|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
บ่วงรัก 6
| | | |
เสียงรถที่ดังแว่วเข้ามาส่งให้คนที่นั่งรออย่างใจจดใจจ่ออยู่นั้นรีบลุกพรวดเดินเร็ว ๆ ออกไปรอรับด้วยใบหน้าแช่มชื่น
รบค่ะ ไปไหนมาหรือคะสรีรัตน์ถามขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มเดินลงจากรถมา ถึงแม้จะไม่วิ่งตรงเข้าไปหาชายหนุ่มโดยตรง แต่สายตาที่มองส่งไปให้เขานั้นก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่เธออยากจะให้เขารับรู้
มีอะไรหรือเปล่าครับรี มาหาผมถึงนี่
เข้าบ้านก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันนะคะสรีรัตน์เลือกที่จะชักชวนชายหนุ่มเข้าบ้านแทนที่จะยืนพูดคุยกันอยู่ตรงนี้ อติรบยอมเดินตามคนชวนเข้าไปในบ้านด้วยท่าทีเรียบเฉย จนกระทั่งเดินมาหยุดอยู่กลางห้องรับแขกโล่งกว้าง
ไปไหนมาตารบ...รู้หรือเปล่าว่าหรูรีมารอตั้งแต่บ่ายแล้วคุณหญิงศรีรัตน์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ มองจ้องลูกชายด้วยสายตาตำหนิติเตียน
แม่มีอะไรกับผมหรือเปล่า
แม่จะไปมีอะไรกับเรา หนูรีโน่นที่มี...เรานี่ยังไงนะตารบ ปล่อยให้หนูรีมารอตั้งนาน แม่โทรไปหาก็ไม่รับสาย....
แม่ครับ...เสียงขรึมของลูกชายที่ดังขึ้นทำให้คนเป็นแม่หยุดคำพูดของตนเองลงทันที ด้วยรู้ดีว่า หากลูกชายตนพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้แล้ว แสดงว่า ลูกชายของเธอกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ต้องการให้ใครกวนใจ
เอ่อ...คุณป้าคะ...ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ รีเองก็ไม่ได้มีธุระสำคัญอะไร แค่อยากชวนรบไปทานข้าวเย็นด้วยกันเท่านั้นเองค่ะสรีรัตน์รีบพูดแทรกขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศมาคุที่ฝ่ายชายได้สร้างขึ้น
งั้นหรือจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นเชิญตามสบายนะจ๊ะหนูรี ป้าไม่กวนดีกว่าคุณหญิงศรีรัตน์หันไปพูดกับแขกสาวก่อนเดินเลี่ยงออกไป เปิดโอกาสให้หญิงสาวได้มีเวลาพูดคุยกับลูกชายของตนเองเป็นการส่วนตัว
รีครับ
รบจะปฏิเสธรีอีกแล้วหรือคะสรีรัตน์หันมาถามเสียงหงอย หลายครั้งแล้วที่เธอมักจะถูกปฏิเสธจากชายหนุ่มตรงหน้า และก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ครั้งที่ทำให้เธอรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ของเธอและเขากำลังมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
น้ำเสียงหงอย ๆ อีกทั้งยังท่าทางที่แสดงออกว่าน้อยใจและเสียใจของเธอทำให้อติรบไม่อาจพูดอะไรได้อีก นอกเสียจากยอมทำตามสิ่งที่เธอปรารถนา ทั้งที่ในใจนั้นเขาไม่อยากจะทำมันเลย....
รบ...แม่ขอคุยด้วยหน่อยสิคุณหญิงศรีรัตน์เรียกตัวลูกชายเอาไว้ทันทีที่เห็นลูกชายเดินกลับเข้าบ้านมาอีกครั้ง หลังจากที่พาว่าที่คู่หมั้นออกไปทานอาหารนอกบ้าน
มีอะไรหรือเปล่าครับ ดึกมากแล้วผมเหนื่อยอติรบถามกลับด้วยน้ำเสียงเนือย บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่อยากจะพูดหรือคุยอะไรด้วยทั้งนั้นในตอนนี้ ด้วยรู้ดีว่าสิ่งที่แม่ตนต้องการจะพูดด้วยนั้นคงไม่แคล้วเป็นเรื่องของสรีรัตน์ อีกตามเคย
อีกไม่ถึงสองเดือนก็จะถึงวันหมั้นแล้วนะลูก ลูกควรจะให้ความสำคัญกับหนูรีเขาบ้างคนเป็นแม่พูดขึ้น ไม่สนใจว่าลูกชายต้องการจะฟังหรือไม่
...................
แม่ไม่เข้าใจ...เมื่อไหร่ลูกจะลืมแม่คนนั้นเสียที แม่...
