มุมพักผ่อนของคนอยากเขียน
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
3 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
เพียงเปิดใจ 7

บทที่ 7


เรื่อย เรื่อย


    แดดอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้าตรู่ช่วยให้แสงที่ลอดผ่านห้องพักดูสวยขึ้นมาจับตา พีร์ธาดาไม่รอช้าที่จะกดชัตเตอร์เก็บภาพตรงหน้านี้เพื่อส่งต่อให้เจ้าของสถานที่ เธอมักตื่นเช้าแบบนี้เสมอทั้งที่เกลียดการตื่นเช้า แต่มักอดไม่ได้ที่จะหาสถานที่สวยๆ เป็นโลเกชั่นในการถ่ายรูป เพราะแดดยามเช้ามันส่งให้รูปที่ถ่ายมาสวยที่สุด


    เมื่อแดดเริ่มแรงก็ถึงเวลาที่ต้องจบจากการถ่ายภาพบ้านพัก เธอเปลี่ยนมุมไปถ่ายที่สปาแทน สปาที่นี่ถือว่าครบวงจรทีเดียวทั้งการตกแต่งสถานที่สไตล์บาหลี ทางเดินที่คล้ายเขาวงกตล้อมรอบด้วยมวลหมู่ไม้เลื้อยช่วยให้สถานที่นี้เย็นตาขึ้นอีกโข เตียงตั้งพื้นบนศาลาหินอ่อนหลายจุดทำให้ดูเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การมาพักร้อนที่สุด


    พีร์ธาดาเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ จนมาเจอครอบครัวของอดีตคู่หมั้น 'เพื่องาน' ภาพตรงหน้าทำให้หญิงสาวรู้สึกใจหายขึ้นเล็กน้อย ผู้ชายหัวหน้าครอบครัวอุ้มเด็กหญิงตัวเล็กไว้ พร้อมจับมือภรรยาสาวกำลังนั่งลงแช่เท้าอยู่ ครอบครัวดีจัง พีร์ธาดายกกล้องขึ้นมาเก็บภาพโดยอัตโนมัติ


    "อิจฉาหรือไง"


    "แถวนี้ก็ไม่มีหมา ทำไมถึงได้ยินเสียงเห่าก็ไม่รู้" พีร์ธาดาทำพูดลอยหน้าเซ็ง เมื่อหันไปเห็นต้นตอของเสียง


    "โห เจ็บเลย... พีช ผมหิวข้าว"


    "หน้าฉันเหมือนชาวนาเหรอคุณ ฉันไม่ได้ผลิตข้าวนะ แต่ถ้าคุณหิวมากก็เล็มหญ้าแถวนี้ไปก่อนแล้วกัน"


    "ชมผมเป็นกระต่ายอีกแน่ะ ไปกินข้าวกันพีช ผมหิวแล้ว มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง"


    "อเมริกันแชร์ ฉันไม่อยากติดหนี้บุญคุณคุณอีก"


    พูดจบพีร์ธาดาก็เดินนำก้องภพไปยังร้านอาหารของรีสอร์ท ก้องภพได้แต่ยิ้มและเดินตาม ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าพีร์ธาดายังไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เช้า ก็เข้าเฝ้าดูเธอมาตลอดนี่ จนต้องกันเธอออกจากภาพที่คิดว่าคงบาดใจ



    "อินโทรบอกผมว่าจะเดินทางมาวันนี้ คงถึงเย็นหน่อย" ก้องภพพูดขึ้นเมื่อสั่งอาหารเสร็จ


    "ทำไมอินไม่โทรเข้าเครื่องฉันเองล่ะ" พีร์ธาดาสงสัยก่อนควานหาโทรศัพท์ตัวเอง


    "อินว่าพีชไม่รับสาย พีชไม่ได้เอามือถือมาเหรอ"


    "อือ ฉันลืมไว้ในบ้านพัก เอ้อ... แล้วยัยอินรู้ได้ไงว่าคุณอยู่นี่" พีร์ธาดาหลี่ตามองก้องภพอย่างสงสัย


    ก้องภพยิ้มยักคิ้วให้พีร์ธาดาก่อนตอบคำถาม "อย่ามาคิดอุตริเชียว ผมกับอินคุยกันประจำ ไม่เหมือนพีช หรอก อยู่ดีๆ ก็หายไปเลยจนคิดว่างอนผม"


