มุมพักผ่อนของคนอยากเขียน
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
15 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 

เพียงเปิดใจ 11

บทที่ 11


หนึ่งคำนั้นที่อยากได้ยิน


    พีร์ธาดานั่งทานข้าวต้มหมูฝีมือชายหนุ่มจนหมดไปครึ่งถ้วยแล้วก็ยังได้รับฟังคำตอบจากปากเขามีแต่ความเงียบกลับมา เธอเหลือบตาขึ้นไปมองเขาเป็นระยะราวกลับจะส่งกระแสจิตไปเร่งเขายังไงยังงั้น


    เหมือนก้องภพจะรู้ตัวว่าโดนคุกคามจากสายตาคม เขาลุกขึ้นจากโซฟาเตี้ยที่ตั้งตรงข้ามกับโซฟายาวรูปตัวแอลที่มีหญิงสาวนั่งอยู่เดินไปหายามนลิ้นชักโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่เธอมักเก็บบรรจุภัณฑ์ยาทั้งหลายลงไป เรียกให้ถูกคือยัดลงไปมากกว่า ค้นหาซองยาที่เป็นยาประจำของเธอเมื่อเจอก็หยิบก่อนเดินกลับมาหย่อนก้นชันเข่านั่งลงที่เดิม มองเธอกินอย่างเงียบๆและค่อยๆ ประมวลความคิดที่จะมาเล่าให้เธอฟังบ้าง


    เมื่อไหร่ คำถามที่ถูกถาม หากเขาก็ไม่รู้ว่า'เมื่อไหร่'อาจจะตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันที่บ้านอินทิรา หรือตอนที่โยนแมลงสาบใส่เจ้าหล่อน หรือตอนที่แกล้งให้เธอเอางานกลับไปแก้ทั้งที่งานที่ส่งมาดีอยู่แล้ว หรือเพราะผมสั้นๆ ที่ดูไม่เป็นทรงตลอดเวลา หรืออะไรก็แล้วแต่จะเหตุการณ์ไหน เมื่อไหร่ ตอนไหนก็ไม่รู้ล่ะ รู้แต่ว่าตอนนี้รัก และต้อง'ครอบครอง'ให้ได้


    ก้องภพดึงสายตาลงไปมองถ้วยข้าวต้มเมื่อเห็นว่ามันพร่องจนไปเกือบก้นถ้วย มือแกะซิปถุงออกหยิบยาให้หนึ่งเม็ดยื่นให้คนตรงหน้า "กินข้าวหมดแล้วกินยาด้วยนะ"


    "อื้อ"



    พีร์ธาดาจัดการกินยาตามที่ชายหนุ่มสั่ง เธอยังคงนั่งที่เดิมไม่ลุกไปไหนมองคนเล่นตัวคว้าถ้วยและแก้วน้ำทันทีที่เธอวาง ก่อนลุกขึ้นหันหลังเดินไปที่ซิงค์ล้างจานคาดว่าน่าจะล้างทั้งถ้วยและแก้วน้ำ เพราะเขากำลังคว้ำภาชนะทั้งสองตากยังตะแกรงข้างซิงค์หลังปิดน้ำ บิดตัวหนึ่งทีหันหลังกลับมาทำท่าจะเดินมาที่เดิมแต่แล้วก็หันกลับไปได้ยินเสียงเปิดน้ำที่คิดว่าน่าจะเป็นการล้างมือ และปิดน้ำหันหลังกลับมาอีกครั้งแต่ไม่ใช่เดินมาหาเธอ แต่เป็นการเดินไปยังกระจกเอียงหน้าขึ้น...มือ ที่น่าจะเป็นมือขวาไล้ไปตามเคราข้างแก้มซ้ายขวา และลูบหนวดรอบปาก และน่าจะลูบต่อไปเรื่อยๆ ... ถ้ามันคันขนาดนั้นจุดไฟเผาไปเลยดีกว่ามั้ย จะนานไปไหน ความอดทนชักหมดแล้วนะ ไอ้พี่ก้อง


    "จะลูบอีกนานเปล่า คันมากหรือไงไอ้หนวดนั่นนะ เอาคารามายด์มั้ย"


    น้ำเสียงที่เริ่มแข็งเรียกรอยยิ้มให้ชายหนุ่มได้ ก็แค่รอเวลาวิญญาณพีร์ธาดาประทับร่างแค่นั้นเอ


    "อ๊ะ มา เดี๋ยวผมสารภาพให้ฟัง หายโกรธผมแล้วนะ" ก้องภพตอบเสียงใสหน้ายิ้มระรื่นเดินหรี่ลงไปนั่งโซฟาตัวเดียวกับเจ้าหล่อน จับเธอหันหน้ามาหากัน พร้อมยิ้มหวาน


