- MOVIE - MY LIFE - MY MEMORY -

 
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
23 กรกฏาคม 2549
 

^^สุดยอดกับ Rashomon ...สุดเศร้าใน Tokyo Story...^^

Aloha!! กลับมาแล้วคราบ ความจริงเพิ่งไปดู The Break Up มา แต่ก็โอเคนะ เล่นดีกันทั้งสองคน เพลนๆ แบบหนังฮอลลีวู้ดทั่วไป ผมว่ามีหนังเอเชียสายเลือดญี่ปุ่นอยู่สองเรื่องที่อยากจะมาแนะนำกันดีกว่า (สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู และสำคัญ ญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีหนังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Foreign langauge Film บ่อยครั้งที่สุดด้วย รับประกันความเยี่ยมยอด!)

Rashomon : Akira Kurosawa 195
หนังที่สำรวจเข้าไปถึงจิตใจของมนุษย์ (Human Soul) ผลงานมาสเตอร์พีซของ อากิระ คุโรซาว่า ปรมาจารย์ภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่น อันเป็นที่เคารพและถือเป็นอาจารย์ทางศิลปะภาพยนตร์ของผู้กำกับหนังทั่วโลก Rashomon ไม่ได้ให้คำตอบในตอนท้ายว่า “ใคร” กันแน่ที่โกหก หรือพูดความจริงกับการพิจารณาไต่สวนในชั้นศาล จากการตายอย่างสยดสยองของซามูไรนายหนึ่ง (ดูฉากที่คนตัดไม้พบศพนี้ให้ดี ถือเป็นฉากประวัติศาสตร์คลาสสิคที่ยอดเยี่ยม และทรงพลังที่สุดฉากหนึ่ง! ด้วยฝีมือการถ่ายภาพที่เฉดให้ใบหน้านั้นมืดไปข้างหนึ่ง พร้อมๆ กับความลึกลับท่ามกลางป่าลุกอยู่แล้ว... ) เพราะบทสรุปไม่สำคัญที่ว่าเรื่องไหนจริงหรือไม่จริง เพียงแต่ต้องการให้ทุกคนรู้ว่า ในสังคมทุกวันนี้ นับวันคนเราจะไม่เชื่อใจ และไว้วางใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกคนต่างต่อสู้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง มีแต่คนขี้ขลาด ดังในหนังที่ว่า

“คนขี้ขลาด คือคนโกหก พวกเขามักหลอกตัวเองเสมอ และไม่เคยยอมรับว่าตัวเองโกหก มนุษย์ไม่เคยน่าไว้วางใจแต่อย่างใด”

จนมาถึงตอนท้ายเรื่อง ที่พระได้เข้าใจถึงเจตนาในใจของคนตัดฟืน แล้วกล่าวออกมาว่า “ความดีของเจ้า ทำให้ข้าเชื่อใจมนุษย์แล้ว ณ ตอนนี้”
ไม่เพียงแต่คุโรซาว่าในวัย 42 ขณะนั้น (ปี 1950) สิ่งที่น่ายกย่องมากเช่นเดียวกันคือ การถ่ายภาพกลางป่าลึกอันทอดยาว แสดงให้เห็นถึงความลึกลับ และทะมึนของเรื่องราวในหนัง พร้อมทั้งฉากแรก ณ วัดราโชมอน ที่ฝนได้กระหน่ำลงมาอย่างไม่หยุด อีกทั้งลมยังช่วยโหมกระพือให้ดูสมจริงยิ่งขึ้นไปอีกเท่าตัว โดยฝีมือของสหายวัย 44 “คาสุโอะ มิยากาว่า” นั่นเอง
ในปัจจุบัน Rashomon เป็นภาพยนตร์ที่เรียกได้ว่าใครที่ริจะเป็นผู้กำกับหนังหรือคนเขียนบทภาพยนตร์จะ “ต้องดู” และใครที่เป็นนักดูหนังก็สมควรที่จะหามาดูเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่ชีวิตนี้คุณจะไม่มีโอกาสได้สัมผัส ความรู้สึกของมนุษย์ที่แท้จริงบนโลกเซลลูลอยด์ แล้วคุณจะรู้ว่า “การเคลื่อนไหวอย่างนิ่งสงัด” เป็นยังงัย...

