Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
24 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
Heidelberg and Frankfurt


จะเขียนทริปตอนไปเที่ยวยุโรป ไม่เสร็จซักที ก็ทำให้เสร็จๆ ซะเลย เป็นช่วงสุดท้ายของทริปแล้ว

รูปเยอะหน่อย ^^" และแต่ละรูป อย่างเหียกเลย เสื้อเน่าๆ เดิมๆ ผมเน่าๆ กระเซิงๆ ^____^

เท้าความนิดหน่อย

เป็น trip แบบ rock bottom budget เลยหล่ะ ... จัดเองหมดทุกอย่าง

เริ่มต้นที่ Canada ไป Frankfurt แล้วก็ไปนอน Munich 3 คืน ไปเที่ยว Fussen

อาหารหลักของเราคือ bratwurst และ pretzel (อร่อยที่สุดที่เราเคยกินมาเลย)



และไอติม ... กินมันทุกวัน






แล้วก็ต่อไปนอนที่ Vienna

นี่คือสภาพหลังจาก ที่เดิน เดิน เดิน มา 5 วันเต็มๆ ... ต้องนวดตัวทุกวันก่อนนอน



จาก Vienna ก็แวะไป Venice



และต่อไป Rome ไปนอนที่ Rome 5 วัน ช่วงนีกิน pizza แมร่งทุกวัน ... เพราะมันอร่อยสุดยอด



เห็นเข็มขัดสีชมพูเรามั๊ย ... เราซื้อแบบที่มันเป็นผ้ามา แบบเข็มขัดทหารอ่ะ แล้วเอา zipper มาเย็บข้างใน ... แล้วก็เอาเงินพับยาวๆ พวกแบงค์ 500 พับใส่ไว้ รอบตัวเลย ... 555 เพราะไปพักตาม hostel เค้าไม่เรับ credit card ซักเท่าไหร่ แล้วข้างในพุงยังมีอีกชั้น เป็นกระเป๋าใส่ passport ... ก็เอาคาดเอว แล้วก็ยัดไว้ตรงพุงใต้กางเกงอีกที

ได้นอนพักตีพุงที่ Rome วันนึง แบบไม่ทำไรเลย นอกจากกิน และเดินเตร็ดเตร่ ... จริงๆ ทีนี่ วางแผนนานไปหน่อยหน่อย น่าจะแบ่งเวลาไปให้ Florence กับ Vienna ให้นานกว่านี้



และก็ไป Florence (และ Pisa) อีก 3 วัน ชอบมากๆ ทั้ง Florence และ Pisa เลย ... ได้ปีน the leaning tower ด้วย



แล้วก็ไปนอน camp วิวสวยมาก ... มองจาก camp เห็นเมือง Florence ทั้งเมืองเลย



(ลอง click ดู ภาพใหญ่ดู ... เราถ่ายหลาย shots แล้วเอามภาพมาต่อๆ กัน ... ของจริงสวยกว่านี้เยอะเลย)

จากแคมป์ เดินไต่เขาลงไป ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงในเมืองแล้ว




จากนั้นก็ต่อไป Paris อีก ... ไปถึงแล้วป่วยเลย
แวะไปเที่ยว Versailles ด้วย แต่ไม่ชอบเลย เฉยๆ เราชอบ Vienna กับ Munich มากกว่า



เรานอนที่ Paris 5 คืน ช่วงนี้ก็กินไอติมมันทุกวันเช่นกัน
(ช่วงนั้นกำลังอ้วนเลย สังเกตุได้จากแขน ขนาดเท่าขาเห็นจะได้)



วันสุดท้ายแวะไปเที่ยวที่เมือง Blois (ไม่รู้เรายังไง ได้ยินเค้าออกเสียงกัน บร๊วกซ์ อะไรประมาณนี้) แวะไปดูปราสาท ทางตอนใต้ของปารีสก่อน (เช่าจักรยานปั่น หลงทางกันจนตัวดำเลย ... ปั่นจักรยานออกนอกเมือง ไปกลับน่าจะ 50 km เห็นจะได้นะ เราว่า ... แต่ท้ายสุดก็หาทางกลับกันจนได้ แต่ก็ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ชนบท ทุ่งองุ่น สวยมาก