    "หายแล้ว พีชมีเหตุผลพอ แต่ขอทีอย่ายิ้มแบบนั้นได้เปล่า" พีร์ธาดาตอบพลางตวัดสายตาสลับไปมาระหว่างมือใหญ่ที่บังอาจมาจับไหล่เธอกับหน้ายิ้มของคนมือบอน ราวกับสื่อว่าต้องการให้ปล่อยซะที แต่เหมือนคนที่จับไหล่ไว้จะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเพราะมือยังคงไม่ปล่อย


    "แบบไหน"


    "แบบป้านิศา" โอยเมื่อยตาแล้ว เอาเถอะ จะจับก็จับ


    "ผมรู้พีชชอบยิ้มแม่ผม ผมยิ้มให้พีชดู เผื่อพีชจะชอบผมบ้าง"


    พีร์ธาดาอ้าปากค้าง ดึงสติกลับมา ก่อนหุบปากลงเริ่มเปลี่ยนเป็นกัดริมผีปากแน่น ส่วนใบหน้าก็น่าจะแดงอีกครั้ง หากแต่คราวนี้ไม่ใช่แดงเพราะฤทธิ์ไข้ ซึ่งชายหนุ่มก็ดูออกจากการหันหน้าหนีเขา จึงเอามือทั้งสองข้างประคองหน้าหันกลับมามองใบหน้าเขาอีกครั้ง และคราวนี้ปล่อยหมัดเด็ดที่สามารถน็อคเธอตั้งแต่ยกแรกได้เลยทีเดียว


    "พีชถามผมว่า ผมรักพีชตอนไหน… ไม่รู้สิ ตอนไหนผมก็ไม่รู้ นั่งคิดตั้งนานก็หาคำตอบมาบอกพีชไม่ได้"


    พีร์ธาดากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่จนเสียงน่าจะดังออกมาให้เขาได้ยิน ไอ้ไม่รู้ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่น้ำเสียงอ่อนแบบนี้ มันไม่เคยได้ยิน และตอนนี้อยากเป็นฝ่ายเอื้อมมือไปปิดปากบางตรงหน้ามากกว่า ถ้าพูดอะไรออกไปอีกแล้วจะมองหน้าเขาอย่างไรเล่า หากแต่ไม่ทัน...


    "ตอนนี้... ผมอยากเป็นคนที่อยู่เคียงข้างพีชทุกเวลา อยากดูแลพีช... " ก้องภพเงียบ เขาให้เวลากับตัวเองและหญิงสาวสักเล็กน้อย อยากให้การพูดในครั้งนี้ออกมาให้ดีที่สุด ก่อนเอ่ยประโยคที่กลั่นออกมาจากใจ ด้วยรอยยิ้ม "เวลาที่ผมเห็นพีชทุกข์ผมเจ็บ พีชสุขผมดีใจ อยากเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพีช อยากเป็นคนที่พีชคิดถึงเป็นอันดับแรก อยากเป็นที่พึ่งพิงให้พีชได้... แบบนี้ เขาเรียกว่ารักหรือเปล่า ถ้าใช่... "


    เขาเงียบลงอีกครั้ง หัวใจเต้นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าแต้มรอยยิ้ม เคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหูของเธอแล้วบอกคำสามคำที่ต้องการบอกให้เธอฟังเสมอมาอย่างแผ่วเบา "ผมรักคุณ"


    ชายหนุ่มอธิบายเสียงนุ่ม ทุ้ม อ่อนโยน และออกมาจากใจจริง พยายามอย่างยิ่งที่จะสื่อสารให้คนคนนี้รับรู้โดยหัวใจ ให้คุ้มค่ากับที่เก็บมาไว้เนิ่นนาน ผู้หญิงที่เขา'รัก'จนหมดหัวใจ ตอนนี้เขาค่อนข้างแน่ใจว่าผู้หญิงตรงหน้าน่าจะคิดแบบเดียวกับเขา ก่อนหักห้ามใจไม่ให้กดจมูกลงแก้มแดงพร้อมดึงหน้าออกมาอยู่ที่เดิม



    ในทางพีร์ธาดา เธอรู้สึกตื้นตันกับคำสารภาพแบบหมดเปลือกของเขา จังหวะหัวใจที่ไม่เป็นปกติมานานยิ่งมันรับคำพูดของชายหนุ่มไปเต็มๆ มันก็เต้นรัวเหมือนจะระเบิดอยู่รอมร่อ ใช่ นี่แหละที่เธออยากได้ยิน นี่ใช่ไหมความชัดเจน แต่พอยิ่งคิดอีกสิ่งหนึ่งที่ตามมาติดๆคือ 'เธอจะรับมันไหวมั้ย'


    ทั้งที่อยากฟังแต่พอมาได้ยินชัดๆ กับหู... ใกล้ซะด้วยสิ มันรู้สึกทั้งแปลกประหลาด ดีใจ สับสนปนเปกันไปในความรู้สึก ถ้าเขารัก... แล้วเธอล่ะ


    ขณะที่หญิงสาวกำลังครุ่นคิดหาคำตอบให้ตัวเอง เสียงเดิมแว่วกระทบเข้าหูอย่างจังจนต้องหยุดความคิดนี้ลง "แต่ถ้าพีชถามผมว่า ผมชอบพีชตอนไหน อันนี้ผมบอกได้… ผมชอบพีชตั้งแต่เจอ"


