N e x t to t h e Beginn ing !!
แบลลล่.... โฮะ...โฮะ...โฮะ....ฮัลโหล...ฮับ...
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
26 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 

เที่ยว Egypt - Abu Simbel (เล่าเรื่องจากภาพ และ ความทรงจำ)

สวัสดีค่ะ....

หายไปนานเลยยย ....ช่วงนี้..... (^_^) ….
ไปเที่ยว Abu Simbel กันเลยดีกว่า+!




หลังจากเที่ยวเมือง Cairo ไปชม Pyramids, Sphinx, โรงงานผลิตหัวน้ำหอม (ส่งขายแบรนด์ดังในฝรั่งเศส และหลายประเทศในยุโรป) และ โรงงานทำกระดาษปาปิรุส (Papyrus) เราก็เข้าที่พักที่ Oasis Hotel …มาถึงก็รีบเข้านอนทันที เพราะ ต้องเตรียมตัวตื่นตอนตี 1 เพื่อ Check Out ออกจากโรงแรมตอนตี 2

ซึ่งเราจะได้รับแจก Food Box คนละ 1 กล่องใหญ่ (ขณะขึ้นรถบัสเพื่อไปสนามบิน) ข้างในก็จะมี น้ำ, น้ำส้ม, ส้ม, กล้วย, Bagle 2 อัน, ขนมเค้ก, ขนมปังกรอบ,....และ อื่นๆอีก ซึ่งไม่น่าจะทานได้..... คือ....ทานไม่ลงจริงๆ....รสชาติมันแปลกๆ ขนมปังก็แข๊ง...แข็ง....เราว่าเราเป็นคนทานง่ายนะ ยังทานไม่ค่อยจะได้เลยยยย (^_^!)

ประมาณเกือบตี 3 เราก็มาถึงที่สนามบิน Cairo เพื่อขึ้นเครื่องบินต่อไปยังเมือง Abu Simbel (จำได้ว่า หลับไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเอง ตื่นมาก็ งงๆ แล้วก็เที่ยวต่อกันเลย)



Abu Simbel - Great Temple of Ramses 2


Abu Simbel เป็นชื่อเมือง คือ ทั้งเมืองอยู่บนเกาะ เป็นที่ตั้งของ มหาวิหาร รามเสสที่ 2 (Great Temple of Ramses 2) ด้านหน้าวิหารจะมีรูปสลัก เป็นพระพักตร์ ของ Pharoah Ramses II ตั้งอยู่ 4 องค์ตรงทางเข้า โดยวิหารนี้ สร้างเพื่อถวายแด่เทพอามุนรา (Amon-Ra) เทพฮอรากาติ (Harmakes หรือ Harakhte) และ เทพ Ptah

- เทพอามุนรา (Amon-Ra) มีลักษณะ ใบหน้าเป็นมนุษย์ มีเครายาว ตรง และแหลม (เหมือน Pharoah) เครื่องประดับบนศีรษะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปลายยอดโค้ง โดยส่วนที่อยู่บนศีรษะ เป็นด้านกว้าง (คล้าย TEFNUT-Bundle of Feather แต่ต่างกันที่สี โดยสีของ TEFNUT เป็นสีทอง แต่ของเทพอามุนรา เป็นหลากสี)

- เทพฮอรากาติ (Harmakes หรือ Harakhte) มีลักษณะ ใบหน้าเป็นนก Falcon มีผมสีดำยาว) มีเครื่องประดับบนศีรษะ เป็น Solar Dish (รูปจานสีแดง มีขนาดใหญ่มาก)

เมื่อถ่ายภาพวิหารนอกจนเต็มที่แล้ว เราก็เดินเข้าไปข้างในกันเล้ยยย.....


Note * เนื่องจากไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพภายในวิหาร เพราะเกรงว่าแสง Flash จะไปทำลาย ภาพสลักที่กำแพงด้านใน (ข้อนี้ ขอบอกว่า เป็นความจริงที่แสง Flash สามารถทำลายกำแพงดินชั้นในได้ เนื่องจาก ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน หรือ คลื่นสั้น ลองคิดดู สมมติ มีคนร้อยคน กดแสง Flash แค่คนละ 1 ครั้งเท่านั้น 100 คน ก็คือ 100 แสง Flash จะทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนขนาดสั้นรวมกัน เกิดคลื่นสั้นที่มี Amplitude ขนาดใหญ่ และเพียงพอที่จะทำให้ผิวของกำแพงดินเกิดแรงสั่นสะเทือน และบุบสลายได้)