จากเมือง Blois เรานั่งรถไฟกลับไป Paris ไปนั่งรถไฟกลับไป Frankfurt (เพื่อจะกลับ Canada) ... ขากลับก็วางแผนว่าจะแวะ Heidelberg นิดหน่อย เพราะเห็นว่าเมืองไม่ใหญ่มาก




เราตีตั๋วนอนเข้าไว้ล่วงหน้าแล้ว ... เป็นคูเชทละ 6 คน เตียงนอนมี 3 ชั้น เรานอนกันชั้นบน (คนละฝั่งกัน)



(จะสังเกตุเห็นว่า เราใส่ชุดเดิมตลอด ... ก๊าก ... จริงๆ มีเสื้อยืดเน่าๆ ไม่กี่ตัว ... เสื้อสีฟ้ามัน กันลม กันหนาว กันฝน กันแดด ได้ แล้วมันไม่หนักดี ... ใส่มันทุกวันเลย ... เสื้อผ้าก็อย่างเน่าเลย ... ซักมือไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่)

แต่เนื่องจากว่า เราสองคนหมดแรงข้าวต้มกันแล้ว ... ตะลอนๆ มา 3 อาทิตย์แล้ว ... แถมไปปั่นจักรยานมาอีก 50 km หมาดๆ ... กล้ามเนื้อปวดเมื่อย ระบมไปหมด ... แทบจะขยับแขนขาไม่ได้เลย

ตอนเข้าตู้นอน ... พนักงานก็มาเช็คตั๋ว แล้วก็เอา passport ไป (เพราะต้องข้ามประเทศ)

รถไฟจะไปถึง Heidelberg ประมาณตี 4 ... แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว (ตอนนั้น) ... เราสองคนตัดสินใจว่าจะไม่แวะ Heidelberg แล้ว ... ก็เตียงนอนอันนี้มันก็ไม่มีใครนอนอยู่แล้ว ... ตั๋วเราก็เป็นตัวแบบ 7 วัน ... แต่พนักงานไม่ยอม เค้าบอกว่า ถ้าไม่ใช่ตู้นอน เราจะลงตอนไหนก็ได้ แต่ถ้าเป็นตู้นอน เราจ่ายค่าตู้นอนถึงแค่ Heidelberg แล้วก็ไม่ได้จองเก้าอี้นั่งไว้ (มันเที่ยวกลางคืน) ... จำเป็นต้องลง ... เราก็เซ็งเลย ... ก็ได้วะ ... ลงก็ลง ... แน่จริงปลุกเราให้ตื่นนะเว้ย สภาพเราสองคนแบบร่อแร่เต็มที

พอตีสี มันมาเคาะประตู้ ปลุกใหญ่เลย เอา Passport มาคืน ... ตื่นก็ได้วะ ... เราก็งัวเงียๆ ตืน ปากเหม็นๆ ผมยุ่งๆ งั้นแหล่ะ




หลังจากโดนถีบลงรถไฟที่ Heidelberg เราสองคนก็ลากสังขารไปหาที่ฝาก backpacks ... backpacks ก็หนักโคตรๆ ... โชคดีที่มีที่ฝาก ... พอฝากเสร็จ ก็ไปหาห้องน้ำ ใส่คอนแทค แปรงฟัน อากาศเย็นๆ ... เสื้อกันฝนกันลมตัวเดียวที่เรามี (นังฟ้านี่แหล่ะ) ... อากาศยามเช้าเย็นๆ แต่ก็ไม่ได้หนาวอะไร ... เราก็นั่งแก่วอยู่ในสถานีรถไฟราวๆ ชั่วโมงนึง ... พอข้างนอกเริ่มสว่างๆ เราก็ออกเดินโต๋เต๋ ไปโน่นไปนี่ ... ก็เดินไปดูปราสาท และสะพานและแม่น้ำสวยๆ