    "บ้า ใครเขางอนคู้ณ หลงตัวเองมากไปเปล๊าาาา" พีร์ธาดาสวนทันทีด้วยเสียงสูงเกินเหตุ แล้วเสียงจะสูงไปไหนเนี่ยย


    โอยหมั่นไส้ "หึ... แล้วไอ้เรียกคุณๆ ฉันๆ นี่ผมยังถือว่าพีชงอนผมอยู่น่ะครับ คุณพีร์ธาดา"


    "สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมากุ้ง กับลาซานญ่าไวท์ซอสเห็ดครับ" เด็กเสิร์ฟนำอาหารมาเสิร์ฟทั้งคู่ เหมือนเป็นการยุติสงครามย่อมๆ ไม่โดยปริยาย


    ก้องภพมองภายสาวตรงหน้าสวาปามกินอาหารยังกับตายอดตายอยากมาจากที่ไหน ทั้งสปาเก็ตตี้ พาสต้า แถมของหวานนั่นอีก เขารู้ว่าเธอกระเพราะใหญ่เกินตัว หลายครั้งที่มีหนุ่มเข้าเกียร์ถอยหลังเมื่อเห็นการกินของสาวสวย นี่ถือเป็นความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของเจ้าหล่อน เหมือนพีร์ธาดารู้ตัวว่าถูกจ้องมองจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตาหนุ่มตรงหน้า


    "ฉันไปแย่งรำคุณกินหรือไง จ้องไม่เลิก"


    วันนี้เขาเป็นสัตว์ไปสามชนิดแล้ว "เมื่อไหร่จะเรียกผมเหมือนเก่าเสียที"


    "... เรียกแบบนี้แหละดีแล้ว เรียกเหมือนเก่าเดี๋ยวสาวๆ คุณเสกหนังควายเข้าท้องฉันพอดี... ผู้หญิงคนนั้น สวยดีนะ"


    "ผมไม่ชอบให้พีชเรียกผมแบบนั้น แล้วผมก็บอกไงว่าผมโสด โสดสนิท เข้าใจไหม" คนไหนหว่า หรือว่าพีชเห็น


    "โอ๊ย น่าเบื่อ อิ่มแล้วเก็บตังค์เลยดีกว่า ไปๆ ฉันต้องทำงานต่อ"


    "อาหารฟรีครับ ถือเป็นโปรโมรชั่นที่พีชมาถ่ายรูปให้รีสอร์ทพี่" พีร์ธาดาสะดุ้งโหยงหันขวับไปยังเสียงคุ้นเคย


    กรกฏเดินเข้ามาพร้อมภรรยาและลูกของเขา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตั้งแต่เดินถ่ายรูปที่สปาของเขา แต่หากต้องทำเป็นไม่สนใจ เขานั่งสักพักก่อนจะบ่นกับภรรยาว่าหิวแล้วพากันมากินอาหารที่รีสอร์ท


    "สวัสดีคะคุณปิง คุณพลอย" พีร์ธาดาจำต้องต้อนรับครอบครัวตรงหน้าด้วยท่าทางยิ้มแย้ม


    "สวัสดีคะคุณพีช น้องแนตไหว้พี่เขาสิลูก" พลอยจันทร์หันไปบอกลูกสาวในอ้อมอกของสามี


    "ดีจ้า" เสียงใสเล็กพูดไม่ชัดลอยขึ้นทักทายพีร์ธาดา หล่อนรู้สึกเอ็นดูเด็กหญิงตัวเล็กแก้มอูม ผิวขาวอมชมพู ผูกเปียสองข้าง ออกเจ้าเนื้อหน่อยๆ น่ารักจังวุ้ย


    "สวัสดีจ้า น่ารักจังเลย" ถึงจะมีปัญหากับผู้ใหญ่ แต่ใช่ว่าเด็กจะรู้เรื่องด้วย "มาทานข้าวเหรอคะ งั้นพีชขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะคะ" พีร์ธาดาตอบพยักหน้าก่อนหยิบกล้องประจำตัวขึ้นมาสะพาย โดยทิ้งตัวชายหนุ่มคู่เดตจำเป็นไว้กับครอบครัวน้อย


