อัพบล๊อกอีกแล้ว (ไหงบอกว่ายุ่งไง) ... ก็มันยังไม่ค่อยจะยุ่งมาก เลยเอาอีกซักหน่อย
(รอให้ไฟลนก้นก่อน ... เอ๊ะ มัน ลน หรือ รน?)

แต่ต่อให้ยุ่งแค่ไหน เรื่องกินเนี่ย เรื่องใหญ่ ... ของถูกปาก สดๆ คุณภาพดีๆ แค่นี้ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว

วันเสาร์ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำอะไรมาก ไปซื้อของเข้าบ้าน พวกทิชชู่ สบู่ น้ำยาซักผ้า (เพราะมันมีแต้มพิเศษ) เคยมั๊ย ซื้อทิชชู่ $30 ...เหอะๆๆ ... ซื้อทีก็เต็มห้องเก็บของเลย

ขากลับซื้อ all purpose flour จะมาทำของกินหน่อย (อยากทำมาหลายวันแล้ว แต่ก็ผลัดวันประกันพรุ่งมาหลายครั้งแล้ว)

สาเหตุก็คือ Ah Chen ในบล๊อก ลี่จัง(•ิ_•ิ)

นั่งดูอาเชนทำ dumpling แล้วก็นึกอยากกิน (ว่าแต่ Chen เนี่ย อาเฉิน หรือ อาเช็น นะ ... เราก็ไม่เคยจำซักที ... เราขอเรียกอาเชนละกัน)

ปกติก็ทำกินอยู่ แต่ว่าซื้อแป้งแช่แข็งที่เค้าทำเป็นแผ่นๆ มาแล้ว ต้มบ้าง ทอดกะทะบ้าง แล้วแต่อารมณ์ ... ไม่เคยทำแป้งเองซักที (และก็ไม่เคยใส่ใจที่จะทำแป้งเอง เพราะคิดว่ามันยุ่งยาก) ... แต่พอดูอาเชนทำแล้ว เออ มันก็ไม่เห็นยากนิ ... ไม่ต้องใช้อะไรเลย แค่แป้ง กับ น้ำ นวดก็ง่ายๆ ... น่าลอง ... เมื่อวานก็เลยได้ฤกษ์ทำซะเลย

Gyaoza or Dumpling? ... โพเทโท่ โพทาโท่

พวกเครื่องปรุง เราไม่ได้ทำตามสูตรอาเชนทั้งหมด เพราะไม่ได้เตรียมซื้อของเลย ... เตรียมแต่แป้ง T_T ... เราเอาแป้งมานวดๆ กับน้ำ ไม่ได้ใส่เกลือด้วย เพราะขี้เกียจ (ขนาดใส่เกลือยังขี้เกียจได้อีก) ... นวดแบบชุ่่ยๆ อย่าที่ลี่จังบอกไว้ แล้วก็เอาพลาสติกห่อไว้ 10 นาที (จริงๆ มากกว่านั้นนิดหน่อย เพราะเตรียมไส้ไม่เสร็จซักที)

พอแป้งได้ที่ ... เราก็เอามานวดๆ อีกที ให้มันเนียนๆ ... จากนั้นก็เตรียมทำเป็นแผ่น ... เตรียมแป้งไม่ให้มันติดเขียง



จริงๆ เราไม่รู้อาเชนกะลี่จังทำยังไง ... เห็นปั้นเป็นก้อนๆ ... เราเอามือมากดๆ ทำเป็นแผ่นๆ มันไม่ยอมเป็น (มัน gummy มากๆ เลย) ... ก็เลยต้องใช้ขวดโหลที่มีกลึงให้เป็นแผ่น (ทีละแผ่น) ... อย่างเหนื่อย!

กลึงๆ เข้าไป จนได้แผ่นบางที่สุดเท่าที่จะทำได้



ออกมาเราได้แค่นี้เอง ... มันไม่บางแบบที่ซื้อแช่แข็งมา ... แต่ก็ไม่เลวเท่าไหร่

นี่คือหน้าตาของไส้ที่เตรียมไว้

ส่วนผสม หมู มันหมูแข็งนิดหน่อย กุ้ง เอามาสับรวมกัน จากนั้นก็ใส่เครื่องอะไรเท่าไหร่ จำไม่ค่อยได้ เพราะเราใส่มั่วๆ ... จำได้ว่าใส่

พริกไทยดำ เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ... หมุนๆ มันสี่ห้าแครก
(ต้องเป็นพริกไทยดำบดสดๆ ถึงจะหอมนะ เราว่า)
ใส่เกลือนิดหน่อย
ซีอิ๊วขาว
น้ำมันงา
ใส่แม็กกี้นิดนึงมั๊ง

น่าจะเท่านี้นะ จำไม่ได้แล้ว (ไม่แน่ใจว่าใส่ซีิอิ๊วดำด้วยรึเปล่า) ... เราไม่มีต้นหอม เลยไม่ได้ใส่ ... ผักชีก็ไม่ได้ใส่

จากนั้นก็เอาเครื่องบดหมูบดๆๆๆๆ ให้มันเข้ากัน เอาช้อนคนให้เข้ากันด้วย

ออกมาก็ประมาณนี้



ในสูตรต้องใส่ไข่ด้วย ... แต่เราลืม ... แต่ออกมาอร่อยอ่ะ

จากนั้นก็เอาใส้ใส่ลงไปในแป้ง



ใส่เข้าไป



จากนั้นก็ห่อมั่วๆ ไป ... จริงๆ เคยทำกับเพื่อนคนจีน หลายครั้ง (เคยทำแบบจีนเซี่ยงไฮ้ ต้าหลี่ แล้วก็จีนตอนกลาง รสชาติไม่ค่อยเหมือนกันนัก) ... แต่ก็จำไม่ได้แล้วว่าเค้าห่อกันแบบไหนบ้าง ... เราว่าห่อแบบไหน เข้าปากก็คล้ายๆ กัน

