|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องน้ำเน่าของเราสอง.ต่อด้วยตอนสี่
แต่อย่างว่านะ ช่ีีวิตไม่ได้ราบรื่นเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่เค้าว่า
วันดีคืนดีก็แกว่งเท้าหาเสี้ยนเข้าไปถามมหาลัยว่าถ้าเรียนจบก่อนแล้ววีซ่ามันจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย เมื่อได้ฟังดังนั้นพระนาง(นั่น) จึงรีบจัดแจงแจ้งimmigration เสร็จสรรพ อันทำให้ตัวข้าพเจ้ามีอันตกอกตกใจมากเพราะได้ยินมาว่าถ้าเป็นหยั่งงี้แล้วจะอยู่ได้ไม่เกินยี่สิบแปดวัน ตายละหว่า ไอ้เราก็รอให้ที่ทำงานเค้าสปอนเซอร์เราอยู่เนี่ย ถ้าต้องกลับก่อนก็อดได้งานอ่ะดิ เพื่อนตัวดีเลยแนะนำให้เรียนอะไรต่อไปก่อนสิ ตอนนั้นก็ปวดหัวมากๆ เบื่อเรียนจะแย่อยู่แล้วต้องมาหาเรื่องเรียนอีกเหรอเนี่ย ถ้าเจ้านายไม่ให้โอกาส เราไปหาที่เรียนที่มันอยู่เมืองเดียวกะเค้าให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยดีมั้ยเนี่ย เพราะเมืองเค้าใหญ่กว่าซึ่งมีวิชาเรียนเยอะกว่าด้วย แล้วถ้าตกงานที่นี่ก็จะได้โอกาสหางานแบบชาวกรุงที่โน่นได้ด้วย คิดแล้วก็หาที่เรียนใหญ่ เขียนไปถามเค้าด้วยว่าถ้าชั้นจะไปเรียนที่โน่นจะขอแชร์ที่พักด้วยได้ป่าว เค้าก็ใจดีบอกว่าด้วยความยินดี แต่เดี๋ยวถามเจ้าของบ้านก่อน
หาข้อมูลไปอีกซักพัก เจ้านายที่ทำงานก็ให้สัญญาว่าจะให้โอกาสสปอนเซอร์ แล้วก็ได้ที่เรียนที่มหาลัยเดิมเป็นคอร์สสั้นๆ ก็เลยเปลี่ยนใจอยู่ต่อที่เมืองเดิม พอหายห่วงได้เปลาะนึงก็โทรคุยกะเค้า แต่มันก็ยังรู้สึกว่าเครียด เครียด เครียดมากมากจริงจริง เครียดจนเผลอพูดอะไรไปก็ไม่รู้ ประมาณว่าบางทีก็คิดอยากไปอยู่ด้วยกันเลยให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย พูดเสร็จก็อายปากว้า ก็รีบตัดบทไปก่อนที่เค้าจะทันตอบอะไรว่า แต่นี่มันไม่ใช่ชั้นซักกะนิดเดียว แล้วเราก็ยังไม่รู้จักกันนานขนาดนั้นด้วย เค้าก็ตอบแค่ประมาณว่า ใช่่ ใช่
แค่ประโยคโง่ๆของเราสองสามประโยคเท่านั้นล่ะ เล่นเอานอนไม่หลับไปทั้งคืน บ้าชะมัด ทำไมต้องไปพูดอะไรแบบนั้นด้วยนะ เค้าฟังแล้วจะคิดยังไงเนี่ย เราไมได้คิดจะจับเค้านาเฮ้ย แต่ตอนนั้นอารมณ์อยากลองใจมันพาไปจริงๆ ซึ่งเค้าก็ไม่ได้แสดงออกว่ารักว่าเกลียดอะไร ตอนไปเยี่ยมเค้าก็เคยงึมงำบอกชอบเค้าไป เค้าก็ไม่ตอบอะไรกลับมา ถ้าคิดแบบเข้าข้างตัวเองจะเป็นว่าเราพูดงึมงำ พูดเบาเกินไปจนเค้าไม่ได้ยิน ถ้าคิดแบบนางเอกหนังน้ำเน่าก็จะบอกตัวเองว่าเค้าแกล้งไม่ได้ยิน ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
เมือคิดมากกันไปขนาดนั้น ก็เลยบอกกับตัวเองว่า จะไม่ติดต่อเค้าไปก่อนอีกแล้ว หน้ามันชาไปหมดแล้ว ถ้าเค้าไม่ติดต่อกลับมา ก็ขอให้เราหายบ้าก่อนแล้วกัน ซึ่งก็คงเป็นอีกพักใหญ่ แล้วก็โทรไปโวยวายกับเพื่อนสุดฤทธิ์ โทรไปให้พวกมันด่าให้มันบาดลึกเข้าไปอีก(มาโซคิสนะเนี่ย) ซึ่งพวกมันก็ด่าจริงๆน่ะแหละ ก็บอกแล้วไงว่าให้ใจเย็นๆ!! ก็แหม ตอนนั้นมันได้บรรยากาศลองใจเลยนี่นา แต่ลองแล้ว แล้วไง มานั่งเสียใจทีหลัง
ไม่ต้องรอกันนาน ผ่านไปแค่สองวันที่กินไม่ได้นอนไม่หลับ ก็มีข้อความเข้ามา โทษทีที่ไม่ได้ติดต่อเลย ช่วงนี้งานยุ่งมาก เฮ้ยยยย แค่เนี้ยนะ!!! นี่แสดงว่าชั้นคิดมากไปเองสิวะเนี่ย เค้าไม่ได้คิดอะไรเลยซักกะติ๊ดนึง สงสัยจะหลอนวิตกจริตจากรีแอคชั้นของแฟนเก่าที่มองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา แต่ว่าเราเป็นนางเองเรื่องน้้ำเน่าต้องคิดไม่เข้าข้างตัวเองไว้ก่อนไง แต่ก็ดีแล้วล่ะ ดีแล้ว ฮิ้วววว รอดตัวไป
Create Date : 13 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2551 15:42:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 171 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|