    เมื่อเห็นคนตรงหน้าตาโตขึ้นอย่างตกใจ ก้องภพก็อดไม่ได้ที่จะให้มือสองข้างที่ประคองใบหน้าหญิงสาวอยู่ค่อยๆ ลูบไล้นิ้วหัวแม่มือตามคำพูดของเขาอย่างหยอกเหย้า "ผมชอบคิ้วพีช... ชอบดวงตาพีช"


    พอถึงตรงนี้พีร์ธาดาหลับตาลงอย่างช้า รับรู้ถึงการสัมผัสที่นุ่มนวลค่อยไล่ไต่ตามคำพูดของชายหนุ่ม ใจที่เต้นเร็วอยู่แล้วเริ่มเต้นแรงขึ้น อากาศในท้องเริ่มปั่นป่วน ลมหายใจที่เริ่มสูดเข้าอยากลึกในหลายครั้ง บ่งบอกถึงอาการตื่นเต้นปนความสุขอย่างบอกไม่ถูก นั่นคงเป็นสิ่งที่เธอหาไม่ได้จากกรกฏ



    หากเป็นการเปรียบเทียบผู้ชายสองคน กรกฏไม่มีทางทำแบบนี้กับเธอแน่นอน อย่างมากก็จับมือ หรือจูงมากกว่าเหมือนกลัวเธอหลงทาง แต่กับก้องภพบางทีที่เขาจับมือทั้งที่เธอยอมหรือเหนื่อยจะไม่ยอมมันกลับให้ความรู้สึกว่าเป็นคนพิเศษมากกว่า ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร เขาไม่เคยเดินนำเธอ ไม่เคยยืนรอเธอเวลาไปซื้อเสื้อผ้า(ทั้งที่เธอพยายามแกล้งให้คอยนานๆ )แต่กลับไปช่วยเลือกและวิจารณ์(เข้าขั้นด่าเธอ'ไม่เจียมบอดี้ริจะใส่คล้องคอตัวก็อย่างกับกระเทยควาย' แต่ตอนหลังกลับซื้ออีกแบบที่มันไม่โป๊เท่าตัวนั้นให้) ทุกสิ่งที่เขาทำให้แม้จะไม่ต่างจากที่กรกฏทำให้มากมาย แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือในแง่ของความรู้สึก... แต่นั่นมันเพียงพอที่จะทำให้เธอสามารถตอบรับคำเขากลับได้เหรอ


    และเสียงแผ่วเบาที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดบรรยายความชอบในตัวเธอได้ก็ดึงเธอกลับมาได้อีกครา


    ชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยประโยคอย่างเชื่องช้า เนิบนาบตามมวลอากาศที่ลอยล่องผ่านไปอย่างแผ่วเบา "ผม ชอบจมูกพีช แก้ม ใบหน้า ผมยังชอบไฝใต้ตาพีชด้วยนะ แต่สิ่งที่ผมชอบมากที่สุด... ผมชอบปากพีช"


    สิ้นสุดคำพูดแผ่วเบาที่อ่อนโยน ความรู้สึกแปลกใหม่ก็เข้าโถมเข้ามาหาหญิงสาวฉับพลัน เธอลืมตาโพลงขึ้นมาสิ่งที่สัมผัสหาใช้นิ้วมือที่ลูบไล้เหมือนเดิมไม่ กลับเป็นริมฝีปากของคนตรงหน้ากดทับมายังกลีบปากเธอ ก่อนเธอจะผงะออกไปชายหนุ่มก็รั้งตัวเธอเข้ามาสู่อ้อมกอด และในจังหวะที่เธอเผยอปากขึ้นเพื่อสูดลมหายใจ ลิ้นซนก็ควานเข้ามาลิ้มรส พีร์ธาดาก็หลับตาลงอีกครั้ง


    จูบเหรอ นี่ไม่ใช่จูบแรกของระหว่างเธอและเขา และไม่ใช่กรกฏที่ได้จูบแรกจากเธอไปเหมือนกัน แต่กลับเป็นหนุ่มหัวทองที่ไหนไม่รู้ที่เธอเคยคบกันพักหนึ่งหลังเลิกกับกรกฏไป แต่เธอจำได้ว่าครั้งนั้นมันไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่าการเอาปากแตะกัน แลกเอนไซม์แหยะๆ ให้กัน และโชคดีที่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่ครั้งนี้มันให้ความรู้สึกมากกว่า มันทั้งปลาบปลื้ม ทั้งตื่นเต้น ทั้งประหม่าเหมือนเป็นเฟิร์สคิส แต่ที่รู้สึกได้แน่นอนคือ อบอุ่นที่หัวใจ... หากเธอรู้สึกแบบนี้บ้าง นี่ใช่ไหมคือ... รัก และยอมรับตรงๆ ก็ได้ว่ามันเริ่ม'เคลิ้ม'บ้างแล้ว


