พยศเสน่หา รตา
แม้จะรู้ดีว่าผู้ชายแปลกหน้าที่เธอพบคือผู้ชายอันตรายที่แพรววนิดไม่ควรเข้าใกล้ทว่าเธอไม่จำเป็นต้องเชื้อเชิญเขา อนลก็พร้อมจะเข้ามาสู่ชีวิตเธออย่างไม่เต็มใจและดูเหมือนหัวใจของเธอเองก็ไม่ค่อยรักดี หรือที่เขาบอกว่า ผู้หญิงดีๆมักแพ้ทางผู้ชายร้ายๆจะเป็นจริง เสน่ห์ของแบดบอยของอนลทำให้เธอไม่อาจลืมเขาแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่ปล้นจูบแรกไปจากเธออย่างไม่เต็มใจ
สามสิบปีที่อนลชิงชังคำว่าความผูกพันธ์เขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนที่อ่อนแอให้ใครได้เห็น หากแต่วันที่อนลไม่คิดว่าจะมีก็เกิดขึ้นแพรววนิดเป็นแค่ผู้หญิงที่เขาบังเอิญได้พบและซ้ำร้ายเธอก็ยังจะไม่ชอบขี้หน้าเขาสักเท่าไร แต่ทำไมเขาถึงต้องอยากจะตอแยเธอนักและยังกล้าซมซานไปหาเธอในเวลาที่เจ็บปวดที่สุด
เปล่าเลยแพรววนิดไม่เคยคิดหนีหน้าอนล หรือเฝ้ารอคอยการพบปะกันอีกครั้ง ถ้าเธอยังมีความคิดดีๆเหลืออยู่ผู้ชายอย่างอนลควรจะถูกลืมเลือนไปพร้อมกับเวลาแต่เมื่อเธอกลับกลายเป็นคนรักของอนลอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวซ้ำยังถูกหมายมั่นปั้นมือจากครอบครัวของอนลให้เป็นผู้เยียวยาหัวใจของเขาอีกแพรววนิดควรจะรู้สึกชังชิงผู้ชายจอมฉวยโอกาสอย่างอนลไม่ใช่รู้สึกเจ็บปวดไปกับอดีตของเขา
อนลเกลียดทุกอย่างที่เรียกว่าครอบครัวเขาเป็นแค่ส่วนเกินของครอบครัวที่แสนอบอุ่นของบิดา เขากลายเป็นแค่ลูกชายไม่เอาถ่านลูกเมียเก่าที่พ่อไม่เคยรักและยิ่งถูกตอกย้ำว่าเขามันไร้ค่ากว่าน้องชายคนละสายเลือดเขาถูกกดไว้เป็นแค่เบลล์บอยต้อยต่ำ ได้แต่มองสายเลือดอีกคนอยู่ในที่สูงส่งกว่าความแค้นนี้คงจะตราตรึงอยู่จนวันตาย ถ้าไม่เพราะแพรววนิดผู้หญิงที่แสดงออกตลอดมาว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาแต่กลับฉุดรั้งให้เขาได้รู้ตัวว่าแทนที่เขาจะนั่งเคียดแค้นใจกับอยุติธรรมเขาต้องพิสูจน์ตัวให้เห็นคุณค่าที่ซ่อนไว้
ถ้าความรักทำให้แพรววนิดโง่เธอก็ยอมรับที่จะเป็นแค่ผู้หญิงโง่ๆคนหนึ่ง รอบกายเธอพรั่งพร้อมไปทุกอย่างบ่มเพาะให้เธอเป็นเธอ ต่างไปจากอนล ผู้ชายที่ขาดไปทุกอย่างแพรววนิดมีสิทธิ์จะเลือกรักผู้ชายอื่นที่ดีกว่าอนลได้อีกมากมายแต่เธอกลับไม่เคยเลือกจะมอบความรักให้ใคร ทว่าอนลคือผู้ชายคนนั้นคนที่เธอจะบอกเขาได้ว่า สำหรับเธอแล้ว เขาคือผู้ชายคนเดียวที่เธอรักไม่ว่าเขาจะเป็นแค่อนล ผู้ชายที่ไม่เป็นโล้เป็นพายคนนี้
