Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
28 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 

Fatty Acids, Good E, Bad E


Fatty Acids

วันนี้เอาความรู้เกี่ยวกับ fatty acids มาเล่าให้ฟังดีกว่า ... เพิ่งผ่านเรื่อง insulin ไปหมาดๆ ... จะได้ต่อกันไปอีกนิดเลย ... ใครอย่างอ่านแบบเยอะๆ ลองไปหา The Zone ของ Dr. Sears อ่านดู

หลายๆ คนคงได้ยินคำว่า fatty acids กันบ่อยๆ ... และ fatty acids ที่เราจะพูดถึงวันนี้ เป็นแบบกินนะคะ ... ประโยชน์ของมันเนี่ยมายกมาเลยทีเดียว ... ไม่ว่าจะเป็น ช่วยคุมน้ำหนัก ช่วยให้ไม่หิวบ่อย (มีส่วนในการควบคุมระดับ insulin ในร่างกายด้วย) ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อย สมาธิดี อายุยืน และผิวพรรณดี

และตัวที่เป็นดาราวันนี้ก็คือ ตัวที่เค้าเรียกกันว่า long-chain omega-3 fatty acids




Good E and Bad E

เจ้า long-chain omega-3 มันมีความเกี่ยวข้องและสำคัญกับฮอร์โมนที่ชื่อว่า Eicosanoids ... เจ้าฮอร์โมนตัวนี้ เค้าแบ่งไว้เป็นสองกลุ่ม คือ good E กับ bad E (จะเรียก อีดี กับ อีเลว ก็ไม่ว่ากัน)

สองฮอร์โมนเนี่ย (ทั้งอีดีและอีเลว) มันจะอยู่เป็นคู่กันในเซลล์หนึ่งเซลล์ ซึ่งหน้าที่ของมันคือจะคอยควบคุมระบบฮอร์โมนในร่างกายของเรา ... อีดีกับอีเลว ก็ไม่ค่อยจะถูกกัน ... คือมันจะทำงานต้านกัน ... อีเลวมีมากกว่า ร่างกายก็จะไม่แข็งแรง อิดโรย แก่เร็ว อ้วน ระดับอินซูลินในร่างกายสูง ... และถ้าอีดีมีมากกว่า ร่างกายก็จะเป็นไปในทางตรงกันข้าม ... คือสุขภาพแข็งแรง ผิวสดใส กระฉับกระเฉง สมองดี ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก และระดับอินซูลินในร่างกายไม่สูงด้วย ... ข้อดีเยอะแยะไปหมด




Long-Chain Omega-3

สัดส่วนของทั้งสอง E ในร่างกายเราเนี่ยะ เค้าจะวัดกันจากเลือด โดยเทียบสัดส่วนระหว่าง omega-6/omega-3 ซึ่งจะเรียกกันย่อๆ ว่า AA/EPA

เพื่อสุขภาพที่ดี เราก็ต้องการให้ omega-3 ในร่างกายเยอะกว่า ... ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ good E มีมากกว่า bad E ... แต่แย่หน่อยตรงที่ว่า long-chain omega-3 fatty acids เนี่ย มันหาได้แค่จากในน้ำมันปลาเท่านั้น ... น้ำมันพืชส่วนมากจะให้ short-chain omega-3 ... ดังนั้น เราจำเป็นต้องกินเจ้า long-chain omega-3 จากน้ำมันปลาเท่านั้น ... ยาอะไรๆ ก็ทำไม่ได้ (อย่างน้อยก็ตอนนี) แถมร่างกายเราก็สร้างเองไม่ได้อีกต่างหาก




