หลังจากที่ทำท่าจะเล่าต่อ นานแล้ว ... ในที่สุดก็ได้ฤกษ์งามยามว่าง ... มาเล่าต่อ ... แต่ว่าขี้เกียจ upload รูป เลยเอาพอประมาณละกัน

เราขึ้นรถไฟนอน จาก Frankfurt มา Paris ... ตามแผน (เพื่อประหยัดค่าตั๋วรถไฟ) วันนี้ต้องไป Chatau de Vasailles เพราะมันอยู่นอกเมือง ... จะได้ใช้ตั๋วรถไฟได้ ... เราไปลงสถานีไหนจำไม่ได้ ... มันเป็นสถานีที่มีรถไฟต่อไป Chatau de Vasailles ได้ ... ไปถึงโน่น ตามแผนคือเราควรจะเอา backpack ใบยักษ์ไปใส่ locker หรือ ฝากไว้ที่ไหนซักแห่งก่อน แล้วค่อยไปต่อ ด้วย backpack ใบเล็กๆ ที่เตรียมมา ... แล้วก็กลับมาเอา backpack ใบใหญ่ตอนกลับจาก Chatau de Vasailles แล้วก็ไป check in ใน hostel ที่จองไว้ ... แต่ปรากฎว่า เราหาที่ฝากกระเป๋าไม่ได้เลย ... เลยจำใจต้องแบกกระเป๋าไปด้วย

เนื่องจากสภาพรถไฟที่นอนมา สภาพซกมกมาก ... ตู้นอนอับ ผ้าห่มกลิ่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ... ประกอบกับอากาศค่อนข้างเย็น แล้วเราก็ไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวไป ... มีแต่เสื้อผ้าร่ม กันรมกันฝน ติดมาตัวเดียว ... ผ้าห่มที่เค้าจัดให้ก็บางมาก ... ตื่นมา เราป่วยเลย ... แบบปวดหัว ตัวร้อน น้ำมูกไหน ไอนิดหน่อยด้วย ... แต่ทำไงได้ ... จำใจต้องแบกกระเป๋าใบยักษ์ไปด้วย ... ตอนนั้น สภาพแทบจะยืนไม่ไหว ... ความจริงเค้าอาสาแบกกระเป๋าให้ แต่เราก็สงสารเค้า เพราะว่าเค้าเองก็มีกระเป๋าใบยักษ์แบกอยู่แล้ว ... เราก็แบกเองบ้าง ให้เค้าช่วยบ้าง ... วันนั้นแย่มากๆ

... เอาเป็นว่า พอขึ้นรถไฟไป ... ถึงแม้จะป่วย แต่ก็ตื่นเต้นมากเลย ... จะได้ไปดู Chatau de Vasailles ... ใครๆ เค้าก็พูดถึงกัน ... โหย ... คาดหวังไว้มาก ... อ้อ ... ก่อนมา เราซื้อ Paris Museum Pass ไว้ ... คือเข้าได้หลายที่มาก ... ราคาเท่าไหร่จำไม่ได้แล้วหล่ะ ... แต่ว่า ... ไม่คุ้มเลย ผะผ่า

พอไปถึง ก็ลงรถไฟ ... มันไม่ได้ไปถึงเทียบหน้า Chatau de Vasailles เลย ... ต้องเดินอีกเยอะพอสมควร ... เดินธรรมดาก็แย่อยู่แล้ว ... นี่ต้องแบกกระเป๋าใบยักษ์ แล้วก็ป่วยอีก ... เค้าเลยต้องช่วยเราแบกกระเป๋า ... สะพายแบบหน้าใบ หลังใบ ... จำไม่ได้ว่าเดินมากแค่ไหน ... แต่ค่อนข้างไกล ... คิดว่าน่าจะมากกว่า 2 kms เลยหล่ะ ... เดินเข้าเมืองไป ... เจอตลาดนัดคล้ายๆ ตลาดนัดตอนเช้า อะไรซักอย่าง ... หิวโซอยู่พอดี ... ก็ไปซื้ออะไรซักอย่าง ... เสียบไม้ ... รู้สึกจะเป็นไก่ กับเนื้อ ... อะไรไม่รู้หล่ะ ... ไม้ละ 3-5 euros จำไม่ได้อีก ... แต่ว่าอร่อยมาาาาาาาาาก ... กินอิ่มแล้ว ... กะว่า ขากลับจะแวะซื้อ ... แต่ปรากฎาว่าเค้าเก็บของไปแล้ว ... เลยอด