หรือสิ่งที่ทำมาตลอดชีวิตจะเป็นแค่เรื่องโง่ๆของผู้ชายที่ชื่ออนลเขาดีแต่ปล่อยให้เวลาที่มีค่าหมดไปกับคำว่าแก้แค้นครอบครัวคุณค่าในตัวเขาก็นับวันจะจางหายไปเรื่อยๆ ถ้าไม่เพราะแพรววนิดก้าวเข้ามาในชีวิตเธอทำให้เขารู้สึกว่าต้องดีพอสำหรับนางฟ้าของเขาความจริงที่เจ็บปวดคือสิ่งที่เขาต้องยอมรับให้ได้ว่าครอบครัวที่เขาสูญเสียไปแล้วจะไม่มีวันได้กลับคืนมาอีกแล้ว
หากชีวิตนี้อนลปราศจากคนที่รักเขาอย่างแท้จริงแพรววนิดก็จะเป็นคนที่มอบความรักให้เขาเอง ตลอดสามสิบปีที่ผ่านมาเขาต้องเจ็บปวดกับความรู้สึกแสนโดดเดี่ยวบนโลกกว้างมาพอแล้วถึงเวลาที่เขาต้องปลดปล่อยมันไปเสียทีและเรียนรู้ที่จะเข้าใจว่าใช่แต่เขาเท่านั้นที่เต็มไปด้วยบาดแผลครอบครัวของอนลก็บาดเจ็บไม่ต่างกันท้ายที่สุดทุกคนต่างก็ได้รับผลของอดีตที่ไม่มีวันกลับไปแก้ไขได้
เมื่ออนลไม่อาจจะได้รับความรู้สึกที่ขาดหายไปเนิ่นนานกลับคืนมาชีวิตคนเราไม่มีใครได้ทุกอย่างที่ต้องการเขาได้รับรู้รสชาติการไม่เป็นที่รักมากพอแล้ว แต่เขาเองก็มอบความขมขื่นของการแก้แค้นตอบแทนกลับไปยังครอบครัวใหม่ของบิดามากพอจนเหลือไว้แต่รอยร้าวที่ไม่อาจประสานนับจากนี้เขาจะก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับแพรววนิดผู้หญิงที่มอบความรักให้เขาอย่างล้นเหลือทดแทนทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาไม่เคยได้รับมาตลอดชีวิต เธอคือแรงใจ แรงกายที่ทำให้อนลได้รู้จักคำว่าความสุขที่แท้จริงคำว่าครอบครัวที่แสนอบอุ่น
เปิดเรื่องมาด้วยความไม่น่ารักของพระเอก จนอยากจะศอกกลับอีตาพระเอก มีอย่างที่ไหน หน้าด้าน หน้าทน เล่นเลิฟซีนกับคู่ขาในลิฟต์ต่อหน้านางเอก งานนี้มีหรือผู้หญิงดีๆคนไหนจะไปชอบอีตาผู้ชายโรคจิต แต่พระเอกก็เป็นพวกชอบเอาชนะ ผู้หญิงสวยๆคนนี้ไม่ชอบหรือต้องเอาชนะให้ได้ แน่นอนว่าแรกพบกัน พระเอกไม่ใช่พวกตกหลุมรักแต่แรกพบ แค่อยากหว่านเสน่ห์ใส่คนสวย ปฏิบัติการหน้าด้านๆ ก็เลยเกิดขึ้น และกลับกลายว่าเหมือนนางเอกจะซวย เพราะเขาดันทำเพื่อประชดประชันพ่อตัวเองไปในตัว ก็อยากห้ามนักว่าอย่ายุ่งกับนางเอก ผู้หญิงดีๆ ที่ไม่มีเคยมีประวัติด่างพร้อย ทุกอย่างก็เท่าเทียมกันแบบนี้ ถ้าจะจีบใครจะห้ามปรามเขาได้