มีด่า

พูดถึงการกินปลา ... เราขอบ่นหน่อย (อย่าด่านะ เพราะเราไม่สน) ... พวกคนญี่ปุ่นอ่ะ กินปลาจนจะหมดโลกอยู่แล้ว (แถมสุขภาพดีอีกต่างหาก สมองก็ดี) ... แต่เราว่าเห็นแก่ตัวไปอ่ะ ... คิดดูนะ ... คนส่วนอื่นๆ ของโลก เค้าต้องเลี้ยงวัว หมู เป็ด ไก่ เพื่อใช้เป็นอาหาร ... คือมัน sustainable อ่ะ ... แต่ยุ่น แหตาข่าย ไปจับเอาในทะเล ... ทรัพยากรณ์ของโลก ... ไม่มีการเพาะเลี้ยงเลย (อันนี้ เค้าก็คงเพาะเลี้ยงแหล่ะ แต่ดูปริมาณปลาทะเลที่เค้าจับในแต่ละวัน และปริมาณที่เค้ากินกัน ... มันน่าใจหายมาก) ... เอาเปรียบมนุษย์บนโลกใบนี้ไป ... ขี้โกงอ่ะ ... ไอ้ฝั่งอังกฤษอเมริกา มันก็ดูดน้ำมันมาผลาญ ไอ้ยุ่นก็กินปลาเรียบ พวกนี้ก็รวยเอารวยเอา ... ดูคนไทยซิจะกินทั้งที่ก็ต้องลงแรง ปลูกข้าว เลี้ยงหมู งกๆ ... มันต้องหัดดำรงชีพแบบ sustainable กันมั่งดิ

(มีแก้ไขนิดหน่อย อาจจะพูดแรงไป ^^)




High Dose Fish Oil

ต่อๆ ... ถึงไหนแล้วหว่า

นักวิทยาศาสตร์เค้าพบว่า การกิน high dose fish oil เนี่ย จะมีส่วนช่วยให้เราอ่อนเยาว์ขึ้น (มันขึ้นรึมันลงนะ ... แอบงงมานานแล้ว) และก็อายุยืนยาว ... อย่างที่เราพูดไปในตอนที่แล้วคือ น้ำมันปลามันดี ร่างกายเอาไปใช้ประโยชน์ได้ดี ทำให้ร่างกายทำงานได้เต็มที เผาผลาญอะไรที่ควรจะเผา สุขภาพจึงแข็งแรง ... คือ good fat มีส่วนในการช่วยเผาผลาญ bad fats

เจ้า long-chain omega-3 เนี่ย มันจะไปควบคุมระดับ insulin ในร่างกาย ... คือ ถ้า insulin มันเหลือมากในกระแสเลือดเนี่ย มันจะมีส่วนทำให้ omega-6 ในร่างกายเยอะขึ้น (omega-6 มันไม่ดีนะ) ... insulin มันเป็นตัวแปรสำคัญในการควบคุมปริมาณ long-chain omega-3 กับ omeg-6 หรือ good E กับ bad E

เมื่อเราต้องการให้ good E มันชนะ เค้าจึงแนะนำให้เรากิน long-chain omega-3 ให้เยอะๆ เข้าไว้




กินแค่ไหนและกินยังไง

ทีนี้ก็มาถึงคำถามว่า จะต้องกินมากแค่ไหน

วันนึงเค้าแนะนำให้กิน long-chain omega-3 ประมาณ 3 grams ... salmon ชิ้นนึง มันมีประมาณ 1 gram of long-chain omega-3 ... ซึ่งถ้าจะให้ครบ dose ก็ต้องกินปลาตลอดสามมื้อเลย ... เป็นเราคงอ้วกแน่ ... แต่ต้องเป็นปลาธรรมชาติด้วย ไม่งั้นแทนที่จะได้ good E กับได้ bad E แทน (เค้าว่า salmon ที่เค้าฟาร์มเนี่ย มันจะไป promote เจ้า bad E ... เราไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม) ... แต่เดี๋ยวนี้ ถ้ากิน wild salmon มากไป ก็จะได้รับพวก mercury โดยไม่ได้รับเชิญ ... ดังนั้นการกิน omega-3 supplement ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยทางนึง

การกิน omega-3/fish oil เนี่ย ... จะให้ดีคือ ตื่นมาก็กินเลย ... กินตั้งแต่เช้า ... อย่างที่บอกไปในภาค insulin ว่า ... ตอนเช้า เลี่ยง carb กินแต่โปรตีน กับ ไขมันที่ดี ... แล้วเจ้า fish oil มันจะไปช่วยทำให้ร่างกายทำงานได้เต็มที่ และไม่หิวบ่อยด้วย ... เวลาซื้อ omega-3/fish oil ก็เหล่ตามองปริมาณ EPA ด้วย (ยิ่งเยอะยิ่งดี)




When the good E wins ...

