บนโลกใบนี้ ยังมีเรื่องราวมากมายที่เกินกว่าที่เราจะคาดคิดไว้ อำนาจของบางอย่างยิ่งใหญ่เกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาเช่นเราจะควบคุมมันไว้ได้ แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าอำนาจอันยิ่งใหญ่มันหอมหวานเสมอ ชวนให้ผู้โง่เขลาตกลงในบ่วงนั้นเสมอมา
แม้หวายินจะรู้ตัวมานานแล้วว่าเธอคือผู้หญิงพิเศษ แต่เธอไม่คิดว่าชะตาและลิขิตสวรรค์ได้เลือกได้เธอเป็นผู้ครอบครองบางอย่าง สิ่งนั้นไม่ใช่แค่ลูกปัดธรรมดา แต่มันนำพาใครบางคนมาด้วย ณัลล์ ดวงจิตแห่งอขิทโรผู้ยิ่งใหญ่ นับแต่วันที่หวายินได้รู้จักกับฌัลล์ เขาก็ไม่เคยไปไหนเลย ดวงจิตของเขาและเธอ ผูกพันกันเป็นหนึ่งเดียว แต่ไม่ว่าฌัลล์จะยิ่งใหญ่หรือเก่งกาจสักเพียงใด หากสิ่งเดียวที่เขาไม่เคยรู้เลยคือที่มาที่ไปของตน และหวายินเท่านั้นที่จะไขปริศนานี้ได้
นับแต่วันที่ฌัลล์ได้รู้จักเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่แสนซุกซนตราบจนเธอเติบโตขึ้นมา หน้าที่ของเขาคือปกป้อง ดูแลให้หวายินปลอดภัย หากการกลับมาเมืองไทยในครั้งนี้ แม้ว่ามันอาจจะไขความลับที่ฌัลล์อยากรู้ยิ่งนัก แต่มันกลับนำอันตรายที่ใหญ่หลวงมาสู่หวายิน ทว่าไม่มีสิ่งใดที่ฌัลล์จะหวาดกลัว เขาไม่ใช่วิญญาณเร่ร่อน แต่เขาคือดวงจิตแห่งอขิทโร ผู้ไม่เคยอ่อนแอ
หากในวันวานสายตาของหวายิน เธอไม่เคยมองฌัลล์เป็นอื่นไกลนอกจากเพื่อนที่แสนแปลกประหลาด หากในวันนี้ความรู้สึกแปลกๆก็บังเกิดขึ้นกับเธอ จากความฝันอันแสนยุ่งเหยิง แต่นั่นไม่สำคัญเท่าในทุกอณูแห่งความฝัน ทุกความทรงจำที่ผุดขึ้นมา มันเกี่ยวข้องกับเธอและฌัลล์ ยิ่งความจริงที่ถูกเก็บงำมานานค่อยๆปรากฏความจริงขึ้น ชีวิตของหวายินยิ่งตกอยู่ในอันตราย ใครบางคนต้องการกำจัดเธอ แต่มันเพื่อการอันใดกันเล่า
มันผู้ใดทำให้หวายินต้องเจ็บปวด มันผู้นั้นต้องได้รับการชดใช้ ความเป็นและความตายของหวายินคือกุญแจไขไปสู่ความลับอันยิ่งใหญ่ของชายที่ชื่อว่าฌัลล์ ความลับที่เขาเพียรพยายามตามหาได้ปรากฏแล้ว แต่มันพร้อมความเจ็บแค้นแสนสาหัส เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานแค่ไหน มันก็ยังคงตามล่าเพื่อพร่าผลาญชีวิตของหวายิน คู่จิตวิญญาณเดียวของเขา เมื่อมันคิดจะทำร้ายหวายิน สิ่งเดียวที่จะได้รับคือหายนะ