แต่ใครเลยจะรู้ว่าแท้จริงพระเอกมีใจให้นางเอกทั้งๆที่ตัวพระเอกเองก็ไม่รู้ แต่พ่อและแม่เลี้ยงเขากลับรู้ใจพระเอกก่อน เดินหน้าเข้าหาผู้ใหญ่ของนางเอก เพื่อหวังจะให้นางเอกนี้ล่ะมาเป็นคนดัดนิสัยแย่ๆของพระเอก ที่เป็นแกะดำของครอบครัว อายุก็ปาเข้าไปสามสิบกว่าแต่ไม่รู้จักทำงานทำการ เอาแต่เกาะพ่อไปวันๆ นางเอกก็เหมือนความซวยจะมาเยือน จู่ๆก็มีคู่หมายอย่างที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ทำไมกันนะ ปากก็ว่าไม่อยากจะยุ่งเกี่ยว แต่เธอก็เผลอมีใจให้ตลอดเวลา ผู้ชายคนนี้มีดีอะไร นิสัยก็แย่ เจ้าชู้ตัวพ่อ งานการก็ไม่มีทำ จนพ่อตัวเองต้องดัดนิสัยเป็นได้แค่เบลล์บอยของโรงแรมตัวเอง
แต่เมื่อนางเอกได้รับรู้ถึงอดีตของพระเอก ก็ยิ่งทำให้เธอเปิดใจให้เขามากขึ้น เธอเติบโตมาในครอบครัวที่แสนอบอุ่น ต่างจากพระเอกอย่างสิ้นเชิง พ่อของเขาไม่เคยรักแม่เขาเลย ฝังใจกับรักแรกที่สุดท้ายก็คือแม่เลี้ยงตัวเอง ยิ่งมีน้องชาย เขาก็เหมือนส่วนเกินของครอบครัว ทำให้พระเอกกบฏต่อครอบครัว กลายเป็นผู้ชายที่สรรหาแต่เรื่องเดือดร้อนมาสู่ครอบครัว นางเอกจะเหมือนแสงไฟในหนทางที่มืดมิดของพระเอก และฉุดรั้งเขามาสู่ทิศทางที่ถูกต้อง คอยเป็นเพื่อนเคียงข้างพระเอกในวันที่เขาเจ็บปวดที่สุด และทำให้พระเอกยอมที่จะละทิ้งคำว่าความเกลียดชัง และเริ่มต้นสร้างครอบครัวที่เขาจะลิขิตมันด้วยมือของตัวเอง
อ่านแล้วฟีน่าพูดได้คำเดียวว่าสงสารพระเอกมากค่ะ อ่านตอนแรกๆก็พอรู้แล้วว่าพระเอกต้องเป็นเด็กมีปัญหาแน่นอน เขาต้องการให้พ่อเจ็บกับความเลวของตัวเอง แต่ไม่คิดว่าเขาจะมีความเจ็บปวดร้าวลึกขนาดนั้น