    ก้องภพยังคงประทับจูบอยู่เนิ่นนานราวกับไม่อยากปล่อยเธอไปไหน เขาเริ่มสำรวจความหวานที่ได้ลิ้มรสตรงหน้าจากแผ่วเบา เป็นรุกเร้าปลดปล่อยตามอารมณ์ความต้องการที่มี และก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไปไกล ก้องภพดึงสติตัวเองกลับมาพร้อมค่อยๆ ถอนบทจุมพิตออกมาอย่างช้าๆ หากแต่สาวตรงหน้ายังคงหลับตาพริ้มอยู่จึงอดไม่ได้ที่จะก้มลงประทับอีกครั้ง และอีกหลายครั้ง จนพอใจ


    "พีช"


    "... "


    "ปากแดงจัง"


    หน้าก็แดงด้วย พีร์ธาดาอยากตะโกนต่อเสริม หากแต่ตอนนี้เธออยู่ในอาการใบ้รับประทาน ใบหน้าเหมือนมันจะชาชั่วคราว ความร้อนที่ดูจะทับโถมอยู่แต่เฉพาะส่วนบนของร่างกายเท่านั้น


    พีร์ธาดาก้มหน้างุดลงหลบสายตาที่ส่อเค้าเจ้าเล่ห์ของคนที่เพิ่งจูบเธอไป พร้อมฝืนตัวออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มสุดชีวิต นอกจากทำไม่ได้แล้ว เขายังจัดการจับเธอพลิกตัวกลับก่อนโอบหลังเธอให้ชนกับหน้าอกเขาได้อย่าน่าอัศจรรย์ !


    "โทรศัพท์ๆ พีชต้องโทรหาอิน โทรหาพี่ปิง" หญิงสาวดิ้นสุดตัวพร้อมบอกเสียงรน


    "ไม่ต้องหรอก พวกนั้นรู้ว่าพีชปลอดภัย" เมื่อดิ้นก็ต้องกอด ยิ่งดิ้นแน่นยิ่งต้องกอดแน่นๆ ก้องภพกระชับกอดแน่นขึ้นตามแรงดิ้นของเจ้าหล่อน


    "เดี๋ยวนะ ยังไง กรณีพี่ปิงพีชก็พอจะเดาได้ว่าเขาช่วยพี่ก้อง แต่ไอ้อิน… เอ้อ เอ้อ ที่มันโทรถามเวลากลับของพีชใช่มั้ย แน่นอนเลย  หนอย ไอ้เพื่อนทรยศ"


    "ทุกคนช่วยผมกับพีชต่างหาก พีชไม่อยากรู้แล้วเหรอ ว่าผมชอบพีชตรงไหนอีก"


    แล้วจะดึงเรื่องนี้กลับมาทำไมเล่า พีร์ธาดาตัวเกร็งขึ้นมาทันทีเลือกส่ายหัวแทนคำตอบพร้อมเม้มปากแน่น คนเจ้าเล่ห์หัวเราะร่วนกับท่าทีของเธอ แล้วยังส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้อีกแน่ะ ฮื้มมม หยุดเดี๋ยวนี้นะ จะเป็นลมแล้ว หรือเป็นไปเลยดีกว่า เป็น ไม่เป็น เป็น ไม่เป็น...


    "แต่ผมอยากบอก"


    โอยตาย... เธอยังคงเลือกส่ายหัวแทนคำตอบเหมือนเดิม ปากเม้มเหมือนเดิม เอ้า เอามือปิดหูอีกทีเพื่อย้ำว่าไม่อยากฟังด้วยก็ได้


    ก้องภพยังคงหัวเราะกับท่าทีของคนในอ้อมกอด เอื้อมมือมาแกะมือที่ปิดหูตัวเองแน่น'จงใจ'พาดหน้าลงกับไหล่บาง ปากอยู่ในระดับเดียวกับหูก่อนบอกเหตุผลอีกข้อที่เพราะอะไรเขาจึงรักหล่อน "ผมชอบนิสัยพีช ผู้หญิงห่ามๆ เฮี้ยวๆ ห้าวๆ เฮ้วๆ แบบทำแทบทุกอย่างที่ผู้ชายทำได้ นิสัยคล้ายแม่ผมเลย"


    พีร์ธาดาหดคอแน่น เมื่อลมปากของเขาปะทะเข้าที่ใบหู รู้สึกได้ว่าขนหูมันลุกซู่ "ป้านิศานี่นะ"


    "ใช่ แต่ผมมั่นใจว่าผมรักพีชแบบชายหญิงนะ ไม่ได้รักแบบแม่"


    เออ เอาเข้าไป ตอกกันเข้าไป และคราวนี้พีร์ธาดาเลือกกลอกตาขึ้นข้างบนแทนคำตอบ แล้วจัดการใช้มือยันหน้าชายหนุ่มให้พ้นจากไหล่เธอ เพราะขืนยังพูดในลักษณะนี้อยู่... วันนี้เธอจะ'รอด'ไหมนี่


