เล่ห์รักสลับร่าง โม่เหยียน
เมื่อต้องประสบกับเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อเกิดขึ้นกับตัวเองเธอคือเยี่ยนอิงถง แต่กลับอยู่ในร่างของถังเยวี่ยหานจากอดีตมือปราบหญิงที่เก่งกาจเทียบเท่าชายอกสามศอก ต้องมาอาศัยอยู่ในร่างสตรีที่อ่อนแอและบอบบางหากการคร่ำครวญถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่ใช่วิสัยที่ควรทำนับจากนี้เธอจะเป็นถังเหวี่ยหานแต่เธอจะไม่ปล่อยให้การตายปริศนาของตัวเองเป็นความลับตลอดไป ด้วยความสามารถที่มีเธอต้องรู้ให้ได้ว่าผู้ใดกันที่ทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
เขาคือเฟิงอู๋จี้อัครเสนาบดีที่ยิ่งใหญ่เหนือคนทั้งแผ่นดิน แต่สยบอยู่เพียงแค่คนเดียว แทบไม่มีสิ่งใดเลยที่เขาต้องการแล้วไม่ได้และในครานี้กลับมีหนึ่งสิ่ง สตรีที่เขาแอบพึงใจกลับไม่มีวันได้ครอบครองเมื่อเยี่ยนอิงถงเหลือเพียงแต่ร่างที่ไร้วิญญาณโทสะที่เปรียบดั่งไฟจากนรกกินกัดหัวใจเขาและปณิธานที่สำคัญที่สุดของเขาก็คือลากตัวคนร้ายออกมารับโทษทัณฑ์ที่มันบังอาจพรากผู้หญิงที่เขารักไป
นับตั้งแต่เธอคือเยี่ยนอิงถงเธอเรียนรู้ที่จะหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเฟิงอู๋จี้ไม่ใช่ว่าเธอหวาดกลัวหรือกริ่งเกรงในความเป็นอัครเสนาบดีของเขาแต่ความรู้สึกที่มีให้คือความไม่ชอบขี้หน้าชายสูงศักดิ์ผู้นี้ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งหลบเลี่ยงสักเพียงใดเงาของเฟิงอู๋จี้ก็ตามติดจนเธอไม่อาจสลัดเขาให้หลุดพ้นออกจากชีวิตได้เลย
ถ้าหากจะหาใครมีใจลึกซึ้งแด่เยี่ยนอิงถงคงมีแต่เพียงเขาเท่านั้นและความลุ่มหลงจนซึมซับเข้าสู่จิตวิญญาณทำให้เฟิงอู๋จี้แปลกใจในความเป็นถังเยวี่ยหานยิ่งนักทั้งๆที่สองคนนี้ไม่มีความเกี่ยวพันกันแต่อย่างใดหากทุกอย่างที่เป็นถังเยวี่ยหานกลับเหมือนเยี่ยนอิงถงจนเขาไม่มั่นใจว่าหรือบนโลกนี้จะมีคนที่คล้ายกับเป็นตัวแทนซึ่งกันและกันอยู่ด้วยและความสงสัยก็เป็นเหมือนเครื่องท้าทายให้เขาต้องพิสูจน์ความจริงว่าถังเยวี่ยหานคือใครกันแน่
ถึงจะเตือนตัวเองแล้วว่าอย่าได้เอาตัวเองมาพัวพันกับผู้ชายที่น่ากลัวอย่างเฟิงอู๋จี้แต่เมื่อเขาอาจะเป็นผู้เดียวที่ช่วยไขความลับในมรณกรรมของตนได้เยี่ยนอิงถงจึงต้องยอมเสี่ยงทว่าไม่ทันที่เธอจะได้รับรู้สิ่งที่ตนสงสัยเธอกลับได้รู้ถึงเรื่องราวที่ไม่น่าเป็นไปได้ของผู้ชายร้ายกาจอย่างเฟิงอู๋จี้ว่าแท้จริงเขาไม่ได้ชิงชังเธอหากแต่รักใคร่ในตัวเธออย่างที่ไม่มีใครจะทำได้