พอเดินได้ซักครึ่ง ชม ... ก็มาถึงหน้า Chatau de Vasailles ... อ้อ ระหว่างทางเดิน ... บรรยากาศในเมืองสวยใช้ได้เลยนะ

ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาก ... เพราะป่วย ... โชคดีนะ ที่เค้ามีที่ฝากกระเป๋าที่นี่

หลังจากฝากกระเป๋าเสร็จ พบว่า ... museum pass ที่เรามี มันเข้าชมได้แค่ส่วนเดียว ... จะดูส่วนอื่น ต้องจ่ายเพิ่มอีก ... ก็เลยกะว่า ... ดูส่วนแรกก่อน แล้วถ้าถูกใจก็ค่อยจ่ายดูส่วนอื่นเพิ่มเติม (งกค่ะ) ... พอเข้าไปถึง



บรรยากาศอย่างที่เห็นค่ะ ... ที่ยืนยังไม่มีเลย ... เวลาเดิน ก็ต้องเดินไหลตามน้ำตลอด ... เราว่าตลาดจตุจักรบ้านเรายังไม่แน่นเท่านี้เลย ... เค้าจะมีที่ฟัง คล้ายๆ โทรศัพท์ให้เช่า ... เราก็เดินไปตามทางที่เค้าบอก ... พอไปถึงจุดชม เราก็กดเบอร์ที่เราต้องการจะฟังคำบรรยาย ... เราก็เดิน (ไหลไปตามกระแสคน) ไปหยุดฟังไป ... ต้องเอาเชือกผูกเอวสองคนไว้ ... ไม่งั้นหลง ... ไม่ช่าย

ด้วยความที่คนแน่นมากๆ ... เราเลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูป ... รูปที่ถ่ายได้ส่วนใหญ่ก็เป็น ..... เพดาน ... แต่เพดานเค้าสวยนะ ... อันนี้รูปปั้น ... ใครหนอ จำไม่ได้แล้ว

อันนี้ถ่ายจากข้างใน ... ออกมาที่สวนที่คนเค้าชื่นชมกันนักหนา

นี่ไงรูปเพดาน ... ความจริงมีอีกเยอะ ... แต่มันซ้ำๆ กัน เลยเอามาให้ดูแค่นี้ละกัน

เอาเป็นว่า เดินเบียดเสียดเยียดยัดได้ซักพักใหญ่ ก็ออกมาเดินในสวน ... แต่ว่าเพราะป่วย ... ไม่ไหวแล้ว ... เลยออกมานั่งสูดหายใจด้านหน้า แล้วก็พักเหนื่อย ... แล้วก็ถอนหายใจ ... เราว่ามันก็สวยอ่ะนะ ... แต่ถามว่าผิดหวังมั๊ย ... เราผิดหวังมากเลย ... ไม่ประทับใจ ... ถ้าใครจะไป Paris แล้วคิดๆ อยู่ว่า จะไป Chateau de Versailles ดีมั๊ย ... เราว่า เลือกไป Disneyland ดีกว่า ... เพราะเราไม่ได้เลือก Disneyland ... เสียดายมาก

พอพักหายเหนื่อยแล้ว ... บ่ายแก่ๆ แล้วหล่ะ ... ก็นั่งรถไฟกลับไป Paris ... ระหว่างขากลับ ... มีพนักงานมาตรวจตั๋ว ... เราว่าแบบพนักงานตรวจตั๋วจู่โจมแบบหน่วย SWAT เลย ... รวดเร็วทันใจมาก ... ทำให้คนที่แอบขึ้นรถไฟหนีไม่ทัน ... ในตู้ที่เรานั่งมา ... มีกลุ่มเด็กผู้ชายอยู่ 5-6 คน อายุราวๆ 15 เห็นจะได้ ... โดนกันหมด ... แอบขึ้นมา ... แบบเอาพวกนั้นไม่รู้ตัว จ๋อยกันไปตามๆ กัน

