Skin Lightening Agents
Skin Lightening Agents มีคนถามถึง products ที่ทำให้ผิวขาวกันบ่อยๆ ... วันนี้ (อึดมาก) ... หาอะไรมาให้อ่านกันค่ะ ... ค่อยๆ อ่านกันละกันนะคะ ... หวังว่าคงมีประโยชน์กับ คนที่อยากขาวกันบ้าง ไม่มากก็น้อยนะคะ ^^ เราไม่ขออ้อมค้อมนะคะ ... ถามว่าตัวไหน ยี่ห้อไหนบ้าง ไปเลือกกันเอาเองค่ะ ... เราจะพูดถึงส่วนผสมที่เป็นตัวสำคัญที่มีการศึกษาพบว่าช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิวได้จริง ค่ะ ^^ แต่บางตัวก็ยังมีการศึกษาไม่มากพอ ... บางตัวก็มีส่วนช่วยในทางอ้อมนะคะ ... ลองอ่านกันดูค่ะ
Hydroquinone Hydroquinone เป็นตัวที่มีการศึกษาวิจัยมากที่สุดในบรรดา topical skin lightening treatment (แบบทา) ... เป็น agent ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว ทำให้ผิวขาวขึ้นได้จริงๆ ... การทำงานของ Hydroquinone คือ จะไปยับยั้งการสร้างเอนไซม์ ที่ชื่อว่า tyrosinase ซึ่งจะไปยับยั้งกระบวนการสำคัญในการสังเคราะห์เม็ดสีผิว melanin) นั้นเอง จริงๆ แล้ว Hydroquinone ไม่ได้ใช้ปุ๊บผิวขาวปั๊บ ... แต่ว่าต้องใช้เวลาพอสมควร ... เนื่องจากว่า Hydroquinone จะไปยับยั้งการสังเคราะห์ melanin ... แต่ melanin ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาแล้วก็ยังคงอยู่ ... ดังนั้น ระหว่างที่ใช้ ต้องรอเวลาให้ผิวเก่าที่มีเม็ดสีผิวเยอะๆ ตายก่อน และถูกผลัดออกไป ซึ่งก็ใช้เวลาเป็นเดือนเป็นอย่างต่ำ ... จากนั้น ... เมื่อผิวที่มีเม็ดสีผิวตาย ... ผิวใหม่ที่มี melanin น้อย ก็จะค่อยๆ มองเห็นว่าขาวขึ้นในที่สุด (ก็อาจจะใช้เวลา 1-2 เดือน) ถ้าต้องการให้เห็นผลเร็วขึ้น ... ก็ควรใช้ Hydroquinone ร่วมกับตัวที่ช่วยผลัดผิว เช่น glycolic acid ... ซึ่งก็จะไปช่วยกระตุ้นการผลัดผิวให้เกิดเร็วขึ้น ... ผิวที่มีเม็ดสีผิวน้อย ก็จะค่อยๆ โชว์ออกมาให้เห็น แล้วก็มองเห็นว่าขาวขึ้นเร็วกว่า ปกติ Hydroquinone ที่ขายอยู่ตามร้านขายยาและตาม cosmetic counters จะมีความเข้มข้นอยู่ที่ 0.5-2% ถ้าหากใครมองหาตัวที่มีความเข้มข้นสูงกว่านี้ ก็ต้องหาเอาจากหมอ เนื่องจากว่าการใช้ Hydroquinone ในปริมาณสูงมีผลข้างเคียงค่อนข้างเยอะทีเดียว จากผลการศึกษาของ Hydroquinone กับสัตว์ ... พบว่าการใช้ Hydroquinone ในความเข้มข้นที่สูง จะทำให้เกิดมะเร็งขึ้นมาได้ ... แม้แต่การใช้ Hydroquinone ที่มีความเข้มข้นต่ำ ก็อาจจะส่งให้เกิดผลข้างเคียงซึ่งก็คือการทำให้ผิวที่ดำ กลายเป็นสีออกน้ำเงิน ดำๆ แทนที่จะขาว หรือ สว่างขึ้น ... แต่ผลข้างเคียงจากการใช้ Hydroquinone ในความเข้มข้นต่ำเป็นแค่ผลข้างเคียงชั่วคราวเท่านั้น การศึกษาเกี่ยวกับ Hydroquinone และผลข้างเคียงก็จะคงยังดำเนินต่อไป ผลข้างเคียงของ Hydroquinone ที่เกิดขึ้นกับพวกหนูทดลอง จะให้ผลที่เลวร้ายกับคนรึเปล่า ก็ยังไม่มีใครรู้ได้ ... แต่ก็อย่าเห็นแก่ความสวย แล้วมองข้ามความปลอดภัยไปซะ ใครที่อยากขาว ... และอยากลองใช้ Hydroquinone ... แต่กังวลเรื่องความปลอดภัย ก็คงต้องรอกันต่อไป
