ท่านหมอป้อนรัก โม่เหยียน
ถ้าเซี่ยงจิ้งเสวี่ยรู้ว่าการถูกช่วยเหลือจากความตายจะนำมาซึ่งการมีสภาพไม่ต่างจากตายทั้งเป็นบางทีเธออาจจะไม่ต้องการได้พานพบกับเหยียนอู๋จี๋หมอเทวดาผู้เอาแต่ใจและมีปณิธานที่แสนโหดเหี้ยมและเย็นชาถึงเพียงนี้แต่เมื่อไม่ได้ร้องขอชีวิต หากกลับได้ชีวิตคืนมาพร้อมกับเป็นทาสที่ไม่ได้เต็มใจหนทางเดียวที่เซี่ยงจิ้งเสวี่ยจะทำได้คืออดทนรอถึงสิบแปดปีเชียวหรือกว่าจะหลุดพ้นไปได้
ต่อให้มีคนใกล้ตายอยู่เบื้องหน้าแต่ไม่อาจทำได้ที่เหยียนอู๋จี๋ต้องการได้เขาก็ไม่เคยมีความเมตตาให้ใครหากแต่เจ้าหนุ่มน้อยอวดดีที่ใกล้ตายผู้หนึ่งกลับทำให้เขายื้อชีวิตเอาไว้แต่ไม่ใช่เพราะความสงสารหากเขาต้องการทรมานผู้ล่วงเกินผู้นี้ให้สาสมใจแต่ดูเหมือนว่าเซี่ยงจิ้งเสวี่ยหรือเจ้าสิบแปดผู้นี้จะกินหัวใจสิงห์มาหรือไรถึงได้กล้ายั่วโทสะหมอพญายมเช่นเขาและดูไปแล้วการสั่งสอนเจ้าสิบแปดก็อาจจะกลายเป็นความเบิกบานใจไม่ใช่น้อย
ถึงจะรู้ว่าการแสดงออกถึงความกรุณาจะกลายเป็นความเดือดร้อนของตัวเองหากเซี่ยงจิ้งเสวี่ยก็ไม่อาจนิ่งเฉยให้หมอพญายมเช่นเขาต้องทำการช่วยผู้หนึ่งและคร่าชีวิตผู้หนึ่งได้แต่ท่ามกลางสิ่งที่เธอคิดว่าคือความถูกต้องเหยียนอู๋จี๋กลับมีเหตุผลที่ซับซ้อนเกินว่าที่เธอจะเข้าใจในตอนแรกและนั่นเองก็ทำให้เธอเรียนรู้ที่จะมองเหยียนอู๋จี๋ด้วยสายตาที่รู้สึกว่าเขาเองก็มีจิตใจที่เป็นเหมือนผู้คนทั่วไป
ตั้งแต่เมื่อใดกันที่เหยียนอู๋จี๋ยกเว้นสิ่งต่างๆให้กับเซี่ยงจิ้งเสวี่ยขนาดนี้ และความลับที่ควรทำให้เขากำจัดเธอไปก็คือเจ้าหนุ่มน้อยผู้นี้คือสตรีต่างหากคงเป็นเพราะทุกอย่างที่เซี่ยงจิ้งเสวี่ยทำให้เขากระมังมันถึงกลายเป็นความคุ้นชินคุ้นเคยและเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนที่ตามมาอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าเธอคิดว่าสิบแปดปีจะเพียงพอต่อการทดแทนบุญคุณก็คงคิดผิดเพราะตอนนี้เหยียนอู๋จี๋ต้องการเซี่ยงจิ้งเสวี่ยไปทั้งชีวิตต่างหาก
จากที่เคยรู้สึกเพียงว่าเหยียนอู๋จี๋คือหมอพญายมไร้หัวใจแต่ที่จริงแล้วเขาก็เหมือนคนอื่นที่รักใคร่เป็นเช่นกัน เมื่อกลับมาตรึกตรองใหม่เซี่ยงจิ้งเสวี่ยจึงได้เข้าใจว่าเธอคือข้อยกเว้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเหยียนอู๋จี๋ความอ่อนโยนที่แอบซ่อนไว้เช่นนี้จึงไม่ยากเลยที่จะเปลี่ยนความรู้สึกของเธอ ณตอนนี้การได้อยู่ข้างกายเหยี่ยนอู๋จี๋คือสิ่งเดียวที่เธอต้องการ
เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่เว้นแม้แต่ปณิธาน เพราะการทำในสิ่งที่เหยียนอู๋จี๋ไม่คิดจะทำมาตลอดกลับทำให้เขาได้ค้นพบความรักที่แท้จริงถึงแม้ว่าเขาอาจจะยังเป็นหมอพญายมตลอดไปแต่สิ่งที่แลกเปลี่ยนจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วเมื่อมันคือของขวัญแด่เซี่ยงจิ้งเสวี่ยยอดหญิงของท่านหมอเช่นเขา
ช่วงนี้โม่เหยียนมาบ่อยจังเลยนะคะ เพิ่งบ่นชุดองค์ชายสุสานไปไม่นาน ชุดยอดบุรุษป่วนใจก็ออกมาให้ลองอ่านกันอีกถึงสี่เล่ม ตอนแรกก็ว่าจะเข็ดกับงานของโม่เหยียนแต่หน้าปกมันกระชากใจให้ต้องมือไม้อ่อนลองซื้อมาอ่านกันต่อ คิดเสียว่าเรื่องอาจจะแนวหรือไม่แนว อย่างน้อยปกนิยายก็ปลอบใจได้ส่วนหนึ่งก็แล้วกัน
เริ่มเปิดชุดด้วยท่านหมอพญายมกันก่อนเลยนะคะ ตามประสามากกว่ารัก หมอเทวดาย่อมมีได้ทั่วไป หากพระเอกในเล่มนี้ก็ต้องมีนิสัยแปลกประหลาดให้สมกับการเป็นท่านหมอ เพราะใครก็ตามที่คิดจะให้เขาช่วยก็ต้องเอาชีวิตคนหนึ่งมาเป็นข้อแลกเปลี่ยน แต่นางเอกซึ่งใกล้ตายเต็มทนแทนที่จะรับปากกลับไม่ทำ ซ้ำร้ายยังทำให้พระเอกรู้สึกว่าเจ้านี้วอนเสียแล้ว ครั้นจะปล่อยให้ตายก็คงไม่สาสมใจ ต้องช่วยมาเพื่อให้มีชีวิตเหมือนตกนรก เมื่อนางเอกฟื้นมาจึงได้พบว่าตัวเองถูกบังคับให้เป็นทาสรับใช้พระเอกถึงสิบแปดปี แน่นอนว่านางเอกก็คงจะไม่ได้ก้มหน้าก้มตารอเวลาสิบแปดปีอย่างเรียบง่าย เธอจึงเป็นคนรับใช้ที่หัวแข็งที่สุดของพระเอก และต้องลิ้มรสการไม่ยอมทำตามที่เจ้านายสั่งไปไม่น้อย เข็ดบ้าง ไม่เข็ดบ้าง แล้วมันก็มีจุดหักมุมใหญ่หลวงในเรื่องราว เมื่อความลับของนางเอกที่ไม่มีใครรู้แม้แต่พระเอกก็คือเธอเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย ทำให้สายตาของพระเอกเปลี่ยนไป เพราะก่อนหน้านี้นางเอกที่ยอมลงให้เจ้านายหน่อยๆ จากความจริงที่ได้รู้ถึงสาเหตุของการเป็นคนแบบนี้และทำไมเขาจึงมีเงื่อนไขโหดเหี้ยมแบบนั้น เธอจึงเต็มใจดูแลเจ้านายดีขึ้น นานวันไปจึงเป็นความผูกพันของคนสองคน และเป็นความรักที่เกือบทำให้นางเอกเกือบหัวใจวายคิดว่าพระเอกเป็นชาวสีม่วง ก่อนจะโล่งอกว่าความลับมันไม่มีบนโลกหรอก ก็รักกันกระหนุงกระหนิงกันไป มีอุปสรรคเล็กน้อยชนิดที่ไอ้คนลงมือถือว่าซวยหนักหนาอย่างเหลือใจ
