ป่ารักอลวน ศรีสุรางค์
ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มเนื้อหอมสักแค่ไหนแต่เสน่ห์ของป่ารักกลับใช้ไม่ได้กับผู้หญิงคนเดียว เอื้องผึ้งคือคนที่ไม่ควรจะมองเขาด้วยสายตาห่างเหินเย็นชา ไร้ความยินดียินร้ายต่อเขา เพราะอดีตที่ผ่านไปดั่งสายน้ำที่ไม่เคยหวนกลับความทรงจำที่ทั้งหวานทั้งขมและเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจได้เกิดขึ้นระหว่างป่ารักและเอื้องผึ้งเปลี่ยนความรู้สึกที่ควรเป็นคำว่ารักให้ไม่เหลือแม้แต่เยื่อใย
แม้สิ่งที่ป่ารักทำลงไปเขาเองจะรู้แน่แก่ใจว่าจะยิ่งตอกย้ำความเลวร้ายและเป็นผู้ชายไว้ใจไม่ได้มากขึ้นในสายตาของเอื้องผึ้งแต่เมื่อเขารับปากสิ่งใดกับใครไว้แล้ว เขาก็ต้องทำให้สำเร็จหากความหวังดีของป่ารักกำลังทำให้รู้จักคำว่าโกรธ เพราะความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้กันคงไม่มีเหลืออีกแล้วในความนึกคิดของเอื้องผึ้งเขาคงเป็นผู้ชายที่เลวจนหาดีไม่ได้ทว่าในวูบหนึ่งของความเกรี้ยวกราดมันปะปนมาด้วยความเสียใจซึ่งมันอาจจะพลิกผันความย่ำแย่ที่สุดให้กลายเป็นดีที่สุดก็เป็นไปได้
ความหวังที่ไม่เคยหลงเหลืออยู่ในจิตใจแท้จริงมันแอบซ่อนอยู่ในซ่อนลึกของหัวใจเสมอเวลาที่ผ่านไปป่ารักหลอกตัวเองเสมอว่าไม่รัก ไม่เหลือตะกอนในหัวใจแต่ตอนนี้เขากลับรู้แน่แก่ใจว่าไม่ใช่เลย นับตั้งแต่วันที่ไม่เข้าใจกันความรักก็ยังคงอยู่ เพียงแต่เขาโง่งมจนไม่รู้ตัวและเสียเวลาไปกับคนที่ไม่ใช่มานานขนาดนี้ตอนนี้ได้เวลาที่เขาจะฉกฉวยความรักจากเอื้องผึ้งอีกครั้ง
ถ้ากาลก่อนป่ารักไม่เคยรู้ว่าสิ่งใดทำให้ความรักที่ไม่ทันได้ก่อร่างสร้างตัวกลับสลายไปตอนนี้เขากำลังจะเป็นฝ่ายทำลายมันลงด้วยมือตัวเองอีกครั้งแต่เขาจะไม่ยอมให้อุปสรรคอะไรมากั้นขวางเขาและเอื้องผึ้งอีกแล้วไม่ว่าสิ่งนั้นจะเรียกว่า ว่าที่คู่หมั้น การไม่ต้อนรับของญาติผู้ใหญ่หากป่ารักจะอดทนต่อทุกอย่างและทำให้ทุกคนรู้และซึ้งใจว่าไม่มีผู้ชายคนไหนเหมาะควรกับเอื้องผึ้งเท่ากับป่ารักอีก แม้ว่ารักของเขาเร่แจกจ่ายไปบ้างหากแต่ไม่มีรักใดจริงจังเท่ากับความรู้สึกที่เขามาให้เอื้องผึ้งเลยเธอยังคงเป็นรักแรก รักเดียวและรักสุดท้ายในชีวิตของป่ารัก
ช่วงนี้รีวิวคักคึกรับช่วงใกล้งานหนังสือค่ะ มาส่งให้อ่านไม่ขาดสายนะคะ จะได้ช่วยตัดสินใจว่าจะซื้อเล่มไหนในงานดี เล่มนี้เป็นผลงานเล่มล่าสุดของคุณศรีสุรางค์ค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้ฟีน่าเพิ่งรีวิว เล่ห์ร้ายนิยายรักไปไม่นาน เล่มต่ออย่างป่ารักอลวนก็ออกมาให้อ่านกันแล้วนะคะ ว่าแต่บอกไว้เลยก็ได้ว่า ควรอ่านต่อกันไหม ควรค่ะ เพราะว่าป่ารักมีบทบาทใน เล่ห์ร้ายนิยาย ไม่น้อยค่ะ และจะเข้าใจตัวผู้ชายคนนี้มากขึ้นในเล่มของเขาเองค่ะ
