คู่บุปผาข้ามภพ เฮยเจี๋ยหมิง
คู่บุปผาข้ามภพ เฮยเจี๋ยหมิง
แม้เวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารทุกข์ทรมานกับการเป็นมนุษย์ หากแต่รักยังคงมั่น และจะไม่มีวันยอมลบเลือนว่า ฉันรักคุณ
ท่ามกลางความฝันหรือความจริงไป๋ฉี่ลี่ผู้แจ่มใสและแสนซื่อบริสุทธิ์ เธอรู้ตัวดีว่าเธอไม่เหมือนใครแม้ว่าในบางครั้งความพิเศษมันนำพาภาระอันหนักอึ้งมาสู่ตัวเธอทว่าในความลำเข็ญนั้นหากมันช่วยบางอย่างที่เธอเรียกว่าวิญญาณให้เดินทางสู่ความสงบได้เธอก็ยินดีแม้ว่ามันจะบั่นทอนร่างกายเธอสักเพียงใดและในความเรียบง่ายของการใช้ชีวิตของไป๋ฉี่ลี่ชะตากรรมได้นำเธอสู่ความลี้ลับแห่งบุปผาสีแดงดังชาดและฉินชายผู้เย็นชา เฉยเมยหากลึกลงไป ไป๋ฉี่ลี่กลับรู้ดีแก่ใจว่านั้นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเขา
เพราะความละโมบของฉินอู๋หมิงในวันวานจึงมีไป๋ฉี่ลี่และเมื่อมันเป็นความผิดของเขาแต่เพียงผู้เดียวที่ฉุดรั้งนางฟ้าผู้บริสุทธิ์ผู้นั้นลงมาแปดเปื้อนรอยมลทินจากน้ำมือของเขาหนทางที่จะแก้ไขความผิดพลาดได้ก็คือการเฝ้ามองและอารักขาความปลอดภัยให้กับไป๋ฉี่ลี่นับจากนี้รักก็คืออดีต และมันควรเป็นสิ่งที่ถูกลบล้างและลืมเลือนให้สิ้นไป
แม้เพียงแรกพบกลับรู้สึกคุ้นเคยราวเคียงคู่กันมาแสนนาน ซ้ำร้ายไป๋ฉี่ลี่ยังหวงแหนสถานที่พิเศษนี้และฉินอู๋หมิงให้เป็นเพียงของเธอฝ่ายเดียวแม้รอบกายของเขาจะเต็มไปด้วยความอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยวสักเพียงใดหากมันไม่เคยทำให้ไป๋ฉี่ลี่หวาดหวั่นและกลับยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่านี้คือสิ่งที่ควรเรียกว่าความรัก
แท้จริงฉินอู๋หมิงไม่ควรปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นเขาเองใช่จะไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้ว มันจะไม่ได้จบลงด้วยความสุขหากมันจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังฝืนลิขิตให้มันเป็นไปเพียงเพราะให้เกิดจุดเริ่มต้นของวังวนของคำสาปแช่ง เพียงเพื่อให้มันมีจุดจบแล้วชะตาของเขาและไป๋ฉี่ลี่เล่าจะจบลงตรงไหน หรือเช่นไร
แม้เป็นเพียงภาพฝันหากมันคุ้นเคยเสียจนปวดร้าวไปกับมัน แม้ท้ายที่สุดแล้วไป๋ฉี่ลี่จะรู้แล้วว่าคำปฏิเสธรักของฉินอู๋หมิงในวันนี้มาจากเหตุผลใด ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกว่าต้องลืมแต่มันไม่อาจลืมได้ รักที่ไม่เคยได้กล่าวออกไปเพียงเพราะชะตาที่ถูกสะบั้นและในยามนี้เมื่อเธอได้มีโอกาสอีกครั้งไป๋ฉี่ลี่จะไม่รั้งรอที่จะบอกมันแด่ฉินอู๋หมิง และต่อให้ชาตินี้หรือชาติไหนๆเธอจะไม่มียอมลืมเลือน