บัดนี้หวายินได้รับรู้แล้วว่าความผูกพันระหว่างเธอและฌัลล์ยิ่งใหญ่สักเพียงใด ไม่ต่างไปจากความเจ็บปวดที่ทั้งสองได้รับ หากแต่เพราะอะไรทำให้หวายินและฌัลล์ไม่อาจมีชีวิตอยู่ร่วมกันได้ หรือเพราะเธอคือกุญแจสวรรค์ผู้นำพาปีศาจร้ายมาเช่นนั้น หรือความเป็นจริงความกลัวและความยิ่งใหญ่ที่หอมหวาน ชักพาอสูรร้ายผู้โหดร้ายมา ไม่ใช่เธอ
เมื่อชะตาได้ลิขิตให้เขาคือมหาคุรุเทวา ฌัลล์ เขาคือผู้สร้างและผู้ทำลาย สุดแท้แต่จะเป็นเช่นไร หากในวันที่เจ็บปวดเจียนตาย เขาผู้เป็นใหญ่กลับไม่อาจเรียกหญิงเดียวผู้เป็นดวงใจกลับมา ความเจ็บแค้นนี้ต้องได้รับการชดใช้ แต่เพราะสายใยบางอย่างที่ณัลล์ไม่อาจทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในโลกให้กลับสู่ความว่างเปล่าได้ และเขาจะรอวันนั้น วันที่ดวงจิตแห่งหวายินและเขาได้กลับมาเคียงคู่กันใหม่ ฌัลล์จะไม่มีวันลืมวาร์จิน เทวทูตสาวผู้กำหัวใจของเขาไว้ทั้งดวง
มหาคุรุเทวา ผู้หลับไหลในตัวตนที่แท้จริงได้ตื่นขึ้นมาแล้ว นับแต่บัดนี้ชะตากรรมของผู้คนจะเป็นเช่นไร ดับสูญหรือดำเนินต่อไป หากนั่นไม่สำคัญเลย หวายินต่างหากที่สำคัญที่สุด ความเจ็บปวด พลัดพราก น้ำตาที่เธอหลั่งรินกัดกร่อนดวงจิตฌัลล์มาตลอด เธอคือดวงจิตเดียวที่ฉุดรั้งอำนาจอันเหลือคณานับของเขาไม่ให้ทำลายทุกสิ่ง เธอไม่ใช่กุญแจของปีศาจร้ายที่ทุกคนหวาดกลัว แต่เธอคือน้ำทิพย์ที่หยาดหยดหัวใจของมหาฌานอันแก่กล้าเช่นฌัลล์
เพราะคำว่ารักคำเดียว ทรงพลานุภาพยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่ฌัลล์เพียรพยายามมาตลอดเวลา การเข้าสู่หนทางแห่งอขิทโร อาจจะดับสูญในบางสิ่ง ยกเว้นเพียงความรักที่ไม่มีวันจบสิ้นลง มันจะเป็นอนันตกาลดังเช่นเวลาที่ไม่เคยหยุดหรือหลับใหล มันจะยิ่งเคลื่อนไปและสถิตย์อยู่ในทุกหนทุกแห่ง บัดนี้เมื่อความพลัดพรากอันเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างได้จบลง ฌัลล์จะไม่มีวันปล่อยมือจากหวายินอีกต่อไป แด่คู่รักผู้มีดวงจิตเกี่ยวกระหวัดรัดแน่นด้วยรัก จะจับจูงกันไปเพื่อรอคืนวันอันเป็นนิรันดร์ที่รอคอย
ฟีน่าจะไม่พูดเจาะจงไปในแต่ละเล่มนะคะ เพราะรสของการได้อ่านอยู่ตรงที่ได้ลุ้นและเฉลยปริศนาในเรื่องค่ะ ฟีน่าจะพูดถึงองค์ประกอบรวมทั่วๆไปในเรื่องจะดีกว่า สปอยส์นิดๆหน่อยๆ แต่ประเภทปมของเรื่องต้องหาอ่านเองนะคะ เพราะมันจะลุ้นมากว่าเป็นยังไง