ต่อให้เยี่ยนอิงถงจะเป็นใคร หากเขาเฟิ่งอู๋จี้ก็จดจำความเป็นเธอได้ และตอนนี้ถังเยวี่ยหานก็คือเยี่ยนอิงถงเขาจะไม่ยอมพลาดเป็นครั้งที่สอง ครั้งก่อนเพราะเขารั้งรอที่จะคว้าเธอเอาไว้ข้างกายส่งผลให้เยี่ยนอิงถงต้องประสบเคราะห์กรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงครั้งนี้เขาจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปอีกครั้ง และไม่ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังจะเป็นใคร ยิ่งใหญ่สักปานใดแต่เมื่อกล้าล่วงเกินเฟิ่งอู๋จี้เขาก็ไม่คิดจะเก็บเอาไว้
แม้ใจของเยี่ยนอิงถงจะไม่รู้จักรักมาก่อนหากเมื่อประจักษ์ได้ถึงความเสียสละและมุ่งมั่นของผู้ชายที่เธอเคยต้องการถอยให้ห่างจากเขาจิตใจก็พลันหวั่นไหวได้เพียงข้ามคืนสิ่งที่เฟิงอู๋จี้ทำให้เธอเป็นเครื่องยืนยันถึงน้ำใจรักอันกว้างใหญ่จนเธออาจจะเทียบเขาไม่ได้ด้วยซ้ำคงมีเพียงอย่างเดียวที่เธอทำให้ได้ก็คือรักเฟิงอู๋จี้ได้เท่ากับที่เขารักเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในภายหน้า จะทุกข์หรือสุข เธอก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเขา
เพราะรัก เฟิงอู๋จี้จึงทำได้ทุกอย่างแม้แต่กล้ากับคนที่คนที่อยู่เหนือเขาแต่นี้คือสิ่งเดียวที่เฟิ่งอู๋จี้ต้องการ เขาไม่หวาดหวั่นว่าความบ้าบิ่นของตัวเองจะส่งผลใด เพราะเขามั่นใจว่าความรักของเขาจะปกป้องเยี่ยนอิงถงได้จากทุกอันตรายอดีตได้สอนให้เขาได้รู้แล้วว่า หากแม้นพลาดพลั้งเพียงนิด ก็อาจไร้วาสนาต่อกันต่อเมื่อโชคดีมาเยือนอีกครา เฟิ่งอู๋จี้จะไม่ปล่อยให้พรหมลิขิตนี้หลุดลอยไปอีกครั้งหนึ่ง
โม่เหยียนกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นงานที่เรียกว่าพล็อตยอดนิยมของนิยายแนวจีนเลยค่ะ ถ้านิยายไทยนิยมสไตล์จำเลยรัก หนี้สวาททาสอสูร นิยายจีนก็ฮิตแนววิญญาณเข้าร่างคนอื่นเสียเหลือเกินนะคะ แต่เล่มนี้วิญญาณไม่ได้มาจากปัจจุบันแล้วกลับสู่อดีต หากแต่เป็นช่วงเวลาอดีตด้วยกันเสียเลย จากมือปราบหญิงที่แสนเก่งกาจดันต้องไปอยู่ในร่างหญิงงามที่ไม่มีวรยุทธ์ใดๆ แต่ยังดีที่ไม่ยึดเอาวิชาป้องกันตัวอื่นๆ ของเธอไปด้วย นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวที่เคยอ่อนแอให้เข้มแข็งเพื่อตัวเองและน้องชายซึ่งไม่ได้รับความยุติธรรม
