... Have a nice day...

ครบหนึ่งปีที่ไม่มีคุณแม่

ค่ำๆวันที่ ๓๐ ตุลาคม เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว เราสามคนพี่น้องขับรถไปรพ.ตามปกติ เพื่อไปเยี่ยมคุณแม่ที่เข้าป่วยในไอซียู ถึงแม้เราต่างก็รู้ดีว่า การที่คุณแม่ต้องอยู่ในสภาพนี้เป็นสิ่งที่คุณแม่เคยบอกลูกๆไว้ ว่า แม่ไม่ต้องการ แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ใครจะตัดใจได้ ถึงแม้จะเพียงเศษเสี้ยวของความหวัง แต่มันก็ยังไม่ใช่ศูนย์มิใช่หรือ

แต่..เมื่อเราย่างเท้าเข้าไปในห้อง มองไปที่เครื่องมือ ตัวเลขมันบอกชัดมาก...ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้วหรือ สบตากับคุณพ่อ เรารู้สึกบอกไม่ถูกเลย ท่านทำให้เรารู้สึกว่าคู่ชีวิตที่ต่างก็ช่วยกันประคับประคองอยู่มาด้วยกัน สายใยของความรัก ผูกพัน ไม่อาจจะหาคำมาบรรยายได้ ความร้าวรานลึกในใจสะท้อนออกมทางดวงตา และคงไม่ต่างจากของลูกๆทุกๆคน

คุณพยาบาลแจ้งว่า รอแต่เวลาเท่านั้น ซึ่งก็คาดไม่ได้ เมื่อหมดเวลาเยี่ยม พี่ชายขอให้เปิดเทปเจริญสมาธิให้คุณแม่ฟังเบาๆ กราบลา บอกคุณแม่จากหัวใจของลูก แม่ขาแม่อย่าห่วง กังวลอะไรเลยนะคะ หลับให้สบายเถอะนะคะ หนูรักแม่ค่ะ

กลับมาถึงบ้านห้าทุ่มเศษๆ เราทำได้เพียงนั่งสวดมนต์ในห้องพระ เที่ยงคืนนิดๆ เรารู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีสายลมแผ่วๆมาไล้ตามศรีษะ ละม้ายคล้ายเวลาคุณแม่ลูบศรีษะเรานัก

และ...เสียงโทรศัพท์ของคุณพ่อที่ดังขึ้นนั้น ดุจเสียงที่กระชากเอาหัวใจของเราไปเลย คุณพ่อไปกับพี่ก่อน เราจัดแจงปิดบ้าน ขับรถออกไปอย่างเร็ว ขับเร็วอย่างที่เราไม่ค่อยได้ขับ ใจเราน่ะล่วงไปไกลแล้ว จอดรถเสร็จ แทบจะวิ่งเข้าโรงพยาบาล คุณพ่อกับพี่ชายยืนอยู่ที่นั่น ..และคุณแม่ได้จากเราไปแล้ว

จากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็ครบหนึ่งปีแล้ว ช่วงแรกๆเราแทบจะตั้งสติไม่ค่อยได้ ขอลาพักงานยาวเท่าที่จะหาวันเอามาพักได้ ขับรถไปบางทีก็เหม่อ นึกถึงท่านขึ้นมาก็น้ำตาไหลค่ะ รถจะชนไปไม่รู้กี่ครั้ง

คุณป้าบอกว่า เสื้อผ้าของใช้ของคุณแม่ก็บริจาคไปซะเถอะ ยังเป็นประโยชน์ แต่จนบัดนี้เราก็ทำไมได้ ห้องของท่านยังคงสภาพเดิมทุกประการ ทุกครั้งที่เข้าไปทำความสะอาด เราก็ร้องไห้ได้ทุกที

การที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว(เป็นส่วนใหญ่) กับบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำกับคุณแม่ ช่างทั้งสุขและเศร้าไปด้วยกันเลย ไม่มีใครคอยทักแล้ว ทานข้าวหรือยัง เดี๋ยวก็โรคกระเพาะกำเริบนะจ๊ะ ( ตอนนี้ปวดเป็นว่าเล่น) นี่มะละกอ มะม่วง ข้าวโพด แม่ปอกไว้ให้แล้วนะ (ตอนนี้มีแต่ทิ้งเสียคาตู้เย็น) ในยามที่เราจะออกจากบ้าน คุณแม่จะบอกเสมอว่า ขับรถดีๆนะจ๊ะ เดินทางปลอดภัย ตอนนี้เราได้แต่ล็อคบ้านแล้วยืนนิ่ง เหมือนรอคอย อยากเห็นคุณแม่ออกมาโบกมือบ๊าย บาย ให้เหลือเกิน ยามอยู่ดึกก็ไม่มีเสียงใครมาทักอีกแล้ว ยังไม่นอนอีกหรือจ๊ะ บางทีก็มีเผียะเล็กๆแถมให้ ฐานที่นอนดึกเกินไป ตอนนี้นอนตีหนึ่ง ตีสองไปทุกวันแล้ว ฯลฯ ...

คิดถึงทุกเวลาที่มีแม่อยู่ข้างๆเสมอ คำพูดสุดท้ายที่แม่บอกเรา ก็คือ ถ้าแม่เป็นอะไรไป ลูกๆไม่ต้องเสียใจนะ พวกหนูทุกคนดูแลแม่เป็นอย่างดีแล้ว เป็นเด็กดีของแม่ทุกคนด้วย

ชีวิตเราก็ยังคงก้าวต่อไป บางวันสุข บางวันเศร้า แต่ในทุกๆวันที่ผ่านไป... คิดถึงคุณแม่เหลือเกิน




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2553
0 comments
Last Update : 31 ตุลาคม 2553 23:50:00 น.
Counter : 848 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


pichayaratana
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




Pichayaratna's bookshelf

เสราดารัล เล่ม1-2
หญ้าแพรก ดอกมะเขือ และเรือน้อย
เจ้าบ้านเจ้าเรือน
นาคราช
แต่ปางก่อน
ตามลมปลิว
ฝากรักเคียงใจ
บัลลังก์รัก
Little Women
The Little House Collection
เรือนมยุรา
เจ้าชาย
มณีร้าว
วินธัย
กุสาวดี แผ่นดินนี้ยังมีรัก
มหารานี
รอยอินทร์
ตราบแผ่นดินกลบหน้า
โสมส่องแสง
คู่กรรม


Pichayaratna's favorite books

2014 Reading Challenge

2014 Reading Challenge
Pichayaratna has read 4 books toward her goal of 50 books.
hide

2015 Reading Challenge

2015 Reading Challenge
Pichayaratna has read 5 books toward her goal of 52 books.
hide

2016 Reading Challenge

2016 Reading Challenge
Pichayaratna has read 0 books toward her goal of 52 books.
hide
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
31 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add pichayaratana's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.