Tokyo Story : Yasujiro Ozu 1953
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ช่างน่าเศร้าเหลือเกินกับ สังคมญี่ปุ่นในยุคสมัยที่เมืองหลวงได้เปลี่ยนจาก “เกียวโต” ไปเป็น “โตเกียว” ไม่นาน กับเรื่องราวของสามีภรรยาผู้ชราในเรื่องคู่หนึ่ง ที่มีความต้องการที่จะไปเยี่ยมลูกและหลาน ณ โตเกียวที่ห่างไกล แต่ทว่าพวกลูกๆ ของเขากลับไม่ยินดีในการต้อนรับของพ่อแม่ในสายเลือดนี้ซักเท่าไรนัก

โดยเฉพาะตอนที่ลูกทั้งสองต่างเกี่ยงกันให้พ่อและแม่ไปนอนบ้านคนอื่น หรือที่อื่น เพราะไม่มีเวลาจะไปดูแลและพาไปเที่ยว แกทั้งสองก็พูดกันขำๆ (แต่ในใจคงทรมานน่าดู) ว่า “Now we’re really homeless” ประมาณว่า ตอนนี้เราสองคนกลายเป็นคนไม่มีที่อยู่ ที่นอนซะแล้วล่ะ แล้วแกก็ขำกันเองสองคน น่าสงสานมากๆ เลยอ่ะ ฉากนี้ผมร้องไห้เลยคราบบบบ เศร้าว่ะ...

แม้กระทั่ง ในตอนท้ายของเรื่อง ที่พ่อผู้ชรา ต่างพูดออกมากับลูกสะใภ้อย่างน่าเจ็บปวดว่า “ทำไม่เธอถึงดีกับพวกเราอย่างมาก ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นสายเลือดเดียวกันเลยด้วยซ้ำไป”....

อ่อ ๆ เกือบลืม มีฉากหนึ่งที่สองคนเขาคุยกันเล่นๆ ว่า “ระหว่างลูกของเรา กับหลาน (ลูกของลูก) เธอรักใครมากกว่ากัน?” แล้วฝ่ายพ่อก็ตอบเองว่า “ถึงพวกเขาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนก็ตาม ฉันก็ยังรักลูกมากที่สุดอยู่ดี เพราะพวกเขาเป็น “ลูกในสายเลือดของเรา” .......แงงงงง ร้องไห้อีกแล้วอ่ะ

ใครที่อยากประทับใจกับความรักที่พ่อแม่มีให้ต่อเรา ลองไปหามาดูนะครับ แล้วก็อย่าลืม เหมือนอย่างที่หนังเขาบอกล่ะว่า “จงดูแลพ่อแม่ให้ดีที่สุด ก่อนที่ในวันข้างหน้า ...ท่านจะไม่ได้อยู่กับเราแล้ว”
อันที่จริงแล้ว "หนัง" ให้อะไรๆ กับเรามากมาย ชีวิตที่ผมดำเนินอยู่ทุกวันนี้ ก็ได้รับความคิด และอิทธิพลมาจากหนังหลายๆ เรื่องเช่นกันครับ หวังว่าทุกคนจะ "รัก" หนังเช่นเดียวกันนะคราบบบบ




Create Date : 23 กรกฎาคม 2549
Last Update : 23 กรกฎาคม 2549 0:18:43 น. 0 comments
Counter : 1784 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

phaley13
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ตลอดชีวิตที่ผ่านมา
ภาพยนตร์ คือ ส่วนหนึ่งในชีวิตน้อยๆ ของผม
...ผมไม่ได้รัก "หนัง" เท่าชีวิต
แต่ "หนัง"คือชีวิตของผม (ว้้าว..)
FILM LOVERS ARE SICK PEOPLE!!
[Add phaley13's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com