Arbutin บางคนอาจจะพูดว่า arbutin เป็นทางเลือกใหม่ สำหรับคนที่อยากขาว แต่ไม่กล้าใช้ Hydroquinone เพราะกลัวมะเร็ง ซึ่งเป็นผลข้างเคียง ... แต่จริงๆ แล้ว ... arbutin มันก็คือ Hydroquinone ดีๆ นี่เอง Arbutin จริงๆ แล้วก็คือ glycosylated hydroquinone (ออกแนวๆ ตัว derivative ของ hydroquinone นั่นเอง) ... ประมาณว่ามีตัว hydroquinone เชื่อมโยงอยู่กับ glucose ... ผู้ผลิตเชื่อว่า arbutin ทำงานโดยการปล่อย hydroquinone ออกมาอย่างช้าๆ ผ่านกระบวนการ hydrolysis ซึ่งจะค่อยๆ ยับยั้งการสร้างเม็้ดสีผิวในที่สุดนั่นเอง จากการศึกษาพบว่า ที่ความเข้มข้นเท่ากัน artubin มีผลข้างเคียงน้อยกว่า hydroquinone ... ก็น่าจะเป็นแบบนั้น เพราะ artubin จะค่อยๆ ปล่อย hydroquinone ออกมาทีละนิดๆ ... ซึ่งทำให้เราสามารถใช้ arbutin ในปริมาณทีสูงกว่า คือประมาณ 3-7% ถ้าถามว่า arbutin ทำให้ผิวขาวขึ้นได้มั๊ย ... คำตอบก็คือได้แน่นอน ... แต่ก็ยังมีคำถามที่ว่า ... แล้วมันดีกว่า hydroquinone รึเปล่า ... แต่อย่างน้อย artubin ก็ระคายเคืองน้อยกว่า มีผลข้างเคียงน้อยกว่า แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผลข้างเคียงซะเลย ... เพราะอย่างที่บอกไปว่า artubin มันก็คือ hydroquinone ซึ่งก็น่าจะให้ผลข้างเคียง คือ มะเร็ง เช่นเดียวกันด้วย เนื่องจาก patent ที่ shiseido เป็นเจ้าของ ... ทำให้ arbutin จำกัดอยู่ใน shiseido's products เท่านั้น ... หลายๆ บริษัท จึงได้มองหาทางเลือกอื่นๆ โดยการใช้ plant extracts ที่มี artutin อยู่ด้วย มาใส่ใน products แทนการใส่ arbutin โดยตรง ... พืชเหล่านั้นก็ได้แก่พวก bearberry, bluberry, cranberry เป็นต้น ... แต่พวก plant extracts เหล่านี้ มีปริมาณ artubin อยู่ในนั้นมากน้อยแค่ไหน เราก็ไม่สามารถรู้ได้ ... ซึ่งก็แน่นอนว่าจะทำให้ผิวขาวหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน เราก็ไม่รู้ได้เช่นกัน จะดีมากน้อยแค่ไหน ... เราก็คงต้องรอกันต่อไป ... ใครรอไม่ไหว ก็เสี่ยงกันเอาเอง
Kojic Acid Kojic acid สามารถพบได้ในธรรมชาติ ... คือจริงๆ มันก็คือ เชื้อราบางอย่าง ... และก็แน่นอน ว่ามีความคล้ายคลึงกับ hydroquinone เช่นกัน ... คือจะไปยับยั้งการสร้าง tyrosinase ซึ่งจะไปยับยังกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว ... หลายแหล่งกล่าวว่า kojic acid ให้ผลเท่าเทียมกับ hydroquinone ในแง่ของการทำให้ผิวขาวขึ้น ... แต่ปัญหาคือว่า kojic acid ตัวมันเองไม่เสถียร เมื่อผสมอยู่ใน skincare products