คุณแม่!อติรบขึ้นเสียงในทันทีที่คนเป็นแม่พูดสะกิดถึงใครอีกคนขึ้นมา
ทำไมล่ะรบ รบก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนยังไง เธอทิ้งลูกไปหาผู้ชายคนอื่นนะ
ผมไม่อยากฟัง!อติรบหันมาตะคอกเสียงใส่ด้วยความลืมตัว หน้าตาถมึงทึงจนคนเป็นแม่อดที่จะตกใจไม่ได้ แต่เมื่อตัดสินใจที่จะทำแล้ว นางก็ไม่คิดจะเกรงใด ๆ
แต่ลูกต้องฟัง! รบไม่เชื่อแม่ใช่มั้ย?เสียงคนเป็นแม่ตวาดขึ้นบ้าง ความรู้สึกไม่พอใจเอ่อล้นขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามใจ ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน นางก็ไม่อาจเขี่ยนังเด็กผู้หญิงคนนั้นออกจากใจของลูกชายได้เสียที
พอเสียทีเถอะครับแม่ ผมรู้ว่าผมควรจะทำยังไง...ผมขอตัวนะครับพูดจบก็เดินหนีขึ้นห้องตนเองไปทันที ไม่ฟังเสียงร้องเรียกของคนเป็นแม่อีกต่อไป
แสงไฟสว่างไสวภายในห้องนอนไม่ได้ทำให้อติรบรู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย หัวใจอันมืดมนของเขาถูกตอกย้ำด้วยคำพูดของคนเป็นแม่อีกครั้ง...เขาควรจะทำอย่างไรเพื่อให้ลืมเรื่องราวเหล่านั้น จะทำอย่างไรให้ลืมผู้หญิงคนนั้นให้หมดไปจากใจเสียที...สุดท้ายความทรงจำในครั้งเก่าก็กลับมาตอกย้ำเขาอีกครั้ง
...ครั้งแรกที่เขาได้เจอกับพิมพ์รดา...เธอเป็นเด็กสาวที่อยู่ในวัยสดใส หน้าตาน่ารักและดูโดดเด่นกว่าเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ดวงตากลมโตแต่นัยน์ตากลับแฝงไว้ด้วยความเศร้าที่มองสบมาในคราแรก แทบจะทำให้เขาไม่อาจถอนสายตาออกจากเธอได้ และเมื่อเธอส่งยิ้มมาให้ ภาพรอยยิ้มที่ติดตรึงอยู่บนดวงหน้าหวานนั้นก็ประทับติดตรึงอยู่ในหัวใจเขาในทันที ทุกครั้งที่ได้แอบมองก็ทำให้เขาใจสั่นไหว และแน่นอนว่าเขายินดีสานไมตรีกับเธอต่อไป ด้วยการสนับสนุนจากเพื่อน ๆ ทำให้เขาและเธอได้มีโอกาสพบกันบ่อยครั้ง จากความสัมพันธ์เพียงแค่เพื่อนเริ่มพัฒนาขึ้นเป็นไปในอีกรูปแบบหนึ่ง แม้ว่าทั้งเขาและเธอจะไม่ได้เรียนที่เดียวกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับตัวเขาเลย เขาหมั่นเพียรมาหาเธอถึงที่โรงเรียนแทบทุกเย็น ใช้เวลาในช่วงเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข ตลอดระยะเวลาสองปีนับตั้งแต่ที่เขาได้รู้จักเธอ มันทำให้เขารู้ว่า เธอคือผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้
ในวันจบการศึกษาระดับมัธยมปลายเป็นวันเดียวกับที่เขารู้ตัวว่าเขาจะต้องเดินทางไปเรียนต่อยังต่างประเทศ เขาตัดสินใจพาเธอไปบ้านของตนเองโดยให้เหตุผลว่าครอบครัวของเขาจัดงานเลี้ยงฉลองจบการศึกษาให้กับตัวเขา ซึ่งเหตุผลนี้เองทำให้เธอไม่ปฏิเสธที่จะไปบ้านของเขา หลังจากที่เธอปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว โดยที่ตัวเธอเองไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังของการชักชวนในครั้งนี้คือ เขาต้องการพาเธอไปพบกับพ่อและแม่ของเขาเอง เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าเขาจะสารภาพรักกับเธออย่างจริงจังและจะขอหมั้นเธออย่างเป็นทางการก่อนที่ตนเองจะเดินทางไปเรียนต่อ...แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลายลงจนหมดสิ้น เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำให้เธอบอกเลิกกับเขา ทั้งที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอในเวลานั้นมันเกินเลยจนกู่ไม่กลับแล้ว...เสียงสนทนาในวันนั้นวกกลับมาให้เขาได้ยินและเจ็บปวดกับมันอีกครั้ง
ทำไมล่ะพิมพ์ รบทำอะไรผิด
รบไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