เราก็ห่อไป ทำแป้งไปทีละแผ่น



กว่าจะเสร็จ แค่นี้นี่ เหนื่อยมาก

วันนี้จะทำแบบเกี๊ยวซ่า (เค้าเรียกแบบนี้รึเปล่า)

เอาน้ำมันใส่กะทะ พอกะทะร้อนๆ หรี่ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ... เอาเกี๊ยวลงไปตั้ง เอาก้นจ้ำบะลงไปแบบในรูป



แล้วก็ปิดฝาไว้ (ระวังอย่าให้ไฟแรงเกิน มันจะไหม้ซะก่อนที่จะกรอบสุก)



จริงๆ ต้องตั้งให้ร้อนก่อน แล้วก็ค่อยเอาลง จะได้เกี๊ยวที่กรอบล่างมากๆ แต่กะทะแรกเราไม่ได้รอให้มันร้อนพอ มันเลยไม่ค่อยกรอบเท่าไหร่

พอก้นมันเหลืองกรอบดีแล้ว ... ทีนี้ เร่งไฟให้แรงขึ้นนิดหน่อย (แต่ก็ยังกลางๆ อยู่) ... เอาน้ำเปล่าใส่ลงไปให้มันท่วมก้นเกี๊ยว แล้วรีบปิดฝาให้สนิท ... น้ำมันจะเดือดในทันที่ที่ใส่น้ำลงไป ... แล้วไอน้ำก็จะเป็นการนึ่งเกี๊ยวในส่วนที่ไม่แช่อยู่ในน้ำด้วย

ตั้งไปจนน้ำแห้ง แล้วน้ำมันที่เหลือนิดหน่อย มันก็จะไปทำให้ส่วนล่างกรอบขึ้นอีกนิดหน่อย ... ออกมาก็จะสุกพอดี (แต่ถ้าใครใส่น้ำน้อยเกิน จะใส่น้ำรอบสองอีกนิดหน่อย แล้วปิดฝาต่อไปอีกนิดก็ไม่เสียหาย)

พอน้ำมันแห้ง ก็เช็คดูว่าก้นมันเหลือง กรอบดีมั๊ย



ในรูปเป็นชุดแรก มันดูด้านๆ ไปนิด (กินตอนร้อนๆ ก็ดี แต่ถ้าทิ้งไว้ให้เย็น มันจะด้านๆ นิดนึง)



แต่ชุดสองที่ทำ จะดูพัฟฟี่กว่านี้ (แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้) และก็กรอบอร่อยกว่าชุดแรกเยอะเลย ทิ้งไว้นานก็ไม่ด้านด้วย ยังกรอบดี

เสร็จแล้วก็ตักใส่จาน



ทำน้ำจิ้ม ... ก็คล้ายๆ กับสูตรอาเชน (รึเปล่า) แต่ไม่มีจิ๊กโฉ่ (มันจะเหมือนมั๊ยเนี่ย)

เราใช้ซีอิ๊วดำหวาน ... ผสมกับน้ำส้มสายชูธรรมดานี่แหล่ะ ... แล้วใส่ซีอิ๊วขาวนิดนึงให้ตัดเค็ม ... จะออกเปรี้ยวนำ แล้วก็หวานเค็มพอๆ กัน ... จากนั้นก็ตำกระเทียมใส่ไปสองกลีบ ... ใส่น้ำมันงา และผักชี (เราเป็นโรคติดผักชี) ... ออกมาก็คล้ายๆ น้ำจิ้มขนมจีบนะ เราว่า

เสร็จเรียบร้อย ... ซักคำมั๊ย?



ออกมาแล้ว ต้องบอกว่า อร่อยเกินคาด!

สาเหตุสำคัญคือ ตัวแป้ง เราว่า มันอร่อยกว่าแป้งแช่งแข็งมากๆ เลย (เทียบกันไม่ได้เลย) ... คงเพราะแป้งมันสดและนิ่มมาก เวลาทอด แล้วก้นมันกรอบๆ แล้วตัวด้านบนมันจะนิ่มๆ เกือบจะละลายในปาก เหนียวๆ หยุ่นๆ กำลังดี

ส่วนใส้เนี่ย ... อย่างตะลึง ... ออกมาได้เด็ดมากๆ เลย ... มันเหนียวนุ่ม หอมกุ้ง และพริกไทยดำ น้ำมันงา ... อร่อยเชียว

วันนี้มีเจ้า Valpolicella 2006 แกล้มด้วย ... ไม่ได้ดื่มเจ้านี้มาเป็นเดือนแระ (ดื่มแต่ French Rabbit) ... เมื่อวานคิดถึงเจ้านี้จัด เลยเอาซะหน่อย ... จริงๆ ก่อนจะมาเจอเจ้า French Rabbit เจ้าตัวนี้เป็นไวน์โปรดของเรามาตลอด

เจ้านี่รสชาติแนว Italian wine คือ ไม่หวาน ออกเปรี้ยว ตัวนี้จะจี๊ดมาก แต่ไม่ฝืดคอ ติดขมนิดนึง (นิดเดียวจริงๆ) ไม่มีกลิ่น fruity มาก ... ล้างปากได้ดีมากๆ ... อร่อยอ่ะ ... ดื่มง่าย

เกี๊ยวซ่า กับ ไวน์ ... ก็อร่อย (อะไรกินกับไวน์ ก็อร่อยหมด 555)