เมือง Heidelberg มันเล็กๆ สะอาดสะอ้านดี




เดินเลาะแม่น้ำไป เห็นพวกตึกรามบ้านช่องอีกฝั่งนึงของแม่น้ำ ดูสวยมีเอกลักษณ์ดี






ส่วนอันนี้เป็นสะพานที่เค้าพูดถึงกัน



ก็สะพานเดิมนั่นแหล่ะ



ภาพนี้เป็นภาพบนสะพาน






เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปกันเท่าไหร่แล้ว เพราะสภาพเราสองคนแบบว่า เปื่อย และเหนื่อยที่สุดในชีวิตเลย

ส่วนนี้เป็นปราสาทเก่าแก่ที่เค้าพูดถึงกัน ... ก็เท่านี้แหล่ะ ก็ไม่ได้ไปไหนไกลไปกว่านี้



อ้อ รู้สึกว่าเรากินอาหารแถวนั้นด้วย อาหารเที่ยงมั๊ง จำไม่ได้แล้ว ... แล้วก็รอจับรถไฟไป Frankfurt




มาถึง Frankfurt เราสองคนหิวโซมากเลย แรงก็ไม่มี พอถึงเราก็แจ้นไปหาอะไรกินกัน ... ก็ในสถานีรถไฟนั่นแหล่ะ ... มันมี food court ด้วย อาหารน่ากินหลายอย่างเลย

ที่ Germany เนี่ย เราชอบอย่างนึง เราว่าอาหารทีนี่ไม่ค่อยแพง เหมือนที่ Italy หรือ France เลย ... อาหารก็ถูกปากเราว่าใครเพื่อน ... เรายังคุยกับแฟนเราเล่นๆ เลย ... เราย้ายจาก Canada ไปอยู่ Germany กันมั๊ย ... สงสัยถ้าย้ายไป เรากลายเป็นหมูแน่เลย

อันนี้จานที่เราซื้อมา ขาหมูทอดนั่นเอง ... อร่อยโค้ดๆ เลย ... คุ้นๆ ว่ามันแค่ 3 euros เอง (อาจะจำผิด) จำได้ว่ามันราคาถูกจนน่าตกใจ แล้วก็ซื้ออะไรมาอีกจำไม่ได้แล้ว พวก sandwish มั๊ง ไมได้ถ่ายรูปไว้ ^_^



พออิมหนำสำราญ เหมือนได้ชาร์ตแบ็ต ก็ต่อรถไฟ ไปในเมือง แล้วก็ต้องต่อรสบัสไปที่ hostel อีกที




ที่ hostel ที่เราไปพัก (ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว มันเป็นห้องนอนรวม เป็นเตียง 2 ชั้น ห้องนึงแบบนอนกัน 15 คนอะไรแบบนั้นเลย ... แล้วก็มีห้องน้ำรวมเหมือนหอเลย ... จริงๆ เราไม่ได้อยากจะนอนห้องรวม แต่ว่าเราหาที่พักที่ราคาถูกไม่ได้เลย ก็ขี้เกียจหาแล้วด้วย แล้วเราก็จะนอนกันแค่สองคืน ก็เลยตกลงพักที่นี่

ถึงแม้ว่าจะเป็นห้องรวม ห้องนอน เตียงนอนสะอาดสะอ้านมาก มีตู้เสื้อผ้าและกุญแจข้างๆ เตียงแต่ละคนให้ด้วย ... เราชอบเลยอ่ะ ... ถ้าครั้งหน้าไป Frankfurt อีก ก็คงจะไปพักที่นี่อีก ... อ้อ เค้ามีอาหารเช้าให้ด้วย เป็นบัฟเฟ่ มีไส้กรอก ไข่ ขนมปัง กาแฟ ดีเลยอ่ะ อร่อยด้วย ... อาหารอร่อย ห้องน้ำสะอาด เตียงสะอาด ระบบรักษาความปลอดภัยดีมาก
ราคา คุ้นๆ ว่า 30CAD ต่อคืนต่อคนเองมั๊ง ถูกอ่ะ หาที่สะอาดๆ อาหารเช้าดีๆ แบบนี้ ราคานี้ที่ไหนไม่ได้แน่ๆ




พอเช็คอินเสร็จเรียบร้อย เอาของเก็บ ... มันก็บ่ายแก่ๆ แล้ว ... เราก็ยังลากสังขารไปเดินเที่ยวในเมือง Frankfurt เดินเข้าห้างโน้น ออกห้างนี้ ก็ซื้อพวกชอคโกแล็ต และขนมแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นที่แคนาดา

