มิถุนายน 2551

1
2
3
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ไปมาแล้ว..สะพานมัฆวานรังสรรค์ (ตอน ๒)



'ถนนราชดำเนิน ถนนแห่งประวัติศาสตร์'

ครั้งแรกของชีวิตที่มานั่งอยู่ ณ ที่นี้ พอรู้สึกว่าตัวเองน่าจะเกะกะคนที่เข้ามาใหม่ ก็เปลี่ยนมุมไปนั่งฝั่งตรงข้าม ทรุดนั่งยึดเอาเสาป้ายถนนราชดำเนินเป็นที่ตั้ง มีชาย-หญิงคู่หนึ่ง นั่งอยู่ก่อนแล้ว ยุทธการชวนสนทนาเริ่มขึ้น พอรู้ที่มา ที่ไป ว่าพี่เขามากันทุกวัน อยู่กรุงเทพฯ นี่แหละ ไป-กลับ พี่ผู้ชายบ้านอยู่แถวฝั่งธนฯ เขาถลกกางเกงโชว์มีรอยเย็บเป็นตะเข็บยาวตลอดจากหัวเข่าถึงข้อเท้าทีเดียว เสียงปนกันเลยฟังไม่ชัดว่าแผลจากอะไร

ดนตรีกับคนร้องเพลงจบไปนอนไหนมิทราบ คุณอัญชลีขึ้นมายืน 'กรี๊ด คุณอัญชลีตัวเป็นๆ ไม่ใช่ที่เราคนในทีวี' รีบซูมกล้องเข้าไป จากโบกไม้โบกมือ เธอก็ยกมือไหว้ จับติดพอดี..

ขยับๆ ไปด้านหน้ายึดโคนเสาซุ้มประตู ขยับไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าสุด มีสาวใหญ่นางหนึ่ง ส่งเสียงถาม ก็เล่าให้ฟัง..ยิ้ม ยิ้ม และยิ้ม ความว่า ๔ สาวแห่งจังหวัดน่านมาตั้งแต่วันที่ ๒๕ กลับไปรอบหนึ่งแล้ว และมาใหม่อีก นั่งคุยกันพอเพลินๆ สลับสายตาไปบนเวที คุณสำราญ คุณยุทธิยง คุณสุวัฒน์ และอีกท่านหนึ่งจำชื่อไม่ได้ กำลังสนทนากันไป ไอร้อนเริ่มระอุขึ้น พื้นถนนที่อุ้มน้ำฝนเมื่อคืนรับกับไอแดดที่แผดกล้าตอนนนี้ส่งไอร้อนมาปะหน้า อบอ้าวมากๆ เหงื่อเริ่มซึม นั่งฟังทั้งบนเวที และล่างเวที ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ราวอะไรมากนัก หันมามองด้านหลังสบตากับสาวน้อยนางหนึ่ง หน้าตาดี สูง ขาว ตาสวย ขนตางอนเช้ง แหม..ใครนะ ช่างว่าได้ม็อบ สว. (สูงวัย) น้องคนนี้สวย น่ารัก และจิตใจดีออก มาทนร้อนกับพี่ป้าน้าอาตั้งแต่เช้า

มองข้างหลังทีไร ก็สบตากับน้องสาวคนนั้นตลอด ข้างบนเวทีพูดกันไป ข้างล่างเวทีก็คุยแข่งบ้างเป็นระยะๆ อาการอยู่ไม่สุข เริ่มบังเกิด ข้าพเจ้าขอตัวจากบรรดาพี่ป้า แถวนั้นๆ ออกเดินสำรวจ เขากำลังลงน้ำดื่มล็อตใหม่ น่าจะราวๆ ๓๐๐-๔๐๐ แพ็คได้ กดชัตเตอร์ไว้ฉับๆ จากนั้นก็รีบเก็บกล้องเข้าไปช่วยเรียงขวดน้ำกันเสร็จสรรพ

