กุนซือเคียงใจ จิ้งสุ่ย
แม้นสิ่งที่ซั่งกวนจื่อได้รับการฝากฝังของอาจารย์ควรจะเป็นความลับที่น่าตกใจสักเพียงไรหากมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเช่นนั้นเลย สหายร่วมชั้นผู้ต้องปกปิดความเป็นสตรีไว้ด้วยอาภรณ์แห่งบุรุษแต่คลับคล้ายว่าจั้นลู่จะไม่ใช่คนอ่อนแอที่ต้องคอยให้ใครมาปกป้อง ดังนั้นสถานะระหว่างกันจะไม่อาจบอกได้ว่าซั่งกวนจื่อและจั้นลู่เป็นเช่นไรมิตรก็ไม่คล้าย ศัตรูก็ไม่ใช่
เมื่อก้าวเข้าสู่สำนักหยกงามชีวิตก็เหมือนตายแล้วเกิดใหม่อีกครั้ง ในครานี้เธอได้เกิดใหม่เป็นบุรุษหากเธอก็รู้ดีว่าการจะเติบโตขึ้นมาหาใช่เพียงแต่ต้องมีสมองอันเก่งกล้าหากต้องรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของจิตใจคนด้วย ยิ่งชาญฉลาดสักปานใดก็ยิ่งนำภัยมาสู่ตนแต่ในวันที่จะเป็นโชคร้ายที่สุดในชีวิตกลับทำให้จั้นลู่ได้รู้ว่าเธอไม่ได้ไร้ตัวตนในสายตาของซั่งกวนจื่อผู้องกาจและผ่าเผยคนนั้น
วันเวลาที่ผ่านหากปณิธานยังคงเดิมและนี้คือเส้นทางที่ซั่งกวนจื่อเลือกแต่เขาไม่คาดว่าหนทางที่เต็มไปด้วยเลือดและสงครามอย่างเช่นที่เขาเป็นจะทำให้ได้กลับมาพบกับจั้นลู่อีกครั้งหรือว่าเธอลืมเลือนไปแล้วว่าตนนั้นคือสตรีไม่ใช่บุรุษดังเช่นที่เขาเป็น หากแต่สิ่งที่ซั่งกวนจื่อไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือความสามารถของจั้นลู่นั้นไม่ด้อยไปกว่าเขาเลยแม้แต่น้อยในยามนี้จะไม่มีคำว่าบุรุษหรือสตรี จะมีเพียงแต่ผู้ที่ทัดเทียมเท่ากันทางปัญญา
อดีตที่ผ่านซั่งกวนจื่อได้มอบคำสอนอันล้ำค่าให้แก่จั้นลู่และเมื่อเธอเลือกจะเส้นทางนี้ด้วยตัวเอง เธอก็ปฏิบัติตามอย่างขึ้นใจ และทำให้เธอรู้สึกว่าตัวนั้นมีคุณค่าเพียงพอที่จะดำเนินชีวิตต่อไปโดยไม่รู้เลยว่าวันเวลาที่ผ่านมาตลอด บุคคลที่แม้นว่าห่างกันไกลด้วยระยะทางกลับเสมือนชิดใกล้กันอย่างไม่มีใครเสมอเหมือนดั่งเช่นที่ซั่งกวนจื่อทำได้แต่ความรู้สึกที่ลึกซึ้งนี้คงเป็นเพียงความรักต้องห้ามเมื่อเธออยู่ในคราบของบุรุษมิใช่สตรี
แม้เพียงสายลมที่ล่องลอยอยู่ในท้องทะเลแห่งสงครามจะบอกว่าหากแผ่นดินมีซั่งกวนจื่อไยต้องมีจั้นลู่ ก็เป็นเพียงลมปากที่เขาไม่เคยสนใจเพราะแท้จริงแล้วจะมีใครกันเล่าเข้าใจในความคิดของเขาเท่าเธอไม่มีอีกแล้วในชีวิตของแม่ทัพผู้ห้าวหาญเช่นเขามิได้ต้องการสตรีอ่อนหวานหากเพียงต้องเป็นจั้นลู่เท่านั้นและในเมื่อความลับของเธอไม่เคยเป็นความลับสำหรับเขาไยจึงต้องหวั่นไหวในความจริงกันด้วยเล่า