ชุดพล็อตหลากหลายนิยายรักน้ำเน่า(อันนี้ฟีน่าเรียกเองนะคะ) ยังคงใช้ธีมนิยายน้ำเน่าสุดคลาสสิคของบ้านเรามาดำเนินเรื่องค่ะ และใช้สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง อย่าง ผม เป็นการดำเนินเรื่องผ่านตัวของพระเอกอย่างป่ารักค่ะ จากเล่มก่อน เขาคือผู้ชายที่มีความขี้แกล้งอยู่ในตัวเอง แต่ใครจะไปรู้ว่าจริงๆ ผู้ชายที่ลื่นเป็นปลาไหลแบบเขา เจ้าเสน่ห์ ควงสาวไม่เคยขาด ออกแนวเพลย์บอยนิดๆ ปากหวาน เอาอกเอาใจผู้หญิงเก่งเสียขนาดนี้ ได้แอบซ่อนอะไรไว้บ้าง เพราะถึงเขาจะเป็นแบบนี้ แต่กลับกลายเป็นว่ารักแรกในชีวิตต้องอกหักทั้งที่ยังไม่ทันได้ปลูกต้นรัก และจากนั้นก็เหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจว่าคนที่รักคือใคร เป็นใครก็ได้ที่พร้อมจะรักเขา เขาจึงเหมือนผู้ชายที่เจ้าชู้ไปทั่ว หว่านเสน่ห์กับสาวๆ ยกเว้นมีแค่คนเดียวที่เขาไม่เคยเข้าไปถึงใจเธอ คนที่เขาแอบรักและไม่เข้าใจว่าทำไมความสัมพันธ์ที่กำลังจะดีกลับไม่งอกงาม หากปริศนาก็กำลังจะได้คำตอบ เมื่อบางอย่างทำให้เธอกลับเข้ามาในชีวิตและดูจะดีขึ้นอย่างที่ควรเป็นมาหลายปี แต่จู่ๆความโง่เขลาของเขาก็ทำลายมันบ้าง แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ให้ความรักที่เขาแน่ใจว่าต้องเป็นเธอเท่านั้นเหมือนเดิมอีก เขาจะสู้สุดใจและสู้สุดทางเพื่อจะได้เป็นพระเอกตัวจริงในชีวิตของเธอเสียที
แรกเริ่มที่อ่านเรื่องนี้ ก็ดูจะไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมพระเอกถึงได้ยอมคบกับผู้หญิงอย่างแฟนคนล่าสุดเลยนะคะ คือดูยังไงก็ไม่เหมาะกับการเอามาทำแฟน ทำนองว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอมเลย กิริยามารยาทก็เหลือจะรับประทาน แต่พออ่านไปจะพอเข้าใจว่า มันไม่เคยเป็นความรักเลย แค่เพียงการคบหากันของคนที่มีบางอย่างตรงกัน และยิ่งมาเจอคำพูดสะกิดใจของคุณโมกข์ที่บอกกับน้องชายว่า ป่ารักไปเสียเวลากับคนที่เขาไม่เคยรักมาตลอด ทำไมไม่มองหาคนที่เขาจะรักและอยู่ด้วยกันได้ ถึงได้เข้าใจเลยว่า ทำไมผู้ชายแบบป่ารักถึงได้คบกับผู้หญิงบางคนที่ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
แน่นอนว่าอ่านจบปุ๊บ ฟีน่าก็ต้องชูป้ายไฟว่า ทีมคุณโมกข์ค่ะ คือคุณโมกข์คือพระเอกในสเปคที่สุดแล้วค่ะ น่ารัก เจ้าเล่ห์นิดๆ นิ่งขรึม สมเป็นพี่ชายคนโตของบ้าน ส่วนป่ารักคือน้องชายที่เคารพคุณโมกข์ราวกับพ่อคนที่สอง เลยรู้สึกในบางทีว่าป่ารักเหมือนลูกชายคุณโมกข์มากกว่าอีก แม้หน้าตาสองคนนี้จะคล้ายกันมาก แต่นิสัยนี้ต่างกันมากมาย ป่ารักจะออกแนวกะล่อน ลีลาแพรวพราว หากผู้ชายแบบนี้กลับมีรักฝังใจ ที่เขาไม่เคยรู้ตัว แต่คนรอบข้างนี้รู้มาตลอดว่าสายตาของเขามีให้ใคร เรียกว่าแอบโง่ไปชั่วขณะ อารมณ์อาจจะร้อนไปสักนิด คงเพราะอายุอานามก็แค่ยี่สิบห้าปีเท่านั้น