    ก้องภพยอมราหน้าโดยดี เพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะควบคุมตัวเองได้นานแค่ไหน แกล้งพอกรุบกริบเป็นยาก็พอ มือสองข้างยังคงโอบเอวบางอย่างหลวมๆ เอนหลังลงโซฟาก่อนบอกเหตุผลว่าทำไมเธอถึงนิสัยเหมือนแม่ของเขา


    "เห็นแม่ผมดูเรียบร้อยแบบนั้นนะ หูย ตอนเด็กเวลาผมไปทะเลาะต่อยตีกับใคร กลับบ้านมาถ้าแม่ผมเห็นหละก็ เข้ามาตบหัวผมทันที แถมด่าผมกลับอีก บอกส่งไปเรียนไม่ใช่ไปทำตัวอันธพาล พ่อผมยังไม่กล้าเข้ามาช่วยเลยบอก กลัวเมีย... ผมอ่ะ อย่างกลัวแม่เลยตอนนั้น อย่างว่าพ่อผมไปสบายซะก่อน แม่ผมเลยต้องเลี้ยงผมคนเดียวตลอด


    "ผมเข้าเธคครั้งแรกก็เพราะแม่พาไป ผมกินเหล้ากินเบียร์ครั้งแรกก็เพราะแม่ซื้อมาให้ลอง แถมนั่งกินเป็นเพื่อนผมอีก แต่สูบบุหรี่ กับเล่นยาผมไม่เคยลองนะ แม่สั่งห้ามไว้ วิธีจีบหญิง จุดอ่อนผู้หญิงก็ได้แม่ผมนี่แหละที่คอยถ่ายทอดให้ ปรมาจารย์มาก ผมทำตามทุกอย่าง กลัวแม่มาก"


    "ถ้าป้านิศาซื้อยามาให้พี่ก้องอัพเล่นนี่ พีชอัดคำพูดไปส่งตำรวจแน่นอน แล้วไอ้อย่างหลังทำเพราะกลัวแน่เหรอ"


    ก้องภพหัวเราะขำ เขาพูดถึงแม่ของตัวเองในอีกมุมที่หลายคนไม่เคยเห็น "แม่ผมขู่สารพัดว่าถ้าใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของแม่ จะไปเผาบริษัท"


    "อ้าว แล้วพี่ก้องเอามาบอกพีช บริษัทของพี่ก้องจะไม่โดนวางเพลิงเหรอ"


    "ไม่กลัวหรอก แม่อนุญาตให้บอกนิสัยแม่กับลูกสะใภ้ฟังได้คนเดียว เห็นมั้ยล่ะ ผมเชื่อฟังแม่จะตาย" ก้องภพเด้งตัวขึ้นมาหอมศีรษะของคนในอ้อมกอดฟอดใหญ่อย่างมันเขี้ยว พร้อมกระชับกอดให้แน่นขึ้นเมื่อเจ้าหล่อนเริ่มดุกดิกอีกครั้ง


    "เด็กดีเหลือเกิน ปล่อยได้แล้ว พีชร้อน" หน้าก็ร้อน โอย เล่นหยอดทุกอย่างแบบนี้ สุกหมดแล้ว


    "รู้ไหมทำไมผมถึงชอบแกล้งพีช"


    "นั่น !! เป็นอีกข้อที่พีชสงสัย" พีร์ธาดาแทบตะโกนออกมาเชียว นั่นสิ ทำไมชอบแกล้งเธอนัก


    ก้องภพอยากปล่อยขำแบบสุดๆ เมื่อพอเขาเปลี่ยนเรื่องสาวเจ้าก็โอนตามเสียอย่างนั้น แถมนั่งนิ่งหันมามองหน้าส่งตาแป๋วอย่างตั้งใจฟังอีก ก้องภพเลยสนองด้วยการเอามือบีบโยกจมูกเธอเบาๆ


    "ผมไม่อยากให้พีชรู้ว่าผมคิดยังไงกับพีช กลัวพีชจะไม่คิดอะไรด้วย กลัวจะเสียพีชไป กลัวสารพัดจะกลัว"


    "เลยแกล้งดีกว่า... พีชนึกว่าพี่ก้องแกล้งพีชเพราะสนุก"


    ก้องภพหัวเราะขำทันทีอีกครั้ง "นั่นก็อีกสาเหตุ แกล้งไปแกล้งมามันสนุก หยุดไม่ได้... แต่ตอนนี้ผมโล่งแล้วนะ แต่ยังไม่ทั้งหมดหรอก เพราะผมยังไม่ได้ยินคำคำหนึ่งที่อยากฟัง" ก้องภพขืนหน้าแดงของเจ้าหล่อนไว้ให้บังคับให้มองมาที่ตาเขา


    "เดี๋ยวๆ พีชอยากรู้อีกข้อ ทำไมพี่ก้องถึงแทนตัวเองว่า'ผม'แทนที่จะเป็น'พี่'อย่างที่เรียกกับคนอื่น"