หวายินได้พบกับเจ้าลูกปัดประหลาดตั้งแต่เด็ก และครอบครองเจ้าของประหลาดชิ้นนั่นมา และที่แปลกก็คือลูกปัดรูปทรงประหลาดนั่นพกพาของแปลกมาด้วย นั่นก็คือพระเอกผู้เก่งกาจไปเสียทุกอย่าง หากแต่ไม่รู้ที่มาที่ไปของเธอ เขาคือส่วนหนึ่งของเธอ เหมือนที่เธอก็เป็นส่วนหนึ่งของเขา และในวันที่หวายินเดินทางกลับไทยมาทำงานสำคัญและตามหาปริศนาแห่งอขิทโรที่จะไขความลับของฌัลล์ ก็มีเหตุการณ์มากมายที่ทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย และในวันที่หวายินบาดเจ็บหนักที่สุด นั่นเองก็ทำให้สิ่งที่กักขังไม่ให้ฌัลล์ได้รับรู้ตัวตนที่แท้จริง ระเบิดขึ้น เขาไม่ใช่เป็นแค่ดวงจิตแห่งอขิทโรธรรมดา แต่ทรงพลังยิ่งใหญ่กว่านั้น หากการได้อำนาจอันยิ่งใหญ่กลับต้องแลกมาด้วยโศกนาฏกรรมอันแสนเจ็บปวด รักที่เขาและเธอได้ค้นพบ กลับเป็นสิ่งต้องห้ามของใครบางคนที่หวาดระแวงพลังอันมากมายไร้ที่จำกัด และทำให้ฌัลล์และหวายินต้องพลัดพรากกันแสนนาน แต่สุดท้ายก็ตามหากันจนเจอในชาตินี้ หากไม่มีรักยึดไว้ โลกก็อาจถึงกาลอวสานได้ เพราะนี้คือการตอบแทนในสิ่งที่มนุษย์ได้ทำกับมหาคุรุเทวาเช่นฌัลล์
จะว่าไปเล่มนี้ก็เหมือนเล่มต่อของทรายนี้ยังมีรักกลายๆนะคะ เพราะหวายินก็คือน้องสาวของอัสมา นางเอกจากเรื่องนั้น มาคราวนี้เธอจึงได้เป็นนางเอกเสียเอง จะว่าไปลูกสาวของบ้านนี้เขานิยมของเก่าลายครามกันมาก พี่สาวก็ได้คู่รักพันปี น้องสาวอย่างหวายินก็กลัวจะน้อยหน้า และเล่นของแรงกว่าในฐานะเป็นสุดที่รักของผู้สร้างและผู้ทำลาย สำหรับนางเอกของเรื่องนี้ ฟีน่าบอกได้เลยว่าขอไม่เป็นเช่นเธอน่าจะดีกว่า เป็นที่รักของพี่ฌัลล์น่ะมันก็ดีอยู่หรอกนะคะ แต่ประเภทมีตาที่สามมองเห็นของประหลาดตลอดเวลานี้ เห็นที่จะไม่ไหวนะคะ น่ากลัวอย่างแรง แต่เธอคงชินนั่นล่ะ ในภาคส่วนการเป็นหวายิน อาจจะไม่ค่อยเท่าไร เพราะเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีอะไรซับซ้อน จัดว่าโชคดีด้วยซ้ำที่มีดวงจิตของฌัลล์คอยดูแลมาตลอด และจากความรู้สึกของเพื่อนก็กลายเป็นคนรัก(ที่ไม่เหมือนชาวบ้าน) กลายมาเป็นคนรัก
ต่างไปจากภาคการเป็นวาร์จิน เทวทูตสาวที่ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งไว้ มีชีวิตที่มอบให้แด่เทพเจ้า วาร์จินจึงเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างน่าสงสาร จนตราบวาระสุดท้ายของชีวิต ที่ฟีน่าอ่านเศร้ามาก สงสารวาร์จินจนร้องไห้ว่าทำไมต้องมาเจอชะตากรรมเช่นนั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นวาร์จินหรือหวายิน นางเอกของเราก็โชคดีที่เป็นที่รักของพระเอกไม่เคยเปลี่ยนแปลง
