มุมพักผ่อนของคนอยากเขียน
Group Blog
 
 
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
28 กันยายน 2553
 
All Blogs
 

เพียงเปิดใจ 5

บทที่ 5


ความรู้สุกที่แปลกไป(2)


    แม้จะคิดว่าไม่มีทางทำตามคำสั่งของหนุ่มอริตัวเอ้ แต่ขาเจ้ากรรมกลับพาหล่อนเดินมาร้านอาหารที่เขาบอกไว้ โธ่ ไม่ได้กลัวหรอก แต่หิว อยากถลุงตังค์คนเล่น... เชิดไว้สงบไว้ อย่าไปทำอะไรให้อีตาพี่บ้ารู้ตัว


    ส่วนก้องภพเองก็นั่งรอหญิงสาวที่หน้าร้านอยู่แล้ว


    "คิดว่ามาไม่ถูกซะอีก เห็นนานแล้วกลัวหลง ว่าจะไปตามคุณอยู่แล้วเชียว"


    แม้ใจไม่รักดีจะเต้นรัวอีกครั้งแต่สติที่ยังมีอยู่คอยเตือน... เชิดไว้สงบไว้ อย่าไปทำอะไรให้ไอ้พี่บ้ารู้ตัว


    "ฉันไม่ได้ตาบอดนะ ชื่อร้านใหญ่เด่นหราขนาดนี้ใครจะไม่เห็น... อันที่จริงถ้าคุณรอไม่ได้ก็กินไปก่อนเลย ฉันไม่ว่าหรอกนะ..."


    "ผมจองโต๊ะไว้แล้ว เชิญครับ"


    แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นการสะพัดหน้าพรืดของหญิงสาว ก้องภพได้แต่ยิ้มเอือมเพราะรู้ว่าพีร์ธาดาเป็นประเภทโกรธง่ายหายเร็ว เดี๋ยวเขาเอาเจ้ากุ้งอ้วนตัวใหญ่เข้าง้อประเดี๋ยวเดียวเจ้าหล่อนก็หายโกรธแล้ว


    ก้องภพจัดการสั่งอาหารเองทั้งหมดโดยที่พีร์ธาดาไม่ได้สั่งแม้แต่น้อย แต่เธอก็ไม่ได้ค้านหรือโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้นเพราะแต่ละอย่างล้วนเป็นอาหารจานโปรดเธอทั้งนั้น เมนูกุ้ง !


    "เหนื่อยจริงวันนี้ ทั้งขับรถมา ทั้งเถียงกับคุณ แถมยังอุ้มคุณอีก อันหลังนี่หนักสุด แขนผมล้าไปหมดเลย"


    "น้อยๆ หน่อย ฉันออกจะผอมเพรียวนะ" อยากกระโดดกัดหูคนจริงๆ เลยเว้ย


    "พีช วันนี้ ผมขอโทษนะ ผมไม่อยากเห็นพีชหน้ามู่ทู้เหมือนตูดลิง แต่แก้มแดงแบบตูดลิงดูจรรโลงตากว่าเยอะ"


    เชิดไว้สงบไว้ อย่าไปทำอะไรให้ไอ้พี่บ้ารู้ตัว แทบจะท่องเป็นคติประจำใจไปแล้ววันนี้ เพราะอยู่ดีๆ ก้องภพก็โพล่งขึ้นมาให้หัวใจมันเต้นผิดปกติอีกแล้ว


    เขาเป็นแบบนี้อีกแล้ว ชอบแกล้งเธอพอหนำใจก็มาขอโทษง่ายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คำขอโทษจากก้องภพไม่ใช่เรื่องน่าอายหากต้องพูดก่อน เพราะหากเขาผิดเขาจะเป็นฝ่ายพูดก่อนเสมอ และเธอก็ยกโทษให้เขาได้ง่ายดายตลอดเช่นกัน


    พีร์ธาดาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ เรื่องอะไรเอาเธอไปเปรียบกับตูดลิงได้เล่า "คุณมันเผด็จการชะมัด ครั้งนี้ฉันยกให้... แต่เอาเถอะ ฉันไม่ถือคนบ้าหรอก"


    "ผมก็ไม่ถือคำด่าของคนบ้าเหมือนกันครับ"


    ดู๊ ดู ยังอุตส่าห์ย้อนกลับมาได้ มันน่ายกโทษให้ไหมนี่ "คุณว่าฉันควรโทรบอกยัยอินดีมั้ย"


    "หือ เรื่องที่ผมหอมแก้มคุณนั่นเหรอ... เอาสิโทรเลย"


    อ๊ายยยยย จะพูดถึงทำม๊ายยย กำลังปรับหน้าเปลี่ยนเรื่องได้อยู่แล้วเชียว มันเขินนะยะ "จะบ้าเหรอ ฉันหมายถึงเรื่องทินกร !!"