แล้วเพราะอะไรล่ะพิมพ์ ทำไมเราต้องเลิกกันด้วยเสียงแหบพร่าถามออกไป มือหนึ่งคว้าเอวของเด็กสาวเอาไว้แน่น แม้เธอจะพยายามแกะมือของเขาออกก็ตาม
พิมพ์ขอโทษ...รบอย่าถามอะไรพิมพ์เลยนะเด็กสาวหันมาพูดด้วยใบหน้าหม่นเศร้า สลัดตัวออกจากการเกาะกุมของเขา ก่อนเดินจากไปโดยไม่หวนกลับมามอง
รบไม่ยอมหรอกนะ รบไม่ยอมให้เรื่องของเราจบลงแบบนี้แน่ พิมพ์!อติรบในเวลานั้นพูดประโยคนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงกร้าว แม้ว่าเด็กสาวจะไม่อยู่ในห้องนี้แล้วก็ตาม
หลังจากวันนั้นมาเขาก็พยายามตามหาตัวเธอไปทั่วไม่ว่าจะเป็นที่บ้านเช่าของเธอ หรือว่าบ้านเพื่อน ๆ เธอ แต่ทว่าทุกอย่างก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน หรือถามใครก็ไม่มีใครให้คำตอบเขาได้เลยว่า เธอหายตัวไปไหน เธอหายไปนับแต่คืนนั้น แม้แต่ อินทิรา เพื่อนสนิทที่สุดของเธอก็ยังไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน ความอึดอัดและทรมานรุมสุมเข้ามาในจิตใจของเขาจนแทบทนไม่ไหวเมื่อได้รู้ว่าถึงเวลาที่ตนเองจะต้องเดินทางไปเรียนต่อยังต่างประเทศแล้ว แต่เขากลับยังไม่พบเจอเธอ ยังไม่ได้พูดคุยกันให้รู้เรื่องเลย และด้วยเหตุผลนี้เองทำให้เขาตัดสินใจว่าจะไม่ยอมเดินทางไปเรียนต่ออย่างแน่นอน หากยังไม่พบเธอและพูดคุยกันให้รู้เรื่อง แต่ทว่าแม่ของเขากลับไม่ยินยอมให้เขาทำตามใจตนเองแบบนั้นได้ อีกทั้งยังหาเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ มาพูดกับเขาจนในที่สุดเขาก็ยอมทำตามความต้องการของแม่ เมื่อคนเป็นแม่รับปากจะช่วยตามหาเธอและจะติดต่อเขาไปทันทีที่เจอตัว...
แต่แล้วเรื่องทุกอย่างก็เลวร้ายลงและเป็นจุดเริ่มต้นของความแค้นของเขาอีกด้วย...เขายังคงจำได้ดี ในวันที่เขาได้รับการติดต่อจากแม่ตนเอง หลังจากที่เขาเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาเกือบเดือน
รบหรือลูก...นี่แม่นะ
ครับแม่...แม่เจอตัวพิมพ์แล้วใช่มั้ยครับ
รบฟังแม่ดี ๆ นะ...รบลืมผู้หญิงคนนั้นได้แล้วนะลูก....
อะไรกันครับแม่! แม่พูดอะไรน้ำเสียงงุนงงถูกถามออกไปทันที เมื่อได้ยินคำพูดของคนเป็นแม่
แม่พิมพ์ของลูกน่ะ รู้มั้ยว่าตอนนี้หล่อนกลายไปเป็นแฟนของ นายฟ้าไปแล้ว
แม่พูดอะไร นายฟ้า มาเกี่ยวอะไรด้วย
ฟังแม่นะรบ...ที่แม่พิมพ์มาขอเลิกกับรบก็เพราะหล่อนแอบคบอยู่กับนายฟ้า และพอแม่นั่นรู้ว่าลูกจะไปเรียนต่อ คงไม่อยากรอลูกอีก เลยรีบเบนหัวไปหานายฟ้าทันที แม่นั่นร้ายกาจมากนะลูก...รบจำวันงานเลี้ยงในวันนั้นได้หรือเปล่าล่ะลูก รบเห็นสายตาที่สองคนนั้นแอบมองกันได้มั้ย ยังจำได้มั้ยที่แม่เคยบอกกับลูกน่ะ...ที่นี่ลูกก็ตาสว่างได้แล้วนะ ลืมแม่นั้นไปได้แล้ว
ไม่จริง....เป็นไปไม่ได้เสียงรำพันของลูกชายทำให้คนเป็นแม่คนห่วงไม่ได้ แต่เมื่อคิดถึงผลได้ ผลเสียแล้ว นางยอมที่จะเห็นลูกชายเจ็บในตอนนี้ ดีกว่าได้ผู้หญิงไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าแบบนั้นมาเป็นลูกสะใภ้
นับจากนั้นมา เขาก็มักได้รับข่าวคราวของหญิงสาวในรูปแบบต่าง ๆ จากคนเป็นแม่ ซึ่งเป็นข่าวที่เขาไม่อยากรับรู้เลยสักนิด และด้วยสาเหตุนี้เองที่ได้สร้างรอยดำมืดให้เกิดขึ้นในจิตใจของเขา และไม่ว่าเขาจะพยายามลืมมันแค่ไหน เขาก็ไม่อาจลืมเลือนมันได้เลย ทุกประโยค ทุกคำพูดของคนเป็นแม่ ไหลวนเวียนอยู่ในหัวของเขาคล้ายกับจะต้องย้ำให้กับความโง่เขลาของตัวเขาเอง ที่หลงทุ่มทั้งกาย ทั้งใจให้กับเธอ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นเพียงแค่ภาพลวง...
เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลืมเธอให้ได้ เขาเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเพื่อหวังจะลืมเธอ แต่แล้วไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่สามารถลบภาพเธอออกจากใจเขาได้เลย ...จนกระทั่งเมื่อสี่ปีก่อน เขาได้พบกับสรีรัตน์ สรีรัตน์เป็นสาวหวาน ท่าทางบอบบางและดูคล้ายกับเป็นคนอ่อนแออีกด้วย และในบางมุมของเธอทำให้เขาคิดถึงใครคนหนึ่งที่ยังคงหลบอยู่ในมุมมืดในหัวใจของเขา และสิ่งนั้นเองทำให้เขาให้ความสนใจเธอเป็นพิเศษ จนเกิดเป็นความสัมพันธ์ หลายครั้งที่เรื่องของเขาและเธอเกือบจะจบลงที่เตียงนอน แต่เมื่อเกือบจะถึงจุดนั้นก็เป็นเขาเองที่ไม่อาจทำมันได้...สรีรัตน์ต่างไปจากผู้หญิงหลาย ๆ คนที่เขาเคยผ่านมา หรืออาจจะเรียกได้ว่า เพราะเธอดูคล้ายกับใครคนนั้นนั่นเอง จึงทำให้เขาไม่กล้าที่จะพลั้งเผลอไปอีก
ความสนิทสนมระหว่างเขาและสรีรัตน์มีมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งครอบครัวของเขาและเธอก็ยังรู้จักมักคุ้นกันในระดับหนึ่งอีกด้วย ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับรู้ว่าเขาและเธอกำลังอยู่ในระหว่างคบหาดูใจกัน...เขาไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของเขาที่มีให้กับสรีรัตน์เรียกว่าอะไร...เขาไม่อาจพูดได้เต็มปากว่า รักเธอ แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เขาไม่รู้สึกอะไรกับเธอเลย และเพราะเหตุผลนี้เองทำให้ทั้งเธอและเขาตกอยู่ในสภาพอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขั้นกลางความนึกคิดของอติรบทำให้ภวังค์นั้นมลายหายไปสิ้น นัยน์ตาสีนิลตวัดไปมองโทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋วของตนที่วางอยู่ไม่ไกลมือนัก ก่อนถอนใจออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
ว่าไงครับรี
รบถึงบ้านหรือยังคะ รีเป็นห่วงเลยโทรมาถามดูค่ะสรีรัตน์ส่งเสียงหวานผ่านสายมา
ครับ ผมถึงบ้านแล้ว กำลังจะอาบน้ำพอดีเลย
หรือคะ...งั้นรีไม่รบกวนรบแล้วดีกว่าค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะรบ รีรักรบค่ะสรีรัตน์บอกอีกครั้งก่อนวางสายไป
สายน้ำที่ไหลรินกระทบผิวกายไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกกระชุ่มกระชวยเลยแม้แต่น้อย ด้วยใจที่ยังว้าวุ่นและสับสนจนไม่อาจรับรู้สิ่งใดเลยนั่นเอง ภาพใบหน้าของพิมพ์รดาลอยวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ไม่ว่าเขาจะพยายามตัดมันออกไปเท่าไหร่ ก็ไม่อาจทำให้ภาพนั้นหายไปจากความนึกคิดของเขาได้ รอยยิ้มของเธอที่เขาเคยหลงใหลยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเขาไม่เสื่อมคลาย
พิมพ์ ผมควรจะทำยังไงกับคุณดี
ในบ้านเช่าหลังเล็กกะทัดรัด การทุ่มเถียงกันระหว่างน้าสาวและหลานชายเริ่มส่งเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จากที่แกล้งเย้าแหย่กันไปมา สุดท้ายการเย้าแหย่นั้นกลับกลายเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาเมื่อจู่ ๆ น้าสาวก็ฉวยจานขนมที่เต็มไปด้วยคุกกี้ไปหน้าตาเฉย
น้าอิน! เอาขนมของออยคืนมาเลยนะ ออยโกรธจริง ๆ แล้วนะครับน้ำเสียงเข้มของหนุ่มน้อยผู้เป็นหลานร้องบอกขึ้น สองมือไขว่คว้าจานขนมที่อยู่สูงเหนือศีรษะตัวเองอย่างเอาจริงเอาจัง
อะไรกันจ๊ะน้องออย ขนมจานนี้ของน้าอินนา ขี้ตู่นี่เราพูดจบก็หัวเราะร่า ดีอกดีใจที่ได้กลั่นแกล้งหลานชายสุดที่รัก
น้าอิน!