แต่พระเอกก็มีมุมที่เรียกว่ากวนประสาท จริงๆอยากเรียกว่ากวนทรีนมากกว่า คือแกเป็นพวกที่ทำงานกับคนอื่นลำบากสุดๆ ประเภทว่ากรูไม่สนใจใครมาก่อนตลอดชีวิต ทำไมต้องอ่อนน้อมต่อคนอื่น ไม่ง้อใครก็ไม่อดตาย มีกินโว้ย แต่พอโดนพ่อดัดนิสัย แทนที่แกจะแบบว่าทำตัวดี ก็ยังเหมือนเดิม แต่เขาก็ค่อยๆเรียนรู้ว่า ต่อให้เป็นลูกเจ้าของโรงแรมก็ต้องอาศัยพึ่งพาคนอื่นที่เรียกว่าลูกน้อง คนที่จะทำให้งานเขาเดินไปได้ พระเอกจึงค่อยๆมีนิสัยที่ดีขึ้น แต่ไม่ถึงกับเปลี่ยนตัวเอง เพราะในใจพระเอกคิดว่าเขาถูกมองเสมอมาว่าไร้ค่าถ้าเทียบกับน้องชาย ทั้งๆที่ตัวเขาก็มีดี เพียงแต่พระเอกลืมไปว่า สิ่งที่เขาทำตลอดมาใครกันเล่าจะไปกล้าไว้วางใจ
ในแง่ความรักของพระเอกที่มีต่อนางเอก แน่นอนว่าเธอคือรักแรกของเขา เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมองได้ว่า บางทีพระเอกเหมือนจะใช้นางเอกเป็นการเอาชนะกันระหว่างพระเอกและน้องชาย แต่อ่านไปจะไม่ใช่เลย เพราะว่าความทุ่มเทและการปกป้องนางเอกมันมากกว่าคำว่าการแข่งขัน พระเอกเป็นคนประเภท รักแล้วรักเลย รักจริงจังมากเพราะเขามีความรู้สึกว่าไม่เป็นที่รักของทุกคน เป็นแค่ส่วนเกินในครอบครัว และนางเอกก็ดีกับเขาที่สุด จึงต้องรักนางเอกให้มากที่สุด เธอเป็นคนที่เติมเต็มส่วนที่เขาโหยหามาตลอด
ข้างฝ่ายนางเอก ฟีน่าพูดได้เต็มปากว่าชอบนางเอกมากค่ะ เธอเป็นนางเอกที่เก่ง รู้จักทำงาน สวย เติบโตมาในครอบครัวที่แสนดีมาก จนเรียกได้ว่าเพียบพร้อมไปหมด คนอย่างเธอควรได้เจอผู้ชายที่ดีๆเหมือนกัน แต่ทำไมต้องมาตกหลุมพระเอกล่ะ คงเป็นแนวผู้หญิงชอบผู้ชายร้ายๆแหง แต่ทำไงได้ พระเอกก็มีเสน่ห์จริงๆนี้ค่ะ
ฟีน่าชอบความคิดของนางเอกมาก เธอรู้ดีเลยล่ะว่าใครอยากจะจีบเธอ นางเอกไม่ได้ใสซื่อจนน่ารำคาญประมาณว่า อ้าวเขาจีบฉันหรือ สำหรับพระเอกที่เธอตั้งใจว่ายังไงก็ไม่มีวันชอบอีตานี้หรอก แต่ใจเธอกลับเปิดรับเขา ต่างจากผู้ชายคนอื่นที่เธอมีวิธีปฏิเสธไปตรงๆ โดยเฉพาะน้องชายพระเอก ที่เธอปิดทางทุกอย่างของเขา พูดกันตรงๆว่า ฉันเป็นแฟนพี่ชายคุณ ไม่มีวันเปลี่ยนใจ ได้ใจมากค่ะ ชอบผู้หญิงที่ชัดเจนแบบนี้ ประเภทกั๊กๆ กลัวทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายนี้ไม่ไหวนะคะ ยิ่งพระเอกมีปมในใจอยู่แล้ว เธอยิ่งอยากจะถนอมความรู้สึกเขา เธอไม่เคยเห็นคนอื่นดีกว่าเขาเลย
ชอบฉากที่น้องชายพระเอกแกล้งเมาแล้วหาทางที่จะรวบหัวรวบหางนางเอก นางเอกก็มีความคิดที่จะโทรหาพระเอกมาช่วยกัน เพราะยังไงเขานั่นก็น้องชาย ตอนแรกฟีน่าคิดว่าต้องมีเหตุให้เข้าใจผิดแหงกับมุกนี้ แต่เปล่าเลย นางเอกจัดการทุกอย่างได้ดีมาก ชอบผู้หญิงแบบนี้ที่สุด