เมื่อครั้งหนึ่งฉินอู๋หมิงเคยพ่ายแพ้ให้กับคำว่ารักและเฝ้าโทษตัวเองเรื่อยมาว่าไม่ควรค่ากับความรัก หากเขาก็ไม่เคยได้ชัยชนะจากการไม่รักเช่นกันและยิ่งไม่ยอมรับในสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตให้ยืนยาวมาจนถึงตอนนี้หมายถึงชีวิตของไป๋ฉี่ลี่เขายอมแล้วซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเธอที่สุดแล้วการได้มีไป๋ฉี่ลี่ข้างเคียงก็คือสิ่งที่เขาปรารถนาที่สุด ในความมืดมิดหนาวเหน็บและเปล่าเปลี่ยวที่เขาเผชิญอยู่นานจนเป็นนิรันดร์จะมีเพียงเธอเท่านั้นที่เป็นดั่งแสงสว่างและความเบิกบานใจที่ไม่มีใครทดแทนได้
Create Date : 25 กันยายน 2557 |
|
7 comments |
Last Update : 25 กันยายน 2557 11:50:22 น. |
Counter : 16041 Pageviews. |
|
|
|
เฝ้ารอเล่มต่อไปของเฮยเจี๋ยหมิงแล้วก็สมใจอยากค่ะ คู่บุปผาข้ามภพออกมาอย่างเร็วไวทันใจจริงๆค่ะ เรียกว่ามากกว่ารักเดือนนี้ เล่มที่รออยากอ่านจริงจังก็คือเรื่องนี้เลยค่ะ เรื่องนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในชุดซีรีย์ เสน่ห์เงามาร ที่ออกมาจะสิบเล่มแล้วค่ะ ซึ่งหลังจากแจ่มใสน่าจะตัดสินใจซื้อทั้งเซ็ทมาแปล ก็เริ่มไล่ออกตั้งแต่เล่มแรกของชุดอย่างคู่ฝันคะนึงไปเมื่อเดือนก่อน ที่เรียกว่าทำเอาฟีน่า สงสารนางเอกไปแบบสุดๆ ไปแล้ว เล่มนี้ซึ่งเป็นเรื่องที่สองในชุด ก็เป็นเล่มที่ต่อเนื่องจากเล่มแรกแบบเห็นได้ชัดค่ะ เนื่องจากเธอคือน้องสาวในอดีตของตัวพระเอกของคู่ฝันคะนึง ผู้ถูกขนานนามว่าเป็นนางฟ้าของแคว้น ไม่ใช่หน้าตางดงาม หากแต่คือจิตใจอันบริสุทธิ์
แต่เพราะบาปกรรมอันหนาหนักของพี่ชายผู้เป็นที่รัก จนทำให้เธอไม่อาจนิ่งดูดายต่อชะตากรรมของผู้เป็นรักทั้งหมดได้ นางเอกผู้ไม่สนใจว่าการกระทำของตัวเองจะทำให้เธอต้องได้รับเคราะห์กรรมอันใด ยอมทุกอย่างแม้การเดินทางสู่นรกภูมิ เพื่อร่ำร้องให้ปลดปล่อยวิญญาณพี่ชายไปตามคำสาปแช่ง เพื่อให้มีจุดเริ่มต้น นำไปสู่จุดจบ และการกระทำนั้นเอง ส่งผลให้เธอต้องถูกชะตาลิขิตให้ชดใช้ในการกระทำ แต่เธอก็ยินยอมหากมันจะปกป้องคนที่เธอรักได้ และนำเธอเข้าสู่วัฏสงสารของการเป็นมนุษย์ โดยไม่รู้เลยว่าเมื่อเป็นเช่นนั้น พระเอกกลับทุกข์ใจอย่างแสนสาหัสเพราะการเสียสละของเธอ และต้องการชดใช้ในสิ่งที่เธอเสียสละ แม้รักสักเพียงใด แต่เขาจะไม่ขอให้เธอจดจำทุกอย่าง ลืมให้หมดสิ้นแล้วใช้ชีวิตเพื่อรอคอยเวลากลับไปสู่สถานที่ที่เธอควรอยู่ สรวงสวรรค์ไม่ใช่นรก แต่คนหนึ่งพยายามให้ตัดใจ แต่อีกคนกลับไม่อยากจะลืมรัก จุดบรรจบของเรื่องจะอยู่ตรงไหน