หากร่างกายมีเข้า good E มากกว่า ... จะทำให้การ transfer oxygen ของเลือดไปสมอง กล้ามเนื้อ หัวใจ เป็นไปได้ดี ซึ่งก็จะเปลี่ยนเป็นการเพิ่มระดับพลังงานในร่างกาย และระบบไหลเวียนต่างๆ ในร่างกายก็ดีขึ้น และเมื่อระบบต่างๆ ไหลเวียนดี ผิวพรรณก็ดีตามไปด้วย สังเกตุได้ง่ายๆ จากเล็บและขน ... เราก็เริ่มกิน omega-3 จริงๆ จังๆ ได้พักนึง สังเกตได้ว่า เล็บเราสุขภาพดี แข็งแรงขึ้นเยอะเลย

จบจ้า ... อยากหา omega-3 มากินกันมั่งอะดิ ^_^

อย่าลืมนะ เวลาซื้อ มองหาปริมาณ EPA สูงๆ ด้วย ... พวก omega-3/fish oil หลายๆ ยี่ห้อ มันมี EPA และ DHA นิดเดียวเอง ... ก็เลือกกันให้ดีนะจ๊ะ




Omega-6 (แวะมาเพิ่มเติมค่ะ)

แวะเข้ามาเพิ่มเติม ... สงสัยหลายคนคงจะงง เกี่ยวกับ Omega-6 ... ว่ามันไม่ดี แล้วเค้าขายให้เรากินทำไม

คือจริงๆ แล้ว omega-6 ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะคะ ... มันมีประโยชน์กับร่างกาย เป็น essential fatty acids เหมือนกับ omega-3 คือ ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องผลิตเข้าไป ... แต่ว่า ปัจจุบันร่างกายเราได้รับ omega-6 อย่างเพียงพอจากอาหารที่กินเข้าไป (ยากมากที่จะพบว่า มีคนขาด omega-6) แล้วยิ่งอาหารสมัยใหม่ พวกอาหารสำเร็จรูปทั้งหลาย ... มันมีส่วนผสมที่อุดมไปด้วย omega-6 เยอะแยะไปหมด (ไม่ว่าจะเป็นไข่ น้ำมันพืช ถั่ว พวกไก่ ... อาหารพื้นๆ ที่เรากินกัน) ... ทำให้ omega-6 เนี่ย มีมากกว่า omega-3 (อย่างที่บอกว่า omega-3 มันได้มาจาก cold fish เท่านั้น) ... ทีนี้อะไรมากเกินไปก็ไม่ดี ... ร่างกายเราควรจะรักษาระดับสัดส่วนระหว่าง omega-6 กับ omega-3 ให้พอดีค่ะ

อีกอย่างคือ omega-6 มักจะทำให้เกิด inflammation ได้ง่าย ซึ่งตรงกันข้ามกับหน้าที่ของ omega-3 (ซึ่งจะไปหยุดอาการเหล่านั้น) ... ก็เหมือนพรรคฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลอ่ะค่ะ ... คานอำนาจกันน่ะค่ะ

และเนื่องจากอาหารที่เราๆ กินกันทุกวัน อุดมไปด้วย omega-6 และทำให้เกิดความไม่สมดุลย์กันกับ omega-3 ... เค้าก็เลยแนะนำให้เรากิน omega-3 เพิ่มเติม เพื่อไปคานอำนาจกันน่ะค่ะ




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2551
33 comments
Last Update : 29 กรกฎาคม 2551 0:15:17 น.
Counter : 2908 Pageviews.

 

ขอบคุณค่ะ ไม่ได้เข้ามานาน เดี๋ยวศึกษาแล้วเอาไปใช้ดู

 

โดย: 2fast2farious 28 กรกฎาคม 2551 2:55:56 น.  

 

ขอบคุณมากมายสำหรับเรื่องดีๆค่ะ กำลังเริ่มทานค่ะแต่มีความสงสัยว่า
ทำไมเค้าถึงบอกให้ทานพร้อมอาหาร และถ้าเราทานพร้อมกับวิตซีและพริมโรสจะเป็นอะไรมั้ยคะ

 

โดย: sriwis IP: 61.7.137.69 28 กรกฎาคม 2551 8:58:19 น.  