และนางเอกก็ไม่เคยทอดทิ้งพระเอก เป็นแรงใจที่ดีสำหรับเขา เธอคอยกระตุ้นให้เขาต้องพิสูจนตัวเองว่ามีดีพอจะให้พ่อไว้วางใจ ต่อให้เขาไม่ได้ทำงานในหน้าที่ใหญ่โต เธอก็พร้อมจะเคียงข้างเขาเสมอ มีปัญหาอะไรเธอก็พร้อมจะช่วยเขาแก้ปัญหา เพราะพระเอกคือแฟนของเธอ เป็นผู้ชายที่เธอรักที่สุด
และเพราะการที่พระเอกมีนางเอกเคียงข้าง ช่วยพระเอกเยียวยาจิตใจได้มาก เธอรับรู้ปัญหาของพระเอกมาตลอดและพยายามทำให้พระเอกคิดได้ว่า อย่าปล่อยให้อดีตกัดกินความสุขของเขา ต้องรู้จักให้อภัยครอบครัวบ้าง
อ่านไปๆ ดราม่ามากขึ้นเรื่อยๆค่ะ เป็นนิยายแนวครอบครัวที่แตกร้าวจนยากจะประสาทจริงๆ ซึ่งท้ายที่สุด มันไม่ได้จบลงด้วยคำว่า ทุกคนต่างก็เข้าใจกัน หันหน้ามารักกัน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นฟีน่าก็อาจจะรู้สึกว่าไม่นะ รอยร้าวมันลึกขนาดนั้นจะกลับมารักกันได้หรือ ตอนจบของเล่มนี้จึงออกไปในโทนขมๆ แต่มันก็จริงนะคะ อย่างน้อยพระเอกก็ทิ้งความแค้นไปแล้ว เพราะนางเอกเตือนสติว่า เขาเองก็แก้แค้นครอบครัวมากเกินไปแล้ว จนทุกคนก็ต่างมีบาดแผลใหญ่ ชีวิตที่เหลือของครอบครัวใหม่ของพ่อก็ต้องทุกข์ทนเกินพอแล้ว พระเอกจึงคิดได้และหันกลับมาสร้างครอบครัวตัวเองที่เขาจะใช้เรื่องราวในอดีตเป็นประสบการณ์ชีวิต
ฟีน่าร้องไห้ให้กับความน่าสงสารของพระเอกกับฉากที่พระเอกได้ยินพ่อพูดกับน้องชายตัวเองว่า เขาไม่มีวันรักพระเอกได้มากเท่ากับที่รักน้องชาย แม้มันจะไม่หมายความเช่นนั้นจริงๆ แต่แท้จริงคนอ่านแบบฟีน่าก็รู้ดีแก่ใจว่า พ่อพระเอกรักน้องชายมากกว่าพระเอก ซี่งมันไม่ผิดเลยนะคะ พระเอกในตอนเด็ก เป็นเด็กเกเร เอาแต่ใจ ไม่เปิดใจรับแม่เลี้ยงตัวเองแม้แต่น้อย พ่อที่มีทุนรักในหัวใจน้อยอยู่แล้วจึงไม่แปลกที่เขาจะมอบความรักให้กับลูกที่เกิดกับผู้หญิงที่ตัวเองรัก และลูกชายอีกคนก็ได้ดั่งใจเสมอมา แกะดำในครอบครัวจึงถูกป้อนความรักให้น้อยกว่า จะโทษใครกันเล่า โทษพ่อพระเอกก็ไม่ได้ ตัวพระเอกเองก็มีส่วนผิด ถ้าเขาเป็นเด็กดี มีหรือพ่อที่รู้สึกผิดว่าทอดทิ้งเมียที่ตัวเองไม่รักจนเธอตายจะไม่รักพระเอก ความผิดนี้จึงไม่ใช่ความผิดของพ่อพระเอกทั้งหมด