    "ก็... ก็ ผมไม่อยากเป็น'พี่'พีชนิ"


    "ฟังไม่ขึ้น"


    "ไม่รู้สิ ผมไม่อยากเรียกแทนตัวเองว่าพี่กับพีช ก็ผมเรียกแบบนั้นกับคนอื่นไปแล้ว ผมก็อยากมีคนคนเดียวที่เรียกแบบนี้ไว้ ก็เท่านั้นเอง"


    "โอ้ววว์ นี่พีชสเปเชี่ยลมากๆ ... งั้นพีชเรียกพี่ก้องแบบสเปเชี่ยลมั่งดีมั้ย พีชเรียกพี่แทบทุกคนเลย เอาเป็นว่า คุณก้อง ดีมั้ย"


    "ไม่เอายะ ! ผมชอบให้พีชเรียกผมว่าพี่ก้อง"


    "พีชล้อเล่น เรียกพี่ก้องดีแล้ว ให้กลับไปเรียกคุณมันกระดากปากไงไม่รู้"


    ก้องภพเลิกคิ้วสูง ยกนิ้วขึ้นชี้หน้าตัวเอง ก่อนเอ่ยถามข้อสงสัยเสียงสูงปรี๊ด "ผมไม่น่านับถือขนาดนั้น"


    "รู้ตัวนิ" พีร์ธาดาเบะหน้าเหยียดสายตาส่งให้ตอกย้ำคำตอบอีกที


    "แล้วพีชล่ะ"


    "หือ พีชทำไมเหรอ" อันนี้คือเปลี่ยนเรื่องแล้วใช่ไหม พีร์ธาดาสรุปเอง


    "คิดยังไงกับผม"


    โอ้ ป๊าดดด กลับมาเรื่องนี้ได้อีกแล้ว... ไอ้ที่นั่งให้กอดแบบนี้ยังไม่รู้อีกเหรอไงว้อย ! ทำไมสมองของอีตานี่ไม่ยอมลืมอะไรมั่งก็ไม่รู้ ดูสิอุตส่าห์พาเปลี่ยนเรื่องไปไกลแล้วก็ชอบวกกลับมาอยู่ที่เดิมอยู่เรื่อยเลย... ก็รู้ตัวตั้งแต่ยอมพลีจูบไปให้แล้วล่ะวุ้ย


    "พีช" ก้องภพเรียกเสียงที่คิดว่าอ่อนโยนที่สุดให้ฟัง โชคดีที่ฝึกมาบ่อยมันเลยออกมาเป็นที่น่าประทับใจ


    "อะไร" พีร์ธาดาสะดุ้งเฮือกเล็กน้อยส่งเสียงที่พยายามให้มันดูห้วนที่สุดไปให้ อย่าเรียกเสียงแบบนั้นนะ


    "ผมอยากฟัง"


    "... ไม่รู้" ไม่รู้ ไม่เอา ไม่บอก อย่าทำเสียงแบบนั้นเดะ


    "ไม่รู้อะไร"


    "ก็ไม่รู้ไง" ฮื้อออ มันเขินเป็นเหมือนกันนะ


    "ผมทำให้รู้ดีมั้ย ถ้าพีชไม่พูด... ผมสัมผัสเอาเองได้รึเปล่า"


    อันตราย ไอ้พีช อันตรายมาก ออกห่างจากตัวพี่ก้องเดี๋ยวนี้ เธอนึกอยากเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์อยากแวบหายไปจากตรงนี้ได้จริง แต่หาเธอมีเวทมนตร์หายตัวได้จริงก็คงยังไม่ทันได้ร่ายคาถาเมื่อปากบางเดิมเคลื่อนมาประกบริมฝีปากเธออีกครั้ง



    ครั้งนี้มิได้ต่างจากครั้งก่อน หากแต่การหยอกเหย้าชวนให้เคลิ้มของชายหนุ่มทำเอาตัวเธอเลื่อนลอยปล่อยตัวปล่อยใจไปตามสัมผัสหวานล้ำที่ได้รับ มือบางสองข้างสอดสานใต้ไรผมท้ายทอยของชายหนุ่ม ความเคลิบเคลิ้มอย่างอ่อนหวานแปรเปลี่ยนเป็นความเล่าร้อนของชายหญิง ริมฝีปากบางเริ่มไต่ระดับลงไปที่ซอกคอขาว มือใหญ่พาดผ่านหลังนวลเนียนอย่างหยอกเอิ้น พีร์ธาดาขนลุกซู่และเมื่อความรู้สึกเริ่มแปลกไป เธอก็เริ่มรู้สึกตัว แน่นอนเธอชอบสัมผัสอันล้ำลึกเช่นนี้ หากแต่ชายหญิงเมื่ออยู่ด้วยกันย่อมติดไฟได้ง่าย คงต้องเป็นตัวเธอเองที่ดับไฟราคะนี้ลง