รุปนี้ ถ้าจำไม่ผิด ก็เป็น Frankfurt นั่นแหล่ะมั๊ง ^^"



วันนั้นก็หมดไป ไม่ได้ทำอะไร ... กลับที hostel นอนหลับ ... คนร่วมห้องไม่เต็ม ... มีพวกคนมา conference กันเยอะแยะเลย (ถ้าใครไป conference บ่อยๆ จะพบว่า Frankfurt จะเป็นหนึ่งในเมืองที่คนนิยมมา conference กัน)

เราหลับกันสนิทเลย




ตื่นมา ก็ออกไปตะลอนๆ ในเมือง เป็นการพักผ่อน ก่อนที่จะต้องขึ้นเครื่องพรุ่งนี้เช้ากลับแคนาดา

วันนั้นก็หมดไปกับการเดินเล่นในเมือง Frankfurt ... แล้วก็กลับมานอนแต่หัวค่ำ เพราะต้องบินแต่เช้า (ต้องนั่งรสบัสไปต่อรถไฟ ไปสนามบิน)



ด้วยความที่เห็นแก่กิน ... จริงๆ ก็ดูตารางรถเรียบร้อยแล้ว ... ดันตกรถบัสคันที่คาดหมายไว้ว่าจะขึ้น (เพราะอาหารมันอร่อย จนหยุดไม่ได้) ... ก็เลยต้องรอคันต่อไป ... เราก็คิดในแง่ดี (เราเผื่อเวลาไว้แล้ว) ... พอไปถึงสถานีรถไฟ โชคดี มันมีรถไฟที่ไปสนามบินที่กำลังจะออกพอดี ... เราก็วิ่งขึ้นกันเกือบไม่ทัน

รู้สึกว่าไปถึงโน่นอีกราวๆ 50 นาทีเครื่องจะออก ... ก็กว่าจะผ่าน security ไป ... ก็ใช้เวลาพักนึง ... พอผ่านเข้าไป ... เห็น duty-free เลยซื้อโน่นซื้อนี่ ... ดันลืมว่า international flight มันต้อง board อย่างน้อยก็ 30 mins ก่อนเครื่องออก ... ลืมตัว ... ซื้อโน่นซื้อนี่เต็มไปหมด (ไม่ได้ใส่ใจเลยว่า gate มันอยู่ตรงไหน)

พอไปถึง มันอีก 10 นาทีเครื่องจะออก ... จ๊าก ... จริงๆ คือ มันหา gate ไม่เจอ ... พอไปถึง ... โคนด่าว่ามัวไปทำไรมา ... ทำหน้ายักษ์ใส่เรา บอกว่ามันประกาศชื่อเราตั้งหายหนทำไมไม่โผล่หัว ... แล้วมันก็พูดห้วนๆ You're not sitting together!

เซ็งเลย ... ต้องไปนั่งที่นั่งตรงกลาง (3 ที่นั่ง) ... เห้อ




พอมาถึงแคนาดา เครื่องมันดันลงที่ Quebec ช้าไปอีก ... กว่าจะผ่าน immigration ของ Canada ได้อีก ... ดีนะ มันให้เราลัดคิว เพราะเครืองเรามันกำลังจะออกแล้ว ... เพราะเรามาช้า เลยได้ที่นังหลังสุด ของลำเลย ... เซ็งโครต ... คงนึกออก ที่นั่งหลังสุดมันเอนไม่ได้ ... ต้องนั่งหลังตั้งฉาก 90 องศาเลย ... โตครเมื่อยเลย

มันไม่มี direct flight ไปเมืองที่เราอยู่ ต้องไปต่อที่ Toronto อีกที ... ไปถึง Toronto มีเวลาอีก 3 hrs กว่าเครื่องจะออก ... สังขารก็ไม่ได้ให้เลย เดินจะไม่ไหวกันอยู่แล้ว ... ก็ยังไม่วายก็ออกไปแรดๆ ในเมืองอีกนะ