มาพูดถึงพี่ฌัลล์กันบ้าง ดวงจิตที่ไร้ที่มาที่ไป แต่ทรงอำนาจอย่างล้นเหลือ ผู้เป็นกึ่งๆเทพ กึ่งๆวิญญาณ เขาเป็นดวงจิตที่น่ารักมาก จนไม่น่าเชื่อว่าเมื่อความจริงเปิดเผยขึ้น เขาคือผู้ที่ร้ายกาจได้ถึงที่สุด ช่วงแรกๆพระเอกเราจะเหมือนผู้ชายอารมณ์ดี ขี้เล่นมาก แต่อะไรที่เกี่ยวข้องกับนางเอก และที่สำคัญหากทำนางเอกเจ็บปวด อารมณ์ของเขาจะน่ากลัวมา พี่ฌัลล์จะเป็นคนที่มีหลายอารมณ์ในตัวเองมาก แต่ก็น่ารักมากค่ะ ยิ่งเมื่อแสดงว่ารักและปกป้องนางเอกเนี่ย พี่ฌัลล์ไม่เป็นรองใครเลย ทางที่ดีให้แกสงบๆ อยู่เงียบๆกับนางเอกไปจะดีมาก เพราะคุณจะปลอดภัยไปอีกนาน แม้จะมีช่วงหนึ่งฟีน่าแอบไปปันใจให้ชายอื่นในเล่ม ที่อยากจะเอามาเทียบรุ่นกับพี่ฌัลล์ สุดท้ายของแท้ก็เยี่ยมเสมอ พระเอกเจ้าป้าน่ากรี๊ดเช่นไร ก็เช่นนั้น พี่ฌัลล์แกจะมีอารมณ์เจ้าเล่ห์สักหน่อย จนหลอกล่อนางเอกให้ต้องพ่ายแพ้ในกลอุบายของตัวเองและหัวใจของตัวเอง ยอมได้อยู่ใกล้กัน
นับเป็นโศกนาฎกรรมรักในปฐมบท จบลงด้วยสุขนาฏกรรม แม้พอจะเดาได้ว่าสองคนนี้ต้องเป็นคู่รักพลัดพรากกันมาเหมือนทรายนี้ยังมีรัก แต่มีปริศนาที่เราไม่อาจไขได้เองถ้าไม่อ่านไปเรื่อยๆ คืออะไรที่สิ่งที่ทำให้สองคนนี้ต้องจากกันไป ทั้งที่พระเอกมีตบะฌานอันแก่กล้าเช่นนั้น สุดท้ายทุกอย่างก็เฉลยออกมาเป็นช่วงๆ แทรกด้วยความหวานแบบไม่เลี่ยนและสาระ ความรู้ไปเรื่อยๆ
เสน่ห์ของการอ่านงานเจ้าป้าคือความรู้ค่ะ อาจจะไม่ถึงขนาดว่า เป็นอะไรที่เพิ่งค้นพบเป็นท่านแรก แต่สำหรับคนอ่านนิยาย น้อยคนนักที่จะรู้เรื่องพวกนี้ด้วย ฟีน่าเองเป็นคนที่อ่านหนังสือแนวโบราณคดีแบบงูๆปลาๆ ก็ยังไม่ทราบในบางเรื่อง ก็ต้องอ่านแล้วค่อยๆเข้าใจ แต่นิยายของเจ้าป้า นำเสนอความรู้ใหม่ๆให้คนอ่าน ด้วยวิธีที่เข้าใจง่าย ไม่ใช่ว่ายัดเยียดจนเนื้อหากับเนื้อนิยายไม่ได้ไปด้วยกัน มันสามารถกลมและกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน ผ่านการเดินทางของตัวพระเอก ความเชื่อและเรื่องราวของพระเอกและนางเอกที่มีชีวิตอยู่ร่วมยุคสมัย เราอาจจะไม่สามารถบอกได้ว่านี้คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริง แต่การที่เราได้เห็นและอ่านงานของเจ้าป้ามาตลอด เชื่อได้อย่างหนึ่งว่างานเจ้าป้า ผ่านการหาข้อมูลมาในระดับหนึ่ง ไม่ใช่นั่งเทียนเขียนหรืออุปโลกน์ความรู้ขึ้นมาเอง ยกเว้นจินตนาการบางเรื่อง เช่นการเรียกลูกปัด อ่านแล้วเขินเฟ้ย