    "อ้อ เรื่องนั้น" ก้องภพตอบพลางหัวเราะพลาง "ผมว่าคุณลองคุยกับนายทินกรให้รู้เรื่องก่อนดีกว่า เดี๋ยวอย่าเพิ่งงับหัวผม ผมก็ไม่ชอบใจเหมือนคุณนั่นแหละ ไอ้อินก็น้องผมนะ แต่เผื่อคุณจะหาทางหนีทีไล่พูดกับเพื่อนคุณได้ไง ถ้าคุณรู้เรื่องทั้งหมดจากปากของนายทินแล้ว ... บางทีผมว่ายัยอินน่าจะรู้อะไรๆ มาบ้างแล้วก็ได้นา"


    "หือ ทำไมคุณคิดแบบนั้นหละ" ดูเหมือนคำตอบกึ่งคำถามจะทำให้พีร์ธาดาลืมเขินไปได้ทันที


    "ก็ วันก่อนผมเจอยัยอิน แล้วถามเรื่องความรักกับมัน มันทำหน้าเรียบๆ ตอบเรียบๆ พอผมถามว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า มันก็ว่าเปล่า ปกติแล้วเรื่องนี้ยัยอินมันไม่เรียบนี่หน่า คือปกติมันต้องตอบหน้าแบบ ยังไงหว่าผมบอกไม่ถูก"


    "แบบแรดๆ ดี๊ด๊าหน่อยๆ โลกนี้ช่างเป็นสีชมพู เหมือนเพิ่งมีแฟนครั้งแรก" สาวสวยตอบทันควัน "ฉันก็สงสัยเหมือนคุณนะ เพราะว่าก่อนฉันก็ถามมัน มันก็ตอบเสียงเรียบ งานฉันก็เข้ามาอยู่เรื่อยไม่ค่อยได้เจอมันเลยช่วงนี้"


    "ซะเห็นภาพเลย แต่ถูก ก็ปกติมันต้องแบบนั้นแหละ ... อะไรๆ อาจไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้"


    "อืมมมม ... เอาอย่างคุณว่าแล้วกัน ครั้งนี้คุณมีสาระใช้ได้นะนี่" พีร์ธาดาพยักหน้าเห็นด้วย


    จากนั้นอาหารก็ค่อยๆ ทยอยมาส่งจนกุ้งทอดกระเทียมพริกไทยจานสุดท้ายจะวางลงบนโต๊ะ ทั้งปูผัดผงกระหรี่ กุ้งทอดกระเทียมจานใหญ่ กุ้งเผาตัวโต ต้มยำกุ้งสีสด ปลากระพงขาวราดพริก พีร์ธาดาจ้องมองอาหารตรงหน้าด้วยดวงตาประกายระยิบระยับ ยิ้มน้อยๆ อย่างห้ามไม่อยู่ สีหน้าเวลาเจอของถูกใจเจ้าหล่อนนั่นแหละ ก้องภพแอบยิ้มเมื่อเห็นใบหน้านั่น


    "มาผมแกะให้"


    พีร์ธาดามองชายหนุ่มตรงหน้าที่เพียรแกะทั้งกุ้งปูใส่จานข้าวเธอ ไม่เคยเปลี่ยน นี่คือสิ่งที่ก้องภพทำให้เธอเสมอ นี่ใช่ไหม ความใส่ใจของชายหนุ่มที่ส่งให้เธอมานาน โดยที่ไม่เคยรู้ตัวเลยสักนิดว่าการที่เขาทำอะไรให้… คือเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ


    แต่ต้องยอมรับอย่างเสียไม่ได้ว่าตอนนี้เธอมีความสุขมากทีเดียว ดูเหมือนจะสุขกว่าตอนที่มีช่วงชีวิตแบบนี้กับกรกฏเสียอีก และพีร์ธาดาก็ต้องตกใจกับความคิดตัวเองอีกครั้งเมื่อเธอเอาเขาไปเทียบกับอดีตคู่หมั้นในฐานะ 'คนรัก' และสมองสุดเลิศก็บังคับไว้ได้อีกครา เปลี่ยนเรื่อง !!