……คือว่า มีประสบการณ์ เคยไปเที่ยววัดถ้ำแห่งหนึ่งแถวๆ กาญจนบุรี (เป็นถ้ำจริงๆนะ มีพระพุทธรูป และวัตถุมงคลอยู่ในถ้ำ ภายในอากาศชื้น เย็นๆ เนื่องจาก มันมืดมาก จนมองไม่เห็นเพดานถ้ำ ไอ้เราก็อยากรู้ว่า เพดานถ้ำมันเป็นยังไง ก็เลยลองแหงนกล้องขึ้น กด Zoom in แล้วก็ แชะ! …แค่แชะเดียวนั้นแหละ ร่วงลงมาเป็นดินเลย..... แล้วดันร่วงลงมาบนเลนส์กล้อง (และบนศีรษะเรา) พอดี๊เลยยย....อืมมมมม........น ะ....

ก็ประมาณนั้นล่ะนะ ก็เลยไม่มีภาพข้างในค่ะ..... (^_^)



Abu Simbel - Great Temple of Ramses 2


ด้านใน, เมื่อเข้าไปจะพบเป็นลักษณะห้องโถงยาวลึกเข้าไปในตัววิหาร มีเทวรูปขนาดใหญ่ยักษ์เรียงราย อยู่สองข้างทางเดิน เพดานมีรูปวาดเป็นภาพนกซึ่งทุกตัวล้วนมีปีกขนาดใหญ่ โดยมีความหมายถึง “ ผู้พิทักษ์ (Security Guard)” ตามผนังห้อง และเพดาน เต็มไปด้วยภาพเขียน/ภาพสลัก เล่าถึงเรื่องราวต่างๆ มากมาย บางภาพก็เล่าถึงเหตุการณ์ และพิธีกรรม เล่าเรื่องราวของเทพเจ้า เรื่องราวของ Pharoah ......เห็นแล้ว ให้ความรู้สึกที่สงบ “ ทึ่ง ” ....บางที มีความรู้สึกแว้บเข้ามาในหัวว่า ....ใครนะเป็นคนวาด/สลักรูปนี้ เขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาใช้เครื่องมืออะไร ยากไหม เหนื่อยไหม ...เขาคิดไหมว่า อีกหลายพันปี (ประมาณ 5,000 ปี) ต่อมา ผลงานที่เขาสร้างยังคงอยู่ และจะอยู่อย่างนั้นตลอดไป (จนกว่าโลกจะบึ้ม หรือน้ำจะท่วมโลกอีกครั้ง) เหมือนไม่ใช่ความคิดนะ เป็นความรู้สึกเสียมากกว่า....

บริเวณปีกข้างของโถง ยังคงเป็นทางเดิน ถัดจากทางเดินลึกเข้าไปข้างใน มีทางเดินเล็กๆ เชื่อมกับห้องโถงขนาดเล็ก ภายใน ทั้งเพดาน และผนังดิน เต็มไปด้วยภาพเขียน/ภาพสลักเช่นกัน....และก็ยังเชื่อมต่อกับห้องโถงต่างๆอีกมากมายจนทั่วบริเวณวิหาร

ตรงไปยังส่วนที่ลึกสุดของวิหาร จะพบรูปปั้นอยู่ 4 องค์ (เป็นองค์ Pharoah และครอบครัว) ในทุกๆวันที่ ??? (จำไม่ได้ แล้วจะค้นคว้าอีกที, เข้าใจว่าเป็นเดือน July นะ ถ้าจำไม่ผิด) แสงอาทิตย์ส่องเป็นเส้นตรงเข้ามาภายในวิหาร ซึ่งจะตรงกับ รูปปั้น 4 องค์นี้พอดี…. เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากๆๆ เป็นเรื่องของการคำนวนทางดาราศาสตร์โบราณที่น่าอัศจรรย์ทีเดียว....