หากความเปลี่ยนแปลงของเธอก็ไปเข้าตาชายคนหนึ่งซึ่งอดีตก่อนเธอตาย ติดจะไม่ชอบหน้าเขาเสียเหลือเกินเพราะรู้สึกว่าไม่ชอบเธอ แต่ความจริงแล้วมันตรงข้ามกัน เพราะเขารักเธอมากต่างหาก ดังนั้นการที่มาพบว่ามีผู้หญิงอีกคนที่คล้ายกับคนที่เขาคิดว่าตายไปแล้ว จึงไม่ทำให้เขาละวางได้ ต้องค้นหาว่าทำไมกันจึงเสมือนมีตัวตายตัวแทนขึ้นมา แล้วความลับที่น่าจะลับตลอดไปก็ไม่เป็นเช่นนั้น พระเอกได้รู้เหตุผลที่เขาสงสัยยิ่งนัก พร้อมกับการเปิดเผยหัวใจว่า ทุกอย่างที่ทำลงไปก็คือรักทั้งหมด เปลี่ยนความรู้สึกของนางเอกอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่สิ่งที่รออยู่ไม่ใช่รักอันหอมหวาน แต่คือความจริงว่าอะไรคือสาเหตุที่เข่นฆ่านางเอก และมันก็พัวพันไปที่ตัวพระเอกด้วย รวมทั้งความรักของทั้งสองจะลงเอยเช่นไร เมื่อรอบตัวของพระเอกเต็มไปด้วยคำว่าอันตรายที่พรากชีวิตคนที่เขารักได้ทุกขณะ
ในวูบหนึ่งของความคิดที่เริ่มอ่านคิดถึงงานที่เพิ่งอ่านจบไปอย่างเพชรยอดคทาค่ะ แต่จะมีความเป็นเพชรยอดขุนพลเข้ามาผสมนิดๆ เมื่อพระเอกเป็นอัครเสนาบดีเหมือนกัน แต่นางเอกเป็นมือปราบที่ห้าวหาญ แต่เอาเถิดมันเป็นพล็อตยอดฮิตของนิยายจีนเขา จะมีอารมณ์คล้ายๆ กันก็คงไม่แปลกอันใด ขอให้เรื่องถูกจริตเป็นพอ
ด้วยความฟีน่าไม่ใช่แฟนโม่เหยียนสักเท่าไร ก็เลยไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักกับนิยายเล่มนี้นะคะ แต่เรียกว่าสิ่งที่ค่อนข้างจะถูกใจก็คือตัวพระเอกเป็นหลักค่ะ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิงที่อ่านนิยายแบบเราๆ อยู่แล้ว ต้องการพระเอกที่ตอบสนองสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้จากผู้ชายคนหนึ่ง แล้วพระเอกเล่มนี้ก็ให้ได้ในสิ่งนั้นด้วยค่ะ เพราะเขารักนางเอกมาก แม้จะเรียกว่าแอบรักจนเหมือนคนเป็นโรคจิตอ่อนๆ ที่ต้องการรู้เรื่องเธอทุกอย่าง แต่ไม่เข้าหาเขา ซ้ำยังทำตัวเหมือนจะปีนเกลียวกัน ขัดแย้งกัน จนนางเอกพานเกลียดขี้หน้า แต่พระเอกทำเพียงแค่อารมณ์คล้ายเด็กผู้ชาย แกล้งคนที่ตัวเองแอบชอบจะได้มีเรื่องคุยกับเขา ทำให้เขาสนใจแม้จะเป็นในมุมของความไม่ชอบหน้าก็ตามที และความคลั่งรักของพระเอกก็ทำให้เขาเข้าใจอะไรง่าย ฉลาดหลักแหลมเลยทีเดียว เพราะเขามองออกเลยว่าผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเหมือนนางเอกหรือแม้จะเป็นเพื่อนกันคนนี้ มีทุกอย่างที่เหมือนคนที่เขารักต่างกันแค่หน้าตาเท่านั้น และขนาดที่ยังไม่มั่นใจว่านี้คือนางเอกที่สลับวิญญาณเขาก็ทุ่มเททำให้เธอได้ทุกประการ ดูแลเอาใจใส่คนรอบข้างเธอ ปกป้องคุ้มครองชดเชยที่เขาทำไม่ได้ จนเธอต้องตายลงมาอาศัยร่างคนอื่น เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงทุกคนได้ดีเลยค่ะ อุปนิสัยของพระเอกเรียกว่าสอบผ่านตั้งแต่ต้นเลยค่ะ คะแนนรักนางเอกกว่าใครได้คะแนนเต็มจนล้นเลยทีเดียว