    "ตอนนี้คุณก้องทำอะไรอยู่เหรอ"


    "พี่ก้อง ไม่ใช่คุณก้อง ผมก็รับสร้างบ้าน ตกแต่งภายในอะไรเหมือนเดิมไปเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ" ก้องภพตอบพร้อมส่งกุ้งที่เขาแกะให้ลงจานเธอ


    "เรื่อยเปื่อย เอ้อลืมไป สถาปนิกจบนอกอย่างคนแค่คุมบริษัทแบบเรื่อยเปื่อย คุมลูกน้องแบบเรื่อยเปื่อย รับงานแบบชิลด์ๆ กำไรต่อเดือนก็คงเรื่อยเปื่อยสิเนอะ"


    พีร์ธาดาอดเบ้หน้าพูดประชดกับคำพูดที่ดีไม่จริงจังของเขาอย่างหมั่นไส้ ใครบ้างจะไม่รู้ว่า ก้องภพ นิรภาสกุล หุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท เอเวอร์บิลด์ จำกัด บริษัทที่ดูเหมือนเล็กแต่ไม่เล็กจากที่แทบจะผูกขาดกิจการด้านนี้ทั่วกรุงเทพแถมยังพ่วงบางจังหวัดไปด้วยเสียแล้ว


    แต่พีร์ธาดาอดชื่นชมความสามารถของชายหนุ่มที่ก่อธุรกิจเล็กๆ ของตัวเองจนประสบความสำเร็จอยู่ในทุกวันนี้ไม่ได้ เธอรู้ว่าการที่เขาไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อเอาความรู้มาพัฒนาบริษัทตัวเอง และได้ผลอย่างมากเพียงแค่เขากลับมาไม่ทันจะครบครึ่งปีเต็มบริษัทของชายหนุ่มก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง พร้อมทำกำไรได้อย่างมากพอตัว


    "พีชยังโกรธผมอีกเหรอ"


    "ฉันไปโกรธคุณเรื่องอะไร"


    "เรื่องที่ผมไปเรียนที่ฝรั่งเศสไง ผมต้องไปเพราะจำเป็น แล้วตอนนี้ผมก็กลับมาแล้วไง"


    "ประสาทเปล่า ฉันจะไปโกรธคุณทำไม"


    แม้คำตอบจะดูกระแทกกระทั้น หากแต่ก้องภพก็รู้ว่าหญิงสาวไม่พอใจกับสิ่งที่เขาตัดสินใจ คนปากแข็งขนาดนี้ต่อให้ตายยังไงก็ไม่พูดออกมาหรอก


    "ผมต้องทำเพื่ออนาคต ทั้งครอบครัวผม และ... คนที่ผมรัก" ก้องภพตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแกมรอยยิ้มเอ็นดู เขาจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาที่เปิดเผยถึงความในใจ "ก่อนผมไป บริษัทมันไม่เข้ารูปเข้ารอย ประสบการณ์แม้จะมีแต่มันไม่เพียงพอต่อการประคองบริษัทได้ ผมจำต้องปิดบริษัทพ่อชั่วคราว แล้วหันไปเอาความรู้เพิ่ม ผมอยากทำให้ความฝันพ่อและผมเป็นจริงให้ได้... ตอนนี้ผมทำสำเร็จแล้ว แต่ความฝันของผมยังไม่สำเร็จทั้งหมด"


    "... ก็รู้ ก็ไม่เห็นต้องอธิบายอะไรนี่นา" ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ ใช่ว่าเธอจะไม่ดีใจแทนเขา เธอหายโกรธเขาไปตั้งนานแล้ว เพียงแต่ตอนนี้อาจมีอารมณ์อยากประชดประชันบ้าง แล้วทำไมอธิบายอะไรไปถึงรู้สึกได้ว่ามันวกเข้ามาหาเธอยังไงชอบกล


    "คุณก้อง"


    "พี่ก้อง"


    "คุณก้อง"


    "พี่ก้อง"


    และดูเหมือนว่าหากเธอไม่เปลี่ยนสรรพนามเขา ไอ้คำต่อคำเรียกชื่อสั้นๆ คงไม่จบลงแน่นอน


    "โว้ย พี่ก้องก็พี่ก้อง... พี่ก้องมีแฟนยัง" พีร์ธาดาสงสัยจิ๊จ๊ะในลำคอก่อนเปลี่ยนสรรพนาม


    "โสด ทำไม พีชจะจีบผมเหรอ"


    "ที่พูดนั่นคิดแล้ว" พีร์ธาดาพูดขึ้นพร้อมตักเนื้อปลากระพงที่ชายหนุ่มเพิ่งเลาะก้างออกให้เข้าปาก "คนอย่างฉันไม่เคยต้องไปจีบใครก่อนยะ ถามดูเฉยๆ ไม่ได้รึไง"


