อสูรเจ้าน้ำตา กู่หลิง
เพราะสัญญาตั้งแต่รุ่นก่อนไม่อาจบิดพริ้วได้แม้เซียงจุ้ยเอ๋อร์ไม่อยากแต่งแต่ก็ต้องทำหน้าชื่นอกตรมเดินทางสู่การวิวาห์ที่แม้แต่หน้าตาของเจ้าบ่าวเป็นเช่นไรเธอก็ยังไม่รู้เลยแล้วสตรีเจ้าน้ำตาเช่นเธอจะทานทนรับไว้ได้หรือเมื่อว่าที่สามีเช่นฟางอิงไม่ใช่บุรุษธรรมดาทั่วไป หากเป็นทายาทของขุนพลคู่แผ่นดินแค่แต่งให้กับผู้ชายปกติก็ยังไม่อาจคิดได้ว่าจะทำให้น้ำตาท่วมแผ่นดินเท่าไรแต่นี้ขนาดแต่งเข้าจวนท่านแม่ทัพ เธอคงได้ใช้น้ำตาเป็นอาวุธปราบศัตรูเสียก็ว่าได้
แม้จะไม่เคยรู้จักว่าที่ภรรยาผู้เดินทางมาอย่างจากแดนไกลหากเสน่ห์ที่ชวนให้ปกป้องคุ้มครองของเซียงจุ้ยเอ๋อร์ก็ทำให้ฟางอิงรู้สึกเอ็นดูเธอได้ไม่ยากเย็นและถึงแม้ภรรยาผู้แสนประหลาดคนนี้จะดูคล้ายหญิงสาวเจ้าน้ำตาไปสักนิดแต่ความอ่อนหวานน่ารักก็เอาชนะใจทุกคนในสกุลฟางที่ล้วนแต่เข้มแข็งไม่แบ่งแยกชายหญิงทุกคนล้วนแต่พร้อมเดินเข้าสู่สนามรบได้อย่างไม่หวั่นเกรง ต่างไปจากฟางอิงเขามีพรสวรรค์หากรังเกียจตำแหน่งแม่ทัพที่ควรค่าแก่สติปัญญาของตน
เมื่อต้องแต่งเข้ามาเป็นคนในสกุลที่ห้าวหาญเช่นแซ่ฟางแล้วเซียงจุ้ยเอ๋อร์ก็ต้องเข้มแข็งให้ได้ยกเว้นเพียงสิ่งเดียวที่ให้ทายาทพญายมโศกเช่นเธอจะทนรับไม่ได้ก็คือเรื่องของฟางอิงการต้องทนเห็นเขาแทบเอาชีวิตไม่รอดจากสนามรบทำให้ทุกคนได้รู้ว่าสาวน้อยที่ดูอ่อนหวานและเปราะบางเช่นเธอเต็มไปด้วยความร้ายกาจสักเพียงใด จนใครๆก็คงไม่อยากให้เธอร่ำไห้จนปลิดวิญญาณเช่นนั้นได้
การเดินทางเข้าสู่สนามรบในครั้งนี้ทำให้ฟางอิงได้เข้าใจความหมายบางอย่างชัดเจนขึ้นแม้เขาจะรังเกียจการเป็นแม่ทัพแต่หากไม่ยืดอกรับสิ่งนั้นมาไว้เป็นภาระเช่นนี้แล้วจะดูดายปล่อยให้แผ่นดินและผู้คนตายต่อหน้าไปอย่างไร้ความหมายเช่นที่ฟางอิงต้องสูญเสียคนที่รักไปเชียวหรือเขาจะเปลี่ยนความเจ็บปวดนั้นเพื่อนำชัยชนะมาสู่มาตุภูมิ ทว่าเหนือกว่าปรารถนาเพื่อแผ่นดินคือความสุขของผู้เป็นภรรยา
บางครั้งความจริงก็เป็นสิ่งที่ควรลืมเลือนเซียงจุ้ยเอ๋อร์ไม่คาดคิดว่าในอดีตตัวเธอก็เป็นหนึ่งในแปรที่สำคัญของเรื่องราวในวันนี้หากมันไม่อาจย้อนกลับคืนไปแก้ไขให้มันถูกต้องได้อีก หรือต่อให้เป็นได้ก็อาจจะไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงวันนี้ต่างหากที่สำคัญที่สุดเมื่อเธอแต่งเข้าสกุลฟางเป็นภรรยาท่านแม่ทัพผู้เกรียงไกรการได้เดินเคียงข้างฟางอิงเข้าสู่สนามรบคือสิ่งที่ผู้เป็นคู่ชีวิตพึงกระทำ
