สาวใช้จอมพิลึก สีเจวี้ยน
สำหรับบางคนผู้คนมากมายอาจล้วนแต่ทำให้มีเรื่องน่ารำคาญใจ แต่กับจั้นหลันคนยิ่งคึกคักมากเท่าใดก็ยิ่งทำให้เธอสนุกสนาน โดยเฉพาะเรื่องของพวกเขาและเมื่อสกุลจี้คือตระกูลอันแสนมั่งคั่ง เป็นที่นับหน้าถือตาคงมีเรื่องให้เธอได้เพลิดเพลินไม่ใช่น้อย แต่สถานะที่จั้นหลันอาจจะลืมเลือนไปประการหนึ่งก็คือเธอเป็นเพียงแค่สาวใช้ต่ำต้อยในบ้านสกุลจี้
นับแต่แรกที่เซ่าหลีได้พบสาวใช้อย่างจั้นหลันแม้ว่าพฤติกรรมของเธอช่างไม่เหมาะควรกับการเป็นสาวใช้แต่บางอย่างที่เซ่าหลีเห็นในตัวของเธอบอกให้เขาต้องคอยจับตาผู้หญิงแสนประหลาดผู้นี้ให้ดีไม่ว่าเธอจะเป็นใคร มีเบื้องหลังเช่นไรแต่ความจริงที่ไม่อาจปิดบังได้ก็คือผู้หญิงคนนี้ลึกลับหากเปิดเผยฉลาดแต่ยังอ่อนเดียงสา จนไม่น่าเชื่อได้ว่าเธอจะเป็นสาวใช้ธรรมดา
การผูกสัมพันธ์กับเซ่าหลีเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดเพราะมันยิ่งทำให้จั้นหลันได้ค้นพบเรื่องสนุกสนานแบบที่ไม่คิดมาก่อนแต่สิ่งที่จั้นหลันไม่คิดว่าเขาจะนำมาให้เธออย่างไม่ทันตั้งตัวก็คือความรู้สึกแปลกประหลาดที่จั้นหลันเองก็ไม่อาจอธิบายได้ว่าคืออะไรเมื่อเธอกลับหวงแหนเขาจนไม่ปรารถนาให้หญิงใดได้ใกล้ชิดเขาเหมือนดั่งที่เธอเป็น
บุญคุณความแค้นเป็นสิ่งที่เซ่าหลีพบมาในยุทธจักรนี้จนชินชากับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ต่างอะไรจากความลับที่เกิดขึ้นในสกุลจี้แต่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับความจริงของตัวจั้นหลันหากในวันนี้ผูกพันที่มีมากล้นกว่าผู้คนที่เซ่าหลีเคยมอบให้อาจจะเรียกว่าความรักได้หรือเปล่าเซ่าหลีก็ไม่อาจให้คำตอบกับจั้นหลันได้มีเพียงสิ่งที่เขามั่นใจประการหนึ่งคือจะไม่มีวันใดที่เซ่าหลีทอดทิ้งให้สาวใช้จอมพิลึกอย่างจั้นหลันต้องอยู่อย่างเดียวดาย
หลังจากเคยอ่านผลงานของสีเจวี้ยนมาแล้วจากจักรพรรดิบัญชา ซึ่งเป็นผลงานที่บางคนอาจจะชอบ (แบบฟีน่า) หรืออาจจะไม่ชอบสักเท่าไรเลย เพราะมันไม่ใช่นิยายแนวพาฝันในอุดมคติ แต่ออกแนวดาร์กนิดๆ เรียลค่อนข้างมาก พอเห็นแจ่มใสซื้อผลงานของสีเจวี้ยนมาแปลอีก ฟีน่ารอที่จะซื้อมาอ่านเลยค่ะว่าจะสนุกแค่ไหน