แต่สำหรับนางเอกอย่างเอื้องผึ้ง ค่อนข้างจะเป็นผู้หญิงนิ่งๆ เงียบ เก็บอาการได้มากกว่าพระเอก แต่ผู้หญิงที่ดูจะสมบูรณ์แบบคนนี้กลับมีอะไรที่ตัดสินใจผิดพลาดไม่น้อย เผลอๆ อาจจะมากกว่าป่ารักด้วยซ้ำไป จนเป็นจุดเริ่มต้นของความอลวนในรักที่มันควรจะหวานชื่นมานานแล้ว แต่จะให้โทษนางเอกก็ไม่ได้ นึกย้อนกลับไปในช่วงเวลาเดียวกัน สถานการณ์เดียวกันกับที่นางเอกเจอ อายุของเธอยังเป็นเด็กวัยรุ่นไม่ถึงยี่สิบปีเลย การตัดสินใจทำอะไรลงไป การไตร่ตรอง วิเคราะห์มันย่อมไม่สู้ผู้ใหญ่ เหมือนที่ตอนนี้เธอโตแล้ว มีความคิดมากขึ้น คิดจะทำอะไรไป ก็ใจเย็นมากขึ้น มีเหตุผล รับฟังและไม่หุนหันพลันแล่นจนเป็นเรื่องเศร้าในความรัก
ต้องเรียกว่าเป็นแนวรักเก่าหวนคืนก็ว่าได้ค่ะ เพราะสองคนนี้เคยมีพัพพี้ เลิฟกันตั้งแต่อยู่มัธยม แต่ความเข้าใจผิดทำให้ต้องห่างกันไป ก็อย่างที่บอกว่าโทษใครไม่ได้ เพราะความเด็กทั้งคู่เลยไม่ได้เป็นแฟนกัน รักกัน จนถึงตอนนี้ เรื่องนี้จะว่าไปแล้วก็คล้ายๆกับจะเตือนใจให้เรารู้จักใช้สติในการรัก ทิฐิในความรักไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่ดีตรงที่พระเอกตาสว่างค่อนข้างเร็วว่า เขาไม่เคยเลิกรักเธอเลย แต่รักมาตลอด แค่รู้สึกว่ารักไม่มีสมหวังจากตัวผู้หญิงและดูจะรังเกียจเขาอีก พอจะมองเห็นน้ำใจไมตรีอีกที เขาก็บุกเต็มตัว ความเข้าใจผิดต่างๆ เขาก็พร้อมจะยืดอกงอนง้อทั้งหมด และอย่าให้เขาหึง เพราะมันอันตรายต่อทุกคนที่คิดจะมาแย่งเธอไป
เรื่องนี้อาจจะมีอุปสรรคในความรักเยอะกว่าเล่ห์ร้ายนิยายรักนะคะ เพราะแฟนเก่าพระเอกที่ฟีน่าบอกตั้งแต่แรกแล้วว่านิสัยไม่ไหวจะรับประทานคนนั้น ความไม่เข้าใจกันและความไม่มั่นคงของความรักที่ง่อนแง่นมาตลอด ซึ่งหลายเรื่องก็มีจากอดีตของพระเอกด้วย เขาเหมือนผู้ชายที่เร่รักไปเรื่อยเปื่อย รักของเขาจะจริงหรือหลอก ซึ่งอดีตเป็นเครื่องตัดสินปัจจุบันของแท้เลยนะคะ ต้องฝ่าฝันกันสักหน่อยหนึ่ง ไม่ราบรื่นแบบคุณโมกข์เลย (นี้ถ้าป่ารักเหมือนคุณโมขก์คงลงเอยไปนานแล้ว แต่งั้นจะมีเรื่องมาเล่าได้ยังไงจริงไหมคะ)