เรียงเสร็จนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเป็นคนมีโรคประจำตัว ยกของหนักไม่ได้ เคยอาการหนักขนาดเลือดไหลมาแล้ว แต่นี่เห็นเขาทำงานกันก็ลืมเจ็บ เข้าไปช่วย โชคดีจริงๆ ที่รอดมาได้

เรียงน้ำเสร็จ เดินกลับมาพบคนบ้านเดียวกัน
นั่งเครื่องบินมา สามคน พ่อ-แม่-ลูก

 

กำลังเตรียมเอกสารไปให้ศูนย์อำนวยการ ร่วมถอดถอน สส. สว.

พอบอกว่ามาม็อบพันธมิตร การบินไทยแถมขนมมาให้ด้วย

ปรบมือให้การบินไทยหน่อยค่ะ

เห็นภาพความร่วมมือ ร่วมใจแล้วชื่นใจนะ

น้องๆ ระวังนะ

เป็นห่วงต้นไม้จะหัก (ฮา)

หลังจากนั้นก็ไปสำรวจครัว คนทยอยมาตักเข้าแถวกันเรียบร้อยดี ไม่มีใครกินไปบ่นไปสักคน (ฮา)

กินข้าวก้อง ราดด้วยใบเบญจรงค์ผัดน้ำมันหอย (มั๊ง) ไปประมาณสามช้อนโต๊ะ (ฮา) นำไปเก็บเรียบร้อยก็บุกหาต้นตอ

นั่งช่วยเขาเด็ดใบเบญจรงค์

เราก็เด็ดกันไปเรื่อยๆ คนกินเขาไม่เหนื่อย

แม้เราเมื่อย ก็สุขใจ

มีอีกไหม..ไม้หน้าสาม

จับมาทำเขียงพรึด..

นอกจากนี้ ท่ามกลางบรรยากาศการชุมนุม ในครัวเราเฮฮา สนุกสนาน (มิน่าล่ะ อาหารอร่อย) คนที่หั่นฟัก บอกว่า เดี๋ยวคอยดูนะ จะแกะสลักเรื่องราว ตั้งแต่เธอร่วมชุมนุมครั้งแรกจนถึงครั้งนี้ให้ได้ชมกัน

ไม่ทราบใครได้รับประทานบ้าง พอดีข้าพเจ้าไปไม่ทัน อิอิ จริงๆ อาหารหลักของสองวันที่ร่วมด้วย คือนมถั่วเหลืองกล่อง เพราะเป็นห่วงกลัวว่าท้องไส้จะปั่นป่วนเอาน่ะค่ะ

สำรวจจนพอใจก็กลับมานั่งที่เดิม เริ่มยึด ๔ สาวจังหวัดน่านเป็นเพื่อน มีสองคนบอกว่าจะกลับไปอาบน้ำ ไปด้วยกันไหม.

'โอ้..กุศล ดลพี่มาพบเจ้า....' (ร้องในใจน่ะ) ยิ้มแต้รับคำ

'สวรรค์โปรดแล้วพี่น้องเอ้ย..'

รีบพยักหน้า และตอบตกลงโดยไม่เหนียมสักนิด เพิ่งทราบว่าท่านหนึ่งเป็นแม่ครูลาออกแล้ว กับป้าครู เกษียณแล้ว และอีกสองท่านที่อยู่ที่สะพานฯ ก็เกษียณแล้วเช่นกัน มากันด้วยใจมุ่งมั่น และใจนักสู้ "สตรี ศรีเมืองน่านแต้ๆ เจ้า"

คำเริ่มบอกเล่าความ การเล่าสู่ แลกเปลี่ยนกัน แน่นอนว่าผู้น้อยอย่างข้าพเจ้าซึ่งเป็นคนแปลกหน้าย่อมต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ บอกเล่าทุกอย่าง..อันเป็นพื้นเพ และหลักฐานพอที่จะสร้างความไว้วางใจให้ป้าครู และแม่ครูได้