    "ผมโสด โสดมานานแล้วด้วย... ไม่งั้นผมจะไปดูตัวเหรอ" ก้องภพหน้าบึ้งลงเมื่อพีร์ธาดายังคงแทนตัวว่า 'ฉัน' แทนที่จะเป็น 'พีช' เหมือนเมื่อก่อน ก็ยังดีที่ยอมเรียกเขาว่าพี่ก้องแทนคุณก้อง


    "อย่าเอาฉันมาอ้างหน่อยเลย อาทิตย์ก่อนนู้นฉันเห็นคุณกับผู้หญิง... เฮ้ย นั่นทินกร ฉันขอเข้าไปคุยกับเขานะ" พีร์ธาดาเลิกสนใจหนุ่มตรงหน้าทันทีที่เป้าหมายเข้ามาพร้อมครอบครัว


    "ผมไปด้วย" ว่าแล้วก้องภพก็ลุกตามพีร์ธาดาทันที


    ทำไมแค่หล่อนอยากเข้าไปคุยกับทินกรเพียงลำพัง ฉไนเลยก้องภพถึงตามมาด้วยล่ะนี่ เธอตัดรำคาญด้วยการดึงตัวทินกรเข้ามานั่งคุยร่วมโต๊ะอาหารเดิมของทั้งคู่


    ไหนๆ อีตาพี่ก้องก็ไม่ปล่อยอยู่แล้ว แถมยังไม่อิ่มอีก ลากมานั่งคุยตรงนี้แหละ


    "ฉันอยากคุยกับทินกรตามลำพัง คุณยุ่งอะไรด้วยนิ" พีร์ธาดาหันไปต่อว่าก้องภพพร้อมฉุดทินกรให้นั่งลงตามไปด้วย


    "คุณมันเลือดร้อน ผมกลัวผู้ชายคนนี้เป็นอะไรไป"


    "อยากรู้ด้วยล่ะสิ" พีร์ธาดาพึมพำและสะบัดหน้าหนีหนุ่มคู่ปรับทันที หันไปถามทินกร "นายมีอะไรจะพูดมั้ย"


    "... ผมเสียใจ ผมตั้งใจจะบอกอินมานานแล้ว แต่ยังหาโอกาสไม่ได้เสียที แต่ผมเลิกกับอินมาได้เกือบเดือนแล้วจริงๆ นะ" ทินกรก้มหน้าตอบคนถาม


    "แหม หาโอกาสนานจังนะ ลูกสองแล้วโอกาสยังไม่มาอีกเนอะ” สาวสวยอดไม่ได้ที่จะแขวะ "โอเค พอ ฉันเจอข้อสรุปล่ะ แต่เซอร์ไพร์สเล็กน้อยที่ฉันตกข่าวเรื่องนายเลิกกับอิน เรื่องนี้ฉันจะบอกเรื่องนี้กับยัยอินเอง ส่วนนายก็ไปขอโทษมันด้วย ถึงจะเลิกกันแล้วแต่ไอ้การที่นายมีเมียลูกเก็บไว้ไม่ให้ไอ้อินรู้ตั้งกี่ปี โทษทีนะ แต่คงต้องบอกว่ามันไม่ใช่นิสัยของลูกผู้ชาย... เมียนายชะเง้อคอเป็นยีราฟแล้ว กลับไปหาครอบครัวเหอะ"


    พีร์ธาดาไล่ชายหนุ่มกลับโต๊ะไปหาครอบครัวทันทีที่พูดจบ เธอมองเห็นว่าภรรยาของทินกรชะเง้อมองสามีตัวเองตลอดเวลาที่เขามาคุยกับเธอตรงนี้ พีร์ธาดาอดสงสัยไม่ได้ว่าภรรยาลับของทินกรจะรู้เรื่องพวกนี้ด้วยหรือเปล่า หากแต่ก็ปัดออกไปจากสมองได้อย่างง่ายดาย เพราะคิดว่าคงไม่สำคัญอะไรแล้วตอนนี้


    "หนอยไอ้อิน เลิกแล้วไม่บอก ปล่อยฉันตกข่าว ถ้าเจอล่ะน่าดู... แต่ก็ดีแล้วที่เลิก ผู้ชายหลบหน้าหลบตาไม่มองตาฉันสักนิด ไม่พูดไม่อือสักคำ หัวหน้าครอบครัวจริงเหรอนี่"


