มัสฤน ไม่รู้ว่าชายแปลกที่ดูองอาจและน่าเกรงขามเบื้องหน้าคือใคร แต่ไม่ว่าคุณกาโชคนนี้จะเป็นผู้ใด แต่เขาก็ทำให้เธอรู้สึกผูกพันและห่วงใยเขาอย่างประหลาด และไม่คาดคิดว่าชะตาจะทำให้ได้พบเจอเขาอีกครั้งในสีหสถาน ประเทศในม่านหมอกที่มัสฤนต้องเดินทางมา ปริศนาในหัวใจก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น คุณกาโชคือใครกันแน่
สำหรับองค์ฏอร์เจ มัสฤนคือความประทับใจที่พระองค์ไม่มีวันลืมเลือน หากพระองค์ก็ไม่ทรงคิดว่าจะพบเธออีกครั้ง พระองค์ไม่ได้อยากหลอกลวงมัสฤนแต่อย่างใด แต่หากการได้มีความสุขแบบคนธรรมดาที่ค่อยๆให้มัสฤนได้ค้นพบว่าแท้จริงแล้วพระองค์คือใคร ก็คือความน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อพระองค์เป็นเพียงแค่คุณกาโชชายผู้แสนธรรมดาคนหนึ่ง มิตรภาพที่มีให้กันก็เกิดขึ้นง่ายดาย ไม่มีเส้นคั่นคำว่าฐานันดรศักดิ์อันยิ่งใหญ่
แท้จริงแล้วคุณกาโชคือใครกันแน่ นั่นคือคำถามที่มัสฤนต้องการคำตอบ แต่แล้วความเชื่อเดิมที่เธอเคยรับรู้มาตลอดก็กลับไม่ใช่ เขาไม่ใช่แค่มหาดเล็กคนสำคัญ แต่กลับกลายเป็นองค์ราชันย์แห่งสีหสถาน บุรุษผู้ห่างไกลเกินกว่าที่เธอจะควรใกล้ชิด เธอเป็นเพียงแค่แพทย์หญิงธรรมดาจากเมืองไทย ผู้ที่ไม่น่าได้รับเกียรติอันมากมายขนาดนั่น เธอไม่มีอะไรคู่ควรเลยจริงๆ
ใครว่าการได้เป็นผู้สูงส่งบนแผ่นดินจะได้ครอบครองทุกอย่าง ตอนนี้ผู้หญิงที่เข้ามาครอบครองพระทัยขององค์ฏอร์เจอย่างรวดเร็วอย่างมัสฤนกำลังจะถอยหนีออกไป แล้วจะให้พระองค์ทำเช่นไร ใช้อำนาจอันใดรั้งเธอไว้ หากแต่เพราะวาสนาพร้อมกับเล่ห์กลเล็กๆของพระธิดาผู้รู้ใจเสกสรรค์ภาระที่ผูกพันมัสฤนไว้กับดินแดนแห่งนี้
แม้ไม่อยากจะยอมรับว่าหัวใจได้เกิดความรักขึ้นกับบุรุษผู้สูงส่งเกินเอื้อม แต่มัสฤนก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า เธอได้มอบดวงใจให้กับองค์ฏอร์เจไปจนหมด หากทุกอย่างจะราบรื่นหรือ เธอเป็นเพียงหญิงไทยที่แสนธรรมดา เธออาจไม่ได้เป็นนางซินที่สิ้นไร้ไม้ตอก เป็นแพทย์หญิงที่ทรงคุณค่า และคุณหนูแห่งอิงคสร แต่สีหสถานก็ใช่ว่าจะไม่มีสตรีที่ควรคู่บัลลังก์แห่งนี้
