Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
10 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
เรื่องน้ำเน่าของเราสอง.ตอนสิบเอ็ดจ้า

พอวางแผนอะไรๆลงตัว ก็เริ่มรีแลกซ์กันได้นิดนึง หวานหยดกันให้มากขึ้น แน่นอนว่าข้อความมีไม่ขาดทุกวัน วันละสิบยี่สิบข้อความก็ว่ากันไป เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ก่อนและหลังอาหาร
จากที่ไม่เคยบอกรัก ก็บอกรักเป็นว่าเล่น รู้สึกว่ามันกลับกันกับชาวบ้านไงไม่รู้ที่มากบอกรักอย่างกับคนเจ้าชู้เอาตอนขอแต่งงานแล้วเนี่ย ยกตัวอย่างความเลี่ยนก็เช่น อรุณสวัสดิ์สุดที่รัก ราตรีสวัสดิ์จ๊ะบิวตี้ฟูล คิดถึงมากมาก อยากให้เธออยู่ตรงนี้ด้วยกันจัง จะได้คิสได้
อันนี้เลี่ยนแต่แปลไม่ได้ ลอกมาเลยแล้วกัน เหอ เหอ
"Words going blurry. Time to sleep and dream of u. good night magnificent moon harp maiden. Sleep well."

ประมาณว่านับถอยหลังกันสุดฤทธิ์วันต่อวัน

ระหว่างนั้นก็มีโครงการรวมญาติ (ทางเค้าอ่ะนะ) เนื่องในวัน Anzac Day (อารมณ์วันทหารผ่านศึกไรงี้) พ่อแม่เค้าก็มาแงะเราไปด้วยโดยที่ไม่มีลูกชายเค้าด้วยเนี่ยแหละ ดูแล้วประมาณเปิดตัวว่าที่ลูกสะใภ้ไงไม่รู้ บรึ๋ยยย สยองนิดๆ ก็ทำตัวหงิมๆไปแล้วกัน
ญาติโกโหติกาบ้านเค้าก็เพียบไม่แพ้บ้านเราเลยแฮะ ลูกพี่ลูกน้องหลานๆ ลุงๆป้าๆ จำหน้าให้แมชกะชื่ไม่ได้ซักคน แต่เค้าก็ดูทีวีจอใหญ่บรรยากาศบ้านๆเป็นกันเองดี

ถัดจากงานนี้อีกอาทิตย์ก็มีงานวันเกิดลูกของลูกพี่ลูกน้องเค้าอีก พ่อแม่เค้าก็มารับอีกตามเคย รู้สึกมันโหวงๆไงม่ายรู้อ้าาา เจอพ่อแม่เค้าบ่อยกว่าเจ้าตัวอีกง่ะ มึนๆ แต่พวกเค้าก็ดีกะเรามากๆเลย




ไม่รู้จะยืดเรื่องทำไมนักหนา

ว่าแล้วก็ถึงวันที่คุณชายบินมาหา ตื่นเต้ลลมาก ตอนไปรับที่สนามบินก็แนวเดิม คือไปสายนิดนึง แล้วพอเค้าขนของเข้ารถก็คุยแบบด้านๆ ชาๆ แล้วเค้าก็พูดขึ้นมาอย่างน่าสงสารว่า
“เนี่ยตกรถไฟล่ะ เลยต้องขึ้นแทกซี่ เสร็จแล้วตังก็มีติดตัวแค่ยี่สิบ ก็เลยบอกคนขับว่า มีทั้งเนื้อทั้งตัวแค่นี้ล่ะ แล้วก็หมดตัวแล้วด้วย เพราะเค้าจ่ายค่าจ้างขาดไปอาทิตย์นึงอ่ะ”
โห ทำไมต้องตีบทพระเอกอนาถาขนาดนี้นะ น่าจ๋งจ๋าานจัง

พอมาถึงบ้านก็แนะนำตัวให้แม่รู้จัก แม่ก็ภาษปะกิดไม่ได้หรอกนะ แต่ว่ามั่นไว้ก่อน เออๆออๆกันไป

จากที่เป็นโหมดโทรมๆ มึนๆ ง่วงๆกัน พอเข้าห้องปุ๊บ กรึ๊ยยย ก็เปลี่ยนเป็นโหมดสวีททันที เกือบต้องเซ็นเซอร์กันทีเดียว เหอ เหอ พอดีแม่มาเคาะประตูห้องซะก่อน เดี๋ยวจะไปปาร์ตี้สาย อุตส่าห์รวมเพื่อนๆมางานได้ปาร์ตี้ครั้งแรกและครั้งเดียวของเราได้ เราไม่ได้บอกหรอกนะว่าจะเป็นงานเลี้ยงก่อนแต่ง กะว่าถ้ามาได้ก็มา มาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ก่อนไปสถานที่ที่เพื่อนจัดไว้ให้ก็ไปหาซื้อน้ำมาทำพันช์ ประมาณว่าเราก็ออกเงินตลอด เวลาคนมันไม่มีเงินนี่ก็ไม่มีเอาซะเล้ย อันนี้เราเข้าใจสุดฤทธิ์ เพราะเราก้อจาหมดตัวเหมือนกัน นี่จะแต่งกันไปอดตายมั้ยเนี่ย (ว้าย แช่งตัวเองทำไมเนี่ย) แต่เราก็รู้สึกว่าเค้าน่าทะนุถนอมนะ เหมือนได้มีโอกาสช่วยเหลือปกป้องเค้าอ่ะ เดี๋ยวพอเราหมดตัวตอนขับรถลงไปเมืองเค้า แน่นอนเค้าต้องออกให้หมดอยู่ดี