    "อย่าว่าแต่นายนั่นเลย ผมยังไม่กล้ามองพีชเหมือนกัน น่ากลัวชะมัด เอาเป็นว่าผมไม่เป็นหัวหน้าครอบครัวนะ... ให้พีชเป็นแทน"


    "ฉะ ฉัน คะ คุณ พูดอะไรออกมา จะบ้าเรอะ !" อ๊ากกกก จะเป็นลมวันละหลายรอบ


    "เอาน่า ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก... อ๊ะ เปลี่ยนเรื่องให้ก็ได้ เรื่องนี้ทำให้พีชมองผู้ชายแย่ลงรึเปล่า" ก้องภพมองหน้าเธอตลอดเวลาที่เธอคุยกับทินกร เขาอดชื่นชมในตัวของพีร์ธาดาไม่ได้ เธอเป็นอย่างนี้เสมอเด็ดขาดทั้งคำพูด และการกระทำ แต่ก็อดที่จะกังวลไม่ได้


    "ฉันก็อยากคิดแบบนั้นนะ เสียดายที่ฉันไม่ใช่คนทั่วไป ฉันคิดเสมอว่าคนทุกคนไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ฉันเจอผู้ชายแย่ๆ มาสองคนก็จริง แต่ฉันก็เชื่อว่ายังมีผู้ชายดีๆ อีกเยอะที่เรายังไม่เจอ อย่างน้อยก็พ่อฉันกับเจ้าสัวที่เป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในสายตาฉัน ก็คนเราต่างความคิด และการกระทำมันก็ไม่เหมือนกันนิ ส่วนผู้ชายในความหมายของคุณ หากฉันจะคบใครคนคนนั้นต้องพูดภาษาเดียวกับฉัน รักครอบครัว และถูกฉันพิจารณาแล้วว่าเป็นคนดี ฉันรู้ตัวเองดี ฉันมันสวยเลือกได้"


    ไม่รู้เพราะโล่งหรือดีใจจึงทำให้ก้องภพยิ้มขึ้นมาได้บนความหมั่นไส้เล็กน้อยที่หล่อนปั้นยอยกตัวเองขึ้นมา


    "อันที่จริงฉันก็อยากรวมคุณอยู่ในกลุ่มผู้ชายแย่ๆ นะ แต่เพราะวันนี้คุณทำดีกับฉัน... เอ๊ะ แย่หลายครั้ง แต่ฉันก็เขี่ยคุณทิ้งจากบัญชีหนังหมาไปแล้วล่ะ" พีร์ธาดาตอบทันทีที่เห็นหนุ่มมือเลอะยิ้มให้เธอ


    แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ พีช ก้องภพส่งกุ้งตัวโตที่ผ่านการแกะแล้วใส่ลงจานของพีร์ธาดา


    "แกะให้ตัวคุณบ้างเถอะ ฉันพุงจะแตกแล้ว"


    "ถ้าพีชจะพูดถึงผู้หญิงที่เห็นเดินหรือไปไหนมาไหนกับผม ผมบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ ตั้งแต่ผมบอกว่าผมคิดยังไงกับพีช ผมไม่เคยนอกลู่นอกทาง ผมมีพีชคนเดียว สบายใจได้"


    "คุณจะไปมีใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันเล่า... หลงตัวเองจริง" พีร์ธาดายอมรับแต่โดยดีว่ารู้สึกโล่งใจกับ คำอธิบายที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยของชายหนุ่ม




 

Create Date : 28 กันยายน 2553
2 comments
Last Update : 28 กันยายน 2553 12:27:17 น.
Counter : 651 Pageviews.

 

พบกันวันพฤหัสค่ะ ><

 

โดย: ตุยเหมี่ย 28 กันยายน 2553 23:45:46 น.  

 

มาอ่านค่ะ

 

โดย: กระรอกเมือง IP: 96.241.207.55 29 กันยายน 2553 2:57:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ตุยเหมี่ย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




"ดากร" ... ณ ตอนนี้ขอเปลี่ยนนามปากกาเป็นชื่อนี้แล้วนะคะ

นามปากกานี้เป็นการดึงชื่อจริงของตัวเองออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (ว่าเข้าไปนั่น)

เหตุที่เปลี่ยนก็เพราะว่า รู้สึกแปลกเล็กน้อยที่เอานางเอกของเรื่องมาทำเป็นนามปากกา มันเขินบวกรู้สึกชาที่หน้าแบบบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้

ดากร ... จำไม่ยากหรอกค่ะ ดากร
< /embed>

Friends' blogs
[Add ตุยเหมี่ย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.