ขอบคุณพระเจ้าที่เมตตาประทานเพื่อนที่แสนดีให้ข้าพเจ้า แม่ครู ป้าครู และพี่หัวหน้ากลุ่ม ๔ สาวจังหวัดน่านจะเมตตาให้ที่พักในยามค่ำคืนนั้น แก่ลูกหมูขี้กลัว

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็กลับไปสู่ถนนราชดำเนินอีกครั้ง คราวนี้ให้สองสาวปักหลักที่เดิมผลัดให้อีกสองสาวไปอาบน้ำ อาบท่ากันบ้าง ส่วนข้าพเจ้าเริ่มไปหางานทำตามประสาคนไม่อยู่สุข นิ่งต้องหลับ เลยขยับๆ ไปหาอะไรทำ

ไปกระแซะๆ ในครัวซึ่งเป็นแหล่งงานชั้นดีอยู่แล้ว ตรงไหนก็แทรกได้ ได้นั่งถัดไป ถัดมา วนๆ วุ่นๆ เด็ดผัก หั่นผัก อยู่ในครัว สลับกับเดินสำรวจ สังเกตการณ์ต่างๆ ถ่ายภาพ ความที่เดินไป เดินมา

ช่วยงานไปเท่าที่จะทำได้ เมื่อยก็หยิบๆ จับๆ เอาขนมหรือผลไม้มาฝากคนที่นั่งชุมนุมอยู่บ้าง จนกระทั่งมืดค่ำ ร่างกายที่เหนื่อยล้า ศรีษะจะโขกกับพื้นอยู่แล้ว ก็เลยกลับที่คุรุสภา คุณป้าๆ ไม่ได้ฝากกุญแจไว้ ก็เลยนั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ แอบสัปหงกไปบ้าง บางที เพราะว่านั่งรถมาตั้งแต่หกโมงเย็น ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน จนกระทั่งสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว อดรนทนไม่ได้ เช็คจำนวนเงินในกระเป๋า หักค่ารถแล้วยังพอค่าห้องสักคืนอยู่หรอก ก็เลยไปถามเจ้าหน้าที่ว่าพอมีห้องว่างไหม ซึ่งเขาบอกว่าเต็ม..ก็กลับไปนั่งรอต่อ

ทนไม่ได้สุดๆ เดินไปถามเจ้าหน้าที่ว่า ป้าเขาเอากุญแจไปด้วย แต่ข้าพเจ้าอยากเข้าไปอาบน้ำ ตอนนั้นกลิ่นคงจะบ่งบอกได้ว่าเน่าขนาดไหน เจ้าหน้าที่เขาเห็นใจก็เลยไปเปิดประตูให้ และแนะนำวิธีเปิดไฟให้..

ต้องขออภัยป้าๆ ที่ทำเหมือนอุกอาจ แอบขโมยเข้าไปนอนก่อน ซึ่งมันสุดๆ จนไม่ทราบจะบอกอย่างไร อาบน้ำเสร็จก็หาที่นอน ซึ่งก็คงเป็นบนเตียง แต่ไม่กล้าทำอะไรให้ยับ คุดคู้ห่มผ้าขนหนูที่เขาเอามาวางบริการไว้นั่นแหละ หลับๆ ตื่นๆ ฝันหรือจริงยังไม่แน่ใจ เพราะภาพมันสลับกันมั่วไปหมดในหัว หูก็เหมือนยังได้ยินเสียงจากเวทีอยู่เนืองๆ

บรรดาป้าๆ กลับมาเห็นคนแปลกหน้านอนก่อนไม่ทราบจะโกรธกันไหม.. กราบขอโทษป้าๆ อีกครั้งค่ะ หลังจากที่ขออภัยกันไปแล้วรอบหนึ่ง คือหนูเป็นผู้หญิงตัวกลมๆ คนหนึ่งที่ไม่เคยนอนในที่สาธารณะ และคนเยอะขนาดนั้น ช่วงที่เดินออกจากที่ชุมนุม คนก็ยังหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย แทบจะไม่มีที่นั่ง หนูก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไรจริงๆ จึงได้กระทำการเห็นแก่ตัวเข้ามานอนก่อนเจ้าของห้อง