แม้ว่าพักหลังมากกว่ารักจะเรียกได้ว่าหนักไปทางนิยายที่ประทับใจไม่ค่อยมาก อาจจะเรียกว่าอ่านพอได้จะดีกว่า หากแต่เฮยเจี๋ยหมิงเป็นนักเขียนที่ฟีน่ารู้สึกว่าติดงานของเธอไปแล้วค่ะ อย่างที่บอกว่าในเดือนนี้มีออกมาหลายเล่ม และหนึ่งในนั้นมีงานของเตี่ยนซินด้วย แต่ฟีน่าก็รู้สึกว่ารอเล่มนี้มากกว่า เพราะความที่ธีมของชุดนี้มีความน่าสนใจสุดๆค่ะ แนะนำก่อนเลยว่าการอ่านเล่มนี้ มีความสำคัญมากที่เราควรอ่านตั้งแต่เล่มแรกไล่ลงมาเรื่อยๆค่ะ เพราะเหตุการณ์ในเรื่องจะไล่ลำดับให้เราเข้าใจ โดยเฉพาะที่ว่าทุกเล่มจะมีตัวละครที่ชื่อ หลิง เป็นตัวละครสำคัญ การก่อกำเนิดของเธอเริ่มต้นจากเล่มหนึ่ง อะไรคือสาเหตุของชะตากรรมของทุกคู่ เริ่มจาก หลิง และสิ่งที่เกิดขึ้นในเล่มหนึ่งอย่างคู่ฝันคะนึงค่ะ
เมื่อมาถึงเล่มนี้จึงเป็นเหมือนการเล่าต่อไปว่า หลังจากคำสาปแช่งของหลิงได้เริ่มขึ้นแล้วและจบลง อะไรล่ะที่ทำให้มันเกิดวัฏจักรนั้น คำตอบจึงอยู่ในเล่มนี้ค่ะ และจากคู่ฝันคะนึง จะมีอีกตัวละครหนึ่งที่ชื่อ ฉิน ปรากฏตัวอยู่ เขาคือใคร เราก็คงพอทราบกันดี แต่อะไรทำให้เขามาอยู่ตรงนี้ เพื่อการใด เล่มนี้อีกเช่นกันก็จะไขปริศนาว่า ฉิน มีความจำเป็นใด
จะว่าไปก็เหมือนความบังเอิญนะคะ ที่ไม่นานมานี้เพิ่งอ่านนิยายแนวๆ นี้จบไปนรกกับสวรรค์ จากนางฟ้าผู้ควรใช้ชีวิตอย่างมีความสุข กลับเลือกจะใช้ชีวิตในนรกแทน หากแต่ความต่างก็คือ นางเอกเลือกจะมาสู่ดินแดนที่น่าหวาดกลัวด้วยปณิธานอันแรงกล้าของตัวเอง ยอมทุกอย่างเพื่อพี่ชายผู้เป็นที่รัก ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยว่า พี่น้องคู่นี้กลับมาชีวิตต่างกันเป็นนรกกับสวรรค์ของแท้ เธอคู่ควรกับการได้เป็นนางฟ้ามากๆ เสียสละและล้วนแต่ทำเพื่อคนอื่น จิตใจงดงามล้ำค่า เป็นคนดีไม่ว่าจะเป็นตอนไหนหรือแม้แต่เกิดชาติไหน
แต่เสน่ห์ที่แท้จริงของเรื่องไม่ใช่แค่ความดีของนางเอก แต่คือตัวพระเอกอย่างฉิน แม้เขาจะเป็นราชันอเวจี ผู้ไม่ควรมีความรู้สึกใดๆ หากแต่เนื้อแท้เขากลับเป็นคนอ่อนโยนและดีไม่แพ้นางเอก เพียงแค่อยู่ใต้ความนิ่งเฉยและเย็นชา ยกเว้นกับนางเอก ที่เขาจะเผยตัวตนที่ไม่เคยมีใครรับรู้ เพียงเพราะคำว่ารักที่มีให้ แต่เพราะรักก็ทำให้เกิดทุกข์จริงๆ จนรู้สึกว่าสงสารในชะตาที่ทั้งคู่ต้องแบกรับความชีช้ำของความรักไว้เลยทีเดียวค่ะ