 

มีข้อสงสัยค่ะว่าทำไม Omega-6 ไม่ดี เพราะ Vitamin E ในพริมโรสก้อเป็น Omega-6 ไม่ใช่หรือค่ะ

 

โดย: JanSept IP: 58.10.68.3 28 กรกฎาคม 2551 9:56:32 น.  

 

คุณน้องขา epa 150 ml dha 100 ml ทานวันละ 1 แคปซูล พอมั๊ยจ้า

 

โดย: พี่พิม IP: 124.121.81.202 28 กรกฎาคม 2551 10:01:01 น.  

 

น่าไปหามาทานบ้าง

 

โดย: Cottony 28 กรกฎาคม 2551 10:29:30 น.  

 

ญี่ปุ่นไม่เลี้ยงปลาไว้กินเลยเหรอคะ เพิ่งรู้ แล้วเขาคิดว่าจะได้กินไปอีกกี่ปีล่ะเนี่ย

 

โดย: Galilee 28 กรกฎาคม 2551 11:08:47 น.  

 


Fish oil ที่เรากินมันมีทั้ง omega-3 และ omega 6 ใอยู่ในแคบซูลเดียวกัน
กินแบบ 1200 mg มีสารอาหารดังนี้
EPA=216MG, DHA=144MG, OMEGA-6=36MG ,OMEGA-3= 396MG

จะเป็นอะไรเปล่าคะและEPAน้อยไปหรือเปล่า

แล้วเราก็กินอิฟนิ่งพรีมโรส, กินวิตามินE ,กินคอลาเจ้นเป็นเม็ด,กินวิตามินซีด้วย
ไม่รู้จะเยอะไปจนไปตีกันเปล่า

ถ้าไม่รบกวนเกินไปช่วยบอกเวลาที่ควนกินวิตามินพวกนี้ดเชวยนะคะ

ขอบคุณคะ

 

โดย: vanessa IP: 71.107.67.14 28 กรกฎาคม 2551 15:46:52 น.  

 


sriwis ... ในความคิดของเรานะคะ ... กินน้ำมันปลาตอนเข้ารวดเดียวเลย เยอะๆ ... แล้วก็เน้นกินอาหารโปรตีนและไขมันดีๆ ... มันจะไปช่วยให้ระบบต่างๆ ทำงานได้ดีค่ะ ... ส่วน vitamins ต่างๆ เอาไว้ทางตอนกลางวันกับตอนเย็นค่ะ ... ของพวกนี้เค้าจะเขียนว่า eat with meal เพราะว่า ถ้าเราทางเดี่ยวๆ เวลาท้องว่า มันจะทำให้รู้สึกอยากจะอาเจียนค่ะ

JanSept ... เราเขียนอธิบายเพิ่มเติม เกี่ยวกับ omega-6 ค่ะ ลองอ่านดูค่ะ ^^ ... ขอบคุณสำหรับคำถามที่ดีค่ะ

พี่พิม ... เท่าๆ ที่อ่านมาจากหลายๆ แหล่ง ไม่น่าจะพอนะคะ ... ตัวที่กินอยู่ (fish oil 1000mg มี EPA 300mg และ DHA 200 mg) กิน 3 เม็ดต่อวันเลยอ่ะค่ะ (ข้างกระปุกเค้าก็ให้กิน 3 เม็ดต่อวัน)

Galilee ... เค้าก็คงเลี้ยงแหล่ะ ... แต่ว่าปลาที่เค้าเอามาจากทะเล มันเยอะมากๆๆๆ เลย มากจนน่าตกใจเลยอ่ะค่ะ

vanessa ... ลองทานพวกน้ำมัน ตอนเช้าดูนะคะ แล้วก็พวก vitamins ก็ทานกลางวัน และ เย็น

 

โดย: Phoebe Buffay 29 กรกฎาคม 2551 0:39:01 น.  

 

ขอบคุณค่ะ เข้าใจมากขึ้นแล้วค่ะ แต่ Omega-3 ที่เมืองไทยหาที่มี high potency แทบจะไม่มีเลยค่ะ หายากจริงๆ

 

โดย: JanSept IP: 58.10.68.212 29 กรกฎาคม 2551 11:57:41 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากคะ

 

โดย: vanessa IP: 71.107.67.14 29 กรกฎาคม 2551 14:48:12 น.  

