มีพระพักต์อิ่มเอิบ รอยยิ้มแห่งความเป็นมิตรอบอุ่นทุกครั้งที่ได้ไปไหว้ท่าน



บรรยากาศโดยรอบหน้าพระวิหารหลวงพ่อโต













ลวดลายดอกไม้ตามเสาและฝาผนังในวิหารหลวงพ่อโต



ลวดลายรดน้ำแบบไทยผสมจีนบนบานประตูขนาดใหญ่ทางเข้าออกวิหารหลวงพ่อโต

ส่วนพระอุโบสถนั้นรัชกาลที่ 3 ท่านทรงสร้างพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ (ป่าเลไลย์) ซึ่งถือว่าเป็นวัดเดียวในกรุงเทพที่มีพระประธานเป็นปางนี้ ภายในโบสถ์มีของสวยงามที่อยากนำเสนอคือ ภาพเขียนจิตรกรรมสมัยรัชกาลที่ 3 ฝีมือน่าจะช่างหลวงเพราะวาดออกมาได้ลายเส้นสวยงาม เป็นการเล่าเรื่องการใช้ชีวิตของคนในสมัยนั้น มีรูปพ่อค้า คหบดีจีน รูปฝรั่ง แขกบรรยากาศน่าจะเป็นย่านกุฏีจีนแห่งนี้ มีภาพแสดงชีวิตชาวบ้านริมคลองด้วย เวลามองทำให้ผมจินตนาการสภาพกรุงเทพเมื่อเกือบ 200 ปีที่แล้วออกเลย ส่วนด้านหลังพระประธานเป็นพุทธประวัติครับ ปัจจุบันค่อนข้างเสียมากไปเมื่อปีใหม่(2555) ชำรุดมากกว่าปีที่แล้ว(2554) ร่อนออกไปเยอะครับน่าเสียดายที่ภาพเขียนเสียหายเยอะพอควร แต่ถ้ามีการซ่อมแซมก็ไม่อยากให้วาดทับใหม่เพราะเสียของเปล่าๆ กลัวเจอช่างฝีมือไม่ดี เหมือนอย่างที่เคยเห็นจากบางที่ซึ่งผ่านการซ่อมแซมมา









พระอุโบสถในมุมองต่างๆ บางส่วนของเพดาน และหน้าต่างประตูกำลังอยู่ในการซ่อมแซมลวดลายรดน้ำ และเขียนลายเพดานใหม่













พระอุโบสถนั้นรัชกาลที่ 3 ท่านทรงสร้างพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ (ป่าเลไลย์)

















สภาพของภาพจิตรกรรมฝาผนังและบานหน้าต่างในพระอุโบสถ ซึ่งมีความเสียหายมากพอสอมควร แต่ไม่อยากให้วาดทับใหม่ลงไปเพราะมันอาจไม่สวยงามดังเดิม

น่าจะเป็นการหาน้ำยามาเคลือบแบบในต่างประเทศ เพราะน่าจะเป็นการอนุรักษณ์ที่ดีที่สุด ในความคิดผมนะผมชอบของเก่าแนวไม่ต่อเติมจนเสียคุณค่า ผมสังเกตุว่าเริ่มมีการซ่อมแซมภายนอกแล้วเพราะมีการลงรักสีดำว้าตามปานประตูโบสถ์และหน้าต่าง คงรอให้แห้งสนิทแล้วเขียนลายกระมัง ส่วนในวิหารหลวงพ่อโต นั้นเป็นการเขียนลายดอกไม้ น่าจะมีการซ่อมแซมใหม่เพราะบางส่วนลายเส้นเหลื่อมกันสียังดูไม่เก่ามาก ส่วนในวิหารเล็กซ่อมแซมแล้วเพราะทั้งด้านในและนอกสดสวย ภายในภาพเขียนพุทธประวัติ พุทธชาดกชูชก น่าจะเขียนซ่อมแซมใหม่นะครับเพราะสีสดดูใหม่