ระหว่างคู่ฝันคะนึงกับคู่บุปผาข้ามภพ ต้องบอกเลยว่า ถ้าใครชอบความซาดิสต์ เจ็บปวดร้าวรวดใจมากกว่า คู่ฝันคะนึงให้ได้เต็มที่ค่ะ เพราะคำสาปแช่งของคู่นั้นมันรุนแรงจนน่ากลัว ส่วนเล่มนี้หนักไปทางอารมณ์เฝ้ารอคอยและตามหาเสียมากกว่านะคะ มีรสหวานล้ำมาก่อนแล้วค่อยเจือด้วยความขม แต่ไม่ชอกช้ำใจมากนัก เพราะความรักที่ผูกพันระหว่างพระเอกนางเอก รู้สึกว่าทั้งคู่โชคดีที่รักกัน แม้จะสายไปที่กว่าจะรู้ว่าสิ่งที่ยึดโยงไว้มันคือความรัก
ฟีน่าเป็นคนชอบอารมณ์ประมาณคะนึงหาแบบนี้นะคะ ยิ่งมีแนวว่าความฝันอันฟุ้งซ่านเหมือนจะเตือนว่าอย่าลืมว่าในอดีตชาติเธอคือใคร ผ่านสิ่งใดมาบ้าง มันให้ความรู้สึกโหยหาแบบแปลกๆค่ะ เหมือนนางเอกรอคอยอะไรสักอย่าง หรือใครบางคน ที่เธอไม่รู้คำตอบ ไม่มีที่มาที่ไป แต่เมื่อเจอกับพระเอก อารมณ์แบบนั้นได้รับการเติมเต็ม นางเอกอาจจะเหมือนเด็กแก่แดด เพราะเธอเพิ่งจะสิบเจ็ดปลายๆ ตอนเจอกับพระเอก แต่เธอกลับรู้ว่าความรู้สึกนี้เรียกว่ารักแล้ว แต่ถ้าพิจารณาจากอดีตที่ผ่านและสิ่งที่แฝงในกายคอยจะกระตุ้นให้เธอจดจำได้ ก็รู้สึกว่านางเอกรอคอยมานานเกินไป นานจนสงสารนางเอกที่กลับกลายเป็นว่าเธอกลับถูกปฏิเสธเพียงเพราะไม่ต้องการให้เธอกลับไปรักเขาอีก ก่อให้เกิดอารมณ์ปวดร้าวจิตใจเล็กน้อยค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าสงสารนางเอกและพระเอก ที่ไม่กล้าเอาชีวิตของคนที่รักมาเสี่ยงอีกแล้ว สู้ให้ลืมไปว่ารักกันจะดีกว่าไหม
แท้จริงพล็อตหลักของมันเป็นพล็อตที่เรียบง่ายมาก นรกและสวรรค์ สถานที่ต่างกัน แต่กลับบ่มเพาะความรักได้ ยิ่งความงดงาม การเสียสละ และความดีของนางเอกที่เล็งเห็นรูปทองของพระเอก มันจึงไม่ยากเลยที่นางเอกจะเป็นของขวัญอันล้ำค่า หรือสิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรรัก แต่มันก็พลาดพลั้งต่อลิขิตแล้ว การเล่าเรื่องด้วยธีมนี้กลับใส่อามณ์ได้หลากหลาย แม้จะไม่ได้มีอารมณ์สดใส แต่มันออกโทนสีหม่นๆ หากยิ่งทำให้รู้สึกว่าเรื่องมันน่าติดตามมากขึ้นว่า พระเอกจะตามหานางเอกได้เช่นไร ท่ามกลางผู้คนนับล้านๆคนที่เขาไม่มีสิทธิ์ได้ล่วงรู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย และเมื่อได้พบ เขาก็ไม่ต้องการให้เธอรับรู้ถึงเขา