ก็ไม่มีอะไรมาก ... เอาเรื่องเกี่ยวกับ collagen มาฝากกัน ... อ่านเล่นเย็นๆ ใจค่ะคอลลาเจนในร่างกายเรามีอยู่หลายประเภทด้วยกัน กระจายอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายType I - bone (กระดูก)Type II - cartilage (กระดูกอ่อน)Type III - reticular fibers (เส้นใยร่างแห)Type IV - basement membrane (เยื่อบุ)แล้วก็ยังมีอีกหลายประเภท ซึ่งเป็นส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันไป
ในสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม ประมาณ 90% ของ Type I collagen ทั้งหมดอยู่ในกระดูก แล้วที่เหลืออีก 10% จะกระจายอยู่ในส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย เช่น เอ็น เส้นเอ็นที่ยึดกล้ามเนื้อและกระดูก พังผืด ฟัน ผิวหนัง กระจกตา เส้นเลือดใหญ่ แม้กระทั่งกระดูกอ่อน (กระดูกอ่อนประกอบไปด้วย Type II collagen ซะเป็นส่วนใหญ่) รวมไปถึง โปรตีนตามหนังกำพร้า เล็บ ผม ด้วย
คอลลาเจนถูกใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การทำพวกเจลาติน (ในอาหาร ขนม) คอสเมติก แล้วก็ฟามาซูติคอล จริงๆ แล้วคอลลาเจนพวกนี้ เป็นโปรตีนที่คุณภาพต่ำ เนื่องจากว่า มี amino acids ที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ครบถ้วน ... เรียกง่ายๆ ว่าเป็นโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์นั่นเอง
ในภาษากรีก ... ค่ำว่า Kolla แปลว่า Glue หรือ กาว หรือ ตัวผลิตกาว ... เมื่อ 4000 กว่าปีก่อน ชาวอียิปต์เอาเส้นเอ็นของม้า มาต้ม เคี่ยวจนเหนียว แล้วเอามาทำเป็นกาว ... จริงๆ การใช้ collagen มาทำกาว เนี่ยใช้มาตั้งแต่ 8000 ปีมาแล้ว ซึ่งเค้าเอากาวคอลลาเจนมาเชื่อมต่อพวกเชือก เครื่องครัว เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ข้อดีของคอลลาจนก็คือว่ามันมีคุณสมบัติที่เรียกว่า thermoplastic คือ จะแข็งตัวเมื่อเย็น ... พอให้ความร้อนก็จะอ่อนตัวลง ... เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ โดยที่คุณสมบัติไม่เปลี่ยน
ในทางด้านความงามและการแพทย์ ... คอลลาเจนถูกใช้เพื่อการศัลกรรม ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ ใช้รักษาพวกโรคกระดูก ... คอลลาเจนที่ใช้ในทางการแพทย์ (โดยแพทย์) จะมาจากวัวอ่อน (ไม่แก่) ซึ่งก็แน่นนอนว่าต้องผ่านการตรวจสอบว่าไม่เป็นโรควัวบ้า ซึ่งอาจจะมาจากวัวที่เลี้ยงใว้ในเขตกักกัน หรือไม่ก็มาจากประเทศที่ไม่เคยมีประวัติการติดเชื้อวัวบ้ามาก่อน (เช่น Australia และ New Zealand)คอลลาเจนที่ได้มากจากหมู ก็ได้เช่นกัน ... ส่วนมากจะใช้ทำ collagen แผ่น เอามาใช้ในกาารศัลยกรรมซะเป็นส่วนมากการใช้คอลลาเจนแบบพร่ำเพรื่อ (ไม่ใช่คอลลาเจนทีเตรียมมาเป็นพิเศษอย่างระมัดระวัง) อาจจะเป็นสาเหตุให้การการติดเชื่อได้เช่นการ
คอลลาเจนสำเร็จรูป ที่ถูกใช้กันอย่างกว้างขวางใน cosmetic ก็ คือ hyaluronic acid และ polyacrylamidehyaluronic acid หรือ hyaluronan หรือ hyaluronate เป็น non-sulfated glycosaminoglycan ซึ่งพบมากในเนื้อเยื่อต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของ extracellular matix ... โดยเฉลี่ย คนน้ำหนังก 80 kg จะ มี hyaluronan ราวๆ 15 g ซึ่งก็จะเสื่อมสภาพไปเองโดยธรรมชาติ แต่ร่างกายจะสร้างและสังเคราะห์ขึ้นมาเองทุกๆวัน เพื่อทดแทน ปัจจัยสำคัญของการทำลาย hyaluronan ก็คือรังสี uv ซึ่งจะไปทำให้ผิวหนังชั้น dermis หยุดการสร้าง hyaluronan หรือ ทำให้ประสิทธิภาพในการสังเคราะห์ hyaluronan ต่ำลงแรกเริ่มเดิมที ... hyaluronan รวมไปถึงพวก glycosaminoglycan ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อกระดูก
ปัจจุบันคอลลาเจนที่ใช้ในทางการแพทย์ อาจจะได้มาจาก วัว ม้า หมู หรือแม้กระทั่งมนุษย์ด้วยกันเอง ... บางทีก็ใช้ร่วมกับพวก silicones, glycosaminoglycans, fibroblasts, growth factors เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นปัจจุบันนนี้เราก็เห็นคอลลาเจนแบบกินมากมายเกลื่อนตลาด แต่ก็ยังไม่มีผลการวิจัยยืนยันว่า การกินคอลลาเจนจะแตกต่างไปจากการกินไขมันหรือโปรตึนเข้าไป เพราะเมื่อลงกระเพาะไปแล้ว มันก็จะถูกย่อย กลายเป็น amino acids แล้วก็ถูกดูดซึมไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย (ร่างกายคนเราดูดซึมคอลลาเจนเข้าไปไม่ได้)
แค่นี้ละกัน ... อ่านกันสนุกๆ นะคะ
ไม่มีประโยชน์ไรเลยหรอคะ