แต่ช่างตรงกันข้ามกับพระเอก นางเอกไม่แยแสเขาเลย ติดจะเกลียด แต่ทำไงได้ มุกแกล้งเพื่อเรียกร้องความสนใจ ผู้หญิงแข็งๆ อย่างนางเอกจะไปเข้าใจได้เช่นไร คิดอย่างเดียวว่าเขาไม่ชอบหน้าเธอเป็นแน่แท้ กว่าจะมารู้ความจริง งานนี้แทบเอ๋อกิน แต่เมื่อรู้ว่ารักขนาดนี้แล้ว จะให้ใจแข็งก็คงไม่ใช่ที เธออาจจะเคยเป็นมือปราบที่องอาจไม่แพ้ผู้ชาย แต่ยังไงเสียก็เป็นผู้หญิงมีเลือดมีเนื้อ งานนี้อ่อนเป็นขี้ผึ้งต้องไฟเลยทีเดียว เปิดใจรับพระเอกเข้ามาในชีวิตได้ง่ายดายขึ้น โดยไม่ต้องมานั่งเล่นแง่ใดๆ คือเขาดีขนาดนั้นยังวางฟอร์มอีกคงไม่ใช่แล้วค่ะ
ฟีน่าจำไม่ได้แล้วว่ามีเล่มไหนของโม่เหยียนที่อ่านแล้วติดที่สุด ชอบที่สุดบ้าง แต่สำหรับเล่มนี้เป็นเล่มหนึ่งที่สนุกถูกใจเลยทีเดียวค่ะ ส่วนใหญ่ก็มาจากความรักที่มากจนเหมือนโอเว่อร์ของพระเอก แต่ถ้ามันทำให้เราริษยานางเอกได้ก็จัดว่าเป็นสิ่งที่ควรจะเป็นเช่นนั้นค่ะ
เพียงแต่ว่าจะบอกว่าสนุกแล้วเราจะไม่มีอะไรบ่นบ้างเล็กน้อย อย่างแรกเลยคือความไม่แน่ใจกับการใช้คำและความหมายของนิยาย คำว่าระส่ำระส่ายและระส่ำ เนื่องจากไม่เคยเจอคำว่าระส่ำในพจนานุกรม เป็นคำที่ไม่มีความหมาย ดังนั้นการใช้คำว่าใจเต้นระส่ำจึงไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไรกันแน่ พอๆกับคำว่าใจเต้นระส่ำระสาย แม้ว่าระส่ำระสายจะมีความหมายว่า วุ่นวาย เกิดความไม่สงบก็ตามที หากแต่การใช้คำนี้มักจะใช้กับความหมายอื่นเสียมากกว่า อย่างเช่น บ้านเมืองระส่ำระสาย กองทัพแตกพ่ายระส่ำระสาย พอมาใช้กับกิริยาของหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ จึงทำให้ความหมายดูจะเพี้ยนๆ ไป แทนที่ทำให้รู้สึกว่าใจเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้ พานให้คิดไปว่าหัวใจไปรบราฆ่าฟันกับใครมาจึงแตกขบวนทัพเช่นนั้น สำนวนที่น่าจะถูกต้องมากกว่าก็คือคำว่า ใจเต้นไม่เป็นส่ำนะคะ ซึ่งฟีน่าก็เห็นอยู่ว่ามีการใช้คำว่า ใจเต้นไม่เป็นส่ำอยู่ในเล่มด้วย แต่คงไม่อยากใช้คำนี้ซ้ำกันหลายครั้ง เลยไปใช้คำอื่นบ้าง ซึ่งกลับกลายว่ามันจะเป็นการใช้คำใหม่เป็นการใช้คำผิด ทั้งที่ความหมายคล้ายกันก็ตามที สารภาพเลยว่าตอนนี้ทำให้ตัวเองสับสนเลยว่า สิ่งที่เชื่อถือมาตลอดมันผิดหรือเปล่า เนื่องจากเจอคำว่าใจเต้นระส่ำเยอะมาก มากจนคิดว่าเป็นคำที่ถูกต้องไปแล้ว