สำหรับเรื่องสาวใช้จอมพิลึก นางเอกก็ต้องอยู่ในสถานะสาวใช้อย่างแน่นอน แต่เธอเป็นสาวใช้ที่แปลกตัวจริง เพราะเธอเป็นพวกชอบยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของชาวบ้านมากที่สุด และไม่กลัวด้วยว่าจะถูกลงโทษจากเจ้านาย จนบางเรื่องกลายเป็นการไม่รู้ที่ต่ำ ที่สูงในบางที แต่สิ่งนั้นไม่เกิดขึ้นกับพระเอก เพราะว่าเขารู้สึกว่านางเอกมีบางอย่างพิเศษกว่า ซึ่งมันไม่ใช่หน้าตาสะสวยนะคะ แต่คือการพูดการจา ความเฉลียวฉลาดของเธอ ก็เลยกลายเป็นว่าพระเอกเข้าข้างนางเอกเล็กน้อย ซึ่งความแปลกของนางเอกก็มาจากเบื้องหลังของนางเอกที่ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเขา และความเป็นตัวตนของนางเอกก็ยิ่งสร้างความประทับใจให้พระเอก จนมันกลายเป็นความผูกพันที่ลึกซึ้งทางด้านจิตใจระหว่างคนทั้งสอง แต่จุดบรรจบมันจะเป็นเช่นไร เพราะไม่ใช่แค่นางเอกที่ประหลาด คงต้องเรียกว่าทั้งครอบครัวนางเอกเลยจะดีกว่านะคะที่พิลึก
ถ้าใครอ่านจากเพจฟีน่าคงเห็นแล้วว่าฟีน่าพูดถึงเรื่องนี้แบบไหน ใช่เลยค่ะ เรื่องนี้ไม่ค่อยน่าประทับใจสำหรับฟีน่าเท่าไรนะคะ แยกส่วนในรายละเอียดกันนะคะ สำหรับตัวนางเอก พระเอก แน่นอนว่านิสัยของทั้งสองค่อนข้างถูกใจค่ะ นางเอกอาจจะดูเหมือนเด็กสาวที่เหมือนจะอ่อนเดียงสา แต่กลับฉลาดคิดอะไรได้ลึกซึ้งกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก และพระเอกก็เป็นแนวพระเอกอบอุ่น จอมยุทธ์พิทักษ์คุณธรรมอะไรทำนองนั้น เนื้อเรื่องในโทนน่ารักจะเรียกได้ว่าผ่านในจุดนี้นะคะ แต่ว่ามันกลับมีบางอย่างที่ทำให้รู้สึกเรื่องนี้ไปไม่สุดสำหรับตัวเอง
อย่างแรกตั้งแต่อ่านจบแล้ว ฟีน่ารู้สึกได้เลยว่าเรื่องนี้ดำเนินเรื่องมาได้แบบไม่มีที่มา ที่ไปในบางเรื่อง แถมตอนจบก็จบได้ปาหมอนมาก คือเนี่ยนะเรียกว่านิยายจบแล้ว ไม่ล่ะ มันต้องมีเล่มต่อใช่ไหม สารภาพมาเลย งงงวยบ่นบ้าในเพจสักพัก ก็มีเพื่อนในเพจใจดีมาบอกว่า ถูกต้องแล้วค่ะ นิยายเป็นชุดมีทั้งหมดสี่เล่ม แต่ก็เป็นเรื่องของสี่คู่ เล่มนี้เป็นเล่มที่สองของชุด ฟีน่าเห็นแล้วก็ออกแนวอึ้งไปเลยว่า แล้วทำไมไม่แปลไล่ตั้งแต่เล่มแรกแล้วค่อยไล่ลำดับเรื่องมา มาโผล่เอากลางเรื่อง แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นการบังคับว่าต้องเล่าเล่มแรกก่อน จึงอ่านเล่มสองได้ เพียงแต่อารมณ์มันขาดหายไปค่ะ มันเลยทำให้เรายังไม่เข้าใจอะไรในบางจุด บางเหตุการณ์ที่เป็นเรื่องราวสำคัญในเล่มนี้ ซึ่งฟีน่าก็ไม่รู้ มันส่งผลต่อเล่มนี้จริงๆไหม สกุลจี้และพระเอกมีความสัมพันธ์อะไรกัน บุญคุณความแค้นอะไรที่ทำให้เกิดเรื่องในสกุลจี้ จนพระเอกต้องยื่นมือเข้ามาช่วย รวมทั้งความจริงที่เกิดขึ้นและไคลแม็กซ์ที่เฉลยทุกอย่าง