 

โห...เราเพิ่งซื้อfish oil ของAmway แพงจังตั้ง 660บาท แต่มีอีพีเอ 80มก.และมีดีเอชเอ 60 มก. นิดเดียวเอง สงสัยจะไม่พอแน่นอน อ้อมีวิตอีอีก 12 หน่วยสากล ไม่พอแน่นอน ใช่มั้ยคะคุณฟีบี้?
เห็นคุณฟีบี้บอกว่าให้ทานตอนตื่นนอนเลยเหรอfish oil ทานพร้อมอาหารเช้าไม่ได้เหรอคะ? แบบว่ากลิ่นมันชวนอาเจียนน่ะ
รบกวนคุณฟีบี้แนะนำfish oil หน่อยได้มั้ยคะยี่ห้อไหนที่มีอีพีเอและดีเอชเอสูงๆๆ
ขอบคุณล่วงหน้ามากมายค่ะ

 

โดย: sriwis IP: 61.7.137.69 29 กรกฎาคม 2551 15:27:28 น.  

 


sriwis ... เราไม่รู้อ่ะค่ะ ว่ามันมียี่ห้ออะไรบ้าง ร้านขายยาแถวๆ นี้ก็มีแต่ยี่ห้อแถวๆนี้อ่ะค่ะ ... ยังไงลองเดินหาดูตามร้านขายยาดีกว่านะคะ

ตัวที่เรากินอยู่คือตัวนี้ค่ะ ... ราคา $15 มั๊งคะ (จำไม่ได้แ้ล้ว) ก็ประมาณ 450 บาท มี 120 เม็ดค่ะ



อ่านข้างขวดดู ... อย่าลืมดูพวกคำว่า Tested for traces of heavy metals อะไรพวกนี้ด้วยนะคะ ... แล้วก็ดูปริมาณ EPA และ DHA สูงๆ ก็น่าจะพอนะคะ

กินตอนกับอาหาร เช้าก็ได้ค่ะ ^^ แต่เราชอบกินตอนตื่นนอนเลย ... ตื่นมาเราจะดื่มนมแก้วนึงแล้วก็กิน fish oil ไปเลย ... เวลากินใกล้ๆ อาหารเช้า รึหลังอาหาร เราชอบเรอเป็นกลิ่นปลาน่ะ (มันไม่หอมเลย) ... แต่ถ้ากินตอนตื่นนอนเลย มันไม่เรอดี

 

โดย: Phoebe Buffay 29 กรกฎาคม 2551 22:51:03 น.  

 

ขอบคุณมากมายสำหรับคำตอบดีๆทุกคำตอบนะคะคุณฟีบี้
ขอให้มีความสุขในงานและสุขภาพแข็งแรงค่ะ
อ้อ...จะติดตามบล็อคคุณฟีบี้ไปเรื่อยๆเลย..

มีคำถามเรื่องการดื่มน้ำค่ะ จำเป็นแค่ไหนที่ต้องดื่มน้ำตอนตื่นนอนทันที..ไม่ดื่มได้มั้ย...ถ้าดื่มควรดื่มมากน้อยเพียงใด จะรบกวนคุณฟีบี้มากไปหรือเปล่าคะเนี่ย

 

โดย: sriwis IP: 61.7.139.47 30 กรกฎาคม 2551 15:41:20 น.  

 

คุณฟีบี้ค่ะ

แล้ว flax seed oil หละคะ ดีเท่า omega 3 อ่ะป่าว พอดีเรากะลังลดน้ำหนักอยู่ อ่านในหนังสือเค้าแนะนำให้ทาน พอทานแล้วก้อรู้สึกดี ผอมลง แต่น้ำหนักไม่ลด แต่ตอนนี้ว่าจะหันไปทานน้ำมันปลาแทน มันดีต่างกันยังงัยค่ะ

 

โดย: sea IP: 58.8.102.252 31 กรกฎาคม 2551 9:26:54 น.  

