วันนี้มากินผัดปลาดุกใบกะเพรากัน ... สูตรตามมีตามเกิด ... กับ Rachel Ray ... ของที่ใช้ทำไม่มีอะไรสดซักกะอย่าง เพราะของสดๆ หาไม่ได้เลย ... ก็เริ่มเลยละกัน

ขอบอกว่า ... สูตรนี้ไม่เหมือนชาวบ้าน เพราะว่าเราทำกับ Rachel Ray นิ ... แต่เนี่ย เป็นอาหารที่เราชอบที่สุดมากกกกกกกกกกกกก จานนึง

ก็มาเริ่มทำกันเลย ... ตอนแรกไม่ได้ถ่ายรุปไว้ ... เราก็เอาปลาดุกมาหั่นเป็นแว่นๆ แบบนี้ ... แล้วเอาไปทอดให้เกือบๆ สุก ... แต่ถ้าใครชอบปลาดุกนิ่มๆ ก็ไม่ต้องทอดก่อนก็ได้ ... แต่ถ้าใครใช้ปลาดุกแช่แข็ง แนะนำให้ทอดก่อน เพราะถ้าปลาไม่สด มันจะเละมากๆ ... ในรูปก็คือปลาดุกที่ทอดแล้ว ... ก็เอาพักใส่จานไว้

อันนี้เราก็เตรียมกระเทียม ... ก็สองสามกลีบ ... แล้วก็พริกขี้หนู ก็เอามาสับหรือโขลกรวมกันก็ได้ ... เราก็เอามาสับๆ เฉยๆ (ไม่มีครก) ... ส่วนเม็ดพริกไทยสด (อันนี้มันเป็นแบบแช่แข็ง เพราะของสดไม่มีขาย) ก็เตรียมไว้ใส่ทีหลัง ... แต่ถ้าใครไม่กิน ไม่ใส่ก็ไม่ว่ากัน ... สภาพเขียงที่เห็นจะเลอะเทอะเล็กน้อย เพราะใช้หั่นปลามาก่อน (ขี้เกียจล้าง)

ตั้งกะทะใส่น้ำมันพืช ให้ร้อน โยนกะเทียมและพริกขี้หนูสับลงไป ... ผัดจนกะเทียมเกือบเหลือง ... ใช้ไปกลางค่อนข้างแรง

ในส่วนนี้เป็นสูตรเด็ด ... ใส่พริกป่นค่ะ ... ขอบอก ... พริกป่นเนีย ... the killer เลย จะบอกให้ ... ก่อนใส่พริกป่นให้เบาไฟลงก่อน ... เหลือไฟอ่อนๆ ก็พอ ... จากนั้นก็ผัดสักพักจนกลิ่นหอมของพริกแห้งมันโชยมา ตีกันกับพริกขี้หนู และกะเทียม

พอหอมได้ที่ ... ก็โยนปลาที่ทอดเสร็จแล้วใส่ลงไปเลย ... ถ้าใครใช้ปลาสด ก็ใส่ตอนนี้เหมือนกัน ... แตะเวลาคนระวังอย่าทำให้มันเละ

ใส่ลงไปในกะทะ แล้วก็คนให้เข้ากัน อาจจะเติมน้ำนิดหน่อย ... แต่ถ้าเป็นปลาสดไม่แนะนำให้เติมน้ำ เพราะมันจะเหม็นคาวได้ ... ถ้าใครทอดแต่ชอบแห้งๆ ก็ไม่ต้องเติมน้ำค่ะ ... แต่เติมนิดเดียวจริงๆ นะ ให้มันช่วยทำให้น้ำซอสเคลือบปลาให้ทั่วแค่นี้เอง ... จากนั้นก็ใส่ Maggie แล้วก็ ซีอิ๊วขาว คนให้ทั่ว

พอปลาสุกได้ที่ ก็โยนเม็ดพริกไทยอ่อน ลงไป ถ้าใครไม่ชอบก็ข้ามขั้นตอนนี้ไป ... อร่อยทั้งสองแบบขอบอก ... ความจริงรสชาติไม่ได้ต่างกันซักเท่าไหร่ ... แต่เผื่อใครชอบเคี้ยวเม็ดพริกไทยน่ะ

จากนั้นก็โยนใบกะเพราใส่ลงไปเลย ... ในรูปดูอนาถเล้กน้อย เพราะว่ามันเป็นกะเพราตากแห้ง ... ใบกะเพราอันนี้ทางบ้านส่งมาให้ (ทำเอง) ล้างก่อนตาก ... เวลาใช้จะได้ไม่ต้องล้างอีก ... เพราะถ้าเอาไปล้าง หรือแช่น้ำ กลิ่นหายหมดเกลี้ยง ... พอใส่ใบกะเพราะแล้วก็คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติ ... เค็ม เผ็ด (เราไม่ใส่หวานเลย) ... ก่อนตักออกจากะทะ ... อันนี้ ก็เป็นเคล็ดลับเหมือนกัน ... ลองแบบไม่ใส่ก่อนก็ได้นะ ... เคล็ดลับนี้ทำให้ผัดปลาดุกเผ็ดร้อนขึ้นหู ... วิธีก็คือ ใส่พริกไทยขาวป่น (ต้องพริกไทยดีๆ แท้ 100% นะ) ใส่ไปซักครึ่งช้อนชาเลย ... แล้วก็คนให้ทั่ว ปิดไฟได้เลย