แต่พระเอกเองก็เจ็บช้ำกับคำนี้มาก เป็นฉากสะเทือนที่สุดในเรื่องฉากหนึ่ง แต่มันก็ถูกเยียวยาด้วยคำรักของนางเอก เพราะเป็นฉากที่เธอกล้าบอกรักพระเอกกับคำพูดที่ว่า "คุณลุงอาจจะไม่รักคุณเท่ากับรักคุณชล แต่ฉัน...รักคุณคนเดียว"ได้ใจมากๆค่ะ
อีกฉากที่ปวดร้าวมากกับฉากที่แม่เลี้ยงของพระเอกถูกบีบให้เลือกช่วยใครระหว่างพระเอกกับลูกชายตัวเอง แน่นอนว่าแม่ทุกคนต้องรักลูกตัวเองมากกว่า แต่มันก็ยิ่งตอกย้ำพระเอกว่าเขาไม่มีใครเลย เขาเป็นส่วนเกินของครอบครัวนี้อย่างสมบูรณ์แบบ เจ็บซะให้พอ อย่าคาดหวังอะไรอีกเลย เขาเป็นได้แค่หลาน ลูกเลี้ยงที่เธอไม่รักเขามากพอ
แต่จะไปโทษแม่เลี้ยงพระเอกหรือ ก็ไม่ได้อีก เพราะเธอรักพระเอกมาก แต่พระเอกกลับผลักไสเธอไปจากชีวิต เพียงเพราะคำว่าเธอมาแทนที่แม่ของตัวเอง ฟีน่าว่าจุดนี้พระเอกโทษแม่เลี้ยงกับพ่อตัวเองมากไป แต่ผิดไหม ก็ผิดที่พ่อพระเอกไม่เคยยอมรับว่าตัวเองผิด และโทษว่าลูกชายตัวเองเรียกร้องความสนใจ และเขาก็เบื่อหน่ายจะพยายามเข้าใจลูกชายตัวเองเต็มทน จึงผลักไสออกไปจากชีวิต พระเอกจึงยิ่งเคียดแค้นแม่เลี้ยงที่แย่งความรักไปจากพ่อตัวเอง ทั้งๆที่เขาไม่เหลือใครแล้ว และมันเศร้าที่ตอนท้ายพระเอกพูดกับแม่เลี้ยงว่า เขารู้ว่าน้ารักเขา แต่ไม่ได้รักแบบลูก เพราะเธอไม่เคยปฏิบัติกับเขาเหมือนเขาเป็นลูกแต่เป็นคนอื่น สรุปคือพระเอกรู้อย่างเจ็บปวดมาเสมอว่า ความรักที่แม่เลี้ยงพร่ำบอกแท้จริงแล้วไม่ใช่เลย บ่อน้ำตาแตกอีกรอบซิค่า
ท้ายๆของเรื่องมีแต่ซีนดราม่า แต่ว่าสนุกมาก พระเอกได้ปลดปล่อยทุกอย่าง แต่เขาก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ต่อให้ปากว่าให้อภัย แต่หัวใจของเขาก็ยังเจ็บปวดกับความจริงที่เขาก็มีส่วนลิขิตให้ชีวิตของเขาไม่เหลือใคร ถ้าในวันนั้นเขาไม่ทำตัวน่าเอือมระอากับครอบครัวใหม่ของพ่อ พ่อไม่หมดความอดทนที่จะมอบความรักให้เขา ความเย็นชาระหว่างคนในครอบครัวคงไม่เกิดขึ้น สายเกินไปเสียแล้วที่จะเริ่มต้นใหม่ เมื่อมันผ่านไปถึงสามสิบปี สายเกินไปที่พูดคำว่าหากย้อนอดีตกลับไปได้ มันปวดใจมากค่ะ สงสารทุกคนในครอบครัวพระเอก เพราะทุกคนต่างก็โทษตัวเองว่าเป็นตัวแปรสำคัญในเรื่อง ครอบครัวที่ควรจะได้มองหน้ากันอย่างมีความสุข ก็เหมือนคนแปลกหน้าที่เหลือไว้แต่คำว่าหน้าที่ทางสายเลือดและกฏหมายที่ไม่อาจตัดขาดได้