    พีร์ธาดารวบรวมสติที่พอมีเหลืออยู่บ้างผลักก้องภพออกไปอย่างแรง ดูชายหนุ่มจะตะลึงกับการกระทำที่ได้รับ แต่เพียงได้มองใบหน้าของคนที่ตนรักก็เข้าใจในทันที ตัวเขานั้นควบคุมอารมณ์ความต้องการไม่อยู่แน่แท้ เพียงแต่หญิงสาวกลับดึงตัวเองกลับเข้ามาได้ทันท่วงที


    พีร์ธาดาเด้งตัวไปนั่งอีกมุมของโซฟาทันที เธอมองหน้าเขาอย่างตกใจ หยิบหมอนอิงขึ้นมาขวางระหว่างกลางตบแรงๆ ที่หมอนเหมือนให้ชายหนุ่มรู้ว่า อย่าริอาจเข้ามาในเขต ก่อนถลึงตามองเขาอย่างเอาเรื่อง ก้องภพยิ้มกว้างก่อนปล่อยเสียงหัวเราะดังออกมา ค่อยๆ กระเถิบก้นเข้าไปใกล้เขตแดน เอื้อมมือล้ำเข้าไปหมายจะดึงเธอเข้ามากอดอีกครั้ง แต่คงไม่ง่ายเช่นเดิม


    "ไม่เอา ไม่ต้องกอดแล้ว อยู่ตรงนู้นเลย ห้ามเกินเขต" หญิงสาวตอบพลางหายใจถี่ ตบหมอนที่กั้นแรงๆ เพื่อให้รู้ว่าเขตอยู่ตรงนี้


    "ผมไม่ทำอะไรพีชแล้ว ผมสัญญา"


    "ไม่เอา คุยกันแบบนี้แหละดีแล้ว"


    "โธ่ ไม่อย่างนั้นผมจะรู้ได้ไงว่าพีชรักผมรึเปล่า"


    สิ้นคำพูดมือใหญ่ค่อยๆ หยิบหมอนอิงใบบนสุดออก จ้องตาประกายแต่พยายามให้ดูว่าไม่มีพิษมีภัยที่สุด แต่พีร์ธาดารู้สึกจับใจความได้ว่า'เสร็จแน่'ดังนั้นเธอจึงใช้เท้าถีบหมอนที่เหลือออกจนกระจุย ก่อนไล่เตะคล้ายปั่นจักรยานอากาศและถีบ ถีบ และถีบต่อไป


    ก้องภพกุมท้องตัวเองหัวเราะร่วนกับภาพคนขี้กลัวพยายามสร้างฤทธิ์เดชให้เขาดูอย่างสุดแรง เขาเอื้อมมือไปตะครุบขาสองข้างแน่นในทีเดียวที่จับได้ คลืบหน้าเข้าไปใกล้ๆ ก่อนพีร์ธาดาจะสะดุ้งพร้อมพูดตะกุกตะกักออกมาจนลิ้นแทบพันกัน


    "เออ เออ ดะ เดี๋ยว เดี๋ยว หยุด! เดี๋ยว... พีชบอกเองก็ได้! "


    "ว่า"


    "นั่นแหละ"


    "อะไรนั่นแหละ"


    "เออ ก็... รัก" คำหลังนั้นแผ่วลงจนแทบกระซิบ


    แม้ก้องภพจะได้ยินเต็มสองรูหู ความดีใจที่มีอยู่แล้วยิ่งเพิ่มมากขึ้น อันที่จริงเขารู้สึกได้ตั้งแต่เธอเรียกเขาเหมือนเดิมแล้วล่ะ เพียงแต่ตอนนี้อยากได้ยินกับหูตัวเองเท่านั้น... แต่เบาแบบนี้ ไม่มีทางที่เขาจะพอใจ เขาเคลื่อนหน้าใกล้ไปอีกนิดเอามือป้องหูพูดเสียงดังย้ำประโยคเบาๆ ที่ได้ยินเมื่อกี้ว่า "หือ ผัก อะไรผัก อยากกินผักเหรอ"


    ดังมาก็ดังตอบ ดังนั้นพีร์ธาดาจึงยื่นปากใกล้หูก่อนเอ่ยเสียงดังฟังชัดหงุดหงิดปนเขิน "โว้ย ไม่ใช่"


    เสียงดังกว่าเขาหลายเท่า เล่นเอาก้องภพชักหัวกลับแทบไม่ทัน เขาใช้นิ้วชี้แยงหูหัวเราะหึหึกับลูกเล่นของตัวเอง "อ้าว แล้วอะไรล่ะ"


    โอย เขินจะตายอยู่แล้ว จะแกล้งกันไปไหน "พีชปวดหัวแล้ว"


    "มา เดี๋ยวผมพาไปนอนเป็นเพื่อน" ก้องภพเด้งตัวขึ้นมือคว้าข้อแขนรั้งให้หญิงสาวเดินตาม อย่างเต็มใจช่วยที่สุด


    "ไม่ต้อง"


    "เอ้า ก็จะพาไปนอน'เป็นเพื่อน'ไง"