เพราะมันจะ oxidize ง่ายมาก เมื่อสัมผัสกับอากาศ และ แสงแดด จึงได้มีคนพยายามแก้ไขปัญหานี้โดยทำตัว derivative ของ kojic acid ขึ้นมา ... ซึ่งเรียกว่า kojic acid dipalmitate ซึ่งมีความเสถียรสูงกว่า kojic acid มาก แต่ก็ยังมีคำถามที่ว่า แล้วมันมีประสิทธิภาพเหมือนกับ kojic acid รึเปล่า ... ซึ่งเราก็คงต้องรอให้เค้าศึกษากันต่อไป แต่ก็ได้มีผลวิจัยบางอย่างออกมาว่า kojic acid ก็เป็นสาเหตุของมะเร็งในหนูทดลองเช่นกัน (เมื่อใช้ kojic acid ในปริมาณสูงติดต่อกันเป็นเวลา เกือบๆ 7 เดือน) แต่ก็ยังไม่มีใครทดสอบกับมนุษย์เราว่าจะก่อให้เกิดมะเร็งเหมือนหนูทดลองรึเปล่า
Azelaic Acid Azelaic acid เกิดขึ้นเองจากกระบวนการทางเคมีบางอย่าง จัดอยู่ในกลุ่ม dicarboxylic acid ... ส่วนใหญ่แล้ว azelaic acid จะใช้ในการรักษาสิวซะเป็นส่วนใหญ่ ... แต่ก็พบว่า azelaic acid สามารถช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิวได้ด้วย ซึ่งก็อีกเช่นเคย คือไปยับยั้งการสังเคราะห์เอ็นไซม์ tyrosinase ... แล้วก็ยังไปลดกระบวนการสังเคราะห์ DNA อีกด้วย ... ปกติ azelaic acid ใช้รักษาพวก melasma, lentigo maligna ก็พวกโรคที่เกียวกับเม็ดสีผิวต่างๆ การใช้ azelaic acid โดยการทาภายนอกให้ผลในการลดการผลิตเม็ดสีผิวต่ำมาก หรือ แทบจะไม่มีประโยชน์เลย Azelaic acid ที่ความเข้มข้นประมาณ 20% มักจะถูกใช้ในการรักษาสิว แต่ก็มีการใช้ในการทำให้ผิวขาวขึ้นด้วยเช่นกัน ในประเทศ South Africa (20% azelaic acid = 2% hydroquinone ในการทำให้ผิวขาวขึ้น) ... ข้อดีของ azelaic acid คือว่า ระคายเคืองน้อยกว่า ... และคนที่ใช้ hydroquinone แล้วระคายเคือง หรือมีผลข้างเคียง อาจจะใช้ azelaic acid โดยไม่มีผลข้างเคียงเลยก็ได้ ถึงแม้ว่า azelaic acid ดูเหมือนจะเป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับคนที่ต้องการให้ผิวขาวขึ้น ... แต่ดูเหมือนว่า azelaic acid จะไม่ค่อยช่วยเรื่องการรักษาฝ้า หรือจุดด่างดำต่างๆ ได้ดีเท่ากับ hydroquinone
Licorice Extract Glabridin (เป็น compound ของ licorice extract ซึ่งช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว) ซึ่งแน่นนอนว่าจะช่วยให้ผิวขาวขึ้น และก็เหมือนเดิม คือ มันจะไปยับยั้งการสังเคราะห์ tyrosinase นั่นเอง ... แต่สำหรับ licorice extract ซึ่งมักจะถูกใช้ใน asian skincare products โดยอ้างว่าช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น ยังไม่มีผลการการศึกษาที่น่าเชื่อถือว่าช่วยให้ผิวขาวจริงๆ แต่อย่างใด หากใครจะซื้อ products ที่มี licorice extract โดยหวังว่าผิวจะขาวขึ้น ก็ต้องเสี่ยงกันเอาเอง ... และผลข้างเคียงก็ต้องเสียงกันเอาเองเช่นกัน ว่าจะหัวหรือก้อย