นิยายเรื่องนี้เนื้อหาจะค่อนข้างยาว เพราะมีความซับซ้อนในการเล่าว่าทำไม เพราะอะไร พระเอกจึงเป็นเช่นนี้ ความทรงจำที่ผ่านถึงลืมเลือนไปหมด และอะไรที่ต้องการกำจัดนางเอก ในเวลาที่อยู่ในช่วงเวลาของนิยายรัก ก็น่ารักไม่เปลี่ยนค่ะ พระเอกจะเป็นคนอารมณ์ดีมาก จนไม่น่าเชื่อว่านี้คือมหาคุรุ ฟีน่าอาจจะไม่ค่อยชินกับการมองรูปลักษณ์ของผู้บำเพ็ญภาวนาในแง่แบบพี่ฌัลล์สักเท่าไร เราคุ้นแบบพระ ที่เคร่งขรัดมีการปฏิบัตตัวอีกแบบ มาเจอแบบอขิทโรก็เลยงงๆไปบ้าง และรู้สึกว่าแท้จริงแล้วมหาคุรุของเขาก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากกิเลสได้เลย จนนำมาสู่เรื่องราวต่างๆที่ลึกล้ำได้
ในช่วงที่อ่านพี่ฌัลล์ภาคย้อนอดีต แล้วพูดถึงการห้ามพี่ฌัลล์เข้าถึงความเป็นอขิทโร วูบหนึ่งฟีน่าคิดถึง เจ้าชายสิทถัตถะมาก แม้กายของท่านจะสุขสบายแต่ลึกๆในใจร่ำร้องอยากได้ความสุขอีกแบบ ความสุขที่แท้จริงของธรรมชาติและลิขิตแห่งชะตากรรมร่ำร้อง เมื่อมหาบุรุษถือกำเนิดมาเพื่อเป็นผู้ปลดปล่อยและนำมนุษย์สู่ทางสว่าง ย่อมต้องมีหนทางสู่จุดหมายเสมอ ดั่งเช่นพี่ฌัลล์ได้เจอ
แต่ในอีกใจหนึ่งพี่ฌัลล์ก็เหมือนพระอิศวรสำหรับฟีน่า นั่นคือเป็นผู้ล้าง เมื่อสร้างก็ต้องล้างด้วยน้ำมือของเขาได้ เหมือนได้เจอกับความทุกข์อันไม่ได้ก่อ ไม่ได้สร้างและถูกหักหลังจากคนที่เคยรักและนับถือเช่นนั้น มันต้องโดนลงทัณฑ์ เรียกว่าพี่ฌัลล์เวอร์ชั่นผู้ทำลายล้าง น่ากลัวมาก
ในแง่ของความหวานในเรื่อง ฟีน่าชอบค่ะ จะว่าหวานกว่าทรายนี้ฯหรือเปล่า พูดลำบากนะคะ เรียกว่าไม่ต่างกันค่ะ เพราะพระเอกเจ้าป้าส่วนใหญ่จะเป็นคนที่รักนางเอกจะปกป้องมากๆ เป็นผู้คุ้มครองป้องกันภัยทั้งหลายให้กับนางเอกมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นแนวปกติหรือเหนือธรรมชาติเช่นพี่ฌัลล์ก็ตามที
และที่ทำให้ฟีน่ายังเขินอายไม่เปลี่ยนแปลง ก็ฉากเข้าพระเข้านางของพระเอก นางเอก อ๊าย เขินจนหน้าแดงไปหมด ไม่จำเป็นต้องให้เรานั่งอยู่ข้างเตียง และใช้การแทนสัญลักษณ์แทน เมื่อเป็นธีมลูกปัด ลูกปัดจึงถูกนำมาแทนความเสน่หาที่พระเอกมีต่อนางเอกว่ามากมายสักเพียงใด หรือคำพูดที่แสนธรรมดาในการบรรยายฉากรัก ก็ทำได้ดีมากค่ะ เหมือนตอนอ่านฉากอัศจรรย์ตามวรรณคดีไทยอะไรแบบนั้นค่ะ