หลังจากนั้น เราก็ นั่งเครื่องจาก Abu Simbel กลับไปยัง Aswan เพื่อลงเรือต่อไปยัง Luxor (นั่นคือ เรานั่งเครื่องจาก Cairo มายัง Abu Simbel เพื่อมาดูมหาวิหารนี้เพียงอย่างเดียวจริงๆ)

ถ้ามาถึงที่นี่ (นอกเหนือจาก Pyramids) ก็แปลว่า....คุณได้มาถึง Egypt แล้วล่ะ.....(^_^)



ภาพถ่ายขั้นตอนการขุดค้น ตัด และประกอบ มหาวิหาร จากใต้น้ำสู่แผ่นดิน


คือ... ในตอนแรก มหาวิหารก็ตั้งอยู่บนแผ่นดินปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจากร้อยปีเป็นพันปี จากพันปีเป็นหลายพันปี พลวัตรของโลกเปลี่ยนแปลง แผ่นดินถูกแทนที่ด้วยแผ่นน้ำ เกิดการทับถมกันอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ มหาวิหารแห่งนี้จมอยู่ใต้น้ำ (ภายใต้การดูแลของ Lake Nasser )

ต่อมา ในวันที่ 22 May ค.ศ. 1813 ชาว Swiss ที่ชื่อ Johann Ludwig Burckhardt ได้สำรวจพบรูปปั้นขนาดยักษ์นี้ในส่วนที่เป็นศีรษะโผล่พ้นขึ้นมาจากผืนดิน (ซึ่งอยู่ใต้น้ำ) จึงได้มีการขุดค้นต่อลงไป จนกระทั่งนวันที่ 1 August ค.ศ. 1817 ชาว Italian ที่ชื่อ Giovani Battista Belzoni ได้สำรวจเจอในส่วนที่เป็นทางเข้าวิหาร (Doorway)

เนื่องจาก จมอยู่ใต้น้ำ และไม่สามารถนำขึ้นมาได้ทั้งหมดพร้อมกัน ทีมนักสำรวจจึงร่วมกับทีมวิศวกร ทำการตัดแบ่ง รูปปั้นขนาดยักษ์นี้ ออกเป็นส่วนๆ แล้วค่อยๆกู้ขึ้นมาเหนือผิวน้ำทีละส่วน จนครบทั้งหมด แล้วนำมาประกอบกันบนแผ่นดิน โดยทำการขุดเจาะเนินเขาเพื่อเป็นสถานที่ตั้งแห่งใหม่ของวิหารแห่งนี้

ถ้ามองใกล้ๆไปที่ 4 รูปปั้นขนาดยักษ์นี้ (ของจริง) จะเห็นรอยตัดดังกล่าว เป็นส่วนๆอย่างชัดเจน...



วิหาร Hathor ที่ Pharoah Ramses II สร้างเป็นเกียรติแก่ราชินี Nefertari


The Temple of Hathor เป็นวิหารขนาดเล็ก ที่มีขนาดรูปปั้นขนาด 65 Meters (ด้านหน้า) ของ Pharoah Ramses II และ ราชินี Nefertari ตั้งอยู่สลับกันไป …โดยวิหารแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่ Pharoah Ramses II มีต่อ ราชินี Nefertari (อารมณ์คงคล้ายๆ ทัชมาฮาร์ล ที่ India)

วิหารนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิหาร Abu Simbel มากนัก

ภายในตัววิหาร มีภาพเขียน/ภาพสลัก เป็นนัยยะในการเล่าเรื่องราว และเหตุการณ์ต่างๆในยุคนั้น มีความเชื่อเกี่ยวกับศาสนา ที่เกี่ยวโยงมาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตในธรรมชาติ นับถือสัตว์ใหญ่บางชนิดเป็นเทพเจ้า เช่น เทพจระเข้ (เทพ Sobek, เพราะ สมัยก่อน จระเข้เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ดุร้าย รุนแรง และมีอำนาจต่อชาว Egypt ยุคนั้นอย่างมาก) นอกจากนี้ ยังนับถือสัตว์อื่นๆ เป็นเทพเจ้า เช่น หมาไน (เทพ Anubis) นก Falcon (เทพ Harakhte) สิงห์โต (เทพ Sekhmet) เป็นต้น



เป็นบริเวณรอบๆ มหาวิหาร


บริเวณรอบๆ แดดแรงมาก ลมก็แรงเช่นกัน แนะนำว่าให้ใส่เสื้อผ้าร่ม คือ ใส่กันลม และก็ไม่ร้อนจนเกินไปที่จะใส่กันแดด ....อากาศที่นี่ร้อนและเย็นในเวลาเดียวกัน (อากาศกลางทะเลทราย ห่างไกลจากทะเล มักรุนแรงเช่นนี้เสมอ) แว่นกันแดดก็มีประโยชน์มาก ร่มไม่ต้องนำไป เพราะใช้ประโยชน์ได้น้อยมากในสถานการณ์นี้ .....อ้อ...อย่าลืมพกน้ำติดตัวไปด้วยนะคะ เพราะ ร่างกายอาจขาดน้ำ หรือ Dehydrate ได้....