ต่อด้วยนิยายเรื่องนี้สองเล่มจบ ทำให้เล่มหนึ่งเป็นช่วงที่นางเอกต้องร้องเพลงว่า ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย นางเอกไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความในใจของพระเอกแม้แต่นิดเดียว คิดแต่ว่าคนนี้ต้องเข้ามายุ่งกับเธอเพราะอะไรสักอย่าง ดังนั้นน้ำใจรักใคร่ของฝ่ายนางเอกจึงไม่เคยมีให้พระเอกเลย เป็นช่วงที่ขาดน้ำตาลและสารให้ความหวานทั้งปวงนะคะ จะเริ่มมาให้คุณรู้สึกกันได้ก็เข้าเล่มสองที่นางเอกอึ้งกิมกี่ว่าไอ้ที่เหมือนจะขัดแย้งกับฉัน ตกลงแกรักฉันหรือ พอเห็นความจริงจังของพระเอก เลยรู้สึกว่าถ้าไม่รักผู้ชายคนนี้คงบ้าที่สุด ดีใจมากเลยที่ได้เห็นความหวานชื่นจากใจนางเอกบ้าง แต่ประเด็นความหวานยังไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไรค่ะ รู้สึกว่าก็อยากรู้ว่าใครคือคนฆ่านางเอกมากกว่า
ว่าด้วยฉากที่ยังไงก็ไม่แนว ฟีน่าเป็นคนขี้หวง โดยเฉพาะกับนางเอก มีฉากที่ขนาดไม่เห็นแต่มาเป็นประโยคบอกเล่ายังขัดใจกันเลย ก็คือฉากที่นางเอกโดนยากำหนัดเข้าไป ไอ้เราหรือก็แอบหวังลึกๆว่าพระเอกต้องโผล่มา ต้องพระเอกเท่านั้น แต่ไม่ใช่เลยกลายเป็นเพื่อนนางเอกสมัยที่ยังไม่ตายมาช่วยไว้ แล้วแน่นอนว่าถ้ามีฉากแนวนี้มา มันต้องมีอะไรบ้าง เรื่องนี้แค่จูบกับกอด ฟีน่ายังแบบว่าทำไมไม่เป็นพระเอกนะ เราคงจะอินและรับได้กว่านี้ เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พระเอกเราเลยไม่แนวเล็กๆนะคะ
พอๆกับฉากจบเรื่องที่มีเหตุผลที่พระเอกต้องจูบปากฮ่องเต้ อันนี้ยิ่งกว่าฉากที่นางเอกจูบเพื่อนเสียอีกค่ะ คนอ่านใบ้กินเลยนะขอบอก คือไม่คิดว่าจะมาเล่นมุกนี้ ฟีน่าน่ะไม่แนวทางวายอยู่แล้ว มาตำตาฉากนี้ คือไม่ขำ ไม่แนวรู้สึกว่าทำไมต้องเล่นทางนี้ด้วย ดำเนินเรื่องเสียดีตลอดทั้งเรื่อง ทำอึ้งกับฉากนี้เลย ถึงจะทำไปเพราะเหตุผลบางอย่าง แต่มันไม่ไหวจริงๆนะคะ ไม่ได้รังเกียจคนรักเพศเดียวกัน แต่ไม่ทำก็ได้นะ ใช้อย่างอื่นก็บอก เป็นฉากที่อยากจะหั่นทิ้งกันเลยทีเดียวค่ะ