ถึงสิ่งที่จั้นลู่ปกปิดจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ระหว่างกันแต่เส้นบรรจบของความรักที่เป็นความลับและฐานะต้องห้ามนี้จะเป็นเช่นไรหากเมื่อชายในดวงใจของเธอคือซั่งกวนจื่อ ผู้มิเคยเป็นสองรองใครเขาเองก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้สิ่งที่จั้นลู่กังวลหมดไปเพราะเหนือยิ่งกว่าปณิธานสิ่งใด คือได้ครองคู่ด้วยกันตลอดไป
กลับสู่โหมดรีวิวนิยายจีนกันอีกแล้วค่ะ แต่ฟีน่าจำไม่ได้ว่างานแจ่มใสเคยเอางานของจิ้งสุ่ยมาแปลบ้างหรือยัง คืออ่านจนลืมชื่อคนแต่งไปแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะแฟนมากกว่ารักแบบเราต้องลองทุกเล่มค่ะ ไม่งั้นไม่ใช่แฟนตัวจริง
จริงๆแล้วเรื่องราวของนางเอกควรเป็นความลับ หากแต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น เมื่อพระเอกได้รับการฝากฝังจากอาจารย์ให้ดูแลนางเอกพร้อมกับบอกว่าเธอไม่ใช่ผู้ชายดั่งเช่นศิษย์คนอื่นในสำนัก แต่มันก็ไม่ทำให้คนสุขุมเช่นพระเอกตกใจ แต่เขากลับจับจ้องนางเอกอย่างเงียบๆ และได้พบว่านางเอกไม่ใช่คนอ่อนแอ หากแต่โง่เขลาในบางเรื่อง แต่เขาก็ไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งแต่อย่างใด ได้แต่คอยดูอย่างห่างๆ จนมันทำให้นางเอกรู้สึกว่าพระเอกจะมีบางอย่างไม่พอในตัวเธอ แต่เหตุการณ์บางอย่างก็เปลี่ยนมุมมองของนางเอกไปอย่างฉับพลัน และเขาก็เปรียบเสมือนคนที่เธอศรัทธา แล้วชะตาก็ผ่านไปอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ไม่น่าจะกลับมาเจอกันก็ต้องเจอกัน เมื่อพระเอกที่เลือกเส้นทางการเป็นแม่ทัพ ออกรบราฆ่าฟันข้าศึกกลับมาเจอนางเอกที่ได้ตำแหน่งกุนซือของกองทัพ ที่พระเอกตกใจว่านางเอกหลอกลวงคนอื่นมาได้เช่นไร และไม่กลัวตายหรือไง หรือเธอลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นผู้หญิง แม้เขาจะรู้ดีว่าเธอเก่งจนเป็นกุนซือได้ก็ตามที และทำให้มีบางเรื่องก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเสมือนว่าทั้งสองจะเป็นศัตรูกัน แต่ความจริงตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครที่จะเข้าใจกันและกันได้เท่ากับเขาและเธออีกแล้ว และมันก็กลายเป็นความรักที่นางเอกคิดว่าจะต้องเก็บมันไว้ในใจเท่านั้นอย่าให้พระเอกรู้ว่าเธอคือผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย ส่วนพระเอกเองก็อยากจะบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่า เขารู้มันมานานแล้วเธอไม่ใช่ผู้ชาย แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นความผิดของนางเอกก็ยังมีในฐานะหลอกลวง แล้วหนทางลงเอยจะเป็นเช่นกันได้
