ร่วมด้วยช่วยกันอ่านนะคะ

 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
24 กรกฏาคม 2550
 

ดั่งม่านหมอกกั้น ตอนที่1

ตอนที่1

ภายในตำหนักใหญ่ในวังดวงดาราของเสด็จพระองค์หญิงศิริรำไพร พระองค์หญิงองค์หนึ่งของประเทศเขมรัฐประเทศที่อยู่ระหว่างไทยและกัมพูชา

เสียงฝีเท้าของชายหนุ่มเดินย่ำลงบนพื้นไม่ขัดมันวาวดังกึกกัก อาจเป็นเพราะอารมณ์ที่ขุ่นมัวทำให้ลงน้ำหนักเท้าแรงไป

เขาเดินตามทางที่ลาดตรงไปกั้นกลางระห่วางห้องต่างๆ ที่เรียงหันหน้าชนกัน แล้วมาหยุดหน้าประตูบานใหญ่

เคราะเบ่าเพื่อเป็นการขออนุญาติคนข้างในก่อพลักประตูเข้าไปโดยที่ไม่รอเสียงตอบรับจากข้างใน ห้องกว้างใหญ่เต็มไปด้วยตู้หนังสือที่มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษปนกัน

บนตู้ที่สูงเลยศรีษะไม่มากนัก เขาสาวเท้าเข้าไปยืนตรงหน้าผู้ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือไม้สักทองตัวใหญ่บนโต๊ะเต็มไปด้วยหนังสือและเอกสารต่าง ๆ มากมาย หญิงวัยกลางคนผิวเหลืองนวลใบหน้าได้รูปงาม ไม่ได้แก่ชราไปตามอายุเท่าไรนักใส่เสื้อผ้าไหมสีน้ำเงินกับซิ่นสีเดียวกันขับผิวให้ผ่องยิ่งขึ้นหล่อนไม่ได้สนใจผู้ที่เข้ามาเท่าไรนัก คงจะเป็นเพราะรู้แล้วว่าใครเข้ามา จึงยังก้มหน้าทำงานต่อไป

ร่างสูงโปร่งโค้งคำนับก่อนหย่อนตังลงนั้งตรงหน้าเจ้าของห้อง พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยนว่า

"เย็นมากแล้วกระหม่อม ทรงพักบ้างเถอะเด็จอา"

ใบหน้าคมคายไม่ปรากฏรอยยิ้มเหมื่อนน้ำเสียงที่เปล่งออกมา
"มีอะไรก็พูดมาท่านชายใครทำอะไรให้โมโหอีกเล่า"

เสด็จพระองค์หญิงศิริรำไพรตรัสอย่างรู้ใจหลานชายคนโตเป็นอย่างมาก รอยยิ้มบางๆระบายเต็มพระพักตร์ที่เงยขึ้นมองท่านชายจักตราพงษ์

ท่านชายหนุ่มหรือหม่อมเจ้าจักตราพงษ์แห่งเขมรัฐหลบสายตาอาที่จ้องมองมาตอบอ้อมแอ่มว่า

"ไม่มีอะไรกระหม่อม"

"เดียวนี้หลานอาดูจะหงุดหงิดง่ายจริงเป็นอะไรหรือ"

"เปล่า กระหม่อม "

เ ขาตอบปัดออกไปเพราะไม่อยากจะอธิบายเหตุผลที่มันไม่มีเหตุผลเลยแค่โมโหที่คนขับรถขับรถช้าไม่ได้ดังใจเท่านั้นทั้งที่ตนก็ไม่ได้รีบไปไหนเลย
"เสด็จอาทรงพักผ่อนบ่างดีกว่ากระหม่อม หม่อมละออบอกว่าเสด็จอาทรงงานตั้งแต่เช้าแล้ว "

"ห่วงอาด้วยหรือ ท่านชายรู้ไหมว่าที่อาทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อหลานๆ อารู้ว่าตัวเองทำได้แค่ไหนควรทำอะไรบ้าง อาดีใจที่หลานเป็นห่วง แล้วสักวันหลานจะรู้ว่าที่อาทำอยู่ทุกวันนี้เพื่ออะไร"

เสด็จทรงทำงานที่อยู่ตรงหน้าต่อพร้อมตรัสเนิบ ๆ ว่า

" หลานกลับมาไวก็ดีไปอาบน้ำแล้วพาน้องไปรออาที่โต๊ะอาหารวันนี้เราจะได้ทานข้าวพร้อมกันบ้างแล้วมีอะไรค่อยคุยกันประเดี๋ยว อาเสร็จหน้านี้แล้วอาจะออกไป"
ท่านชายยิ้มน้อยๆแล้วรับคำอาค่อยๆลุกออกไปเงียบๆ

ท่านชายจักตราพงษ์เป็นโอรสของพระเชรษฐาของเสด็จพระองค์หญิงศิริรำไพร ที่สิ้นพระชนต์ด้วยอุบัติเหตุท่าง
รถยนต์ระหว่างเดินท่างกลับจากประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อน ท่านหญิงดุสิตตาแม่ของท่านชายทราบข่าวก็หัวใจวายกระทันหัน ทำให้ทั้งสามคนพี่น้องขาดทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันท่านหญิงน้องสาวคนกลางเสียใจจนไม่ย่อมพูดกับใครเป็นเวลานานจนไม่สามารถพูดได้ รักษาหมอที่ไหนก็จนใจเพราะเป็นที่จิตใต้สำนึก ของคนไข้เอง

