เมื่อสินค้าเกรดเออย่างน้องสาวของรมย์รุจี ตัดสินใจหนีงานแต่งงานไป ทิ้งสถานการณ์ที่เป็นอยู่ให้เลวร้ายไปกว่าเดิม เมื่อบิดายื่นข้อเสนอให้เธอเป็นเจ้าสาวคนใหม่ หากเธอถูกปฏิเสธจากแสนหิรัญอย่างไม่ไยดี แต่จะโทษใครเล่า เมื่อเธอไม่ใช่คนสวยสะดุดตา เป็นแค่ของเกรดบีที่ไม่ความหมายในสายตาของแสนหิรัญ และดูเหมือนทุกอย่างจะย่ำแย่ลงทุกที เมื่อรมย์รุจีมีค่าในสายตาของบิดาเป็นแค่สินค้าที่เอาไว้ขายเพื่อแลกหนี้กับใครก็ได้ แม้จะชิงชังกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงใด แต่เธอมีหน้าที่ก้มหน้าก้มตาทนกับทุกสิ่ง
ถ้าไม่เพราะคำว่าลูกเลี้ยง แสนหิรัญคงไม่ชายตาแลเหลียวผู้หญิงอย่างรมย์รุจี สำหรับเขาสิ่งที่ได้มาต้องคัดสรรแล้วว่าชั้นเลิศ แต่เจ้าสาวที่งดงามก็กล้าทอดทิ้งเขาไป เหลือไว้เพียงแต่เจ้าสาวขัดตาทัพที่ไร้เสน่ห์ชวนหลงใหล หากแต่ความน่ารังเกียจของพ่อเลี้ยงรมย์รุจีและการขอร้องของคนใกล้ตัว แสนหิรัญจึงเลือกที่จะยื่นมือเข้าช่วยรมย์รุจี แต่ไม่ใช่เพราะความพิศวาสแน่นอน สำหรับเขา เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาจะเลือกไว้ข้างกาย
แม้จะรู้ว่าโง่งมสิ้นดี แต่ชีวิตของเธอมีแค่คำว่าต้องอดทนเพื่อแม่ ชีวิตเธออาจจะไร้ค่าแต่ถ้ามันทำให้คนที่รักสบายเธอก็จะทำ แต่ทุกความอดทนก็มีขีดจำกัด รมย์รุจีเหมือนเป็นสินค้าด้อยค่า ถูกโยนไปมาระหว่างผู้ชายสองคน แต่ท้ายที่สุด น้ำตาจะช่วยอะไรได้ เมื่อเธอไร้ทางเลือก หนทางที่แสนจะน่ารังเกียจที่แสนหิรัญหยิบยื่นให้เธอ แม้จะรังเกียจแต่รมย์รุจีก็ต้องยอมรับ แม้ว่าในสายตาของเขา เธอจะเป็นได้แค่แม่พันธุ์ที่เอาไว้ผลิตทายาทให้แสนหิรัญ
จากความรู้สึกที่มีแต่รมย์รุจีว่าเธอเป็นแค่สินค้าที่ไม่ได้งดงามตามมาตรฐานของเขา หากรมย์รุจีมีบางอย่างที่มากกว่าความสวยงาม รอยยิ้ม ความเอื้ออาทรในหัวใจของเธอ ทำให้แสนหิรัญรู้สึกถึงบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าคำว่าการมุ่งมั่นผลิตทายาท หากแต่เขาเองก็ไม่รู้เลยว่าความรู้สึกเช่นนั้นคืออะไร เพราะเขาเองไม่เคยรู้จักคำว่าความรัก หรือการเป็นที่ต้องการของใครบางคนอย่างแท้จริง โดยปราศจากคำว่าผลประโยชน์เหมือนเช่นรมย์รุจีมีให้กับเขา