ฟางอิงไม่เคยลืมสัญญาในวันวานแต่เมื่อเขาไม่อาจละทิ้งหน้าที่ได้เขาก็ได้แต่ภาวนาให้เซียงจุ้ยเอ๋อร์รอคอยการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้ และเขารู้ดีว่ามันจะไม่นานเกินรออีกต่อไปฟางอิงจะได้ทำให้ความสุขที่สุดของภรรยาเจ้าน้ำตาของเขามาถึงเสียทีสนามรบจะเป็นเพียงแค่ความหลัง บ้านหลังงามในความเงียบสงบปราศจากการฆ่าฟันคือสวรรค์ที่เขามอบให้กับเซียงจุ้ยเอ๋อร์
เข้ามาสู่เล่มสามของชุดวิวาห์อสูรกันแล้วค่ะ จะบอกว่าตอนอ่านครั้งแรก เกิดอารมณ์งงเล็กน้อย เมื่อนางเอกเรื่องนี้เป็นทายาทพญายมโศก แล้วก็เป็นน้องสาวของพระเอกจากเล่มอสูรยั่วยิ้มตอนแรกจะได้คร่าวๆ ว่าเขาเป็นลูกคนเดียวแล้วจะมีน้องสาวได้ยังไง มานั่งอ่านดีๆ(บนความมึน) เขาคือลูกชายคนเดียวแต่มีพี่สาว น้องสาวด้วย และนอกจากพ่อจะเป็นพญายมยิ้มแล้ว แม่ก็ยังเป็นพญายมโศกด้วย ดูขัดแย้งกันดูนะผัวเมียคู่นี้ น้องสาวคนนี้เลยได้ความเจ้าน้ำตาและวิชาโศกปลิดวิญญาณมาด้วย (เขาไม่ได้มีชื่อวิชาหรอกนะคะ แต่คิดเองจะได้เข้าใจง่ายๆ) สรุปเอาเองว่าน่าจะไล่ลำดับพี่น้องกันแบบนี้คงถูกต้อง และเรื่องนี้ถ้าใครอ่านอสูรซ่อนพิษมาในตอนจบของเรื่องจะเจอการพูดถึงการที่พี่ใหญ่ตู๋กูเซี่ยวอวี๋ต้องมาส่งน้องสาวไปแต่งงาน ก็คือเรื่องของเล่มสามนั่นเองค่ะ
ดูจะไม่เข้ากันได้เลยเมื่อคนหนึ่งดูอ่อนแอและเจ้าน้ำตา ส่วนอีกคนก็เป็นลูกหลานสกุลนักรบ แต่ก็ดันไปด้วยกันได้อย่างดีเยี่ยม อาจจะเพราะว่าตลอดชีวิตพระเอกต้องอยู่กับพี่ๆ น้องๆ ที่ออกจะห้าวหาญกันเหลือเกิน ขนาดหญิงสาวก็ออกรบได้ ส่วนนางเอกเป็นผู้หญิงแท้ๆ เป็นแม่บ้านแม่เรือนที่สุด อ่อนหวานขนาดนั้นจะไม่ถูกอกถูกใจได้อย่างไร แต่เมื่อเกิดเป็นครอบครัวทหารคงไม่ได้สบายนัก และการเดินเข้าสนามรบครั้งล่าสุดก็เปลี่ยนพระเอกให้ต้องทำในสิ่งที่เขาควรทำมานานและเปิดเผยตัวตนของนางเอกว่าเธอไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่ต้องการการปกป้อง เพราะเธอก็ออกรบได้ และครอบครัวของนางเอกก็แสนประหลาด แต่เรื่องราวของเล่มนี้จะหนักไปทางบุญคุณความแค้นในครั้งเก่าก่อนที่มันโยงใยมาจนคนในรุ่นหลังต้องยอมรับเรื่องราวทั้งหมด การสูญเสีย พลัดพรากและท้ายที่สุดความสุขที่สมหวัง
ถ้าถามว่าในบรรดาห้าเล่ม ฟีน่าชอบเล่มไหนน้อยที่สุด อันนี้ตอบได้เลยว่าเรื่องนี้ค่ะ อสูรเจ้าน้ำตา ไม่ใช่ว่านางเอกน่ารำคาญ เอาแต่ร้องไห้อะไรนะคะ แม้เธอจะดูเปราะบางไม่สมกับแต่งให้กับครอบครัวทหาร แต่บอกไม่ถูกว่าทำไมเรื่องนี้ดูจะไม่ค่อยโดนใจที่สุด ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะเนื้อเรื่องของทั้งชุดนี้มันเดินเรื่องได้รวบรัดตัดความกันมาก ยิ่งเล่มนี้ฟีน่ายิ่งรู้สึกว่าจะรีบร้อนไปไหน คงอาจเพราะว่าช่วงพีคของเรื่องจริงๆ จะไปอยู่ช่วงกลางเรื่อง ในจุดที่หักเหทุกอย่างในชีวิตของทุกคน เรื่องในช่วงแรกจึงต้องรีบๆ เล่า