    แต่ก่อนจะออกไปจากร้านก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองภาพที่ทำสาวเจ้าใจเต้นรัวได้อีกครา ก้องภพอุ้มสาวน้อยชูแขนขึ้นก่อนจมหน้าลงกับพุงน้อยของเด็กหญิง เสียงหัวเราะกังวานของทั้งคู่อาหลานต่างสายเลือดเป็นภาพที่เธออดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์ไปหนึ่งที ก่อนมองเลยไปสบตาตัดพ้อของพ่อของเด็กน้อย เธอส่งสายตากลับให้เขารู้ ขอเวลาพีชอีกนิดนะค่ะ พี่ปิง


    พีร์ธาดาเดินเหม่อลอยกดชัตเตอร์อย่างไม่ตั้งใจไปเรื่อยเปื่อย เธอรู้ว่างานครั้งนี้คงออกมาแย่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา แต่ทำอย่างไรได้ก็เธอไม่มีสมาธิเอาเสียเลย หญิงสาวพยายามเลี่ยงการพบหน้าหรือพูดคุยหลายครั้ง แต่ครั้งคงเลี่ยงไม่ได้ ก็ดี คุยให้รู้เรื่อง แล้วจบ พอเสียที แปลกแต่จริงที่เธอไม่รู้สึกเจ็บที่หัวใจสักนิด แค่ใจหายเท่านั้นเอง...


    แถมคนที่เดินตามหลังชนิดที่หายใจรดต้นคออีกก็... เป่าลมใส่หัวเธออีก กวนมาก


    "ตามฉันมาทำไม อยากอยู่คนเดียว ไปไกลๆ ชิ่ว ชิ่ว" พีร์ธาดาส่งสายตาเฉยเมย ใบหน้าเบื่อหน่าย พร้อมโบกมือไล่ให้คนที่เดินตามหลังไม่ยอมแยกไปไหน


    "ไล่ผมยังกับหมาเลยนะคุณ ให้ผมไปไหนล่ะ อยู่กับคุณดีกว่า เผื่อคุณเหงาไง"


    "ฉันไม่ได้ว่าคุณเป็นหมาสักหน่อย" แหม น่าระรื่นเชียว "แต่ฉันคิดอยู่ว่าคุณเหมือนเห็บต่างหาก... ก็ไปอยู่กับสาวน้อยตัวเล็กนั่นไง เห็นเมื่อเช้าอี๋อ๋อกันอยู่ที่สระน้ำของรีสอร์ทนิ ทำไรไม่อายฟ้าอายดิน" สะใจที่ได้กัด แต่ทำไมเธอพูดไปกลับรู้สึกแย่ไป


    ก้องภพสะดุ้งเฮือก นั่นพีร์ธาดาเห็นจริงๆ ด้วย เขาอยากบอกว่าพยายามไม่ยุ่งกับเจ้าหล่อนแล้ว แต่คุณเธอเล่นจู่โจมเขาเสียขนาดนั้น ทั้งชุดบีกีนี่สีฟ้าสดตัวจิ๋ว แถมเนื้อแนบเนื้อยามแม่สาวไฟแรงสูงว่ายมาเกาะแกะเขา ใครจะไปคิดว่าแค่ลงมาว่ายน้ำยามเช้าจะเจออะไรที่เกินคาดขนาดนั้น ส่วนไอ้เขาก็ผู้ชายคนหนึ่งจะอดใจได้ขนาดไหนกันเชียว แฟนหรือก็ไม่มี สักนิดสักหน่อยจะเป็นอะไรไป ขนาดเขาว่ามองลาดเลาดีแล้วนะแต่ดันเป็นคนที่ไม่อยากให้รู้มารู้เสียอีก


    ก้องภพเอามือทั้งสองข้างไพล่กอดไว้ที่หน้าอก เอียงหน้าลงสามสิบองศา เบี่ยงตัวไปด้านข้างเล็กน้อยก่อนช้อนตาขึ้นส่งประกายความเขินอาย ซึ่งท่านี้เขายอมรับเลยว่ามัน 'ทุเรศ' มากกกกก "พีชเป็นนักสืบด้วยเหรอ ผมชักกลัวแล้วนะ ตามดูพฤติกรรมผมด้วยอ๊ะ" แก้เกมโดยการโยนความผิดให้หล่อนซะอย่างนั้น