หรือความอ่อนโยนที่แสนหิรัญมีให้จะเป็นแค่ภาพลวงตา ความรู้สึกที่รมย์รุจีเริ่มคิดเข้าข้างตัวเอง ก็พลันสลายไปหมดสิ้น เมื่อความจริงตอกย้ำว่าเธอมีหน้าที่อะไร หัวใจที่เจ็บช้ำเกือบถอดใจยอมแพ้ให้กับความไม่รู้หัวใจตัวเองของแสนหิรัญถ้าไม่เพราะคำเตือนใจให้เธอรู้ตัวว่า หากอยากได้ความรักจากแสนหิรัญ เธอต้องไขว่คว้ามา เพราะถ้ามันสำเร็จ เธอจะได้ครอบครองความสุขไปชั่วชีวิต และเมื่อไม่มีสิ่งใดจะสูญเสียไปกว่านี้อีกแล้ว รมย์รุจีก็พร้อมจะเสี่ยงเพื่อให้ได้หัวใจของแสนหิรัญมาครอบครอง
มันช้าไปหรือเปล่าที่แสนหิรัญจะพูดคำว่ารักกับรมย์รุจี ถ้าไม่เพราะความเห็นแก่ตัวของพ่อเลี้ยงรมย์รุจี ชีวิตของเขาเกือบจะแตกสลาย ความรักที่เพิ่งรู้ใจตัวเองก็เกือบหมดโอกาสได้บอกรมย์รุจี และครั้งนี้แสนหิรัญสาบานแล้วว่า เขาจะบอกให้ผู้หญิงที่เป็นทุกอย่างในชีวิตเขารู้ซึ้งถึงความรู้สึกที่เขามีให้ต่อเธอ สำหรับแสนหิรัญ รมย์รุจีไม่ได้มีค่าเพียงแค่ที่เธอเคยรับรู้ แต่เธอคือทั้งหมดของหัวใจ เป็นวิญญาณ เป็นความเป็นความตายของผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ชื่อแสนหิรัญคนที่แสนเสน่หาในตัวเธอ
ว่าด้วยแนวครอบครัวเป็นหนี้พระเอก เลยต้องแต่งงานใช้หนี้ หากแต่ไม่ใช่นางเอกที่ถูกจับให้เป็นเจ้าสาว เมื่อเธอไม่ได้สวยสะดุดตาอะไร ไม่เหมือนน้องสาว แต่เมื่อเธอหนีไป ทิ้งทุกอย่างให้เลวร้าย และนางเอกเองก็ไม่อาจทำอะไรได้มากมาย เพราะขนาดพ่อเลี้ยงบอกยกนางเอกให้แต่งงานแทน พระเอกก็ไม่เอาเพราะเธอไม่ได้สวยอย่างที่เขาต้องการ แต่แล้วพระเอกก็ต้องแต่งงานกับนางเอกจริงๆ ไม่ใช่เพราะอะไรมากไปกว่าความสงสารที่นางเอกเหมือนไม่ใช่คน พ่อเลี้ยงของเธอ ขายเธอให้กับคนอื่นใช้หนี้ ถ้าไม่ได้เลขาพระเอกขอร้องไว้ นางเอกก็คงไปตกนรกทั้งเป็น และพระเอกก็คิดว่าเขาอยากมีทายาทก็แต่งกับนางเอกไป พอมีลูกก็เลิกกันไป แค่นี้ก็พอ นางเอกหรือจะมีทางเลือก แม้จะย่ำแย่แค่ไหนก็ต้องทน
และแน่นอนว่า พระเอกก็จะเริ่มมองเห็นความดีของนางเอก แต่ไม่รู้ใจตัวเอง ถ้าไม่เพราะนางเอกมาฮึดสู้จากคำของแม่ว่า ต้องสู้เพื่อให้ได้ใจพระเอกมา ไหนๆเขาก็ออกจะมีใจให้ขนาดนั้น แต่อย่างน้อยก็ต้องมีอุปสรรคกระแทกใจอย่างรุนแรงให้พระเอกได้เข้าใจว่า ความรัก ถ้าสายเกินไป ก็อาจจะช้าเกินไปที่จะบอกว่ารักเธอ เมื่อนางเอกเจ็บหนักเกือบตาย เกือบเสียลูก ทำให้พระเอกไม่อาจประมาทกับชีวิตได้อีกต่อไป หากจะรักก็ไม่ควรรีรอ เพราะคนที่รักอาจไม่อยู่ให้คุณบอกรัก