Thank you for visiting…


เจอกันใหม่ Blog หน้า ค่ะ(^_^)


- จบตอน –
ตอนถัดไป (Next Chapter): How to make Papyrus, Key of Life Story


.




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2551
6 comments
Last Update : 27 มิถุนายน 2551 18:59:43 น.
Counter : 1334 Pageviews.

 

อ่านตอนแรกและมาอ่านตอนนี้ต่อ
พอดีกำลังจะไปเที่ยวอียิปต์เหมือนกัน
ข้อมูลคุณละเอียดดีจังเลยนะคะ
มารอตามตอนต่อไปใจจดจ่อค่ะ
ถ้าอัพแล้วไปสะกิดที่บลอคได้ไหมคะ
อยากมาอ่านต่อค่ะ

ป.ล. ไปกับทัวร์หรือคะ ดีหรือเปล่า
ทัวร์อะไรคะ ถ้าไม่รบกวนเกินไป
ฝากบอกทางหลังไมค์ก็ได้นะคะ

ขอบคุณมากเลยค่ะ

 

โดย: นางสาวดุ่บดั่บ 21 กรกฎาคม 2551 18:24:03 น.  

 

ยีอิปย์ นี่มีมนขลัง จังเลยค่ะ..

 

โดย: เป็นแม่ซะที (jaja_th10 ) 16 สิงหาคม 2551 11:52:35 น.  

 

แอบตามไปเที่ยวด้วยครับ

 

โดย: นภาการณ์ IP: 202.91.19.205 24 สิงหาคม 2551 9:48:19 น.  

 

เข้ามาอ่านข้อความของน้องหนู คิดถึงจังอ่ะ ไม่เจอกันนานแล้วนะคะ ตั้งแต่อยู่ที่ ชิคาโก้ ได้รับข้อความนี้แล้ว เมล์มาหาบ้างจิ จะได้ติดต่อกันไง
พี่หญิงรวิจ้า

 

โดย: pee wi IP: 124.121.149.187 17 พฤศจิกายน 2551 11:13:34 น.  

 

ไม่ได้คุยกันนานเลย ....ยังชอบเที่ยวเหมือนเดิมนะ

 

โดย: O_O IP: 58.9.193.69 7 ธันวาคม 2551 14:28:48 น.  

 

 

โดย: โสมรัศมี 29 มกราคม 2552 17:20:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


birdchicago
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เราเชื่ออยู่ 5 ข้อ:

1. คนเรา...ทำงานไม่เกินอายุ 60 ปี (จงทำทุกอย่างที่อยากทำ)
2. คนเรา...ไม่ได้มีชีวิตอยู่เกิน 100 ปี (จงอย่ายึดติด ปล่อยวางบ้างก็ได้)
3. คนเรา...ฟ้าลิขิตมาแล้วจะให้เป็นอะไร จึงดลใจให้เรากำหนดตัวเองอย่างนั้น (อย่าดิ้นรนเกินตัว)
4. อะไร...ที่เป็นของของเรา ยังไงมันก็เป็นของเราอยู่วันยังคำ (อย่าทรมานตัวเองเพราะคำว่า "ไม่มี ไม่ได้")
5. ชีวิตยังมีอีกหลายด้าน (มามัวจมกับด้านเดียวซำๆทำไม)



เข้า Blog ครั้งสุดท้ายเมื่อ 21 มีนาคม 2552






Freedom Fog:



1.เปลี่ยนมุมมองดูบ้าง

2. ลองทำอะไรแปลกๆ

3. ลองทำสิ่งที่ไม่ถนัดบ้าง

4. สร้างสรรค์

5. อยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ

6. กล้าคิดออกจากกรอบ

7. อย่าให้อุปสรรคใหญ่เกินตัวเรา

8. อย่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่า









http://phenixx.bloggang.com


Yahhh!! Yahhh!! Yahhh!!








~!@#$%^&*(+~?......-/#฿@6.....YoO!...YoO! BC’s Live Radio 24 hrs
RIT Online
1 min of my favorite Russian piece
Joe (วง Pause): เติมใจให้กัน
. . . . . . . . . . . .












Hi, Wazzz uppp??... BC’s Hits!

<img src="http://i122.photobucket.com/albums/o269/birdchicago/OOO/Like.jpg">
Wow!....WoW!
Friends' blogs
[Add birdchicago's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.