อย่างที่บอกว่าไม่รู้จักนามปากกานี้ค่ะ ก็เลยซื้อมาอ่านแบบไม่ได้คาดหวังอะไรแม้แต่น้อย แต่ของจริงผิดจากที่คาดไว้ตั้งแต่เริ่มต้นเรื่องที่อ่านค่ะ แม้ว่าคำโปรยจะพอเข้าใจคร่าวๆ ว่านางเอกต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายก็ตามที แรกเริ่มต้นเรื่องก็ต้องบอกว่า ไม่ได้คิดว่าจะทำเอามึนนะคะ ไม่ใช่อะไร แต่เป็นการพูดถึงความอัจฉริยะของนางเอกและพระเอก ทั้งคู่น่าจะมีไอคิวเกิน 180 กันหรือไงไม่ทราบได้ค่ะ ทำเอาคนตกเลขแบบฟีน่าถึงกับกุมขมับแป๊บ อยากจะได้เครื่องคิดเลขมาช่วยอ่านนิยายกันเลยทีเดียว ต้องอ่านช้าๆ ในช่วงนี้เลยนะคะ คงงงกันใช่ไหมคะว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ แม่ทัพและกุนซือทำไมต้องมานั่งคิดเลขกันด้วย แต่เอาเป็นว่าใครจะอ่านนะคะ ช่วงสามสิบหน้าแรกกรุณาค่อยอ่านๆ ตั้งสติ ทำสมองให้ว่าง เตรียมรอโจทย์คณิตคิดไว เลขพื้นฐาน เศษส่วนกันมานะคะ และอ่านให้ช้าลงนิดหนึ่ง ยกเว้นคุณจะเก่งวิชาเลขอยู่แล้ว อาจจะไม่ติดขัดในช่วงแรก ส่วนฟีน่าอ่านทวนสามรอบกว่าจะเข้าใจ
พูดแบบนี้แล้วมันจะสนุกได้ไง น่าจะมึนและเมาตัวเลข แต่ไม่ใช่เลยค่ะ คือจะเห็นเลยว่าสองคนนี้เก่งมาก กินกันไม่ลง และนำพาไปสู่เรื่องราวที่แปลกของทั้งสองฝ่าย และเมื่อเขาได้เจอกันบนสนามรบที่ไม่คู่ควรกับนางเอก จะเป็นช่วงที่สนุกที่สุดค่ะ เห็นได้ถึงความเก่งของทั้งคู่ เป็นหนึ่งไม่สอง ไม่อาจบอกได้ว่าใครเก่งกว่ากันหรือด้อยกว่ากัน จนมีคนคิดไปเองว่าสองคนนี้เขม่น แต่ไม่ใช่เลย ทั้งสองเชื่อใจในกันและกันมากกว่าเชื่อใจใคร ระยะทางที่ห่างกันคนละทิศคนละทางตลอดหลายปีที่ต้องอยู่ในสนามรบ อาจจะไม่มีจดหมายรักหวานซึ้ง เพราะสถานะของนางเอกเป็นผู้ชายเหมือนกัน และเธอไม่เคยรู้ว่าพระเอกรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นผู้หญิง หากจดหมายที่ตอบโต้ระหว่างกัน จึงเป็นเรื่องการรบเสียมากกว่า แต่มันทวีความแน่นแฟ้นที่ทั้งคู่รู้ว่าอีกฝ่ายเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองทำ
ใครชอบความรักที่ลึกซึ้ง ไม่จำเป็นต้องหวานเลี่ยนนะคะ เรื่องนี้สนุกมากค่ะ ฟีน่าชอบสุดๆ เลย คือตัวพระเอกให้เกียรติในความฉลาดของนางเอกมาก ไม่เคยดูถูกว่าเธอคือผู้หญิง แต่นางเอกเป็นทุกอย่างในชีวิตเขา แบบที่คำมั่นที่เขาให้กับนางเอกแล้วมันกินใจมากนะคะ เจ้าเป็นสหายร่วมเรียนของข้า เป็นสหายร่วมรบของข้า เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับข้า