สำนวนภาษา และการสอนใจ แบบที่เรียกว่า อ่านนิยายแล้วดูตัวเอง ก็ยังคงเหมือนเดิม แรกเริ่มของเรื่อง สิ่งที่เห็นก็คือว่าปัญหาของเด็กและครอบครัวที่เติบโตมากันคนละยุค เด็กไม่เข้าใจว่าการเข้มงวดของพ่อแม่คือความรัก เหมือนที่พ่อแม่ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกถึงชอบทำตัวแหกกฏระเบียบที่ควรเป็น เราจะเห็นตัวอย่างของเด็กสาวที่เป็นแบบนั้นหลายคน ถ้าผ่านมรสุมในชีวิตไปได้เธอก็เติบโตต่อไปได้ แต่ถ้าไม่ได้ ชีวิตก็เหมือนจะรอวันดับแสงลงไปทุกที รวมไปถึงการสอนให้เคารพผู้ใหญ่ที่บางทีเราก็โตมาในยุคที่ไม่ยอมรับในสิ่งที่ไม่ได้ทำ ไม่ยอมรับว่าผิดทั้งๆที่ไม่ผิด หากแต่บางทีการที่เราอ่อนน้อมก็อาจทำให้เรื่องร้ายกลายเป็นดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ประเด็นนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ด้วยว่ามีเหตุผลแค่ไหน
แต่สิ่งสำคัญในเรื่องก็คือ การอย่ายึดมั่น ถือมั่นในทิฐิ คนที่จะมาร่วมชีวิตด้วยกัน มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าใจในอีกฝ่าย เชื่อมั่นในกันและกัน ซึ่งหลายตอนที่รู้สึกแบบนั้น และเมื่อรู้ตัวว่าผิดจงรีบแก้ไข ตัวนางเอกที่เคยโง่เขลาก็ใช้บทเรียนในอดีตมาตรองดู และเธอก็ไม่ทำให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยรักเดิม เรื่องที่ควรจะร้ายก็เลยกลายเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะความมีสติรู้คิดของนางเอกนั่นเองค่ะ แม้ว่าจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายนี้จะมาจากตัวนางเอกที่ทำพลาดไป แต่เธอก็แก้ตัวได้ดีในตอนที่เธอโตแล้ว
และที่บอกว่ามันควรเป็นนิยายรวมมิตรพล็อตไม่ต่างอะไรจากเล่ห์ร้ายนิยายรักคือ มุกปลอมตัวไปเป็นคนสวนของพระเอกนี้ละคะ แต่อย่าคิดว่าจะมาแนวใส่หนวด จะไม่มีใครจำได้ อันนั้นไม่ใช่แล้วล่ะ เพราะพระเอกสนิทสนมกับบ้านนางเอก เรียกว่าทั้งสองบ้านก็อยากจะเรือล่มในหนอง ทองจะไปไหนอยู่แล้ว แต่การที่พระเอกเข้ามาเป็นคนสวนมันมีเหตุผลมากกว่าการปลอมตัว แต่ทำให้รู้ๆ ไปเลยว่าให้เห็นหน้าทุกวัน ไม่ใจอ่อนก็ให้มันรู้ไป พอๆกับมุกอมตะ รักนี้มีฉุด แต่อะไรทำไมต้องฉุด ขออุบไว้ให้ไปอ่านเองนะคะ ซึ่งมันก็มีอะไรทดสอบใจหลังจากการฉุดไปไม่น้อย ซึ่งเข้าทำนองว่าหว่านพืชย่อมหวัง เป็นสุภาพบุรุษต้องหวังได้ชิมเนื้อนางอะไรทำนองนั้นค่ะ
ซึ่งเล่มนี้อาจจะทำให้แฟนคุณศรีสุรางค์อย่างฟีน่าออกอาการแปลกใจกับตัวนางเอกนิดหนึ่งในความกล้าของเธอหลังจากเปิดใจกัน เราก็พยายามจะมองว่ามันไม่ใช่โลกเก่าแล้ว สิ่งที่เธอยอมรับและเลือกทำ ไม่เป็นสิ่งที่ผิด เธอมีความสามารถที่จะรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง แต่มันค่อนข้างบ้าบิ่นในความเป็นนางเอกแบบที่คุณศรีสุรางค์เคยเขียนมาทั้งหมดนะคะ หรือจะเป็นปฏิกิริยาที่เธอทำไปเนื่องจากชดเชยว่าอดีตเธอไม่กล้าเปิดเผยว่ารัก จนต้องเสียเวลาแห่งรักไปหลายปี ตอนนี้เธอเลยต้องแสดงออกให้รู้ไปว่ารักและต้องการร่วมชีวิตกับพระเอกแค่ไหน