โอ๋ ๆ...ไม่งอนกันน๊า...น้าอินไม่แกล้งแล้วก็ได้ อยากได้ขนมจานนี้คืนหรือเปล่าเอ่ยคนเป็นน้าถามขึ้น พลางยักคิ้วหลิ่วตาให้หลานชายตน และเมื่อเห็นว่าหลานชายพยักหน้ารับ คนถามก็ยิ้มหวานเอียงแก้มของตนไปให้เป็นการยื่นข้อเสนอของตัวเอง
โธ่!...น้าอินนี่นะ อยากให้ออยหอมแก้มก็ไม่บอก ออยยอมให้น้าอินคนเดียวเลยนะจะบอกให้พูดจบก็เดินเข้ามายื่นปากเข้าหอมแก้มน้าสาวเสียฟอดใหญ่ และแถมท้ายด้วยการจุ๊บปากน้าสาวให้อีกด้วย
ต๊าย!...แหม พ่อหลานรักของน้า ร้ายนักนะเรา โรขึ้นห้ามไปจุ๊บปากสาวไหนแบบนี้นะ น้าอินไม่ยอมจริง ๆ ด้วยอินทิราแกล้วทำน้ำเสียงตกอก ตกใจ ก่อนทำทีเป็นตัดพ้อ น้อยใจ หากในอนาคตหลานชายตัวดีจะไปทำแบบนี้กับสาวอื่น
โธ่! น้าอินครับ ออยยังเด็กอยู่เลย ออยไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ แต่ถ้าโตขึ้นออยจะหล่อจนสาว ๆ มายื่นแก้มให้ออย ออยก็คงต้องยอม ต้องหยวนให้นะครับ
น้องออย!...พูดอะไรเนี่ยลูก แก่แดดใหญ่แล้วนะเราพิมพ์รดาเดินมาทันได้ยินเสียงลูกชายพูดประโยคเกินเด็ก ก็รีบร้องปราม ผิดกับน้าสาวที่เอาแต่หัวเราะร่วน ชอบอก ชอบใจกับคำพูดของหลานรักพลางนึกในใจว่า...หลานของเธอนี่สงสัยว่า ลูกไม้จะหล่นไม่ไกลต้นซะแล้ว.....
พิมพ์ทำงานเสร็จแล้วหรืออินทิราถามแทรกขึ้น พลางพยักเพยิดกับหลานชายเป็นการส่งซิก ซึ่งคนเป็นหลานก็รู้จังหวะดี รีบฉวยจานขนมแล้วเดินจากไปโดยเร็ว
เกือบแล้วล่ะ พอดีหิวน้ำ...อินนี่นะ สอนหลานแบบนี้ไม่ดีเลยนะพิมพ์รดามองตามลูกชายตัวดีที่เดินหนีไปทันทีที่คนเป็นน้าเข้ามาขวาง ก่อนหันมาพูดกับเพื่อนตนด้วยน้ำเสียงระอาใจ
อินสอนที่ไหนกัน...ไหน ๆ งานไปถึงไหนแล้ว เอามาให้อินดูบ้างสิอินทิราพูดพลางเดินไปยังมุมโต๊ะทำงานของเพื่อนเป็นการเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปเมื่อสักครู่ อาการก้ม ๆ เงย ๆ อย่างตั้งอกตั้งใจของเพื่อนส่งให้พิมพ์รดาขึ้นกับส่ายหน้าไปมา...แบบนี้ทุกทีสิน่าอิน!