ให้มีเพียงเขาที่แอบคอยดูแลเธออย่างห่างๆ ก็พอแล้ว ไม่อยากกระตุ้นให้เธอจดจำเรื่องราวในอดีตได้ แต่นั่นล่ะคะ เพราะว่าวงเวียนของลิขิตได้ถูกกำหนดไว้แล้วว่ามันไม่ง่ายนัก จึงนำเธอกับเขามาเจอกัน และต้องขอบคุณผู้ช่วยหลายๆคนที่อยากช่วยและแก้ตัวในสิ่งที่อดีตไม่อาจช่วยได้ แต่วันนี้จะช่วยให้ทั้งคู่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน และไม่พรากจากกันอีก
อ่านจบได้ความรู้สึกซาบซึ้งกับเนื้อเรื่องนะคะ มันอาจไม่ถึงกับกระชากอารมณ์ให้จี๊ดได้เหมือนคู่ฝันคะนึง แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่ว่ารักที่แท้จริงไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เป็นการเห็นแก่คนที่เรารัก เสียสละและปกป้องเขาถึงที่สุด และเมื่อรักนั้นหยั่งรากลึกจนไม่อาจถอนได้ แต่ให้สิ่งใดแข็งแกร่งจนอาจบัญชาให้เราลืมเลือนรักได้ หากมันจะไม่มีวันลืม เพราะมันจะติดอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ และมันรอวันจะเผยออกมาให้รู้ว่า รักนี้ไม่วันจางไป
และอีกอย่างที่รู้สึกชอบนะคะ หน้าปกของเรื่องค่ะ ความที่เป็นปกคู่ต่อกัน ธีมของเรื่องกับภาพของปกไปด้วยกันและสื่อความหมายได้ดีนะคะ ตัวนางเอกที่ใส่ชุดขาว พิสุทธิ์สมเป็นนางฟ้า หากปกของพระเอกใส่ชุดดำ แทนความหมายของยมโลก และทั้งสองยืนอยู่ท่ามกลางดอกไม้สีแดง ดอกไม้ที่แทนความรู้สึกที่ว่า ความทรงจำอันแสนเศร้า เหมือนที่อดีตของทั้งคู่ต้องเจอะเจอ เป็นปกที่สวยและคลาสสิคอีกปกเลยค่ะ จึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ชอบเรื่องนี้
อ่านผลงานเฮยเจี๋ยหมิงมาสามเรื่องแล้ว บอกไม่ถูกนะคะว่าชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน ตอนนี้อาจจะมีใจไปทางคู่บุปผาข้ามภพนิดหนึ่ง เพราะวิบากกรรมไม่กระหน่ำมากเท่าเล่มแรก และตัวเองเป็นคนชอบธีมแนวนรกกับสวรรค์ ชายผู้เย็นชาหากมีความอ่อนโยนในจิตใจอย่างฉินด้วยแล้ว ก็อาจจะรู้สึกพิเศษกับเรื่องนี้สักเล็กน้อยค่ะ แต่จริงๆแล้วไม่ว่าเล่มไหนก็สนุกโดนใจมากค่ะ ชอบนิยายจีนก็ตรงที่พล็อตไม่จำกัด มีความแปลกใหม่ในเนื้อเรื่อง นำเสนอมาให้น่าสนใจ แม้จะพอเดาเรื่องออก แต่ไม่ทำให้รู้สึกว่าเบื่อหน่ายหรือเดาทางเรื่องจนหาอะไรลุ้นไม่ได้ค่ะ ตอนนี้เลยงานเข้า เพราะอยากอ่านเล่มต่อไปของเฮยเจี๋ยหมิงแล้วค่ะว่าจะมาเมื่อใด ปกจะสวยแค่ไหน แต่ยังไงเราทำตัวเป็นแฟนเฮยเจี๋ยหมิงไปแล้ว ต้องรอต่อไปค่ะ