    และผู้คุมเกมก็ยังคงตกอยู่ในมือสาวนามพีร์ธาดาต่อไป เมื่อเธอส่งสายตาเหยียดๆ ให้เป็นรางวัล ก่อนหลับตาลง “เลิกทำท่านั้นเมื่อไหร่บอกฉันนะ... เดี๋ยวภาพมันติดตา” พอได้ยินเสียงหัวเราะของชายหนุ่ม เจ้าตัวก็เปิดตาอีกครั้ง “เอาเวลาที่จะสืบคุณ ไปหาเหาให้ไอ้อินยังมีประโยชน์มากกว่าเลย... คิดมาได้ ที่สาธารณะนะคู้ณณณ แล้วฉันไปทำงาน แล้วดันไปบังเอิญไปเห็นเข้า เสียสายตาชะมัด”


    "หึงเหรอครับ"


    พีร์ธาดาทำได้เพียงกลอกตาขึ้น ก่อนถอนลมหายใจอย่างเบื่อหน่ายกับภาพตรงหน้า "หลงตัวเอง... คุณจะทำอะไรกับใครก็เรื่องของคุณ เอาเป็นว่าฉันจะคิดว่ามันฝันร้ายที่ผ่านมาแล้วเดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้วกัน"


    "เรื่องบางเรื่องก็ไม่ใช่อย่างที่ตาเห็น แต่บางเรื่องมันจริงกับความรู้สึก ระหว่างผมกับพีชมันไม่ใช่ความฝันหรอกครับ" เมื่ออยู่ดีเธอก็พูดอะไรฝันไป ก้องภพก็สรุปได้ว่ามันชักจะไม่สนุกแล้วสิแต่… "วันหลังพีชลองใส่บิกีนี่ว่ายน้ำกับผมสิ เดี๋ยวผมช่วยดูแลพีชเอง"


    เธอเริ่มขมวดคิ้ว หลี่ตาเงยมองหนุ่มสูงตรงหน้า พลางพูดเสียงลอดผ่านไรฟัน"... เพ้อ ฉันจะไปทำงานแล้วไม่ต้องตามมาอีกนะ ไม่มีสมาธิ !!" โดยไม่รอคำตอบ เธอก็หันหลังเดินเร็วลงชายหาดทันทีด้วยความหงุดหงิดสุดขีด ไหนว่ารักเราแล้วทำไมยังไปต่อร่อต่อซิกกับคนอื่นอยู่อีกเล่า หึงชะมัด... หึง หึง !! นี่ฉันหึงเหรอ


    "คร้าบบบบบผม โชคดีนะจ๊ะ" ก้องภพตะโกนตามหลังหญิงสาว


    เฮ้อ ที่แท้เพราะแม่สาวหุ่นดินระเบิดนั่นเอง สาวขี้โมโหหันไปมองชายหนุ่มแล้วเห็นว่าเขากำลังยืนคุยอยู่กับสาวตัวเล็ก ทว่าหุ่นไม่เล็กคนเมื่อเช้าอยู่ แล้วทำไมมือไม้นั่นต้องลูบไปมาตรงอกของพี่ก้องด้วยเนี้ย เธอยอมรับเลยว่าไม่พอใจกับสิ่งเห็นอย่างมาก ยิ่งเมื่อก้องภพหันมามองสบตาเขาในเชิงว่า ขอโทษด้วย ผมมันคนเสน่ห์แรง แถมยักไหล่ให้อีกนั่น พาลให้เธอหงุดหงิดมากขึ้นสามเท่าเลยทีเดียว กวนประสาทเอาโล่ห์ ฮึ


    ถ้างานฉันโดนคอมเพลนมานะ ฉันจะกระโดดงับหูนายแน่นอน ไอ้พี่ก้องบ้า


    พีร์ธาดาต้องยอมรับกับตัวเองว่าไม่สามารถบิ้วด์อารมณ์ให้หันมาสนใจมุมต่างๆ ได้อีก เธอทำได้เพียงเดินไปเรื่อยๆ ในหัวคิดเรื่องเรื่องก้องภพไปมา ชะนีเอ็กซ์ที่สระน้ำเมื่อเช้า (ชื่อใหม่ที่เจ้าหล่อนตั้งให้) สาวผมทองเมื่อตอนกลางวันที่ยักคิ้วให้เขา หญิงหน้าหมวยเมื่อวานเย็นตอนนั่งกินข้าว เธอคำนวณคร่าวๆ น่าจะเป็นสามเชื้อชาติ โห เหะ นี่แค่วันครึ่งนะเนี้ย พี่ก้องนี่เสน่ห์แรงจริงๆ น่าหมันไส้ชะมัด


    จากอดีตแล้วปกติเธอไม่เคยจะสนใจเลยสักนิดว่าก้องภพจะควงใคร หรือคบกับใครรึเปล่า เธอรู้ว่าชายหนุ่มเสน่ห์แรงขนาดไหน เขาเป็นผู้ชายยิ้มหวาน หน้าคม ไว้หนวดเคราดูเป็นแบดบอยนิดๆ มีความดิบเถื่อนอยู่ในตัวจากนิสัย เธอรู้ว่าสาวแทบทั้งหมดเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเขาเอง เขาเคยบอกว่ากับพีร์ธาดาและอินทิราว่าเขาพอใจจะควงคนไหน หรือจะไปไหนกับใครก็ได้ และเขามีข้อตกลงกับพวกหล่อนเสมอ เพราะเขาก็เป็นผู้ชายและต้องการปลดปล่อย... แต่จะไม่มีผู้หญิงคนไหนเลยที่เขาเรียกว่าแฟน เพราะเขามีคนที่อยู่ในใจอยู่แล้ว


    และเธอเพิ่งจะได้ข้อสรุปสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในใจเขาเมื่อเร็วๆ นี้เอง ซึ่งนั่นก็คือเธอ พีร์ธาดาพยายามสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านที่มีแต่ชายนามก้องภพออกจากหัว เพราะปัจจุบันเธอกลับหยุดคิดเรื่องของชายหนุ่มไม่ได้เลย... แต่โชคยังดีที่ได้ยินเสียงสวรรค์ลอยแว่วแทรกมาละลายความคิดได้ทัน ก่อนเธอจะหันกลับไปยิ้มหน้าบ้านตะโกนเรียกชื่อตอบคืน


    "ยัยพีชชชชชชชชชชชชชชชชช" เสียงตะโกนใสเรียกชื่อหล่อน ทำให้พีร์ธาดาต้องถอนหน้าออกจากกล้อง


    "ยัยอินนนนนนนน มาถึงแล้วเหรอ นี่เพิ่งจะบ่ายสามกว่าเอง โอ๊ยเบาๆ เดี๋ยวฉันล้ม" อินทิราวิ่งเข้ามากอดเพื่อนโดยไม่สนใจสายตายของหนุ่มๆ แถวที่มองพีร์ธาดาอยู่แล้ว แถมอิจฉาพ่วงไปด้วยเมื่อสาวสวยพริ้งกับสาวน่ารักกอดกันกลม และอินทิรายังไม่สนใจกล้องราคาเป็นแสนที่พีร์ธาดาชูสุดหัวเพราะกลัวกล้องตกมาพัง


    "คิดถึงแกอะ พอมีงานก็ไม่เห็นหัวเพื่อนเลยนะยะ"


    "คิดถึงแกแล้วเงินไม่มา ฉันสู้คิดถึงงานดีกว่า"


    "ปล่อยได้แล้วมั้ง สงสารสายตาหนุ่มพวกนั้นบ้างเหอะ มองกันน้ำลายหกแล้ว" ก้องภพพยักหน้าพร้อมส่งสายตาอำมหิตไปทางกลุ่มชายหนุ่มที่ดูท่าจะเป็นนักศึกษาที่จ้องมองสองสาวตาไม่กระพริบ


    พีร์ธาดาทำได้เพียงส่งค้อนให้เขา แผลงฤทธิ์ไม่ได้มากนักเพราะอินทิรายังไม่ยอมปล่อย


    "ช่างหัวเขาปะไร อิจฉาอินเหรอ... แล้วอะไรเนี้ย อุตส่าห์ช่วยชีวิตจากแม่อกภูเขาไฟไว้ ยังไม่ขอบคุณน้องเลยนะ" อินทิราต่ออย่างไม่ยี่หระ


    "ทวงบุญคุณเลยนะยะหล่อน อยากได้อะไรล่ะ เดี๋ยวหามาเซ่นให้" ก้องภพตอบพลางเอามือยีหัวอินทิราอย่างมันเขี้ยว