โอ้โห...ใช้ได้เลยอ่ะพิมพ์ งานนี้ผ่านฉลุยแน่
พิมพ์ก็หวังให้เป็นแบบนั้นนะพิมพ์รดาพูด หย่อนตัวลงนั่งใกล้ ๆ เพื่อน
พรุ่งนี้พิมพ์ต้องเอางานไปส่งพี่ปองเลยใช่มั้ย เฮ้อ!...พูดถึงพี่ปองแล้วอินเซ็งอินทิราพ่นลมหายใจออกมาเสียงดังทันทีที่เอ่ยถึงชายหนุ่มผู้เป็นทั้งรุ่นพี่และเจ้านายของตน
ก็เพราะดินทำตัวอินเองทั้งนั้น อินต้องเข้าใจที่ปองเขาบ้างนะ เขาเป็นเจ้านายเรา อายุก็มากกว่าเราตั้งหลายปี ส่วนเราก็เป็นลูกน้องเขา อายุก็น้อยกว่าเขา...งงมั้ยเนี่ย! เอาเป็นว่า...ง่าย ๆ เลยนะ ไม่มีเจ้านายที่ไหนหรอกที่เขาจะชอบลูกน้องที่ไม่ให้เกียรติ ไม่นับถือเขาน่ะ อินลองคิดดูดี ๆ...ถ้าอินได้เป็นเจ้านายบ้าง แล้วมีลูกน้องมาทำอย่างที่อินทำกับพี่ปอง อินจะรู้สึกยังไง นี่พิมพ์ไม่ได้เข้าข้างพี่ปองเลยนะ พิมพ์เป็นกลางที่สุด!
คำพูดของพิมพ์รดากระตุ้นความรู้สึกสำนึกของอินทิราได้ไม่น้อยทีเดียว ซึ่งตัวคนพูดเองก็รู้สึกยินดีมากที่อย่างน้อยเพื่อนเธอก็เป็นคนมีเหตุผลมากพอ
อินไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้นเลยนะพิมพ์ มันเป็นไปเอง จริง ๆ นะ อินไม่ได้ตั้งใจเลย
เอาน่า...ในเมื่ออินบอกว่าอินไม่ได้ตั้งใจ ต่อไปอินก็ทำตัวใหม่สิคำพูดของพิมพ์รดาไม่รับการตอบรับจากเพื่อนด้วยความเงียบ แต่เธอก็เชื่อว่าเพื่อนเธอจะต้องทำอย่างที่เธอแนะนำแน่
เอาล่ะ...พิมพ์ว่าเราแยกย้ายกันไปนอนดีกว่านะ พรุ่งนี้น้องออยเปิดเทอมวันแรกด้วยพูดจบก็ทำท่าจะผละจากไป แต่แล้วเสียงของเพื่อนก็ดังขึ้นเสียก่อน
อินจะพยายามก็แล้วกันนะพิมพ์ ก็บอกแล้วไง อินไม่รู้ตัวจริง ๆ มันเป็นไปเอง
พิมพ์รดาชะงักยืนอยู่กับที่ฟังจนเพื่อนพูดจบแล้วก็ต้องถอนใจออกมา ด้วยรู้สึกเหนื่อยใจแทนเจ้านายหนุ่มของตน งานนี้ ไม่ใครก็ใครนั่นแหละจะต้องมีเจ็บตัวกันบ้าน....
เช้าวันใหม่ย่างก้าวเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับเสียงอึกทึกครึกโครมของสองน้าหลาน เสียงโวยวายที่ดังแว่วออกมาจากทางห้องครัวขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะกับครอบครัวเล็ก ๆ ของพวกเธอ รั้งให้คนที่เพิ่งก้าวลงจากชั้นสองของบ้านต้องเดินมาชะโงกหน้าดูเหตุการณ์
ทำอะไรกันอยู่จ๊ะ น้า หลาน จะสายแล้วนะ
แม่พิมพ์! ออยอยากกินอเมริกันเบรกฟาสครับ แต่น้าอินจะทำแต่ข้าวต้มอย่างเดียวเลยหนุ่มน้อยหันมาฟ้องคนเป็นแม่ทันทีก่อนหันไปทุ่มเถียงกับน้าสาวต่อ เวลาผ่านไปเกือบสิบนาทีได้การทุ่มเถียงกันของสองน้าหลานก็สิ้นสุดลง และชัยชนะในครั้งนี้ก็เป็นฝ่ายหลานชายสุดที่รักอีกครั้งจนได้...