Tranexamic Acid Tranexamic Acid ได้จากการสังเคราะห์ amino acid ที่ชื่อว่า lysine ถือว่าค่อนข้างใหม่ ถ้าพูดถึงการใช้ทำให้ผิวขาวขึ้น (ยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิว) ... จริงๆ แล้ว Tranexamic Acid เป็นของเก่า ... ซึ่งถูกใช้ในการห้ามเลือดให้กับผู้ป่วย มีผลการวิจัย (โดย shiseido) สนับสนุนว่า Tranexamic Acid ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นได้ มี paper อันนึง ... โดยกลุ่มนักวิจัยเกาหลี ... ได้ทำการศึกษากับผู้ป่วย melasma ซึ่งเป็นอาการที่พบมากในคนท้อง คือ ผิวหน้าจะหมองคล้ำ ดำ เปลี่ยนสีไป ... ซึ่งพบค่อนข้างบ่อยจนเป็นเรื่องปกติ ... ซึ่งส่วนมากการรักษาโรคนี้ก็มักจะใช้พวก skin lightening ต่างๆ เช่น hydroquinone, azelaic acid หรือแม้แต่กระทั่งพวก facial peel อย่าง glycolic acid การศึกษาโดยการทดสอบ treatment กับผู้ป่วยจำนวน 100 คนที่มีปัญหา melasma ด้วยการ ฉีด tranexamic acid (TA) เข้าไปที่ผิวบริเวณที่ต้องการรักษา แล้วก็ศึกษาผลข้างเคียงไปพร้อมๆ กันด้วย ... การฉีด TA นี้ ทำติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ... และได้มีการสังเกตการเปลี่ยนแปลงใน 4 สัปดาห์, 8 สัปดาห์, และ 12 สัปดาห์ ... ผลออกมาพบว่า 9.4% ได้รับผลที่น่าพอใจ คือ สังเกตุเห็นว่าผิวขาวขึ้น สีคล้ำจางลงไปประมาณ 51-75% 76.5% ได้รับผลที่เรียกว่า fair คือ สังเกตุเห็นผิวขาวขึ้นประมาณ 26-50% 14.1% ไม่ได้รับผลที่น่าพอใจ คือแทบจะไม่เห็นว่าผิวขาวขึ้นเลย หรือรู้สึกว่าผิวขาวขึ้นประมาณ 0-25% ส่วนผลข้างเคียง ใน paper นี้บอกว่า มีผลข้างเคียงต่ำมาก ... และก็สรุปว่า การ inject TA เข้าไปในผิวน่าจะช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหา melasma ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ... การศึกษาผลข้างเคียงของ TA ยังมีไม่มากพอ ... เราก็คงต้อรอกันต่อไป ทีนี้ก็มาถึง Shiseido Haku ที่เราอยากลองนักหนา ... ก็คิดๆ กันเอาเองก่อนซื้อ ... ว่าใน paper นี้เค้าทดลองโดยการฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่มีปัญหา ... ซึ่งก็ใช้เวลาถึง 12 สัปดาห์ ... เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ทา ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะมีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาก ... ก็คงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 12 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห้นผลเช่นกัน ก็อย่างที่บอก การใช้ TA ในการทำให้ผิวขาวขึ้น มันยังใหม่อยู่ ... การศึกษาก็ยังอยู่ในวงแคบๆ ... ใครรอไม่ไหว จะทดลองใช้ดู ... ก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละคนเองค่ะ Lee JH, Park JG, Lim SH, Kim JY, Ahn KY, Kim MY, Park YM Localized intradermal microinjection of tranexamic acid for treatment of melasma in Asian patients: a preliminary clinical trial Gowoonsesang Dermatology Clinic, College of Medicine, The Catholic University of Korea, Seoul, Korea