ถ้าเริ่มต้นเรื่องไม่ชัดเจน แต่ยังถือว่าพอไหวอยู่ค่ะ เนื่องจากทุกอย่างมาเฉลยในเล่มนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ตอนจบนี้เรียกว่าไม่ถูกจริตเอาเสียเลยนะคะ คือจบได้ไม่เคลียร์ใจคนอ่านแบบสุดๆ คือปัญหาของตอนจบมันมาพร้อมกับประเด็นหลักอีกอย่างที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ค่อยถูกใจมากนักก็คือ ความรู้สึกระหว่างพระเอกและนางเอก ตัวนางเอกค่อนข้างชัดเจนตามประสาคนเปิดเผยว่า เขาต้องถูกฉันจับมัดขึ้นเขาไปเป็นสามีอย่างแน่นอน หวงแหนเขาจนไม่ชอบให้สาวคนไหนมายุ่งเกี่ยว แต่ในทางตรงกันข้าม สำหรับพระเอก ในเล่มอาจจะรู้สึกบางฉากว่าเขารักนางเอกนะ เพราะค่อนข้างให้ท้ายนางเอก แต่มาทำเอาคนอ่านอย่างฟีน่าอึ้งเล็กๆ ก็คือเขาเล่นมาบอกว่าสำหรับตัวเอง ไม่เคยคิดกับนางเอกในแบบนั้นเลย คือไม่ได้รักแบบหนุ่มสาว ไม่ได้คาดหวังด้วยว่าหากนางเอกโตขึ้นจะยังคิดแต่งงานกับเขาหรือเปล่า แค่อยากดูแลนางเอกให้เติบโต พอเราย้อนกลับไปคิด มันก็สอดคล้องกับเรื่องที่ผ่านมา พระเอกรู้สึกกับนางเอกแค่น้องสาวจอมแก่นที่ต้องคอยดูแลไม่ให้เกิดเรื่องเท่านั้นเลย มันอาจจะพัฒนาเป็นความรักได้เพราะความใกล้ชิด แต่เข้าใจไหมคะว่าเรื่องมันไม่ได้มีสองเล่มจบที่ต้องปูพื้นความสัมพันธ์ระหว่างกัน ตั้งแต่แรกถ้าเรารู้ว่ามันเป็นชุด ก็ยังพอจะเดาไปว่า เล่มหน้าเราคงเห็นภาพความผูกพันชัดขึ้น แต่ฟีน่าไม่รู้เลยว่ามีเล่มต่อ และไม่แน่ใจด้วยว่าเล่มต่อก็เป็นเรื่องของตัวละครอื่นด้วย ไม่ใช่คู่นี้ อาจจะแค่มาปรากฏตัวในเล่มมากน้อยเท่าใดก็ยังไม่รู้เลย ถ้ามันไม่มีประโยคดับฝันหวานของเราไป ฟีน่าก็ยังอาจจะจิ้นไปเรื่อยเปื่อยไปว่าเขาก็ตะลอนๆไปด้วยกัน รักกัน แต่พระเอกต้องรอให้นางเอกโต แต่พูดแบบนั้น ฝันสลายเล็กๆ เรื่องก็เลยเหมือนกั๊กๆ จะจบหรือไม่จบยังไงบอกไม่ถูกค่ะ
ความที่เนื้อเรื่องมันไม่ค่อยชัดเจนในความตัวตนของคนสองคน ส่วนหนึ่งฟีน่าเลยรู้สึกว่านี้ไม่ใช่นิยายรักระหว่างชายหญิง แต่มันเป็นนิยายแนวความผูกพันของพี่ชายกับน้องสาวตัวแสบไปแทนเลยในเล่มนี้ คือถ้ามองนิยายเล่มนี้แบบเรื่องราวผจญภัยของสองพี่น้อง แน่นอนว่ามันจะสนุกอีกแบบ แต่พอขึ้นหัวว่ามากกว่ารัก ฟีน่าก็คาดหวังนิยายแนวรักหวานๆ ไม่เถียงว่านางเอกน่ารัก ติดจะแก่นเซี้ยวตามประสาเด็กสาวอัจฉริยะแบบจอมยุทธ์ ต้องมีพระเอกคอยปรามๆ ให้อยู่ในที่ ในทาง แต่มันก็ยังไม่ใช่ทางที่จะอยู่ในโหมดนิยายที่ชื่อว่ามากกว่ารักสักเท่าไร