ไม่มีใครจะกำหนดให้พระองค์ทำอะไรได้ หากไม่ใช่มาจากหัวใจ เมื่อได้รู้ว่ารักมัสฤนแล้ว องค์ฏอร์เจก็จะทำทุกหนทางเพื่อให้เธอได้ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ราชินีเคียงข้างพระองค์ แต่อุปสรรคของหนทางยังมีอะไรที่มากกว่านั้น เมื่อสีหสถานไม่ใช่ดินแดนในฝันแห่งความสงบอีกต่อไป ใครบางคนกำลังต้องการจะเปลี่ยนวิถีชีวิตและความเป็นประเทศที่สงบสุขด้วยเหตุผลเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แม้จะรักมัสฤนสักเพียงใด แต่ตอนนี้แผ่นดินแห่งสายหมอกนี้กำลังจะเปลี่ยนไป ถึงจำใจแต่พระองค์ก็ต้องส่งหัวใจของพระองค์ไปเพื่อความปลอดภัย
หากมัสฤนจะเคยปฏิเสธการได้อยู่เคียงคู่องค์ฏอร์เจ แต่ในวันที่ภัยร้ายกำลังมาเยือนแผ่นดินที่รักของพระองค์ จะให้เธอทอดทิ้งพระองค์ไปได้เช่นไร ทว่าเมื่อเธอไร้เหตุผลจะอยู่ต่อ มัสฤนก็พร้อมจะกลับไปรอคอยคืนวันที่ได้กลับมาสู่สีหสถานอีกครั้ง แต่เธอจะไม่ได้กลับไปอย่างสิ้นหวัง หากหัวใจของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและหัวใจของเจ้าชีวิตของเธอที่นำกลับไปด้วย
ณ วันนี้ ไม่มีสิ่งใดคัดค้านได้แล้วว่ามัสฤนไม่คู่ควรเคียงข้างองค์ฏอร์เจอีกต่อไป เธอคือนางสิงห์ผู้เพียบพร้อม หญิงผู้กำหัวใจของพระองค์ไว้จนหมดสิ้น เธออาจเคยเป็นเจ้าหญิงแห่งอิงคสร แต่วันนี้เธอจะสตรีผู้เป็นราชินีเคียงข้างราชันย์เช่นพระองค์ พระเจ้าฏอร์เจ กาโช ชาปตรุง ริงปา ราชาแห่งบัลลังก์สายหมอก
ไม่ต้องพูดมากค่ะ สมาชิกบล็อกฟีน่าน่าจะเคยอ่านกันร้อยละเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์แล้วล่ะ แต่เล่าให้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกับการรีวิวแกมสปอยส์ของฟีน่านะคะ เรื่องก็เป็นพล็อตง่ายดายมากค่ะ เมื่อพระเอก(ไม่ขอใช้ราชาศํพท์นะคะ เด๋วใช้ผิด)ที่เป็นกษัตริย์แห่งสีหสถาน ได้ส่งองค์ราชินีมารักษาอาการป่วย แต่ก็ไม่อาจรักษาชีวิตไว้ทัน และนั่นก็ทำให้พบกับนางเอกที่เป็นหมอที่โรงพยาบาลนี้ แม้เธอจะไม่ได้รักษาราชินีแต่ก็บังเอิญต้องมารู้จักกับพระเอก แต่ไม่รู้ว่าแท้จริงเขาคือใคร และเมื่อนางเอกต้องเดินทางไปร่วมงานพระศพ ก็บังเอิญได้เจอพระเอกอีก เธอกลับคิดว่าเขาเป็นมหาดเล็กเท่านั่น ความสนิทสนมจึงเพิ่มขึ้น จนความจริงมาปรากฏว่าทุกอย่างผิดไปหมด พระเอกเป็นถึงราชาแห่งประเทศนี้ เมื่อเริ่มรู้ตัวว่ามีความรู้สึกพิเศษให้ นางเอกก็อยากจะหนีเพราะเธอไม่คู่ควร เธอเป็นคนไทยธรรมดา ไม่ใช่เป็นราชนิกุลที่ไหน และคนในประเทศพระเอกคงรับหญิงต่างชาติลำบาก