 

ขอบคุณค่ะ ได้ความเข้าใจที่ถูกต้องยิ่งขึ้นเลย เดี๋ยวคงต้องสังเกตค่า EPA และ DHA ให้ดีๆ จะได้คุ้มกะตังค์ ที่เสียไป

 

โดย: Geerorogunso 1 สิงหาคม 2551 14:50:06 น.  

 

อ่าน blog คุณฟีบี้ทีไรนี่ ... ตื่นตัวทุกที ต้องไปหาไรกิน ทำ อยู่เรื่อย 5555+

เรื่องที่เอามาแชร์นี่ดีๆ ทั้งนั้นเลยครับ effect ต่อตัวผมมาก ตอนนี้ ดูดี สุขภาพดีมากครับ

ขอบคุณนะคับ

 

โดย: mova IP: 58.8.13.48 4 สิงหาคม 2551 12:01:33 น.  

 

คุณฟีบี้ ขอถามเกี่ยวกับshea butterหน่อยนะคะคือไปเขียนในหัวข้อshea butterไม่ได้นะคะ

คือไปเปิดดูเวปไซค์จะซื้อ unrefined shea butter แต่ในเวปนั้นมันมี product 2 แบบคือเป็นที่ผลิตที่ west กับ east AFFRICA

ที่ผลิตที่ east มันจะแพงกว่า แบบwest affrica

east มีIngredients: Vitellaria Paradoxica; ssp. Nilotica.(East African Shea Butter)

west มีIngredients: Butyrospermum Parkii(West African Shea Butter)

ตอนนี้west มีโปรโมชั่นซื้อ2แถม1ด้วยคะ

เวปนี้นะคะ

//sheabutterhut.com/shea_butter.html

ขอบคุณคะ

 

โดย: vanessa IP: 71.107.67.14 8 สิงหาคม 2551 8:27:34 น.  

 

ได้อาหารเสริมดีๆมาเพิ่มอีกตัวนึงแล้ว
ขอบคุณมากๆนะคะ

 

โดย: แจน IP: 58.64.72.186 12 สิงหาคม 2551 13:30:19 น.  

 

แวะผ่านมาเจอ ขอแจมหน่อย หวังว่าเจ้าของบล็อกคงไม่ว่าอะไรนะคับ

ความสัมพันธ์ระหว่าง Omega3 และ Omega6 คือในอาหารแต่ละวัน ควรจะมีปริมาณ Omega3:Omega6 เป็นอัตตราประมาณ 1:3

แต่ว่าในการบริโภคทุกวันนี้ เนื่องจากอาหารผ่านการแปรรูปค่อนข้างเยอะ ทำให้ปริมาณ Omega 6 เยอะกว่า Omega3 มาก (โดยจากสถิติคนอเมริกัน สัดส่วนการบริโภคอยู่ที่ 1:13

ก็เลยออกอาการ ขาด Omega3 กันเป็นแถวๆ

ส่วน Flax seed oil มี Alpha linoleic acid อยู่เยอะ ตัวนี้ก็จัดเป็น Omega3 เหมือนกัน แต่ไม่มีผลการวิจัยใดๆ บ่งชี้ว่า ร่างกายมนุษย์ นำกรดไขมันตัวนี้ไปใช้ประโยชน์ได้เหมือน EPA หรือ DHA

 

โดย: MMC IP: 124.121.52.76 3 ตุลาคม 2551 22:48:15 น.  

 

ขอรกวนถานิดนึงค่ะเคยอ่านเจอว่าn-6 supplement มีผลดีต่อร่างกายเพราะจะไปสร้างพวก antiinflammation ได้ดีกว่ากินพวกเนื้อสัตว์ที่จะเปลี่ยนไปเป็น arachidonic acid ที่มีมากกแล้วไม่ดีต่อร่างกาย งานวิจัยนี้เขา ACCEPT หรือยังคะ แล้วเราควรกิน n-6 ดีไหมคะ แล้วสัดส่วนนี่ อันนี้เถียงกับเพื่อนมาว่าถ้าจะใหดีสุดควรเป็นสัดส่วน 10ต่อ 1 ของ n-6 / n3 นี่จิงไหมคะ เรว่ามันเยอะไปนะ ของคนjapan ยังอยู่ที่ 4/1เรยอะค่ะ รบกวนด้วยค่ะ

 

โดย: เดชคุณด้วน IP: 202.28.6.18 4 ตุลาคม 2551 20:49:15 น.  