เห็นใจกันและกันในยามยาก มันบอกทุกอย่างในความรู้สึกของพระเอกได้เป็นอย่างดีค่ะ รักกันไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่ใกล้กัน แม้จะแทบไม่เจอหน้ากัน แต่รู้ใจกันหมดสิ้น แม้แต่ตอนพระเอกบาดเจ็บจากสงคราม ลายมือในจดหมายเปลี่ยนไป นางเอกก็ยังรู้เลยว่า เขาต้องมีได้บาดแผลมาจากสงครามลายมือถึงได้ไม่เหมือนเดิม และในยามที่ได้พบเจอกัน เพียงแค่มองตาก็รู้ใจ ไม่ต้องพูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว ฉลาดสมกันมากๆ ทั้งสองเชื่อใจในอีกฝ่าย ในยามร่วมรบสิ่งนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด กลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งและผูกพันกันมาอย่างเงียบๆ ตั้งแต่ร่วมเป็นสหายเรียนด้วยกันเสียด้วยแล้วค่ะ
คล้ายว่าจะไม่หวานในอารมณ์ แต่ฟีน่าว่ามันซาบซึ้งใจมากเลยนะคะ พระเอกเป็นแม่ทัพจริงๆ เก่งมาก ไม่ชอบการเป็นขุนนางแต่ต้องจำใจรับตำแหน่งใหญ่โต ต่างจากนางเอกที่พระเอกเคยสอนไว้ประมาณว่าอย่าทำดีและเก่งจนเด่นและเป็นภัยแก่ตัวเอง เธอจึงเป็นแค่กุนซือไร้ตำแหน่งคนหนึ่ง พระเอกเป็นคนนิ่งและติดจะเย็นชาที่ไม่เคยมีสายตาแลสาวคนไหน แต่กับนางเอก เขาจะชอบการอยู่กับเธอที่สุด แม้เพียงแค่การอยู่ในห้องหนังสือร่วมกันโดยไม่พูดอะไรสักคำ นานแค่ไหนก็เป็นสุขใจได้ หรือไม่ก็ร่วมเล่นหมากรุกกัน แปรเปลี่ยนเกมบนกระดานให้เป็นการวางแผนรบก็พอใจแล้ว ซึ่งเราจะมองเห็นและเข้าใจว่านี้คือความรักที่ไม่หวือหวา แต่อบอุ่นใจระหว่างกัน ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ร้ายแรงสักเพียงใด ทั้งสองก็ไม่เคยทำให้การใหญ่เสียแผนเลย เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายทำสิ่งใดลงไปล้วนแต่มีเหตุผลทั้งสิ้น อีกฝ่ายจะรู้และคอยเป็นผู้ส่งเสริมให้มันเป็นไปในทิศทางที่ควรจะเป็นได้
และนอกจากความซาบซึ้งในความรักของคนทั้งคู่ ตอนพิเศษของเรื่องจะพาเราไปรู้จักความรักอีกแบบที่นางเอกได้รับ คือไม่คิดว่าจะมาเสียน้ำตา แต่ก็เสียไปนิดๆ ให้กับชีวิตในวัยเด็กของนางเอกค่ะ ที่ได้รับความรักอีกรูปแบบหนึ่ง แบบที่ทำให้เธอต้องยืนหยัดเป็นคนที่มีคุณค่าในสายตาคนอื่นให้ได้แบบนี้ ในความโชคร้ายก็ยังจะมีความโชคดีอยู่ในชีวิตนางเอกนะคะ แม้ในตอนพิเศษมันจะไม่ได้หวานแบบที่ทั้งสองจะใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากันแต่เพียงเท่านั้น หากการพูดถึงช่วงเวลานั้นของนางเอกก็ทำให้มันจบลงได้ตรึงใจมากขึ้นแม้จะมีรอยน้ำตาปนๆ ไปด้วยก็ตามที