    "จะบ้าเรอะ !! ไม่เอาไม่นอน กลับไปได้แล้วไป๊ ชิ่วๆ " พีร์ธาดาส่ายหัวด้วยความรุนแรงก่อนเซด้วยความมึนลงไปแหมะกับโซฟา แถมฉุดชายหนุ่มให้ลงตามไปด้วย แรงที่แทบจะไม่ได้ออกสักนิด ทำให้คนที่กล้ามเป็นมัดๆ ถลาตามมาด้วยอย่าง... สำออย พีร์ธาดาส่งค้อนยู่หน้าให้อย่างหมั่นไส้


    เรื่อง "ไม่กลับ ถ้าไม่ได้ยินคำตอบ" ก้องภพที่ตอนนี้'จงใจ'มาแหมะอยู่ข้างๆ เธอ เอื้อมมือมากอดไหล่ดึงเข้ามาหาตัวเอง ยังไม่เข็ดที่จะยื่นหูเข้าไปใกล้ๆ ปากของเจ้าหล่อน


    "... ฟังนะ" จากความเขินเริ่มเปลี่ยนเป็นความรำคาญกับการชอบแต๊ะอั๋งของเขา เธอยักไหล่หยุกหยิกอย่างรุนแรงเหมือนจะให้หลุดจากมือปลาหมึกได้ แต่ตัดสินใจได้ว่า เหนื่อยฟรี


    "ตั้งใจอยู่ หูตั้งแล้วเนี่ย เห็นมั้ย"


    น่าบอกมาก "พีช รัก พี่ก้อง ! " พีร์ธาดาตะโกนเรียงคำทีละตัวแบบเน้นชัดๆ ใส่หูก้องภพ คงหวังให้เขาหูอื้อ ไม่ก็หนวกไปเลยยิ่งดี... แต่ไม่ดี เธอยังไม่อยากมีแฟนหูหนวก


    "ชัดเจน"


    ก้องภพยิ้มหัวเราะตาหยี ตะโกน'เยส'พร้อมชูกำปั้นขึ้นกลางอากาศราวกับบอลไทยได้แชมป์จักรวาล ส่วนพีร์ธาดาตาโตหันขวับไปยังเสียงนั้น... ที่ไม่ใช่เสียงของคนที่กำลังแสดงโอเวอร์แอ็คติ้ง


"ไอ้อิน ! " มะ มันโผล่มาได้ไงวะ แล้วนี่ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน อยากตาย ฮือออออออออออออ





 

Create Date : 15 ตุลาคม 2553
3 comments
Last Update : 15 ตุลาคม 2553 16:42:32 น.
Counter : 611 Pageviews.

 

ยังไม่จบนะ ยังมีต่อ !! ฮา กลัวคนอ่านเข้าใจผิดคิดว่าใกล้จบแล้ว ยังมีต่ออีกยาวไกล

คิดเอาไว้ว่าสัก 25-26 ตอนก็น่าจะจบได้ ตอนนี้ก็ไปได้สัก 70% แล้วค๊าบบบ


งานที่เขียนผ่านการอ่านทบทวนมานับไม่ถ้วน ผ่านการปรับแต่งมาไม่รู้กี่ครั้ง จนไม่รู้ว่างานที่เขียนเป็นยังไงมั่ง (รู้สึกชากับงานตัวเองนั่นล่ะคะ)

ติได้นะค่ะ จะเอาไปปรับปรุงให้งานออกมาดีที่สุด


มันเป็นงานชิ้นแรก และก็ไม่อยากให้มันเป็นชิ้นสุดท้าย

ขอบคุณทุกแรงอ่าน และทุกคอมเม้นค่ะ



ปล. พบตอนต่อไปวันจันทร์จ้า

 

โดย: ตุยเหมี่ย 15 ตุลาคม 2553 16:48:06 น.  

 

หวานมากๆ ค่ะบทนี้
มาติดตามผลงานและเป็นกำลังใจให้นะค่ะ

 

โดย: เอิงเอย IP: 68.224.193.220 15 ตุลาคม 2553 21:51:39 น.  

 

สนุกมากๆเลยคับทุกตอน ชอบจริงๆ เก่งจังทั้งสนุกทั้งตลก

 

โดย: พี IP: 27.55.1.8 28 กุมภาพันธ์ 2555 22:37:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ตุยเหมี่ย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




"ดากร" ... ณ ตอนนี้ขอเปลี่ยนนามปากกาเป็นชื่อนี้แล้วนะคะ

นามปากกานี้เป็นการดึงชื่อจริงของตัวเองออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (ว่าเข้าไปนั่น)

เหตุที่เปลี่ยนก็เพราะว่า รู้สึกแปลกเล็กน้อยที่เอานางเอกของเรื่องมาทำเป็นนามปากกา มันเขินบวกรู้สึกชาที่หน้าแบบบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้

ดากร ... จำไม่ยากหรอกค่ะ ดากร
< /embed>

Friends' blogs
[Add ตุยเหมี่ย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.