แต่ด้วยเล่ห์เหลี่ยมเล็กๆของพระธิดาที่ปรารถนาให้พระบิดาได้พบรักจริงๆ ก็เป็นเหตุให้นางเอกต้องอยู่ต่อไป และแล้วกำแพงกั้นก็ค่อยๆทลายลง แต่ก็มีเหตุใหญ่โตเกิดขึ้นในสีหสถาน พระเอกจึงต้องส่งนางเอกกลับไทยพร้อมกับพระธิดา ครั้งนี้นางเอกไม่อยากกลับ เพราะต้องการอยู่เป็นกำลังใจ แต่ก็ขัดไม่ได้ หากเธอไม่ได้กลับไปเหมือนเดิม แต่หอบความรักของพระเอกไปด้วยพร้อมกับพระธิดาของพระองค์ รอวันกลับคืนมาสู่สีหสถานอีกครั้ง
อิๆๆ ใครอ่านเรื่องนี้แล้วไม่คิดถึงประเทศหนึ่งในเอเชียที่ประทับคนไทยคงจะไม่มีใช่ไหมค่ะ เอาเป็นว่ารู้กันเป็นนัยว่าคือประเทศอะไร จำได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองที่ฟีน่าอ่านของเจ้าป้า หลังจากจบจันทราฯมาแล้วก็เข้าเวบหาข้อมูลของวรรณวรรธน์ เจอเจ้าป้ากำลังลงบัลลังก์สายหมอกพอดี แล้วก็อ่านค่ะ ไงล่ะ ติดแหง็กยิ่งกว่ากาวตราช้างอีก อ่านซ้ำซากวนเวียนอยู่แทบตายเอา จนได้ข้อสรุปว่าจงอย่าไปอ่านนิยายออนไลน์เจ้าป้าอีกเลย เพราะมันจะทำให้คุณติดจนเกือบลงแดงได้ และนั่นทำให้ฟีน่าไปเกาะบูทขอลายเซ็นเจ้าป้าเป็นครั้งแรก อยากคุยด้วยแต่ไม่กล้า เพราะเจ้าป้าดูเป็นงานเป็นการมาก จนได้คุยกันจริงๆตอนทรายล้อมตะวัน ถึงได้รู้ว่าเจ้าป้าเป็นคนใจดีมาก แต่เราก็ปวารณาตัวเป็นแฟนคลับกันตั้งแต่ยังไม่ได้คุยกันสักคำหนึ่ง อ้าวคุยเรื่องเจ้าป้าเฉยเลย กลับมาเรื่องนิยายค่ะ
แม้มันจะเป็นพล็อตที่เรียกว่าง่ายดายมาก จนเจ้าป้าเขียนเสร็จเร็วมาก แต่ส่วนตัวแล้ว เจ้าป้าเป็นคนที่สามารถทำพล็อตธรรมดาให้น่าสนใจได้เสมอค่ะ มันสมจริงมากจนเราเชื่อว่าบนโลกมีสีหสถานอยู่ แม้จะเป็นเงาของประเทศหนึ่งก็ตามที อ่านแล้วฉันอยากเป็นหมอหมัด อ่ะ หมัดไม่ได้เป็นเห็บ เป็นเหาก็เอาฟะ คือองค์กาโชเนี่ยไม่ต้องพูดถึงค่ะ สเปกมากๆๆๆ สูงวัย สี่สิบกว่าตรงเป๊ะ สุขุม จริงจัง ไม่เหลาะแหละ อบอุ่น อ่อนโยนและอ่อนหวาน ให้ตายเถอะ ขอกรี๊ดดังๆ แต่แอบเกรงใจว่าเราเป็นหญิงไทยใจงามและเบื้องหน้ามิใช่นักธุรกิจหนุ่มพันล้าน แต่เป็นองค์ราชา ต้องสงวนท่าที่กันนิด
เรียกว่าองค์กาโชนี้ไม่แพ้พระเอกคนใดของเจ้าป้าค่ะ แม้ส่วนตัวจะรักองค์จิตรเสนที่สุดเพราะเป็นรักแรกของฟีน่าก็ตาม แต่องค์กาโชก็มาติดๆ เพราะความโรแมนติคของเนื้อเรื่อง อ่านแล้วสบายใจ ไม่ต้องมีตัวอิจฉาประเภทปากแดงให้น่ารำคาญใจ