แต่เพราะว่าตัวพระเอกอย่างฟางอิง ยังดูไม่มีเสน่ห์มากนัก ถ้าเทียบกับพระเอกในสองเล่มที่ผ่านมา พี่ใหญ่อย่างตู๋กูเซี่ยวอวี๋ในเล่มตัวเองธรรมดา แต่เล่มคนอื่นพี่ท่านนี้โดดเด่นลอยมาแต่ไกล จวินหลันโจวพี่รอง อสูรพิษหน้าตายก็ยังดูน่าสนใจเสียยิ่งกว่า หรือขนาดพ่อของฟางอิง ก็ยังจับใจกว่า ยิ่งช่วงที่ย้อนความหลังในตอนที่พูดถึงความดีของพ่อสามี ฟางอิงเลยด้อยไปทันใด ยิ่งการที่ตัวพระเอกไม่ใช่ทายาทฝั่งหุบเขาพญายมมันก็เลยทำให้เขาเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ คล้ายกับเรื่องที่สี่ ที่ตัวพระเอกเป็นเขยของหุบเขานี้ ไม่ค่อยพิศดารพันลึกมากๆ
เมื่อเรื่องนี้เป็นนิยายในสนามรบ เราก็อยากเห็นอะไรที่มันโชว์ความเก่งกาจของท่านแม่ทัพกันบ้าง แต่ความที่เรื่องไม่ได้ขายความหนักและแน่นในประเด็นนี้ แต่เป็นนิยายที่ออกในโทนรักเสียมากกว่าทำให้จุดของการสู้รบก็มีน้อยไปด้วย ซึ่งในช่วงระยะหลังๆ มา นิยายจีนในทำนองที่ทำให้เห็นว่าตัวแม่ทัพทั้งหลายซึ่งเน้นไปทางพระเอกจะมีการนำเสนอความเก่งกาจกันเยอะแยะมากมายล้วนแต่น่าจับตามอง นิยายที่มาทางนี้แต่ไม่ไปให้สุดทางมันก็เลยกลายเป็นจุดที่ทำให้นิยายขาดความเข้มข้นสมจริงในเวลาอ่านมากไป แต่ถ้าเราไม่ได้คิดอะไรมากนัก ประมาณอ่านเอาความบันเทิง ไม่เน้นสาระสุดๆ ก็เรียกว่าอ่านได้อยู่ แต่เราชินกับนิยายที่ต้องเน้นหนักไปแล้ว เจอเบาหวิวไปเช่นนี้เลยทำให้ไม่ค่อยปลื้มพระเอกที่ไม่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาเก่งจริงๆ ได้
และในท้ายเล่มก็วนกลับมาเป็นการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างรวบรัดแบบเดิม ซึ่งก็เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะคำสัญญาของพระเอกที่มีต่อนางเอกว่าจะพาเธอไปอยู่แบบสงบสุข แต่เรื่องมันรวบๆ มาก อารมณ์คล้อยตามของเรื่องนี้มันก็มีค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว เลยไม่อินไปกันใหญ่ ทำให้พอมองภาพรวมขึ้นมา อสูรเจ้าน้ำตาก็เลยกลายเป็นเล่มที่จัดไว้อยู่ในเล่มที่ชอบน้อยที่สุดไปในทันที ไหนบทบาทพระเอกที่ไม่เด่นที่สุด ปล่อยให้คนอื่นดูน่าสนใจกว่า แม้จะขายความน่ารักที่เน้นว่าพระเอกรักใคร่นางเอกเป็นที่สุด แต่มันก็ไม่ค่อยโดนใจมากนัก แล้วจะไม่อ่านได้ไหมก็ไม่ควรเพราะยังไงก็ตามทีตัวพระเอก นางเอกในเล่มนี้จะไปมีบทบาทในเล่มถัดไป โดยเฉพาะเล่มห้าอย่างอสูรเร้นร้ายด้วย
สรุปได้เลยว่าการเป็นเล่มกลางของของชุดนี้ แต่เนื้อเรื่องไม่เด่นพอ ตัวละครไม่มีเสน่ห์ดึงดูดใจจนโดนตัวละครจากเรื่องอื่นมากลบทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ธรรมดาเกินไปสักหน่อยในการอ่านชุดนี้นะคะ