Alpha Hydroxy Acid จริงๆ แล้ว การใช้ AHA ไม่ได้ไปมีส่วนในการยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิวแต่อย่างใด ซึ่งก็หมายถึงว่าการใช้ AHA ไม่ได้เป็นตัวการที่ทำให้ผิวขาวขึ้นแต่อย่างใด ... แต่ ... ก็ไม่เชิงซะทีเดียว ... เพราะการใช้ AHA อาจจะมีส่วนในการทำให้ผิวขาวขึ้นในทางอ้อมก็ว่าได้ ... คือ หากเราผลัดผิวโดยการใช้ AHA ก็จะทำให้ผิวเรามีการผลัดเร็วขึ้น บ่อยขึ้น ... ซึ่งก็หมายถึงว่าเม็ดสีผิวก็จะถูกขจัดออกไปด้วยนั่นเอง ... ถ้าเป็นปัญหาพวกจุดด่างดำแบบชั่วคราว ... AHA ก็มีส่วนในการกำจัดจุดด่างดำเหล่านั้นออกไปได้ ... แล้วหากเราใช้คู่กับ skin lightening products ก็จะไปช่วยให้ผิวขาวขึ้นเร็วกว่าเดิมนั่นเอง
หลักๆ แปลมาจาก smartskincare.com ค่ะ ... แล้วก็จับโน่นนิด นี่หน่อยผสมปนเปกันไปเรื่อยๆ ค่ะ ^^ ส่วนใครอยากรู้ว่า products ตัวไหนมีส่วนผสมพวกนี้บ้าง ... แวะไปที่ phoebe.pn-np.net นะคะ (ไม่ค่อยโฆษณาเลย) ... แล้วลอง search หาดูได้ตามสะดวกเลยค่ะ ^^ จริงๆ คนเราทุกคนก็สวยอยู่ในตัวอยู่แล้วนะคะ ^^ ผิวขาวขึ้นก็ใช่ว่าจะสวยไปซะทุกคน จริงมั๊ย? จะรอ หรือ อยากขาวเร็วๆ แต่ต้องเสี่ยง หรือ ผิวขาวน้อยหย่อยแบบเดิม ... ก็เลือกกันเอาเองค่ะ
Create Date : 01 กรกฎาคม 2551
15 comments
Last Update : 1 กรกฎาคม 2551 9:38:37 น.
Counter : 3314 Pageviews.
โดย: Galilee 1 กรกฎาคม 2551 9:36:32 น.
โดย: yoko 1 กรกฎาคม 2551 11:03:07 น.
โดย: wannee2w 1 กรกฎาคม 2551 11:58:38 น.
โดย: เจน IP: 125.25.37.220 1 กรกฎาคม 2551 13:04:38 น.
โดย: ซัน IP: 203.121.23.19 1 กรกฎาคม 2551 14:20:36 น.
โดย: ningpotter IP: 125.24.201.34 1 กรกฎาคม 2551 16:49:27 น.
โดย: พี่พิม IP: 124.121.85.73 1 กรกฎาคม 2551 16:55:02 น.
โดย: lollynut IP: 125.24.41.227 1 กรกฎาคม 2551 23:19:57 น.
โดย: Cottony 2 กรกฎาคม 2551 9:58:02 น.
โดย: mashimaru IP: 222.123.202.122 5 พฤศจิกายน 2551 0:19:41 น.
โดย: น้องซู IP: 58.136.74.164 19 เมษายน 2552 9:49:53 น.
โดย: Nue IP: 118.173.248.117 8 มิถุนายน 2552 10:36:06 น.
"It's Phoebe! That's,
P as in
P hoebe;
H as in
h oebe,
O as in
o ebe;
E as in
e be;
B as in
b ebe; and
E as in ...
E llo there mate." Friends
There is no copyright here, unless otherwise specifically mentioned. If you find it useful, just take it. Thanks!
CHAT BOX
LAST UPDATES
LOSEING WEIGHT (BBC)
SKINCARE MINI SERIES
FAVORITES