เสร็จแล้วก็ตักใส่จานพร้อมเสริฟ

หน้าตาใกล้ๆ ก็ประมาณนี้เลย ... เราชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ... เป็นอาหารจานโปรดเราเลย ... เวลาไปกินผัดปลาดุกที่ไหนก็ไม่เคยได้กินแบบนี้เลย ส่วนใหญ่เค้าจะทำสูตรอื่นกันหมด (รึเราไม่ไปกินแบบนั้นก็ไม่รู้) ... แต่สูตรนี้ ... อร่อยแบบว่ากินข้าวจนพุงแตกทุกทีไป

เออ ... แล้ว Rachael Ray ล่ะ ... ก็นี่ไงล่ะ






ก็กระทะที่เราเพิ่งซื้อมาใหม่ ยี่ห้อ Rachael Ray ... ฝืดเนอะ ... มุกนี้ ... ตอนแรกคิดๆ อยู่ระหว่าง Jamie Oliver (Kitchen Aid) กับ Rachael Ray ... แน่นอนว่าถ้าเทียบตัวต่อตัว เราเลือก Jamie อยู่แล้ว ... แต่พลิกไปดูก้นกระทะ ... Kitchen Aid มัน Made in China ... แต่ Rachael Ray มัน Made in Thailand ... โหย ... หยิบเลย ... เลือดสนับสนุนของไทย มันฉีดจี๊ดขึ้นมาเลย ... ตกลงก็เลยได้ Rachael Ray มาอยู่ช่วยทำกับข้าวในครัวไง

ในรูปน้ำมันเลอะเทอะมาก ... เพราะตอนทอดปลา น้ำมันมันกระเด็น พอสมควร ... ยังไม่ได้เช็ดเลย ... ยังไงเวลาทอดปลาก็ระวังกันหน่อยนะ

ต่ออีกนิด ... ทำอย่างเดียว ... มันไม่พอกิน ... ขอกินผักหน่อย ... ทำไรกินดี ... ก็สับกระเทียม โยนใส่กะทะน้ำมันร้อนๆ

โยนถั่วลันเตาของโปรดเรา ใส่ลงไป

เหยาะซีอิ๊วขาวหน่อย ... ผัดๆ คนๆ ไม่ถึงนาทีก็เสร็จ เทใส่จาน ... อันนี้เราทำบ่อยมาก ... เพระา snowpeas หาซื้อไม่ยากที่นี่ ... อร่อย ผัดง่าย ... ไม่เปลืองเนื้อที่ตู้เย็น

แล้วก็มี ปลาสลิดเหลือจากเมื่อวาน ... ปลาสสิดเนี่ย เป็นอะไรที่กรี๊ดดดดดด มากๆ ... เพราะเราชอบกินมากๆ ... ไม่กี่วันก่อน ไปเดินร้านจีน (ร้านเอเชียนร้านเดียวในเมือง) ... เปิดตู้แช่แข็งดู ... กรี๊ดดดดดด ... ปลาสลิดแช่แข็ง ... มันมากัน 3 ตัวใน 1 ห่อ ... ห่อล่ะเกือบ $6 แพงโค้ดๆ ... แต่ไม่สน ... กวาดมา 4 ห่อ ... ช่องแข็งในตู้เย็นเลยเต็มไปด้วยปลาสลิดแช่แข็ง

ท้ายสุด ... ต้มยำเหลืออีกแล้ว ... ต้มแบบขี้เกียจ สุดๆ (มันเลยเหลือไง) ... คือแบบ เอาต้มยำก้อน (ปกติไม่ใช้ ... เอาไว้ใช้เวลาขี้เกียจตัวเป็นขน หรือว่ายุ่งๆ) ... แล้วก็โยนกุ้งแช่งแข็งที่ปอกเสร็จเรียบร้อย (product of Thailand อีกแล้ว) ... แล้วก็ลูกชิ้นปลาหมึก (ที่มีแต่แป้ง) ... ต้มๆ เดือดแล้วก็กินเลย ... ตอนนี้ก็เหลือแต่ลูกชิ้นอย่างที่เห็น

ตกลง มื้อนี้ไม่มีอะไรสู้ผัดปลาดุกใบกะเพราะได้เลย ... ^______________^