อย่างที่บอกล่ะว่า เราตัดสินไม่ได้ว่าใครล่ะเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมนี้ เหมือนที่พ่อนางเอกสอนนางเอกว่า เราไปทำตัวเป็นศาลที่จะพิพากษาใครได้หรอกนะว่าใครผิด ทุกคนล้วนแต่มีเหตุผลของตัวเอง และมีส่วนที่ก่อให้เกิดเรื่องนี้ ทุกคนต้องลืมอดีตและก้าวต่อไป ครอบครัวของนางเอกจึงเหมือนตัวเปรียบเทียบครอบครัวของพระเอกได้อย่างดีว่า ครอบครัวที่อบอุ่นได้หล่อหลอมให้มีผู้หญิงที่แสนดีและเติมเต็มพระเอกได้อย่างไร แต่ใช่ว่าสิ่งที่เลวร้ายในอดีตจะมีแต่เรื่องไม่ดี เพราะมันก็สอนให้พระเอกทุ่มเทให้กับคำว่ารักแด่นางเอกคนเดียว เขาจะไม่ยอมให้ครอบครัวที่เขาสร้างขึ้นล่มสลายด้วยมือตัวเอง
เมื่อได้รู้ว่ารักนางเอก เขาเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ชายทำงานและเห็นมุมของผู้ชายที่เป็นผู้นำครอบครัวที่เข้มแข็ง เขาต้องดีพอสำหรับนางเอก ต้องซื่อสัตย์กับเธอ ขนาดจำเป็นต้องไปเจรจากับลูกค้าที่รู้ว่าคิดจะใช้คำว่างานมาบังหน้า พระเอกก็เล่าให้นางเอกฟังทุกอย่าง ได้ใจค่ะ ความซื่อสัตย์ต่อกันยิ่งทำให้พระเอกน่ารักมาก
ฟีน่าแม้จะชอบนิยายแนวหวานเลี่ยน แต่ก็ชอบแนวนะคะ เพราะมันมีมุมมองที่สอนใจเราได้ด้วย ทุกคนไม่มีใครเป็นฝ่ายผิดทั้งหมด เพราะเราเองก็มีส่วนที่จะก่อเกิดปัญหาด้วย ตัวพระเอก นางเอกก็ถูกใจมาก โดยเฉพาะนางเอก เธอรักพระเอกคนเดียว คิดถึงใจเขาก่อนเสมอ เข้าใจทุกอย่างเป็นปัญหาของเขา ไม่เคยทิ้งพระเอกในเวลาใดก็ตาม ฉลาดและเข้าใจโลก ไม่มีมุกงี่เง่าให้รำคาญ ขนาดเธอเห็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าพระเอกน่าจะจีบเธอเอาชนะน้องชาย แต่เธอก็พร้อมจะรับฟังเหตุผลจากปากพระเอกก่อนปลงใจเชื่อลมปากคนอื่น เป็นผู้หญิงสวยและยังมีหัวคิดแบบนี้ไม่ชอบได้ไงค่ะ พระเอกเองก็เปลี่ยนจากคนไม่เอาถ่านมาเป็นผู้ชายที่แสนดีได้เพราะนางเอก เล่มนี้จึงเป็นอีกเล่มที่แนะนำให้หามาอ่านค่ะ ดราม่าและหวานในเวลาเดียวกัน อ่านแล้วจะทั้งรักทั้งสงสารพระเอกกันเลยทีเดียว