ออกแนวชมไปเสียหมด ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเม้นท์นะคะ ย่อมมีแน่นอน เรื่องความยาวน่ะไม่เท่าไรค่ะ เพราะฟีน่าเป็นคนชอบอ่านนิยายยาวๆ อาจจะเขียนนานไปบ้าง แต่เข้าใจถึงความจำเป็นของเจ้าป้าที่งานยุ่ง แต่ที่ปวดหัวอย่างแรงคือ หน้าปกหนังสือค่ะ ดีนะแค่ห้าเล่ม ถ้าเจ็ดเล่ม ตาพี่ฌัลล์ก็คงเป็นชาวสีรุ้งไปแล้ว และขนาดฟีน่าเป็นแฟนนิยายเจ้าป้าขนาดนี้ ยังแทบจะเรียงลำดับถูกผิดเลยค่ะ เพราะทางสนพ.ไม่ใส่เล่มหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้าให้ค่ะ เกือบจะอ่านผิดไปตลอด หน้าปกก็ภาพเหมือนกันเป๊ะอีก ต่างกันแค่สีผม เจ้ติ๋มยังมึนค่ะ
การเล่าเรื่อง อาจจะเพราะว่าสองสาวบ้านนี้เขาเป็นพี่น้องที่รักกันมาก ขนาดสามียังอายุอานามในเรื่องความหลังไม่ต่างกัน อัสมาเขาได้ยุคพระเจ้าดาริอุสที่หนึ่งไป หวายินเขาเอาช่วงพระเจ้าดาริอุสที่สามต่อพระเจ้าอเล็กซานเตอร์มหาราชไป แถมด้วยการมีตำแหน่งที่ไม่ต่างกัน เทวทูต ตรงจุดนี้หรือเปล่าที่การเล่าเรื่องในอดีตของทั้งสองเล่ม ผ่านมาด้วยความฝันในยามหลับของนางเอกทั้งสองคน
ประการสำคัญอีกอย่างที่บางคนบอกว่าหักมุม บางคนบอกว่ามันเหมือนกับหลุด คือในตอนใกล้จบ มีเฉลยว่านอกจากนางเอกและพระเอกแล้ว ยังมีตัวละครสำคัญอีกตัวหนึ่งที่เป็นตัวแปรสำคัญไม่ให้โลกต้องว่างเปล่าอีกครั้ง แต่ตัวละครตัวนั้น กลับไม่ได้แสดงถึงสายสัมพันธ์อะไรที่มีต่อพระเอกและที่สำคัญที่มีต่อนางเอกสักเท่าไร แม้ว่าต่างฝ่ายต่างก็ไม่อาจจดจำกันได้ แต่เคมีของการมีเยื่อใยของมันบางเบาไปนิดค่ะ อาจจะแสดงออกกับพระเอกมากหน่อยแต่ก็ไม่ชัดมาก ทั้งที่พระเอกรู้แล้วว่าตัวละครนี้คือใคร แต่อาจจะไม่ได้แสดงออกว่าผูกพันกันค่ะ ตรงนี้ฟีน่าก็ว่าเห็นด้วยนะคะ จะว่าหักมุมก็ได้ หรือไม่ชัดเจนก็ไม่อาจจะบอกได้
ในตอนท้ายแอบเสียดายนิดหน่อยกับการปรากฏตัวของพระเอก ที่ออกมานิดเดียวเท่านั้น ยังไม่ทันได้คุยกันเลยค่า รวบรัดตัดความ คว้านางเอกไปเสียแล้ว แต่เอานะ ขืนมีเรื่องราวตรงนี้ คงได้ต่อเล่มหกแหงค่ะ และที่เข้าใจได้ ความจริงสองคนนี้เขาผูกพันมานานขนาดนี้ ต่อให้แต่งงานกันตอนนี้ก้อไม่แปลก แค่อยากจะรู้ว่าพี่ฌัลล์แกจะมีอะไรหวานๆแบบคนธรรมดาให้เราอิจฉาอีกหรือเปล่า ยกเว้นฉากเรียกลูกปัดนะค่า อันนั้นน่ะไม่หวานแต่ร้อนแรง ประหนึ่งกองไฟในดวงตาของฟีน่าเลยค่า