    "โอ้ย หัวอินยุ่งหมดแล้ว... ไม่เอาอะไรหรอก ล้อเล่นน่า... หยุดหว่านเสน่ห์บ้างนะพี่ชาย สงสารคนตามล้างตามเช็ดมั่ง" อินทิราตอบหน้ายู่


    ชายหนุ่มทำหน้าหรอหรา ตาเหลือบมองสาวสูงโปร่งที่อยู่ห่างไม่มากนัก ก้มลงบ่นเสียงเบาอย่างจงใจให้ได้ยินแค่อินทิรา "อะไรมาโยนให้พี่ พี่อยู่ของพี่เฉยๆ เขาก็มากันเองนะ นี่ก็พยายามเลือกแล้วนะเนี้ย... ปลดปล่อยบ้าง อะไรบ้าง เดี๋ยวมันตัน"


    สาวร่างเล็กเอามือยันหน้าพี่ชายตัวดีที่ชอบมีสาวมาพัวพันอยู่เรื่อยให้เงยกลับไปที่เดิมอย่างหมั่นไส้กับคำตอบที่ได้รับ "บ้าง อะไรบ้าง หลายบ้างเหลือเกินนะพี่ฉัน ดูพี่ก้องดิไอ้พีช ผู้ชายอะไรหน้าหนาชะมัด พูดเรื่องพวกนี้ได้หน้าตาเฉย" เงียบไร้เสียงตอบรับ สาวเจ้าหันไปมองหน้าเลื่อนลอยของเพื่อนก่อนเรียกอีกครั้ง "พีช... พีชพีร์ พีร์ธาดา ไอ้พีช !!"


    "เฮ้ย อะไร เบาๆ ก็ได้อยู่ใกล้แค่นี้ทำไมต้องตะโกนด้วย" หล่อนสะดุ้งแล้วเอามือแยงหูตัวเอง


    "ฉันเรียกแกตั้งนานแล้ว แกเหม่ออะไรของแก หา"


    ก็จะให้เธอบอกได้ไงว่าเห็นหล่อนต่อล้อต่อเถียงกับหนุ่มที่สูงมากกว่าฟุตอย่างอิจฉา แถมเขายังเอ็นดูเจ้าหล่อนมากขนาดนั้นอีก หูมันเลยอื้อชั่วขณะโดยไม่ทราบสาเหตุ


    "ปะ เปล่า เออแก วันนี้ฉันเจอทินกรด้วย" ขวัญเอ๋ยขวัญมา เข้าเรื่องเสียที กลับสู้สภาวะปกติได้แล้ว


    "เหรอ... แต่ฉันเลิกกับพี่ทินแล้วล่ะ" อินทิราตอบเสียงเนือยๆ "ไม่ได้ติดต่อกันมาจะสองเดือนแล้ว ช็อคอยู่เหมือนกัน แต่ก็... ช่างมันเถอะ อีกอย่าง ยื้อต่อไปไม่ไหวแล้วด้วย เขาก็ไม่ได้ผิดอยู่ฝ่ายเดียวหรอก... "


    "ฉันเห็นเมียกับลูกนายนั่นด้วย" เจ้าตัวขัดเข้าประเด็นเดิมต่อ เหมือนไม่ได้สนสิ่งที่เพื่อนสาวพูดเลย


    ได้ผล อินทิราเกิดอาการหน้าเกร็ง คิ้วขมวด ฟันบนกัดปากล่างแน่น อันเป็นลักษณะประจำตัวเวลาที่หล่อนไม่พอใจอะไรบางอย่างมากเป็นพิเศษ


    "เลว แหมตอนบอกเลิกพูดซะฉันรู้สึกแย่เลย พี่ไม่เหมาะกับอินอย่าโง้น ฐานะทางสังคมเข้ากับอินไม่ได้อย่างงี้ ทุเรศ ที่แท้เก็บลูกเมียไม่บอกฉันสักคำ ปล่อยให้ฉันมีเขาเหมือนแกอยู่ตั้งนาน ลูกโตยัง"


    เออ พาลมาเข้าพวกกับเธออีก "น่าจะสักสองขวบแล้ววะ มีในท้องอีกด้วยนะน่าจะหลายเดือนแล้วด้วย ฉันเสียใจด้วยนะไอ้อิน เขาของแกยาวและใหญ่กว่าฉันมากเลย" พีร์ธาดาแสร้งทำหน้าเห็นใจ แล้วตบมือลงบ่าเพื่อนเบาๆ