ไปขึ้นหอคอยน่ะ (เพราะยังไม่เคยขึ้น) ขึ้นก็งั้นๆ (ก็แค่พื้นกระจก ... เค้าปูพรมไว้หมด ... เปิดช่องกระจกไว้นิดเดียวเอง) แพงด้วย ... สู้ the leaning tower ไม่ได้






และแล้ว trip นี้ก็จบลงด้วยความดี ... ปวดเมื่อยไปหลายวันเลย

เมืองที่ประทับใจมากทีสุดหนีไม่พ้น Pisa (รวม Florence ด้วย) และ Vienna
ส่วนที่อื่นๆ ก็งั้นๆ นะ Rome ก็ดี แต่ดูแล้วดูอีกมันก็ไม่สนุกเท่าไหร่



ไว้โอกาสหน้าฟ้าใส กระเป๋าตังตุงๆ แล้วเจอกันใหม่




Create Date : 24 กรกฎาคม 2551
Last Update : 25 กรกฎาคม 2551 17:25:33 น. 9 comments
Counter : 850 Pageviews.

 
อ่านเรื่องอินซูลิน น้ำตาลมาเมื่อกี๊...มาเห็นขาหมูทอด...โอว

เฮ้อ..อยากไปเที่ยวบ้าง เมื่อไหร่ไอ้ที่เป็นความรับผิดชอบมันจะเสร็จสิ้นหนอ อิจฉา phobe จัง


โดย: srn IP: 125.25.142.92 วันที่: 24 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:29:19 น.  

 
เหอๆๆ

ดูลุยๆๆน่าสนุกดีนะคะ

ถ้ามีโอกาสก็อยากทำอย่างคุณฟีบี้มากเลย

แต่เราคงไปไม่รอดแน่เลย

แค่วันเดียวก็จะแย่แล้วค่ะ


โดย: เบญ IP: 92.104.100.63 วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:56:27 น.  

 

srn ... ขาหมูทอดไม่มีแป้ง กินเป็นอาหารเช้าได้ แต่อาหารเช้าแบบนี้ก็เยอะไปอ่ะเนอะ

จริงๆ อ่ะคะ พอทำงานแล้ว หาเวลาหยุดยาวๆ ไม่ได้เลย เที่ยวแบบนี้มันต้องหยุดเป็เดือนเลย

+++++++++++++++

เบญ ... ทั้งสนุกทั้งเหนื่อยค่ะ แต่ก็คุ้มอ่ะค่ะ มันต้องทำการบ้านล่วงหน้าหน่อย แล้วก็ไปลุยเอาดาบหน้า ถึงจะสนุก ตื่นเต้นดี


โดย: Phoebe Buffay วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:25:30 น.  

 
กรี๊ด นั้น ขนมปังแอนตี๊แอนป๊ะ อยากกิน


โดย: ตองดี IP: 117.47.130.92 วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:59:40 น.  

 
อยากไปเที่ยวม่างงงงงงงงงงงงง

เป็นเที่ยวแบบนี้ดูน่าสนุกดีนะคะ ดีกว่าไปกับพวกทัวร์ แบบนี้เหนื่อยหน่อยแต่ได้ลุยเอง อยากไปมั่งจัง

ปล.ชอบรูปที่ดันหอเอนจัง เท่อ้ะ


โดย: ningpotter IP: 125.24.250.149 วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:11:17 น.  

 
เห็นแล้วนึกถึงอดีต ตอนเป็นนังแจ๋วเหินฟ้าของตัวเองจัง ได้เที่ยวแบบนี้เลย

เดี่ยวนี้มาเป็นนังแจ๋วให้ลูก และสามี ไม่ได้เที่ยวเลย เซงจัง อิจฉาๆๆ

ยังไง ก็ระวังสุขภาพเน๊อ...ชอบยุโรปสุดๆเหมือนกัน ชาติหน้าขอไปเกิดเป็นฝรั่ง

แถวๆสวิซละกาน ซ๊า...ธุ


โดย: พี่พิม IP: 124.121.80.182 วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:56:42 น.  