อาหารเช้าแบบอเมริกันเบรกฟาส หรือจะเรียกง่าย ๆ ก็ ขนมปัง ไข่ดาว หมูแฮม ถูกจัดใส่จานอย่างน่ารับประทานและวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะอาหารอย่างเรียบร้อย จากนั้นทั้งสามก็เริ่มรับประทานอาหารเช้ากันอย่างเอร็ดอร่อย
ขึ้นรถได้แล้วครับสุดหล่อน้าสาวเอ่ยเสียงหวานพร้อมกับเปิดประตูรถรอรับหลานชายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม โดยที่หลานชายก็ไม่ขัดใจรีบกระโดยผลุบเข้าไปนั่งประจำที่ของตนในทันทีเช่นกัน ก่อนที่รถยนต์คันโปรดของคุณน้าคนสวยนะทะยานออกจากบ้านโดยมีจุดหมายปลายทางคือโรงเรียนประถมของหลานชายในเวลาต่อมา
ตั้งใจเรียนนะครับลูก เย็นนี้พี่แต้มจะเป็นคนมารับนะครับพิมพ์รดาย่อตัวลงพูดกับลูกชายหลังจากเดินเข้ามาส่งลูกชายถึงทางเข้าประตูโรงเรียนแล้ว
ครับแม่พิมพ์
สวัสดีครับหนุ่มน้อยรับคำของแม่ ยกมือไหว้ทำความเคารพก่อนหันหลังวิ่งเข้าโรงเรียนไป เสียงคุ้นหูของลูกชายที่กำลังร้องเรียกทักทายเพื่อนตัวน้อยของตนอยู่ ส่งให้คนเป็นแม่หันกลับไปมองดูอีกครั้ง ก่อนที่ลูกชายจะเดินลับหายไปกับกลุ่มของเพื่อน พิมพ์รดายืนมองจนลูกชายลับสายตาไปจึงได้หันหลังเดินกลับไปยังรถของเพื่อนที่จอดรออยู่ไม่ไกล
ทันทีที่เดินทางมาถึงบริษัทของตน อินทิราก็ต้องแปลกใจเมื่อโต๊ะทำงานของเธอหายไปอย่างไร้ร่องรอย ถามใครก็ไม่มีใครยอมตอบ เอาแต่พยักเพยิดไปทางห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม และนั่นเองที่ทำให้เธอนึกบางอย่างขึ้นมาได้
พี่ปองเอาจริงหรือนี่!เธอรำพึงกับตัวเองเบา ๆ ก่อนออกเดินไปยังห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม และดูเหมือนว่ามันกำลังจะกลายเป็นห้องทำงานใหม่ของเธออีกด้วยทันที
เสียงเคาะประตูดังขึ้นไม่เบานัก ก่อนที่มันจะถูกเปิดออกด้วยน้ำมือของคนที่เป็นคนเคาะประตูนั่นเอง
มาแล้วหรืออินปองพลถามเสียงเรียบ เงยหน้าขึ้นมองสบตาลูกน้องสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าตนด้วยแววตานิ่งเรียบ ไม่บ่งบอกว่าชอบใจหรือไม่ที่ลูกน้องสาวทำกิริยาแบบนี้ใส่ตน
พี่ปองจะให้อินเข้ามาทำงานในนี้จริง ๆ น่ะหรืออินทิราเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลผิดแผกไปจากทุกครั้ง จนคนฟังแอบยิ้มอยู่ในใจ
อือฮึ
แต่อินอยากกลับไปนั่งที่เดิม
อือ....ฮึเสียงรับคำของเจ้านายหนุ่ม ยิ่งทำให้อินทิราได้ใจ ว่างานนี้เธอทำสำเร็จแน่ จึงค่อย ๆ ตะล่อมต่อไป
นะคะพี่ปอง ให้อินกลับไปนั่งทำงานที่เดิม นะคะ...เสียงหวานรื่นหูที่ดังขึ้น ส่งให้ชายหนุ่มมองหน้าคนพูดด้วยสายตาที่คนพูดเห็นแล้วอยากจะตะปบหน้าหล่อ ๆ นั้นนัก
ไม่สบายหรือเปล่า...อิน
ไม่นี่คะ...อินสบายดี พี่ปองยังไม่ให้คำตอบอินเลยนะ อินขอออกไปนั่งทำงานข้างนอกตามเดิมนะคะทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายจงใจล้อเลียนตนเอง แต่ทว่าจุดประสงค์หลักสำคัญกว่า อินทิราจึงแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจคำถามของชายหนุ่ม แล้วปฏิเสธออกไปด้วยน้ำเสียงที่หวานเสียยิ่งกว่าตอนแรกหลายเท่า
อิน...พอเถอะ...อย่าทำอะไรที่มันไม่ใช่ตัวอินแบบนี้เลย ไม่ใช่พี่รับไม่ได้นะ แต่มัน...
พี่ปอง!
หึ....หึ...นี่แหละอินของพี่ตัวจริง เสียงจริงปองพลหัวเราะในลำคอด้วยความชอบใจ ก่อนบอกไป
แล้วตกลงว่าไงคะ...อินขอไปนั่งที่เก่าได้หรือเปล่า
ม่าย.....ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อินเข้ามาทำงานในนี้ เวลามีอะไรพี่จะได้เรียกใช้ได้ง่าย ๆ หน่อยปองพลส่ายหน้าช้า ๆ พร้อมกับคำพูดราบเรียบที่พูดออกไป แต่ทว่าสำหรับคนฟังแล้วไม่ได้รู้สึกราบเรียบและชอบใจเลยสักนิด
หนอย...ไอ้พี่ปองบ้า มีอะไรจะได้เรียกใช้ง่าย ๆ ตั้งใจจะจ้องจับผิดเราตลอดเวลาก็ว่ามาเถอะ...ฮึ!!