การจบเรื่องที่มีความขัดใจเล็กน้อยค่ะ ซึ่งฟีน่าพูดเลยว่ามันต้องสปอยส์ตอนจบนะคะ ใครไม่อยากรู้กรุณาเลยผ่านไปค่ะ ที่พูดแบบนี้คือว่าตอนจบมันก็ต้องลงเอยด้วยการอยู่ด้วยกัน แต่ทว่าพระเอกต้องการปกป้องนางเอกไม่ให้ถูกปองร้าย เพราะเขาเป็นขุนนางใหญ่สุด ก็มีศัตรูเยอะ เลยไม่กล้าแต่งงานออกหน้าออกตากับนางเอก ซึ่งนางเอกก็ไม่ว่าอะไร ดีเสียอีก เธอไม่อยากเป็นฮูหยินท่านอัครเสนาบดีคงต้องมีพิธีรีตองมากมาย และไม่อยากถูกกดดันว่าต้องเป็นเมียใหญ่ รอพระเอกแต่งเมียรองเข้าบ้าน เพียงแค่นางเอกต้องอยู่ในคราบคนสนิทข้างกายเขา ไว้ช่วงที่เขามาอยู่ข้างนอก เธอก็ไม่ต้องเป็นแค่คนสนิทแต่เป็นเมียตัวจริง คือเข้าใจว่าพระเอกรักและห่วงใยนางเอก แต่มันไม่ส่งเสริมเลยว่าพระเอกเก่งและมีความสามารถมากพอที่จะปกป้องนางเอกได้ แม้ว่าจะให้เธอขึ้นมาเป็นเมียคนเดียวของเขา มีนิยายหลายเล่มที่พระเอกและนางเอกต้องรับความกดดันของการเป็นขุนนางใหญ่ แต่การหาเหตุผลที่จะไม่รับสมรสพระราชทานหรือสิ่งใดๆ ทำให้พระเอกดูเก่งมากๆ แต่พอมาถึงคราวเล่มนี้ คือเหมือนพระเอกไม่เจ๋งสมกับที่บอกไว้ว่าไม่กลัวใครเลยแม้แต่ฮ่องเต้ ทำไมไม่ทำให้สุดทางไปเลยว่า เขามั่นใจว่าปกป้องเธอได้นะ แล้วคิดหรือว่าการเอานางเอกหลบอยู่ในฐานะคนสนิทจะไม่ถูกจับได้ขึ้นมา หรือถ้านางเอกเกิดท้องจะเป็นอย่างไร มันเลยเป็นการให้ทางออกที่ไม่สวยงามเท่าไร และตรงนี้ก็ส่งผลต่อมาจากฉากที่ฟีน่าไม่แนวเลยก็คือฉากที่พระเอกจูบฮ่องเต้เพราะเขาใช้มันเป็นข้ออ้างว่าทำไมไม่ยอมแต่งงาน เพราะเป็นชายรักชาย ดูมันทะแม่งๆชอบกล เพราะตอนแรกให้เหตุผลที่เขาปฏิเสธสมรสพระราชทานมาตลอดก็เพราะว่าเขาเคยขอสัญญาว่าห้ามมาบังคับเขาเรื่องนี้ จริงๆใช้เหตุผลนี้ต่อไปหรือแต่งงานกับนางเอกก็ได้ นางเอกไม่ใช่คนอ่อนแอเลย แข็งแกร่งออกจะขนาดนั้น พอจูบเสร็จหันหลังกลับ มีแต่อีกนิดหน่อย จบเรื่องได้แบบเอางี้เลยหรือ ทำให้ความสนุกที่ว่าอินๆ อยู่ลดระดับลงมาเลยทีเดียวค่ะ อาจจะไม่มากแต่ทำให้เรื่องไม่จบสมบูรณ์อย่างที่อยากให้เป็นนะคะ
แต่ก็เอาเถิดว่าโดยรวมเรื่องนี้ถือว่าฟีน่ามองว่าสนุกที่สุดแล้วสำหรับงานโม่เยียนเท่าที่เคยอ่านมานะคะ แต่ถ้าจะให้โดนกว่านี้อีกนิดหนึ่งตอนจบไม่ลงเอยด้วยฉากนั้น แนวนั้น โชว์ความเก่งกาจของพระเอกแบบสุดๆ กันไปเราคงปลื้มเลยว่าพระเอกแน่จริงๆ ซึ่งถ้าเราไม่คิดอะไรมากมายก็ถือว่าอ่านได้เลยค่ะ ความเข้มข้นพอประมาณไม่มากไป อาจจะน้อยไปนิดหนึ่ง สำหรับพักหลังที่งานนิยายจนเล่มยาวจะมีความเข้มข้นมาก ถ้าเล่มนี้ทำให้เข้มขึ้นอีกนิดก็จะดีค่ะ แต่ประมาณนี้ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่คุ้มค่า คุ้มเวลาที่อ่านไปค่ะ