Bloggang.com : photch : เมื่อฝนซา...ก็ได้เวลาไปทะเลกันแร้ว

เมื่อฝนซา...ก็ได้เวลาไปทะเลกันแร้ว

หายหัวไปหลายวัน...ไปกระบี่มาค่ะ

อุตส่าห์นั่งรถจนตูดเป็นเหน็บ จากสายใต้ใหม่ที่สุด (ไปเดินงงๆ อยู่ในนั้นตั้งนาน แต่ที่ศูนย์อาหารโอเคค่ะ..ร้านเยอะ..ของกินเพียบ)

นั่งรถไปแค่ 11 ชั่วโมงเท่านั้นเอง...เฮ้อ ราวกับเป็นปี

ไปถึงเช็คอินยังไม่เรียบร้อยดี (เพราะเพิ่ง 7 โมงเช้า)

เราก็พากันไปกินติ๋มซำกันซะหมดไปหลายๆๆๆ เข่งอย่างนี้แหละค่ะ

ลืมบอกไปว่าพักกันในเมืองกระบี่ ไม่ได้พักที่หาด โรงแรมชื่อ เดอะกรีนเนอรี่ ค่ะ เหตุผลสำคัญก็คือ ราคามันต่างกันมากๆ เลยนี่ดิ ไหนพวกเราจะต้องจ่ายค่าอาหารสำหรับ 10 กระเพาะ (แต่ไป 5 คน) กันอีก

วันแรกของการท่องเที่ยว พวกเราซื้อ package tour 4 เกาะและทะเลแหวก แบบเต็มวัน

เสียดายที่ไม่ได้ไปช่วงขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งน้ำทะเลจะลดจนเห็นสันทรายเชื่อมระหว่างเกาะ 3 เกาะ คือ เกาะทับ เกาะไก่ และเกาะหม้อ

เราเลยต้องเดินไปตามสันทรายที่น้ำท่วมระดับเข่ากันแทน

หลังจากนั้นก็ไปดำน้ำกันที่เกาะสี่ แต่เท่าที่ไปดำน้ำมายังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ รู้สึกว่าปะการังไม่ค่อยมี (เหมือนที่ในข่าวเค้าว่ามันหายไปหรือป่าวหว่า) และปลาก็มีไม่กี่ชนิด

เพื่อนคนหนึ่งของเรายังโดนน้ำพัดไปติดที่หัวเรือ ต้องให้น้องคนเรือโยนเชือกไปช่วยชีวิตอีกต่างหาก 555

หลังจากนั้นไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าเด็กๆ คนเรือดูจะเพ่งเล็งทีมเราเป็นพิเศษ ว่าลุงๆ ป้าๆ พวกนี้จะประสบภัยอะไรกันบ้าง เพราะมีโยนเชือกไปให้อีกรอบ (อีกคน) แล้วก็ตกบันไดเรือกันอีกคนจนได้แผล

ดำน้ำเสร็จพวกเราก็ไปพักกินข้าวกันที่เกาะปอดะ แต่ว่า..โอ้ แม่เจ้า นี่มันเป็นอาณานิคมของประเทศตะวันตกหรืออย่างไร

มีแต่ฝรั่งในชุดบิกินี่ เต็มไปหมด (จริงๆ แล้วชอบดูนะเนี่ย) คนไทยมีน้อยยิ่งกว่าน้อย

โชคดีที่แดดจัดทำให้ได้วิวสวย น้ำทะเลใส ถ่ายรูปออกมาได้ดีเชียวแหละ (ถ้าตัดคนออก...ฮี่)

บ่ายเราไปต่อกันที่หาดพระนาง หาดไร่เลย์ หมดไปวันนึงอย่างสบายๆ แล้วก็กลับมาเดินตลาดโต้รุ่งในเมือง กินข้าว กินโรตี (อ้วนอีกละ)

อีก 2 วันที่เหลือ พวกเราใช้วิธีเช่ารถตู้ พาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ในกระบี่

อย่างคลองสองน้ำ (1 ใน unseen) ที่โชคไม่ดีไปตอนที่น้ำลง (ช่วงเช้า) เลยไม่ได้พายคายักในคลอง

ไปต่อกันที่สระโบกขรณี ถ้าใครไปช่วงนั้นก็จะเจอตัวกินนอน 5 ตัวอยู่ข้างสระเหมือนในรูปนี่แหละ

ได้กินหอยชักตีน อาหารเฉพาะท้องถิ่น และอาหารทะเลอื่นๆ จนอิ่มท้อง และอารมณ์ดีแล้ว โปรแกรมที่จะไปน้ำตกห้วยโต้ตอนบ่าย เลยเปลี่ยนเป็นพายคายักที่ท่าเลนแทน บรรยากาศดีสุดๆ

แต่พายไป 3 ชั่วโมง แขนก็แทบยกไม่ขึ้น จะกลับก็กลับไม่ได้เพราะต้องพายจนครบรอบ....เฮ่อ

เช้าวันกลับ ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหารย์ ไม่มีเจ็บมีปวดซักนิด ทุกคนก็ดูสบายกันดี มาแบ่งพวกกันตอนที่จะขึ้นบันได 1,237 ขั้น ของวัดถ้ำเสือกันนี่แหละ คนส่วนน้อย (2 คน) ก็เดินขึ้นกันไป ส่วนอีก 3 คน (รวมเราด้วย) กินขนมกันอย่างเพลิดเพลินรออยู่เบื้องล่าง