ผ่านพ้นไปลุ่มๆ ดอนๆ หนึ่งคืน แต่เมื่อได้เปรียบเทียบกับพี่น้อง ที่นอนอยู่ ณ ถนนราชดำเนินแล้ว รู้สึกว่าข้าพเจ้าผิดอยู่ในใจจริงๆ ม้วนแบ็งค์ร้อยเป็นกลมๆ สองใบขอสมทบให้ค่าห้องพัก บอกว่าถ้าป้าๆ ไม่รับให้ป้าๆ เอาไปบริจาคก็ได้ สรุป..ป้าไม่ยอมรับเด็ดขาด บอกว่าแค่หนูมาก็เป็นสำนึกที่ดีแล้ว.. "ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะแม่ครู"


 

ติดตามตอนจบ..คืนนี้ค่ะ

 




Create Date : 05 มิถุนายน 2551
Last Update : 12 เมษายน 2561 10:15:26 น.
Counter : 606 Pageviews.

5 comments
  
บ่ายแก่ๆ ยันเย็นย่ำฉันก็เดินอยู่แถวนั้น

ฉันไม่เลือกยืนฝั่งไหนแล้วค่ะ

เพราะสุดท้ายคนที่สูญเสียที่สุดก็คือประชาชนธรรมดา

เศร้า
โดย: นกที่ไม่มีเสียง วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:01:56 น.
  
รอดูทิศทางการเปลี่ยนแปลงอยู่เหมือนกันค่ะ คุณนกที่ไม่มีเสียง

เฮ้อ..หนักใจ
โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:03:28 น.
  
โอ้ยดีใจหนักหนาคุณสีน้ำฟ้า
ป้าอยากไปมากเลยแต่ไปไม่
ไหวปวดขามากหัวเข่ามันไม่
รักดีข้างซ้ายดันมาเสื่อมแหม
มันเจ็บใจส่งไปแต่เงินกะกำลัง
ใจจ๊าคุณไปดูมีอะไรก็มาเล่าสู่
กันฟังมั่งนะคะ
โดย: ป้าแอ๊ค่ะ (Naaee58 ) วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:18:18:01 น.
  
ถ้าไม่เลือกฝั่ง เพื่อช่วย กันเอง
ความสูญเสียคงจะหนักหนา กว่ามากๆ

จะมาบอกว่าให้ข้อมูลได้ดี
ตามรอยไปได้ง่ายเลยค่ะ
โดย: gomo IP: 118.173.126.124 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:18:50:19 น.
  


สุดยอดเลยคุณสีน้ำ
นี่ขึ้นมาจากกระบี่เลยเหรอ

ป้าไม่มีปัญญาไปหรอกนะ (แปลว่า …ไปไม่ได้)
เพราะติดดูแลคุณแม่……….สาวน้อยวัย 89 จ๊ะ
ทั้งบ้านมีกันแค่สองคนแล้วป้าจะไปไหนได้เล่า

คุณเล่าได้เห็นภาพเลย
อ่านทุกตัวอักษรน๊ะเพราะเขียนสนุก
มีอารมณ์ขันอยู่ในความกังวลเหนื่อยล้า

จะติดตามตอนต่อไปจ๊ะ
อยู่ที่บ้านแล้วนอนให้เต็มเตียงนะ
หลับให้สบาย ไม่ต้องคุดคู้แบบเกรงใจแล้วล่ะ

โดย: ยายกุ๊กไก่ วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:0:30:59 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สีน้ำฟ้า
Location :
กระบี่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



MY VIP Friend