พอมาถึง Paris เราก็ต่อรถไฟไปที่ Hostel ที่เราจองไว้ ... ที่ Hostel อันนี้ สภาพเปื่อยมากอย่างที่เห็น ... แต่สาเหตุที่เราเลือกที่นี่เพราะว่า ... มันมีห้องน้ำในตัว (แต่ส้วมแยกต่างหาก) ... เวลาอาบน้ำกับฉี่ เราก็ทำในห้องได้ ... แต่เวลาอึ ... ออกไปอึรวมกับชาวบ้านเค้า ... it's not too bad for the price! ... ที่สำคัญ มันมี kitchen ด้วย ... เพราะเราจะเที่ยวหลายวันหน่อย .. ไม่อยากจะซื้อกินทุกวัน ก็เลยต้อง cook ด้วย ... อันนี้มันมี kitchen ก็น่าจะช่วยประหยัดได้เยอะ ... แถมได้เจอเพื่อนๆ จากที่ต่างๆ เวลา cook อีกด้วย ... สนุกไอีกแบบ



พูดถึงเวลา cook หน่อย ... ก็แบบตื่นเช้ามาก็ ต้มน้ำ ... ทำมาม่า ... แล้วก็คุยกับพวก backpackers คนอื่นๆ ... คนส่วนใหญ่เค้าจะมากันคนเดียว อย่างมากก็ 2 คน ... อาหารที่คนส่วนใหญ่ทำกันก็คือ ... ไข่ดาว ทอดไส้กรอก แล้วก็ปิ้งขนมปัง ... อ้อ เค้ามีตู้เย็นให้ด้วย ... เราก็ซื้อพวกเนื้อ ไข่ นม ใส่ตู้เย็น เขียนชื่อไว้ ตื่นเช้ามาก็มาทำ แล้วก็รีบออกไป ... บางคนก็ทำ sandwish ไว้กินกลางวันด้วย ... ประหยัดดี

เนื่องจาก Hostel ที่เราเลือก มันอยู่ไม่ไกลจาก Sacre Coeur นัก ... วันแรกที่เรามาถึง ตอนเย็น เราก็เดินเล่นแถวๆ hostel ... เดินไปเรื่อยๆ ... ดันไปเจอ Sacre Coeur เข้า ... โอ้โอ ... ขอบอกว่าอลังกาลมาก ... สวยมากๆ ... ตั้งอยู่บนเขา โดดเด่นเป็นสง่ามาก ... ทั้งๆ ที่เราป่วย และเหนื่อยล้ามาก ... เวลาเดินขึ้นไปดู Sacre Coeur เนี่ย ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ... ดูในภาพเล็กๆ อย่างนี้ ... ความจริงใหญ่มาก

อันนี้ไม่มีไรมาก ... เป็นภาพใกล้เข้ามาอีกหน่อย ... เห็นเรามั๊ย ... ชุดสีฟ้าๆ ... ตอนนั้นกำลังอ้วนมาก ... ชุดนี้ใส่ตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้า ... ไม่มีเวลาได้อาบน้ำเลย ... เหอะๆๆ

เราก็เดินชื่นชม แล้วก็เข้าไปข้างในด้วย ... ข้างในไม่ค่อยมีอะไร เดินวนๆ ดูข้างนอก ... สวยงามมาก

อันนี้เป็นภาพด้านหลัง ... ลมแรง ... และค่อนข้างหนาวทีเดียว

นี่ก็เป็นบรรยากาศรอบๆ

อันนี้ถ่ายด้านหน้า Sacre Coeur ออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา ... เมือง Paris ใหญ่มากๆๆๆๆๆ ... อลังกาลมาก ... ตึกรามบ้านช่องแน่นไกลสุดลูกหูลูกตา

วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน ... ต้องกลับไปต้มมาม่ากิน ... ขากลับแวะซื้อไส้กรอก เนื้อ ไข่ มาใส่มาม่ากินเป็นอาหารมื้อเย็น ... แล้วก็รึบเข้านอน ... เพราะพรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้า ไป Louvre Museum สถานที่ที่เรารอคอย และเป็นที่ที่เราอยากมามากที่สุดใน Paris

ขอบอก ... สภาพเตียงนอนสุดห่วย ... เตียงแบบนิ่มเปื่อยมาก ... เฮ้อ!