 

Agel

 

โดย: Agel (boypsx ) 3 พฤศจิกายน 2551 7:51:44 น.  

 

เอเจล

 

โดย: เอเจล (mlmboy ) 9 พฤศจิกายน 2551 5:04:59 น.  

 


มาเยี่ยมค่ะ

 

โดย: Cheria (SwantiJareeCheri ) 17 พฤศจิกายน 2551 12:22:44 น.  

 

คังเซน

 

โดย: คังเซน (mlmboy ) 26 พฤศจิกายน 2551 22:22:17 น.  

 

สวัสดีค่ะ ได้ความรู้มากมาย ชอบๆ รบกวนถามต่อหน่อยค่ะพอมีข้อมูลเกี่ยวกับ copper peptide มั๊ยคะ มีปัญหาหลุมสิว แต่ไม่มากค่ะแล้ว เจ้าtrylagenนี่ดีจริงมั๊คะ ขอบคุณมากๆจ้า

 

โดย: จีบนก 14 ธันวาคม 2551 11:58:43 น.  

 

ขอบคุณสำหรับสาระดีๆค่ะ อยากถามเพิ่มเติมอีกนิด
คือว่าเราแพ้อาหารทะเล สงสัยมานานแล้วว่าจะทานจากไหนดีเพราะส่วนมากก็มาจากปลาทะเลทั้งนั้น ถ้าได้จากพืชก็เอาไปใช้ได้ไม่เหมือนกันอีกแน่ะ
แล้วอยากให้คุณฟีบี้เพิ่มข้อมูลการใช้เครื่องสำอางค์กับคนแพ้อาหารทะเล สัตว์เปลือกแข็งต่างๆและพวกพืชสมุนไพร น่าจะมีข้อระวังอยู่เยอะ เราเป็นคนมีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันและฮอร์โมนจะใช้อะไรทีนึงลำบากจัง ผิวไวและแพ้ง่ายมากแถมผิวแห้งแม้หน้าร้อน อีกอย่างเราเองสงสัยพวกการใช้คอลลาเจน สาหร่ายอะไรพวกนี้ ถ้ามีเวลาก็รบกวนแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: กุ๊กกิ๊ก IP: 58.64.62.168 1 มกราคม 2552 2:40:54 น.  

 

เรียนถามคุณฟีบี้ทีค่ะ
เราเคยได้ยินว่าการกินน้ำมันที่ผ่านความร้อนหรือเติมไฮโดรเจน จะเกิดtrans fat ซึ่งเขาว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ ก็เลยมีพวกน้ำมันจากพืช ที่บอกว่าเป็นVirgin หรือ Extra virgin ก็เลยสงสัยว่า แล้วน้ำมันปลาล่ะ ทำไมไม่ค่อยเจอที่บอกว่าสกัดเย็นหรือVirginอะไรทำนองนี้เลยน่ะค่ะ อีกอย่างหนึ่ง มันไม่เป็นไข เลยสงสัยว่าน้ำมันปลาที่เรากินอยู่นี้ มันเติมไฮโดรเจนหรือเปล่า พยายามหาข้อมูลในเน็ตก็ไม่เจอ แต่ส่วนตัวก็กินน้ำมันปลาเป็นประจำอยู่ ยี่ห้อ Kirkland ของcostco (ถูกมาก) วันละ 4ซอฟท์เจล แต่ก็แอบกังวลเรื่องTrans fat อยู่หน่อยๆเหมือนกัน เพราะไม่แน่ใจว่าเขาสกัดน้ำมันปลาออกมายังไงน่ะค่ะ

 

โดย: ชุติกาญจน์ 15 กุมภาพันธ์ 2552 4:19:48 น.  

 

แหมได้ประโยชน์มากมาย ขอบคุณมาก ๆ จ้า

 

โดย: yayung IP: 202.149.25.193 30 มีนาคม 2552 21:43:16 น.  

 

เพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่านบล็อคของคุณฟีบี้..คอมเมนท์ช้าไปไม่ว่ากันนะค้าบบ
ได้ความรู้มากมาย

 

โดย: หนึ่งกันยา 25 ตุลาคม 2552 16:42:16 น.  