ทั้งสามคนพี่น้องจึงอยู่ในความดูแลของผู้เป็นอาที่ต้องคอยปกป้องหลานด้วยสายเลือดสวนหนึ่งทางมารดาเป็นคนไทย จึงเป็นที่จับตาของพวกพระญาติต่างๆ ทั้งสามคนผูกพันธ์กับอามาก

โดยเฉพาะท่านหญิงสุวรรณโสภิต และสิริโสภาคที่แทบจะไม่เคยห่างอาเลย

บนโต๊ะเสวยบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นที่มีทุกคนมานั้งพร้อมหน้าอาหลานก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน ที่แห่งนี้จะมีเพียงหม่อมเจ้าหญิงน้อยๆสององค์เท่านั้น

ที่นั้งอยู่เป็นประจำทุกวันส่วนอาก็ทรงงานเลิกไม่เป็นเวลาพี่ชายใหญ่ของพวกหล่อนก็ไปสำรวจงานที่ต่างประเทศ ท่านชายนั้นทำงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการบูรณะของเก่าทางประวัติศาสตร์เละโบราณคดีไม่คอยอยู่ติดที่เท่าไรนักท่านหญิงกลางตักอาหารตรงหน้าให้อาแล้วแสดงภาษามือ ว่าให้อาทานมากๆ จะได้มีแรงทรงงาน เสด็จพระองค์หญิงศิริรำไพรยิ้มบางๆอย่างเอ็นดูตรัสว่า

“ ขอบใจมาก ที่เป็นห่วงอาหลานก็ต้องทานมากๆเช่นกัน” แล้วหันไปทางท่านชายใหญ่ “ มีอะไรจะบอกอาก็รีบพูดมาท่านชายแล้วนี่จะออกเที่ยวอีกเมื่อไรละ”

“วันมรืนกระหม่อม หลานจะไปประเทศไทย คงอยู่เป็นอาทิตย์ เสด็จอามีอะไรจะฝากไหมกระหม่อม”

“ไม่มี ก่อนไปท่านชายช่วยไปติดตามรื่องครูที่จะมาสอนภาษาให้น้องด้วย ว่าคุณรตีเขาว่าอย่างไรหาได้ไหม”

เสด็จทรงเสวยเสร็จก็ลุกนำหลานๆออกมานั่งในห้องนั่งเล่นท่านหญิงทั้งสองนั่งขนาบข้างอาไม่ยอมห่างคนน้องสุดท้องกอดเอวประจบว่า

“อยากเห็นหน้าคุณครูเร็ว ๆจังจะสวยไหม “

“เรายังไม่รู้เลยว่าเขาจะตกลงมาหรือเปล่า แต่ถ้าเขาตกลงมา อาก็จะดีใจมากเพราะว่าอาคิดว่าอาเลือกคนไม่ผิด ถ้าท่านชายมีโอกาศได้พบเขาก็บอกเขาด้วยว่าถ้าธุรของเขาไม่นานนักเราก็จะรอ”

ท่านชายโค้งตัวรับคำ แล้วหันไปทางน้องสาวทั้งสองคน

“มีอะไรจะฝากไปเมืองไทยบางหรือเปล่าเราสองคน”

ท่านหญิงองค์เล็กลุกออกจากอาไปนั้งบนตักพี่ชายตรัสว่า

“ฝากความคิดถึงถึงพี่หมอด้วยค่ะว่าน้องคิดถึง”

สียงใสๆทำให้ท่านชายจักตราพงษ์ยิ้มออกมาได้มากกับความน่ารักของน้องสาว

“แล้วหญิงภิตเล่าจะฝากอะไรบ้าง” เสด็จทรงก้มลงถามหลานคนกลางที่นั้งอยู่ข้างๆน้ำเสียงนุ่มนวล
ท่านหญิงสุวรรณโสภิตส่ายหน้าแล้วโอบเอวอา

“พี่หญิงท่านไม่เคยต้องการอะไรหลอกมังคะ เธอต้องการแต่เด็จอาองค์เดียว”

น้องคนเล็กแทรกขึ้น เสด็จทรงลูบศีษะหลานตัวน้อยที่อยู่ข้างๆด้วยความเอ็นดูร้อยยิ้มแห่งความกังวลปรากฎบนใบหน้าที่มีแต่ท่านชายที่สังเกตได้ ต่อไปไม่มีอาเจ้าจะอยู่อย่าไรสุวรรณโสภิต
>


Create Date : 24 กรกฎาคม 2550
Last Update : 24 กรกฎาคม 2550 15:06:12 น. 1 comments
Counter : 436 Pageviews.  
 
 
 
 
นางเอกในเรื่องคนนี้ใช่เลย
 
 

โดย: ศิริรำไพร วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:16:04 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ศิริรำไพร
 
Location :
อ่างทอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อยากเป็นนักเขียนค่ะให้กำลังใจเด็กบ้านนอกตัวเล็กๆด้วยนะคะ
[Add ศิริรำไพร's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com