ต้องบอกว่าคนเขียนเก่งนะคะ เขียนเรื่องแผนการรบได้ออกมาไม่ยากเกินกว่าที่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้เบาหวิวจนแบบว่าข้าศึกมันไม่รู้ได้ไงเนี่ย แผนตื้นๆ ซึ่งน่าจะดัดแปลงการศึกมาจากพวกวรรณกรรมจีนที่เกี่ยวกับการรบอย่างสามก๊ก ซึ่งเอามาใช้อ้างอิงและเปรียบเทียบในเรื่อง ฟีน่าอ่านสามก๊กไม่จบ เพราะมึนเสียก่อนเลยไม่รู้ว่ามีอะไรดัดแปลงมาใช้บ้าง แต่ที่แน่นอนคือการเปรียบเทียบพระเอกกับนางเอกเป็นเหมือนขงเบ๊งกับจิวยี่ คนเก่งสองคนที่ไม่น่าจะชอบขี้หน้ากันเท่าไร ดังนั้นพวกแผนการรบจะมาจากไหนหรือคิดเองก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าเนื้อเรื่องมันสนุกและน่าติดตามมากๆค่ะ อ่านแบบรวดเดียวเลยว่าจะไปลงเอยกันยังไงเนี่ย เมื่อสถานะของสองคนนี้เป็นผู้ชายทั้งคู่ในสายตาของคนทั้งประเทศ การจะให้นางเอกเปิดเผยตัวว่าเป็นผู้หญิงก็ไม่ได้ ซึ่งขำๆ เลยนะคะ ถ้าไม่คิดว่านี้เป็นนิยายแนวรักปกติ เรื่องนี้มันจะกลายเป็นแนววายได้ทันที ยิ่งช่วงนี้ฮิตด้วย ตัวนางเอกคงกลายเป็นนายเอกได้เลยโดย ซึ่งมันก็คงต้องลงเอยไม่ต่างกัน เพราะถ้าท่านแม่ทัพใหญ่ดันรักกับกุนซือหนุ่ม ก็คงไม่งามเท่าไร
แต่ที่คิดว่ามันดร๊อปไปนิดหนึ่งก็คือตอนจบค่ะ ก็รู้ว่าหนทางออกสำหรับเรื่องนี้มีแค่ทางเดียว ตามประสานิยายที่มีแต่ความลับแบบนี้ แต่มันง่ายดายไปนิด เรียกว่าเอางี้เลยหรือ ไม่มีใครแปลกใจเลยหรือ ไม่สงสัยอะไรกันบ้างเลย มันดูสมบูรณ์แบบไปนะ ทำให้สิ่งที่ขาดไปนิดหนึ่งคือการลงเอยกันแบบสมจริงสมจังของสองคนนี้เท่านั้นเองค่ะ
ซึ่งมันก็เทียบไม่ได้กับเนื้อเรื่องทั้งหมด เพราะมันสนุกมากค่ะ มีอะไรแฝงไว้ระหว่างการอ่านเสมอๆ ตั้งแต่ตนจนจบ เชิงอรรถของเรื่องก็พอควรเลยค่ะ แต่ทำให้เรารู้จักอะไรมากขึ้น โดยเฉพาะหลักสูตรเลขแบบจีนๆค่ะ อย่างในตอนแรกของเรื่อง ที่เรียกว่าหานซินนับทหาร หรืออะไรอีกหลายอย่างที่เล่มนี้เอาใช้เล่าเรื่องแล้วทำให้เรื่องน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมที่สุดค่ะ ส่วนความผูกพันและความรักของทั้งคู่เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งโดยที่ไม่ต้องมานั่งสบตาหวานซึ้งใส่กันเลย แต่มันอยู่ในใจของทั้งสองชนิดที่ถ้าไม่ใช่คนมองตาก็รู้ใจกันจะทำแบบนี้ไม่ได้ สมแล้วนะคะ ที่เรื่องนี้ใช้ชื่อเรื่องว่ากุนซือเคียงใจ ฟีน่าอ่านจบแล้ว อยากให้นิยามเลยว่า หากสามีเปรียบประดุจแม่ทัพใหญ่ผู้เกรียงไกร ภรรยาผู้รู้ใจก็เปรียบได้ดั่งกุนซือเคียงใจ