ด้านหน้าวิหารหลวงพ่อโตจะมีเดีย์หินออ่นอยู่ ด้านหลังของพระอุโบสถมีเจดีย์เหลี่ยมพร้อมกับฐานทักษิณ ฝีมือช่างจากเมืองจีน โดยช่างในเมืองไทยสมัยรัชกาลที่ ๓ ส่งแบบและขนาดให้ช่างเมืองจีนหล่อศิลาเทียมแล้วเอาเข้ามาประกอบในเมืองไทย และมีหอระฆังที่ใบใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและด้านบนประดิษฐานส่วนด้านบนประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ด้านข้าง ศาลาการเปรียญ ด้านตะวันตกเฉียงเหนือ มีพระเจดีย์ประดับหินอ่อน สร้างขึ้นโดยเจ้าพระยารัตนบดินทร์ (รอด กัลยาณมิตร) เมื่อครั้งยังเป็นพระยาราชวรานุกูล เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๗ โดยท่านได้นำอัฐิของเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ผู้เป็นบิดา มาบรรจุไว้

เจดีย์หินสลักลายทั้งสององค์จะอยู่ด้านหลังวิหารหลวงพ่อโต







และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง “หอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติ” ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๘ แทนหอไตรหลังเดิม เพื่อเป็นที่เก็บพระไตรปิฎกและคัมภีร์ต่างๆ เป็นอาคารสองชั้นก่ออิฐถือปูน มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศใน พระบรมราชมาตามหัยยิกา กรมพระศรีสุดารักษ์ ผู้เป็นพระเชษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และ พระบรมราชมาตามหัยยิกาธิบดี ผู้ซึ่งแต่เดิมเคยประทับในบริเวณวัดกัลยาณมิตรมาก่อน และเพื่อประกอบพระราชกุศลตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมเชษฐาธิราช กับทั้งเป็นการปูนบำเหน็จเชิดชูเกียรติของเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ด้วย

ซุ้มเสมาสลักหินลวดลายแบบจีนและฝรั่งผสมกันภายในบรรจุใบเสมาสลักแบบสิลปะไทย











ภายในวัดยังมีเก๋งจีนอยู่ทางด้านโบสถ์ด้วย และเสาสลักหินแบบศิลปะจีน



ส่วนการไหว้>> ที่นี่จะต้องจุดธูปภายนอกด้านหน้าวิหารโดยจะจุดเทียนแดงแบบจีน และธูปหนึ่งกำไหว้หลวงพ่อโตแล้วนำธูปไปเสียบตามจุดต่างๆ คล้ายๆแบบธรรมเนียมจีน ซึ่งการขอพรก็สุดแล้วแต่ว่าใครอยากจะขออะไรได้ไม่ได้ตามที่ขอขึ้นอยู่กับตัวเราด้วยว่าอยู่ในศีลในธรรมรึเปล่า เป็นอย่างไรบ้างครับถ้าอยู่บ้านว่างๆก็มาไหว้พระนั่งสมาธิในโบสถ์ดีกว่าสบายใจกว่าเยอะ ครั้งหน้าจะพาไปไหว้พระที่ไหนติดตามกันนะครับสวัดีครับ




Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2555 16:37:32 น.
Counter : 10949 Pageviews.

2 comments
  

โดย: Kavanich96 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:5:21:10 น.
  
แก้ไขข้อมูลนิดหนึ่งครับ พระประธานปางป่าเลย์ไลย์ที่กรุงเทพมีอีกองค์ครับ ที่วัดบางขุนเทียนใน กรุงเทพครับ ขอบคุณ คุณผนังเก่า เล่าเรื่องที่แนะนำข้อมูลครับ
โดย: DJ.piggypop วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:06:01 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

DJ.piggypop
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กุมภาพันธ์ 2555

 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
 
 
All Blog