แค่เรื่องย่อก็พอจะมองพระเอกออกว่าเป็นคนแบบไหน พระเอกเป็นคนมีปมในหัวใจ เพราะเขาเป็นเด็กกำพร้า เป็นแค่เด็กที่ถูกเอามาเลี้ยงเป็นทายาท ถ้าไม่เพราะเขาฉลาด ก็คงไม่มีตัวตนในสายพ่อบุญธรรม ดังนั้นพระเอกจึงเป็นคนประเภทไร้หัวใจมากๆ จะมาคาดหวังว่าเป็นคนดี สงสารนางเอกแต่แรก ลืมไปได้เลย ถ้าไม่เพราะนางเอกเป็นแค่ลูกเลี้ยงไร้ค่าแบบที่เขาเป็นและเข้าใจผิดบางประการ จนยื่นมือมาช่วยนางเอก พระเอกคงไม่ได้ลงเอยกับนางเอกแน่นอนค่ะ
อ่านๆไปก็แอบเหน็บๆพระเอกไปว่า แกใจร้ายนิดๆนะเนี่ย ประเภทไม่มีความรู้สึกเห็นใจคนอื่นเลย เลือดเย็นชะมัด แต่พอได้รู้ความจริงแล้ว พระเอกน่าสงสารมากค่ะ จนบอกไม่ถูกว่าระหว่างพระเอกกับนางเอก ใครน่าสงสารกว่ากัน แต่ฟีน่าว่าพระเอกน่าสงสารกว่านิดหนึ่ง ดังนั้นพอมองกลับไปในตอนที่พระเอกพยายามเอาใจใส่นางเอก ก็ถือว่านี้ล่ะดีที่สุดแล้วสำหรับผู้ชายที่ขาดๆคนหนึ่ง
ส่วนนางเอก ช่างมีชีวิตน่าสงสารเสียจริง ต้องอดทนมาตลอด แม้ว่าพ่อเลี้ยงจะมีเงินทอง แต่แท้จริงเธอกลับไม่ได้โชคดีเลย เมื่อเป็นแค่ลูกเลี้ยงที่เขาไม่ได้รักใคร่เหมือนน้องสาวที่เป็นลูกสาวของเขาจริงๆ แถมถูกตอกย้ำว่าโง่ หน้าตาก็แสนจะธรรมดา ไร้ปากเสียงตลอดเวลา อ่านไปก็อึดอัดใจแทนนางเอก และยิ่งมาเห็นตอนนางเอกถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย และกำลังจะโดนขายต่อ ก็รู้สึกว่านางเอกมันจะทนไปทำไม
แต่นะ เพื่อแม่เธอก็เลยต้องทน นางเอกน่าสงสารมากๆค่ะ เหมือนไม่ใช่คน เป็นแค่สิ่งของไร้จิตใจ โยนกันไป โยนกันมา นางเอกนี้สุดยอดความมีจิตใจกล้าแข็งมาก เพียงเพื่อคำว่าต้องทน ถ้าเธอเสียสละหนึ่งคนแล้วแม่ไม่เดือดร้อน นี้ล่ะความดีของนางเอกและความอดทนต่อทุกอย่าง มันก็เลยเป็นสิ่งที่ผูกใจพระเอกไว้ได้
ตอนที่เอามาอ่าน ก็แอบหวาดหวั่นใจเพราะอย่างที่เคยบอกไปว่าของลิซเนี่ย ฟีน่ารู้สึกเสมอว่า ในบางเล่มก็อ่านได้ บางเล่มก็ไม่แนวไปเลย เรื่องนี้จะมาแบบไหนกัน แต่พออ่านจบ ก็โล่งอกว่า สนุกดีค่ะ แม้จะมีบางอย่างขัดใจไปบ้าง ไม่ใช่อะไรนะคะ โมโหในความเลวของพ่อเลี้ยงนางเอกน่ะเอง ขัดใจในการยอมร่ำไปของแม่นางเอก ที่ทำให้นางเอกต้องอยู่แต่กับคำว่าต้องทนๆ ไม่รู้เมื่อไรจะทนไม่ไหว
สำหรับพระเอกน่ะ เขาก็ไม่ใช่คนดีมากมาย ค่อนข้างจะเห็นแก่ตัวในช่วงแรกด้วยซ้ำไป ยิ่งมาเห็นข้อเสนอแบบไร้หัวใจที่ยื่นให้กับนางเอก ซึ่งเป็นฟีน่า ที่ไม่ใช่คนอดทนขนาดนั้น ได้มีวีนแตกกันไปบ้างแล้ว ชีวิตฉันเนี่ยนะต้องมากลายเป็นแค่เครื่องผลิตลูก ฉันเป็นคนนะโว้ย