ตัวละครในเรื่องก็เยอะแยะมากมาย ยิ่งช่วงกลางเรื่องที่จากการปูทางในช่วงแรก เริ่มจากการดูตัวหาคู่ของบ้านสกุลจี้ กลายมาเป็นศึกช่วงชิงของวิเศษ จอมยุทธ์ดาหน้าเข้ามาประลองกันจนบ้านสกุลจี้แทบพัง ซ้ำยังมีเรื่องความแค้นอะไรมาผสมอีก ชื่อจีนเป็นอะไรที่จำยากอยู่แล้ว ขนาดฟีน่าที่อ่านนิยายจีนพอไหว แต่เล่มนี้ตัวละครมันเยอะกว่าความหนาของหนังสือเสียอีกนะคะ จบแทบไม่ได้เลยว่าใครเป็นใคร ปมเยอะมาก เดี๋ยวคนนั้นโผล่มาที คนนี้โผล่มาที ตัดปัญหาไม่จำเอาเสียเลยว่าใครเป็นใคร เฉพาะตัวสำคัญก็พอค่ะ มันอัดเนื้อเรื่องเยอะมากเข้ามาในนิยายจำนวนหน้าน้อยแบบนี้ไม่ไหวจริงๆนะคะ
แท้จริงเล่มนี้ไม่ได้เลวร้ายสุดๆ แบบที่ฟีน่ารู้สึกเท่ากับตอนอ่านหญิงงามอัปลักษณ์นะคะ เล่มนั้นเรียกว่าอึ้งไปเลยว่าอะไร แต่เล่มนี้ที่ทำให้ผิดคาดก็อย่างที่บอกไปว่าคงมาจากการที่เรื่องมันเป็นนิยายเล่มสอง แต่เปิดตัวก่อน ทำให้การดำเนินเรื่องขาดความต่อเนื่อง แม้จะไม่รู้จริงๆว่าเล่มแรกมีอิทธิพลแค่ไหน สมมุติว่าเล่มหนึ่งก็ไม่มีอะไรเปิดตัวในเล่มสอง ก็ถือว่าการเล่าเรื่องของสีเจวี้ยนเล่มนี้ไม่ผ่านเลยค่ะ ตอนจบก็ห้วนและไม่ลงท้ายให้จบในเล่ม ซึ่งต้องอย่าลืมว่าคนส่วนมากไม่รู้ข่าวสารหนังสือครบทุกคน เมื่อไม่บอกว่าเป็นชุด คนก็จะเข้าใจว่านี้คือเล่มเดียวจบ ความหวังในตอนจบคือมันต้องจบบริบูรณ์ แต่ตอนจบกลับไม่สมบูรณ์แบบที่ควร ค้างคาความรู้สึกของตัวละคร จะให้คิดเองก็โดนดับฝันด้วยคำพูดทำนองรักแบบน้องสาวค้ำคอไว้ ไปต่อไม่ได้อีก ไปๆ มาๆ เรื่องของพ่อแม่หรือแม้แต่พี่ชายนางเอกกลับแย่งซีนไปได้อีกต่างหากนะคะ
มีอีกอย่างที่ฟีน่าก็งงแต่พยายามจะไม่งง วังหลวงอะไร มาเกี่ยวยังไง ทำไมนางเอกต้องอยากเข้าวังไปเป็นคนรับใช้ในวัง แล้วจะได้เข้าไหม หรือแค่พูดถึงเฉยๆ หรือมันจะไปเกี่ยวข้องในเล่มต่อไปว่าเรื่องมันมีเนื้อหาของวังหลวงมาด้วย คือเรื่องเปิดปมนี้ แต่กลับไม่จัดการกับปมนี้เลย ปล่อยค้างทิ้งไว้ มันอาจจะไม่สำคัญแต่ถึงขนาดกล่าวไว้ ก็น่าจะเกี่ยวอะไรสักอย่าง แน่นอนว่าตรงนี้อาจจะคิดไปเองคนเดียวนะคะ แต่มันก็พานให้สนใจไม่ได้เลย
ถือว่าการรอคอยผลงานของสีเจวี้ยนเล่มนี้สำหรับฟีน่าไม่ผ่านนะคะ แต่จะรอดูว่าชุดนี้จะมีโอกาสออกมาครบชุดหรือเปล่า ถ้าครบชุดสี่เล่ม ก็จะได้เข้าใจว่าทำไมถึงไม่แปลให้เรียงเล่มกันไปเลย จะได้ไม่สงสัยอะไรมากนัก หรือถ้าไม่แปลให้ครบ มันก็จะกลายเป็นนิยายที่ตอนจบช่างน่าฉงนใจ ปาหมอนได้ใจได้โล่มากเล่มหนึ่งของหัวมากกว่ารักเลยค่ะ แต่ตอนนี้ทำให้เริ่มคิดแล้วว่าหนังสือของนักเขียนบางเล่มที่เรารอคอยมากเกินไปมันส่งผลต่อความคาดหวังจริงๆ เพราะความประทับใจแรก อาจจะไม่ใช่ความประทับใจตลอดไปก็ได้ใครจะไปรู้ แบบเล่มนี้ก็เป็นได้ค่ะ มันไม่ได้ย่ำแย่ที่สุด เพียงแต่ยังไม่ใช่ที่ดีสุดสำหรับเรา แต่มันอาจใช่สำหรับคนอื่นก็เป็นไปได้