แล้วเนื้อเรื่องเล่าเป็นเช่นไร คือตามสไตล์โม่เหยียนเลยค่ะ มาไว ไปไว ต้องรีบทำเวลานิยายไม่หนามาก เอาแค่พอคร่าวๆ ก็พอนะ ท่านหมอเทวดาแต่ในเล่มนี้ต้องเรียกว่าพญายมเพราะเอาชีวิตคนอื่นมาเป็นค่ารักษาก็ต้องรักษามาตรฐานท่านหมอเก่งกาจในสามโลกเอาไว้คือต้องมีนิสัยแสนพิลึก ถ้านิสัยปกติจะทำอาชีพหมอเทวดาไม่ได้เด็ดขาด มันผิดหลักการนิยายจีนอย่างสิ้นเชิง แต่ความแปลกๆของเขาก็มีเหตุผลดี รับได้ แต่ถ้าเราเป็นนางเอกก็คงไม่รู้หรอกว่าที่ให้ทำลงไปทุกอย่างไม่ใช่เพราะพระเอกเลวหรือวิปริต คล้ายๆ จะเป็นผู้ผดุงคุณธรรมประเภทหนึ่ง เอาแต่ใจตัวเองสูงปรี๊ดระดับหนึ่งเลยทีเดียวไม่งั้นนางเอกคงไม่ต้องสะบักสะบอมพอประมาณในคราบของคนรับใช้หนุ่มจอมอวดดีแบบนั้น นี้ดีนะว่าตอนที่จะมารู้สึกลึกซึ้งทางใจกับนางเอกบังเอิญแล้วที่จะรู้ความจริง ไม่งั้นละรังสีสีม่วงแผ่ซ่านแหงๆ พอเปลี่ยนความรู้สึกได้ก็มีอารมณ์ความรู้สึกที่อ่อนโยนลงบ้าง ความรักทำให้คนเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ จากหมอพญายมเลยมาเป็นหมอเทวดาได้สักที
แต่นางเอกนี้สงสัยว่าจะดวงชงหรือดวงตกราวๆ นั้น เกือบได้ไปเฝ้าพญายมตัวจริงอยู่แล้ว แต่ถึงไม่ตายก็อารมณ์แทบไม่ต่างกัน ต้องถูกพระเอกกลั่นแกล้งอยู่ไม่น้อยเลย แต่ก็จัดว่าอย่างน้อยนางก็ยังโชคดีที่ได้สามีเก่งขั้นเทพ ถึงจะปราศวรยุทธ์แต่มีวิชาแพทย์พิศดารขนาดนั้นก็โอเคแล้ว พระเอกไม่ลีลาท่ามาก ถูกใจก็จัดการรวบมาเป็นของตัวเองแบบนั้น ถูกแกล้งนิดแกล้งหน่อยต้นเรื่องก็หยวนๆ กันไป สามีแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ
ตั้งแต่ตอนซื้อมาแล้วคือห้ามคาดหวังอะไรใดๆ ทั้งสิ้นเพราะว่าเราไม่ใช่แฟนโม่เหยียนชนิดที่ว่าถูกครับพี่ ดีครับผมอะไรทำนองนั้น ซึ่งพออ่านเล่มจบรู้สึกนิดหนึ่งว่านี้ถ้าไม่บอกว่ามันเป็นชุดเดียวกันกับอีกสามเล่มหลังคงคิดว่าเกี่ยวกันตรงไหน ไม่ได้มีตัวละครอะไรใดๆ จากเล่มสองถึงสี่มาปรากฏตัวเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เอาผูกให้เป็นชุดเดียวกันได้เพราะไปมีบทบาทในเล่มอื่นๆ แทน ตอนแรกคิดเลยว่าอาจจะไม่ใช่ชุดเดียวกันด้วยซ้ำ แต่นักเขียนเขียนไป อยากจะเอาเล่มนี้มารวมชุดกันหรือเปล่า เลยจับบทใส่ลงมาให้แบบนี้ มันเลยขาดความต่อเนื่องกับเล่มอื่นของชุดไปสักเล็กน้อย แต่ก็พอหยวนๆ ได้ ความสนุกของเรื่องราว ก็จัดว่าอ่านได้อยู่นะคะ ตัวพระเอกไม่ได้เปลี่ยนใจรักนางเอกแบบปุบปับให้แปลกใจเล่นๆ ว่าแกไปปักอกปักใจอะไรกันตรงไหน อย่างน้อยๆ นางเอกก็ทำให้พระเอกทั้งหัวเสีย ทั้งรู้สึกว่าเจ้านี้มันขวัญกล้าเสียจริง ที่ขัดคำสั่งสำคัญของเจ้านายแบบเขา แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เสน่ห์ปลายจวัก สามีรักสามีหลงยังคงใช้ได้ดี แค่ได้กินอาหารอร่อยลิ้นแบบไม่ต้องกล้ำกลืนกินของรสชาติห่วยๆ พระเอกก็พร้อมจะมองนางเอกอีกแบบหนึ่งแล้ว ยิ่งได้รับการปรนนิบัติอย่างดีมีหรือจะไม่ใจอ่อน พอรู้ว่าเป็นหญิงมันก็เลยสะดวกสบายกันไป
แต่มันก็ไม่ได้ฟินอะไรแบบสุดขีดชนิดที่ว่าท่านหมอเท่สุดในสามโลกหล้า ก็พอมีที่มาที่ไปกันบ้าง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดถึงเหตุผลที่ทำให้นางเอกต้องมารอนแรมจนได้พบพระเอก มาร้องอ๋อในตอนหลังนี้เองว่า แหม มันเป็นแบบนี้เอง แต่อีกเช่นกัน เราจะเกิดความสงสัยในตัวนางเอกของเล่มนี้กับตัวละครในเล่มถัดๆ ไปแทนว่าไปรู้จักมักจี่กันตอนไหน อย่างไร เพราะอย่างที่บอกไปว่าพออ่านจบครบสี่เล่ม ท่านหมอป้อนรักเป็นเล่มที่ไม่มีการเกริ่นถึงตัวละครในเล่มอื่นเลย แต่อีกสามเล่มท้ายเขาพูดถึงกันและกันตลอด พ่วงเอาเล่มแรกเข้าไปให้แทนเสียอีก มาช่วยขายของกันสักหน่อย ซึ่งอย่างที่ฟีน่าบ่นในเพจนั่นเองว่าถ้าเนื้อเรื่องมันโอเคกว่าองค์ชายสุสานก็ถือว่าให้ผ่านได้แล้วค่ะ ตอนจบไม่เอ๋อกิน งงเป็นไก่ตาแตกว่าจบกันแบบนี้เลยหรือ เพราะต่อให้อ่านแค่ท่านหมอป้อนรักแค่เล่มเดียวก็เข้าใจในเรื่องทั้งหมดชนิดที่ไม่ต้องอ่านเล่มต่อไปก็ได้ แต่อีกเช่นกันเมื่อเราเริ่มคุ้นชินกับนิยายจีนแนวจริงจังกันไปแล้ว นิยายสไตล์นี้ก็เอาไว้อ่านแบบผ่อนคลายก็พอได้อยู่ค่ะ อย่างน้อยๆ พระเอกเขาถึงจะแปลกพิกลแค่ไหนก็รักนางเอกมากมายชนิดที่เปลี่ยนปณิธานได้ นับเป็นบุญของพระเอกด้วยที่ไม่ต้องเอาชีวิตคนหนึ่ง เพื่อช่วยชีวิตอีกคนหนึ่ง บาปกรรมจะได้ไม่สะสมไปมากกว่านี้