    คิ้วสาวตัวเล็กขมวดลงได้อีก "โอย อยากบ้าตาย นี่ทนโดนหลอกมาได้สองปีเลยเหรอนั่น แถมเอาเวลาว่างจากฉันไปเสกเด็กเพิ่มอีก... เอาเถอะ ‘โหสิให้แล้วกัน ฉันก็ไม่ได้รักอะไรมากด้วย" มันก็ได้แค่ปลงจริงๆ


    "ดีแล้วแก อย่าเก็บมาคิดมากเลย แหม พูดไปก็เหมือนเข้าตัวเอง แกกับฉันมันเหมาะเป็นเพื่อนกันจริงๆ... แล้วนี่งานการไม่มีทำเหรอถึงมาหาฉันได้"


    "เหะๆ อยากเที่ยว งานไว้ก่อนน่า เฮียเอกคนเดียวจัดการไหวอยู่แล้ว" อินทิราทำหน้าแหยเมื่อเพื่อนสาวเขกหัวเธอเบาๆ หนึ่งที


    "ตลอดเลยแก งานแกก็รับผิดชอบเอาเองสิ ทำไมต้องให้เฮียเอกทำให้ เมื่อไหร่... "


    "พี่ก้องช่วยด้วย เพื่อนอินแปลงร่างเป็นยายแก่ขี้บ่นไปอีกแล้ว"


    หากแต่ก้องภพก็ทำได้แค่ยืนยิ้มสองสาวเพื่อนสนิทตรงหน้าที่ยืนเถียงกันไปกันมา เขามองภาพสองคนนี้คอยแก้ปัญหาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เพราะการที่นิสัยไปด้วยกันได้ สมองทันกัน แถมฝีปากยังไล่กันมาติดๆ อีก ปัญหาทุกอย่างจึงมีทางแก้ได้ไม่ยาก ความไว้เนื้อเชื่อใจกันของทั้งสองทำให้ทั้งคู่ดูน่าจะไม่มีความลับต่อกัน พีร์ธาดาตรงไปตรงมา ซึ่งอินทิราก็โอนอ่อนแต่พร้อมจะแรงตามได้เสมอ


"พอทั้งคู่นั่นแหละ... เย็นนี้พี่ว่าจัดปาร์ตี้เล็กๆ แค่เราสามคนดีมั้ย เลี้ยงไอ้อินอกหัก และต้อนรับพี่กลับไทยด้วย"


    "ไรว๊า อินอกหักนี่ถึงกับต้องฉลองเลยเหรอพี่ก้อง" นั่นก็เรียกเสียงหัวเราะของทั้งสองได้ไม่ยาก มิตรภาพแบบนี้ที่เธอไม่อยากเสียไป และไม่มีวันที่เธอจะเสียไปอย่างแน่นอน อินทิราคิดอย่างมั่นใจ




Create Date : 03 ตุลาคม 2553
Last Update : 3 ตุลาคม 2553 18:02:18 น. 2 comments
Counter : 639 Pageviews.

 
ใช้สีฟอนท์น้ำเงินกับแบ็คกราวด์น้ำตาลอ่านยากจังค่ะ


โดย: Chulapinan วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:19:17:28 น.  

 
อ่า ที่เห็นเป็นฟอนต์สีดำนะค่ะ (นิยายอ่า)

แต่ยังไงจะเปลี่ยน BG ให้ค่ะ


โดย: ตุยเหมี่ย วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:11:54:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตุยเหมี่ย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




"ดากร" ... ณ ตอนนี้ขอเปลี่ยนนามปากกาเป็นชื่อนี้แล้วนะคะ

นามปากกานี้เป็นการดึงชื่อจริงของตัวเองออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (ว่าเข้าไปนั่น)

เหตุที่เปลี่ยนก็เพราะว่า รู้สึกแปลกเล็กน้อยที่เอานางเอกของเรื่องมาทำเป็นนามปากกา มันเขินบวกรู้สึกชาที่หน้าแบบบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้

ดากร ... จำไม่ยากหรอกค่ะ ดากร
< /embed>

Friends' blogs
[Add ตุยเหมี่ย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.