เออ...แล้วนี่พิมพ์มาหรือยัง มาด้วยกันหรือเปล่าคำถามของปองพลส่งให้คนที่กำลังต่อว่า ต่อขานเขาอยู่ในใจสะดุ้งเฮือก
เป็นอะไร? หรือว่าแอบนินทาพี่ใจใจอีกแล้ว
เปล่าซะหน่อย พี่ปองหาเรื่อง!
หึ...เปล่าก็เปล่า...แล้วตกลงว่าพิมพ์มาแล้วหรือยังปองพลหัวเราะขำคนผิดแต่ไม่ยอมรับผิดก่อนจะเอ่ยถามออกไปอีกครั้ง
มาแล้ว
อืม...งั้นอินไปตามพิมพ์ให้พี่หน่อยสิ
อะไร? พี่ปองทำไมไม่ไปใช้เลขาฯของพี่ล่ะ มาใช้อินทำไมอินทิราทำหน้าเหรอหรา บอกออกไปด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้
อ่อ...ลืมบอกไป เลขาฯ พี่ลาพักร้อนพอดีเลย เอาเป็นว่าช่วงนี้อินก็มาเป็นเลขาพี่เพิ่มอีกตำแหน่งก็แล้วกันนะ เดี๋ยวพี่เพิ่มเงินเดือนให้เป็นพิเศษเลยปองพลพูดขึ้นหน้าตาย ผิดกับคนได้รับตำแหน่งเพิ่มโดยที่ไม่ต้องเรียกร้อง ที่เกิดอาการแข็งค้าง ร่างกายทุกส่วนหยุดนิ่งไม่ไหวติง จนชายหนุ่มนึกขำ ก่อนเดินเข้าไปหาสาวหวานที่แสนจะดื้อรั้นและพยศที่สุดของเขา โบกมือไปมาอยู่ตรงหน้าหลายครั้งติดต่อกัน แต่ทว่าเธอก็ยังไม่รู้สึกตัวอยู่ดี จนเขาต้องออกแรงเขย่าร่างบางนั้นเบา ๆ เป็นการเรียกสติ
พี่ปอง!...ทำอะไร เข้ามายืนทำไมใกล้เสียขนาดนี้อินทิราโวยขึ้นเสียงดัง พลางถอยหลังหนีความใกล้ชิดนั้นในทันทีที่กลับมารู้สึกตัว
ตกลงตามนี้นะ...ไปตามพิมพ์มาให้พี่ได้แล้ว
ตกลงอะไร เรื่องเป็นเลขาฯน่ะหรือ ไม่เอาหรอก อินไม่เป็นให้หรอกนะ
ไม่ได้! อินต้องเป็น...ไปได้แล้ว ไปตามพิมพ์มา เร็ว ๆ ด้วยปองพลปฏิเสธเสียงแข็ง ก่อนออกปากไล่ให้หญิงสาวไปทำตามคำสั่งของเขา โดยที่อินทิราไม่กล้าหือแม้แต่น้อย ทั้งที่เธอไม่อยากจะทำตามเลยสักนิด แต่ทว่าท่าทีของเจ้านายหนุ่มในเวลานี้ดูน่ากลัวยังไงพิกลก็ไม่รู้ เธอก็เลยไม่กล้าแผลงฤทธิ์น่ะสิ
อาการกระฟัดกระเฟียดเดินกระแทกเท้าออกจากห้องไปอย่างกับเด็กเล็ก ๆ ของอินทิราทำให้ปองพลหัวเราะชอบใจใหญ่...อย่างน้อย ๆ วันนี้เขาก็สามารถปราบเธอได้อยู่หมัดล่ะนะ...ถึงจะไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้เธอจะพยศอะไรขึ้นมาอีก แต่เขาก็เชื่อว่า เขาสามารถรับมือกับเธอได้แน่ แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่แน่ใจในตัวเองว่ารู้สึกอย่างไรกับเธอ แต่เขาเชื่อแน่ว่าอีกไม่นานหรอก เขาต้องรู้แน่...แล้วถ้าถึงเมื่อนั้น ถึงวันที่เขารับรู้ใจตัวเองว่า...รักเธอ ไม่ว่าเธอจะพยศสักแค่ไหน เขาก็จะกำหลาบให้อยู่หมัดเลยทีเดียว ไม่เชื่อก็คอยดู!!
| | | | |
Create Date : 19 ธันวาคม 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 19 ธันวาคม 2551 12:11:11 น. |
Counter : 504 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: poom IP: 125.24.79.60 20 สิงหาคม 2552 19:38:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|