ในอีกมุมหนึ่งก็มีเคืองใจแม่นางเอกไปเลย ต้องยอมให้ลูกสาวถูกพ่อเลี้ยงทำแบบนี้เพราะเธอไม่มีปากเสียงสู้กับเขา อ่านแล้วก็แค้นใจ เพราะเรามันประเภทผู้หญิงที่หาเลี้ยงตัวเองไม่ง้อผู้ชายมาเลี้ยง เราทำไมต้องทน อันนี้ไม่ได้ว่านิยายนะคะ แค่เคืองใจแทน ประเภทสิทธิสตรีมันพุ่งขึ้นหน้าอะไรแบบนั้น แต่ทุกคนใช่ว่าจะทำทุกอย่างได้อย่างที่อยากไป เพราะสิ่งแวดล้อมมันบังคับให้จำยอมเหมือนแม่ของนางเอกที่ต้องยอมเพื่ออนาคตของลูก แต่สุดท้ายสิ่งที่ยอมก็กลับมาทำร้ายลูกและเธอ
ส่วนตัวนิยาย แม้พระเอกจะยื่นข้อไร้หัวใจให้ แต่ยังดีที่เขาไม่ประเภท กรูไม่สน กรูจะเอาลูก ยังให้เวลานางเอกปรับตัว ปรับใจ แต่ความเย็นชาไร้หัวใจก็ยังมี หากแต่สิ่งที่ดีก็คือ ไม่ใช่คนงี่เง่า กินหญ้า อย่างตอนที่มีเด็กสาวที่แอบรักพระเอกฟ้องว่านางเอกแกล้ง พระเอกก็ไม่ใช่ประเภทเข้าข้างเด็กนั่น แถมดุอีกต่างหาก และแม้ว่าท่าที่ของพระเอกจะไม่ค่อยแคร์นางเอก แต่จริงๆแล้วเขาใส่ใจนางเอกตลอด
ยิ่งพอรู้ความจริงที่พระเอกเป็น ฟีน่าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดหนัก ยังแบบ น่าสงสารอ่ะผู้ชายคนนี้ นางเอกรักเขาเยอะๆนะ ตอนเสียใจเรื่องนางเอกกับลูกเกือบตาย สงสารมากๆๆๆๆ มาทำให้เขารักแล้วจะทิ้งเขาไปทำไม แบบนี้ไม่รักดีกว่าไหม จะได้ไม่เจ็บ
อย่างที่บอกว่านี้มันเรื่องความรักของหัวอกคนเป็นลูกเลี้ยง นางเอกเป็นคนอึดมาก อดทนต่อความบัดซบในชีวิต ต้องทนๆๆๆ ตลอดเวลา แต่ในความทนของเธอก็เหมือนนางเอกนิยายรุ่นเก่า เอาดีเข้าสู้ ดีนะว่าพระเอกไม่ได้มีพวกนางอิจฉามาคอยเป่าหู นางเอกเลยสบายตรงที่ไม่มีคู่แข่ง แค่เอาชนะใจพระเอกก็ยากแล้ว นางเอกก็เป็นคนที่ขาดไม่ต่างจากพระเอก แต่ดีที่เธอมีหัวใจที่อบอุ่นและปรารถนาดีจะให้คนที่รักมีความสุข นั่นเองจึงเป็นสิ่งที่ทำให้พระเอกรักนางเอก
ในมุมที่ฟีน่าบอกว่าโกรธแม่นางเอกที่ยอมสามีมากไป แต่ในอีกมุมหนึ่งแม่นางเอกก็คือคนที่ปลุกให้นางเอกได้สู้ สู้เพื่อตัวเองและลูก กล้าที่จะยอมเสี่ยงว่า หากเธอเปิดใจและกล้าแสดงให้พระเอกเห็นว่าเขาคือคนสำคัญในชีวิตถ้าการเสี่ยงนี้เธอชนะเธอจะได้ทุกอย่าง แต่ถ้าแพ้เธอก็เสียใจ แต่ดีกว่าไม่ใช่หรือที่จะลองก่อน ไม่อย่างนั้น ถ้าไม่เสี่ยงก็ต้องแพ้ลูกเดียว
แต่คาดว่ามันต้องมีเรื่องต่อเพราะน้องสาวของนางเอกที่หนีการแต่งงานยังไม่มีบทสรุปว่าเธอเป็นเช่นไรค่ะ และเหมือนเป็นของอาถรรพ์ เราก็ต้องรอคนซื้อให้อ่านก่อนจะซื้อมาเก็บ 555 แต่สำหรับเล่มนี้ ฟีน่าว่าสนุกดีค่ะ อ่านแล้วเพลินดีเลยล่ะ