แต่มีตัวร้ายที่เหนือเมฆและร้ายกว่านางอิจฉาเหล่านั่นอีก เหตุผลและการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในสีหสถานก็สมเหตุสมผลและเป็นการกระทำที่บอกได้ว่าเจ๋งที่สุดเลยค่ะ ทำให้อ่านแล้วเพลิน เคลิ้มกับเรื่องราวของนิยาย แม้จะเป็นนิยายรักธรรมดาไม่ได้ข้อมูลตรึม แต่ก็ไม่ใช่เลื่อนลอย ก็ยังใส่สาระให้เราได้คิดกันตลอดค่ะ นี้ล่ะเสน่ห์ของเจ้าป้า สามารถเขียนความเป็นวิชาการให้เป็นนิยายรักได้เสมอ โดยที่เราไม่รู้สึกเบื่อหรือถูกยัดเยียดให้รับสาระนั่น เหมือนบ้างครั้งอ่านนิยายที่แทรกสาระ แต่กลับเหมือนยัดเยียดให้เราเสพมันเข้าไป ไม่ใช่นิยายรัก แต่เป็นหนังสือวิชาการ คือมันมีความพอเหมาะ พอดี ใส่มาถูกจังหวะ และมาในรูปที่เป็นนิยายจริงๆ แต่เราก็คิดตามได้
และที่ฟีน่าชอบงานเจ้าป้าอีกอย่างคือ เจ้าป้าเป็นที่ใช้คำพูดธรรมดาสามัญให้เรารู้สึกว่าหวานได้จนนอนบิดหมอน โดยเฉพาะคำว่า be my queen ที่สั่งจ่ายบนเช็คจากองค์กาโช ฟีน่าอยากได้เช็คฉบับนี้บ้างจังเลย ทั้งที่เป็นคำธรรมดาแต่เรารู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของมัน ไม่ใช่เพราะคำว่าราชินีหรอกนะคะ แต่มันคือความหมายที่องค์กาโชเคยบอกว่าจะสั่งจ่ายเช็คนี้เป็นจำนวนที่มัสฤนจะรับมันไว้ได้ กรี๊ด ยิ่งกว่า ฟีน่ารับได้อีกเพคะฝ่าบาท
เหมือนกับที่เจ้าป้าสามารถใช้นัยของคำพูดส่อความร้อนแรงของความรักเอาไว้จนเราเขินอายแทน โดยไม่จำเป็นต้องมีเลิฟซีนประเภท คนอ่านเป็นผู้กำกับการแสดงเลยแม้แต่น้อย อ่านกี่เล่มก็ทำให้เราหน้าแดง บิดผ้าปูที่นอนตลอด บัลลังก์สายหมอกก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ อิจฉาหมอหมัดนะเนี่ย
แต่ถ้าใครไม่เคยอ่านงานเจ้าป้านะคะ ส่วนตัวฟีน่ามองว่าเล่มนี้อ่านง่ายสุดค่ะ เบาสบายที่สุด แต่ความลำเอียงรักของฟีน่าก็ยังมีเพราะจะรู้สึกว่าจันทราอุษาคเนย์โรแมนติคที่สุด แต่บางคนไม่ชอบอะไรแนวพีเรียด ศัพท์แสงแปลกๆไปบ้าง ก็ขอแนะนำให้อ่านบัลลังก์สายหมอกก่อนค่ะ หวานได้ใจ หวานได้โล่ห์ หวานจนคุณอยากจะลองเก็บเงินไปเดินเล่นในดินแดนแห่งสายหมอกจริงๆสักครั้งเพื่อซึมซับบรรยากาศความเป็นสีหสถานสักครั้ง และเป็นการตอกย้ำว่าพระเอกอายุมากเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จริงๆค่ะ หนุ่มอายุน้อยจึงไม่เคยอยู่ในสายตาฟีน่าเลย