แต่ถ้ามองกันโดยรวมแล้ว แน่นอนว่าหนังสือของเจ้าป้า ยังคงมนต์เสน่หาแบบวรรณวรรธน์ไว้เต็มเปี่ยม ไม่ใช่วิชาการจ๋า จนต้องปีนบันไดไปอ่าน หากให้ความรู้เพิ่มเติม จนเรากระหายที่จะหาอขิทโรเล่มหกมาอ่านต่อยอดความรู้ว่า ทำไมเส้นทางสายเครื่องเทศที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้าเส้นทางสายไหม ประเทศไทยจึงอยู่ในเส้นทางนั้น อะไรคือหลักฐานว่าไทยคือแหล่งการแลกเปลี่ยนทางการค้าอันมั่งคั่ง ปริศนาของคนโบราณที่บางอย่างมันเกินกว่าจินตนาการของเราจะคาดคิดไว้ได้ ตอนนี้ทำเอาฟีน่าอยากจะสรรหาสารคดีเส้นทางสายเครื่องเทศที่เคยฉายทางทีวีมาดูใหม่แต่ก็จนใจ เลยได้แต่หาหนังสือมาอ่านประกอบแทน
และที่สำคัญ เรื่องนี้ยังแฝงไว้ด้วยปรัชญาการใช้ชีวิตและศาสนาไว้ด้วย แต่ที่ฟีน่าเห็นได้ชัดคือ มนุษย์เราบอกว่าตัวเองนั่นแสนเก่งกาจ ชนะไปทุกอย่าง หากไม่อาจชนะธรรมชาติหรือแม้แต่ความกลัวในใจตัวเองได้ เมื่อใดที่กลัว ก็บันดาลไปได้ทุกอย่าง มนุษย์ไม่ได้เก่งอย่างที่บอก ถ้าไม่เช่นนั้นคงเอาชนะใจตัวเองได้แล้ว เหมือนทิฐิที่ฝังใจไว้ เมื่อไม่อาจละทิฐิ ปลดปล่อยความหวาดระแวงชีวิตก็ไร้สุข รวมทั้งอำนาจนั่นมันยิ่งใหญ่ จนหอมหวานเสมอ บางครั้งบางอย่างเกินกว่ามนุษย์จะควบคุมได้ มนุษย์ต่างหากที่คือเหยื่อของมัน เราไม่เคยมองว่าแท้จริงเราเล็กมาก แค่เทียบกับท้องฟ้า เราเป็นแค่ธุลีดินอันน้อยนิด แต่อาจหาญต่อกรกับธรรมชาติ แม้เราจะต้องสู้กับมัน ก็ต้องสู้เพื่อให้อยู่รอดไม่ใช่ครอบครองหรือเอาชนะ และนั่นก็เป็นบทสรุปเหมือนที่พระเอกบอกว่า ศาสนานั่นคือเครื่องยึดที่แท้จริง ก่อนจะถึงเวลาเดินทางสู่อนันตกาลด้วยกัน
คงไม่ต้องแนะนำหรือชักจูงใจมากไปกว่านี้ค่ะ แฟนนิยายเจ้าป้าคงจะอ่านกันไปหมดแล้ว ฟีน่าก็เลยเขียนรีวิวมาจากทัศนคติของตัวเอง ว่ามีมุมมองแบบไหนบ้างกับอขิทโร ส่วนตัวฟีน่าชอบเรื่องอขิทโรมากกว่าทรายนี้ยังมีรักนิดหนึ่ง แม้ว่าบางคนจะบอกว่านางเอกทรมานกว่า แต่ฟีน่าชอบที่อย่างน้อยการจากกันในบั้นปลายของชีวิตชาติก่อน จากกันเพราะรักไม่ได้จากเพราะเกลียด มีจิตใจที่อาลัยรักต่อกัน และอย่างน้อยก็สมหวังในรักกันในชาติก่อน ไม่ต้องผิดหวังซ้ำไปซ้ำมา และพี่ฌัลล์ก็เป็นคนชอบแกล้งนางเอก แม้จะแกล้งจนนางเอกต้องหมดสิ้นทุกอย่างก็ตามที แต่ฟีน่าว่าน่ารักดีค่ะ เหมือนผู้ชายชอบผู้หญิงสักคนเลยต้องแกล้งเพราะชอบเขาอะไรแบบนั้น แต่จะเป็นเช่นไร นิยายเจ้าป้ากี่เล่มก็ถูกใจฟีน่าตลอดค่า อาจจะยังไม่สามารถล้ม รักแรกปักใจอย่างองค์จิตรเสนได้ แต่ก็ถือว่าโดนใจค่ะ เล่มต่อไปของเจ้าป้า ของเบาๆก็ดีนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากอ่านสาระ แต่ฟีน่าอยากอ่านเล่มใหม่เร็วๆค่ะ ถ้าเจ้าป้าได้ลงมือของหนัก มักจะยาวเป็นปีทุกทีซิน่า อันนี้เจ้ติ๋มคอนเฟิร์มค่า