พอๆกับตัวพระเอก ที่ปกติก็ไม่เคยเห็นพระเอกคนไหนของคุณศรีสุรางค์จะกะล่อนได้ขนาดนี้ เจ้าชู้ประตูดินไม่น้อย อารมณ์ก็ค่อนข้างร้อนเชียว อาจจะเคยเห็นแนวๆ นี้มาก็ตอนจากดารกากลางใจ แต่ก็ไม่ถึงขั้นนี้ เลยไม่คุ้นชินกับพระเอกแนวนี้ของคุณศรีสุรางค์เท่าไรนะคะ และที่ติดจะผิดขนบในใจฟีน่าอย่างหนึ่งก็คือฟีน่าจะชอบให้สงวนบ้านเอาไว้ให้เฉพาะผู้หญิงที่อยากจะร่วมชีวิตด้วยเข้ามาอยู่อาศัย แต่ยัยแฟนเก่านิสัยแย่คนนั้น ถึงขนาดหอบผ้าผ่อนมาใช้ชีวิตในบ้านพระเอก เรียกว่ากึ่งๆ เป็นเมียพระเอกในบ้านไปแล้ว แถมยังออกฤทธิ์เดชใส่คนดูแลบ้านจนกระเจิงอีก ทำให้บ้านที่ควรเป็นสถานที่พิเศษของพระเอกมันไม่ค่อยพิเศษเท่าไร ถ้าแบบว่าไปอยู่ด้วยกันตามคอนโดอะไรพวกนี้ ฟีน่าก็จะเฉยๆ หรือถ้าแฟนเก่าพระเอกน่ารักมากอีกนิดก็พอไหว แต่ไม่ค่อยโดนเลยแม้แต่น้อย หรืออาจจะเพราะว่าตัวพระเอกเป็นคนติดบ้านก็ว่าได้ เลยไม่ไปมีคอนโดแบบหนุ่มโสดเจ้าสำราญ มีแต่บ้านที่แยกมาเป็นสัดส่วนของตัวเอง จุดนี้คุณป่ารักเสียคะแนนไปนะคะ ก็บอกแล้วว่าพอถูกเทียบกับชายแสนดีแบบคุณโมกข์ที่ไม่เคยสนใจสาวใด ก็เลยเข้าวินไปอย่างไร้คู่แข่ง
แต่ไม่ใช่ว่าป่ารักไม่จะไม่น่ารัก เขาก็น่ารักในแบบผู้ชายเจ้าเสน่ห์นั่นเองค่ะ ความเจ้าชู้ก็มีตามประสาผู้ชายทั่วไป แต่มีความเป็นสุภาพบุรุษที่จะไม่ทำร้ายฝ่ายหญิงทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะการสั่งสอนของพ่อ ที่บอกว่าแต่ให้ผู้หญิงที่เขาจะเล่นๆ ด้วยก็คือเมีย ดังนั้นอย่าทำให้อะไรที่เป็นการรังแกพวกเธอจนเกินไป ผู้ชายบ้านนี้ก็เลยเป็นสุภาพบุรุษกันไปหมดค่ะ แค่นิสัยบางอย่างอาจจะไม่เหมือนกันก็เท่านั้นเอง ส่วนความรัก ถ้าไม่มีเรื่องในอดีตป่ารักก็เป็นคนที่รักปักใจมาก รักแรก รักเดียวตลอดมา แค่อาจจะเป๋ไปบ้างเพราะอกหัก แต่พอเข้ามาอยู่กับร่องรอยแล้ว เขาก็รักผู้หญิงของเขามาก ชนิดที่ไม่สนใจใครอีกแล้ว ก็เลยทำให้ป่ารักอลวนมีเนื้อหาไม่หนักหน่วงมาก เป็นงานเบาๆ ผ่อนคลายของคนเขียนก็ว่าได้ ซึ่งอาจจะไม่ถึงกับกรี๊ดเท่าเล่ห์ร้ายนิยายรัก แต่ไม่ถึงกับไม่ชอบป่ารักนะคะ ดันไปมีคนที่ถูกเปรียบเทียบกันตามประสานิสัยฟีน่าค่ะ ตัวเองค่อนข้างจะชอบแนวหิมพานต์หรือแนวหวานๆ โรแมนติคแบบฟุ้งๆ เพ้อๆ มากกว่าแนวนี้ของคุณศรีสุรางค์นะคะ เราก็เลยต้องรอคอยเล่มต่อไปว่าจะออกมาในแนวที่เราชอบหรือเปล่าค่ะ ส่วนเล่มนี้จัดอยู่ในระดับที่เรียกว่าอ่านได้ ให้ข้อคิดเหมือนเดิม เพียงแต่ยังไม่หลงรักป่ารักมากๆ แบบที่เอื้องผึ้งมักจะเอ่ยว่า รัก เสมอๆ