 

แอบออกนกทะเลนิดนึงนะครับ

อ่อน เยาว์ขึ้น หรือ อ่อน เยาว์ลง

ตามความคิดเรานะครับ และตาม หลัก Logic นิดนึง อะไรที่มันดู Positive มันจะใช้ขึ้น ถ้า Negative จะใช้ลง
แต่ในทางกลับกัน มันมันแสดง Degree ความน้อยกว่า ก็ใช้ลง มากกว่า ก็ใช้ ขึ้น

เช่น
เย็นลง ร้อนขึ้น
หนาวลงเยอะ ร้อนขึ้นเยอะ
เด็กลง แก่ขึ้น
หนาขึ้น บางลง
ดีขึ้น แย่ลง
สวยขึ้น ขี้เหร่ลง (แต่อีกนัยนึง ถ้าความขี้เหล ลดลง ก็ก็คือ สวยขึ้น นั่งเอง ชักงงๆ) :D

 

โดย: พ่อมดน้อย IP: 202.91.23.6 16 มิถุนายน 2553 15:57:00 น.  

 

พ่อมดน้อย ... เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแบบไหนถูก เพราะภาษาไทยเราก็ร่อแร่พอสมควร

ตอนเขียนเราคงมองความอ่อนเยาว์เป็นตัวเลข(อายุ) ไม่ได้มองที่ + or - มั๊งคะ

ดูอ่อนเยาว์ อายุลดลง ตัวเลขน้อยลง
ดูแก่ อายุเพิ่มขึ้น ตัวเลขเพิ่มขึ้น

 

โดย: Phoebe Buffay 19 มิถุนายน 2553 19:44:01 น.  

 

แวะมาทักทายตอนเช้าครับ
เกริ่นนิดนึง
เราเองเป็นคนที่บ้า Sun Screen มากๆ พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับ Sunscreen
เพื่อใช้ได้ของที่ดีที่สุดในราคาที่สมเหตุผลที่สุด แต่ด้วยความที่ไม่ชอบเข้าพันธุ์ทิพย์เนื่องจาก Topic เยอะมาก ก็เลยพยายามหาจาก Google จบไปเจอ Blog ขอบคุณ PuPae So Sweet เข้า แล้วก็ตาม Source ของคุณปูเป้มาเรื่อยๆ คนมาเจอ Blog คุณฟีบี้เข้า
ต้องขอขอบคุณคุณฟีบี้มากๆที่ใจดี เสียสละเวลา ทำ Blog นี้ขี้มาเพราะ มีประโยชน์กับเรามาก ไม่ใช่แค่เครื่องสำอาง ยังมีโภชนาการ ยา โอ้เยอะจริงๆ
ยังไง ถ้าได้เป็นสมาชิกพันธูทิพย์เมื่อไหร่ ขอฝากตัวเป็นแฟนคลับคุณฟีบี้ ซํกคนนะครับ

Have a gorgeous day there :D

 

โดย: พ่อมดน้อย IP: 183.89.128.211 20 มิถุนายน 2553 3:02:06 น.  

 

กินของ Kirkland สูตรใหม่ วันละเม็ดขวดสีฟ้า บอกได้คำเดียวว่าโอมากๆ ดูจากอะไรนะเหรอ คนรอบข้างทักทุกคนว่าผิวสวยขึ้น ซึ่งกินได้แค่เกือบเดือนเอง อีกอย่างเป็นสูตรที่เข้มข้นและไม่เหม็นด้วย

 

โดย: TOM IP: 125.27.78.137 7 กรกฎาคม 2553 15:43:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Phoebe Buffay
Location :
ทุ่งหญ้า Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 173 คน [?]




"It's Phoebe! That's, P as in Phoebe; H as in hoebe, O as in oebe; E as in ebe; B as in bebe; and E as in ... Ello there mate." Friends

There is no copyright here, unless otherwise specifically mentioned. If you find it useful, just take it. Thanks!

CHAT BOX



LAST UPDATES
LOSEING WEIGHT (BBC)
SKINCARE MINI SERIES
FAVORITES

Friends' blogs
[Add Phoebe Buffay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.