 

ตองดี ... ขนมปังแอนตี๊แอน มันคืออะไรเหรอจ๊ะ? ... แต่มันอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยหล่ะ

ningpotter ... สนุกกว่าไปกับพวกทัวร์แหงอยู่แล้ว ^^ เหนื่อยสุดๆ ... ตอนที่ไม่สนุกที่สุดคือตอนแบบ backpack นี่แหล่ะ ... อย่างอื่นสบาย ... ส่วนรูปหอเอนนะ ... มีรูปเด็ดกว่านี้ีอีก ... รูปเอามือโอบหอ แต่มันไม่ใช่หน้าเรา ไม่อยากเอาออกอากาศ

พี่พิม ... ก็พากันไปเที่ยวกันทั้งครอบครัวซิคะ ... หาเวลาตะลุยแบบลุยๆ กัน ...

เพื่อนคนอินโดคนนึง เค้าเล่าให้ฟังว่า พ่อแม่เค้าพาเค้าไปเที่ยวยุโรป แบบแบคแพคนี่แหล่ะคะ ... แบบว่า แม่แบกหม้อหุงข่าวใบเล็ก พ่อแบกข้าวสาร ลูกแบกเสื้อผ้าอะไรแบบนี้ ... แล้วก็ตะลอนกันไปหลายๆ ประเทศในยูโรป (แบบไปลุยๆ กันเอง) ... เค้าบอกว่า สนุกสนานมาก ... ตื่นเต้นดีด้วย


โดย: Phoebe Buffay วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:01:37 น.  

 
หาโอกาสอยู่จ้า เที่ยวยุโรป 4 คน ซัก 10 วันเนี่ย ต้องหยอดกระปุกกันเป็นปีๆ

เลยเชียว พอเริ่มจะไหว อ๊ะ ลูกสาวสอบติด AFS ไปอเมริโกย อ๊าว...ให้ลูกไป

ก่อน จ่ายไปปีที่แล้วประมาณ 4 แสน แอบจนเลยนั่น

นี่ก็กะว่าอีกซักพักน่าจะได้ไปเน๊อะ แอบหวังในใจว่าเจ้าลูกชายคง

ไม่ขอไปอีก 555 ถ้ามานได้ไป ก็อดเที่ยวอีกละตรู (แอบเซง)

นี่แหล่ะเน๊อะ หัวอก พ่อแม่

บ่นไปอย่างนั้นเอง จริงๆก็เต็มใจทำเพื่อลูกอยู่แล้ว แต่มีการบ่นๆเล็กน้อยว่า

อีกหน่อยพวกเธอต้องพา พ่อกะแม่ไปเที่ยวมั่งนะว๊อย..ช๊านเลี้ยงพวกเธอ หมดเงิน

ไปเยอะ จนช๊านไม่มีเงินเที่ยวแล้ว เพราะงั๊น พวกเทอต้องพาช๊านไป เฮ่อๆๆๆ

ไม่รู้ พวกมานจะทำให้เรารึเปล่า อันนี้ก็ต้องติดตามตอนต่อปาย อิอิ



โดย: พี่พิม IP: 124.121.80.182 วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:03:47 น.  

 

พี่พิมคะ ... ก็ลูกสาวไปเอเอฟเอส ... ก็เหลือ 3 คน ถ้าลูกชายขอไปอีกคน เหลือสองคนพ่อแม่ หนึเที่ยวได้เลยค่ะ

แต่แพงจังนะคะ 4แสน ... 4แสนนี่ มาเรียนแคนาดาปีนึง ได้สบายๆ เลยค่ะ

ว่าแต่ลูกๆ พี่อายุเท่าไหร่กันแล้วคะ ... ท่าทางกำลังใช้เงินเชียว


โดย: Phoebe Buffay วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:3:28:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Phoebe Buffay
Location :
ทุ่งหญ้า Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 173 คน [?]




"It's Phoebe! That's, P as in Phoebe; H as in hoebe, O as in oebe; E as in ebe; B as in bebe; and E as in ... Ello there mate." Friends

There is no copyright here, unless otherwise specifically mentioned. If you find it useful, just take it. Thanks!

CHAT BOX



LAST UPDATES
LOSEING WEIGHT (BBC)
SKINCARE MINI SERIES
FAVORITES

Friends' blogs
[Add Phoebe Buffay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.