งานเลี้ยงแบบเพื่อนๆก็ง่ายๆ สบายๆ เราก็แต่งตัวชุดที่เพื่อนๆจากไทยฝากแม่มาให้ ก้อแหม อุตส่าห์โทรไปเล่าเรื่องตั้งหกเจ็ดชั่วโมง อัพเดทแบบนอนสตอป จุดประสงค์หลักประมาณว่าช่วยซื้อเสื้อยืดเท่ๆ มาให้คุณชายหน่อยสิ แต่เราก็แอบรู้ใจเพื่อนว่าเค้าต้องซื้ออะไรมาให้เราด้วยแน่เลย ซึ่งก็เป็นชุดลายจุดน่ารักๆ ใส่แล้วหวิวเล็กน้อย เหอ เหอ
เพื่อนๆก็มากันเท่าที่จะมาได้ พอบอกเพื่อนมหาลัยเท่านั้นล่ะว่าจะแต่งงานแล้วย้ายออกจากเมืองอีกสองสามวันข้างหน้า เล่นเอาเค้าช็อคกันตาตั้งเลย บอกว่าทำไมไม่บอกก่อนล่ะจะได้เอาของขวัญมาให้ พวกที่ไม่ได้มาก็โวยวายเหมือนกันว่ารู้งี้ลางานมาก็ดีหรอก แต่ก็แหม เราก็อายนี่นา บอกล่วงหน้า เดี๋ยวก็ได้ยิงคำถามกันไม่หยุด สู้ให้มาเห็นเจ้าตัวทีเดียวสิ้นเรื่องนิ
คุณชายเราก็ทำตัวเข้าสังคมดีมาก ขนาดง่วงๆก็พูดฉอดๆๆๆ เราไม่สนหรอกที่เค้าไม่รู้จักใครเลย ก็แหม เราก็ไปงานรวมญาติเค้าตั้งสองหนนาเฟ้ย
โดยรวมงานปาร์ตี้บาร์บีคิวริมสระน้ำก็เรียบร้อยสมใจอยาก ต้องขอขอบคุณคุณเจ้าของสถานที่อย่างแรง เตรียมทุกอย่างกระทั่งเนื้อบาร์บีคิว เครื่องดื่ม จาน ชาม เราที่เป็นเจ้าของงานงี้ มาแต่ตัว แล้วก็ซื้อน้ำกับทำลาบข้าวเหนียวมานิดเดียวเอง ว้าาาา อายจัง


วันต่อซึ่งเป็นวันก่อนแต่ง ก็พากันไปจัดการเรืื่องจุกจิกก่อนแต่ง เริ่มตั้งแต่ไปให้คุณชายไปเซ็นใบคำร้องแต่งงาน แล้วก็ไปเอาแหวน อุ๊ย ลืมเล่าตอนไปเลือกแหวน ประมาณว่าลูกพี่ลูกน้องเค้าเป็นผู้จัดการร้านจิวเวอรี่ในเมือง ก็พอเลือกแหวนเสร็จ แม่เราก็ถามว่าสลักชื่อในแหวนได้ป่ะ ถ้าต้องจ่ายเพิ่มเดี๋ยวแม่ออกเอง เค้าก็บอกว่าได้ ไม่มีปัญหา พอไปรับแหวน ราคาก็ออกมาถูกใจหาย ก็เลยคิดว่าได้ส่วนลดเพราะเป็นญาติแน่เลย แต่พอมาคิดไปคิดมา คุณชายบอกว่า ถึงราคาสตาฟก็ไม่น่าได้ถูกขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะเจ้าตัวแอบออกเองด้วยแน่เลย แล้วลายมือที่สลักชื่อก็เหมือนจะเป็นลายมือเค้าอีกตังหาก สงสัยว่าเค้าคงไปยืมเครื่องมือใครมาสลักให้ด้วยตัวเอง (ตอนหลังเพื่อนอยากทำแหวนแต่งงานเหมือนกัน แล้วเค้าก็ไปถามร้านนี้แหละ แต่ที่ร้านบอกว่าไม่มีบริการสลักชืื่อออ อืมมมม น่าคิดมะ)
เสร็จแล้วก็ไปเปิดบัญชีธนาคารร่วมกันเอกสารก็วุ่นนิดหน่อย เพราะเราเคยเปลี่ยนทั้งชื่อทั้งนามสกุล แล้วไหนจะแปลออกมาอีก ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะเราลืมเอาพาสปอร์ตไปด้วยน่ะ แต่ดันพกแฟ้มใบเปลี่ยนชื่อซะนี่ เล่นเอาเจ้าหน้าที่หัวหมุน แต่ก็ผ่านไปด้วยดี พร้อมเปิดบัญชีด้วยเงินสิบเหรียญ ฮ่า ฮ่า ฮา

ตกเย็นต้องไปส่งเค้านอนที่บ้านเค้า ไม่รู้ว่าเป็นธรรมเนียมหรือว่าเป็นคอนเซ็ปก็ไม่รู้ น่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่ามั้ง เพราะเค้าต้องช่วยพ่อแม่เตรียมสถานที่ แล้วก็เตรียมเมนูที่เจ้าตัวจะลงมือทำเองด้วย โถ โถ นี่เราต้องแยกจากกันอีกแล้วเหรอเนี่ย (แหววววว่…ะ)



Create Date : 10 กันยายน 2550
Last Update : 10 กันยายน 2550 9:54:11 น. 0 comments
Counter : 329 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

รัชศรี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add รัชศรี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.