หลายคนเข้ามาคุยกับอีป้า เข้ามาดูรูปและโพสความเคลื่อนไหว และเรื่องราวต่างๆของอีป้ากับสามี หลายคนจะบอกว่า ป้าวาสนาดีและโชคดีจังเลย อันนี้ น้่อมรับไว้แบบยิ้มหน้าบาน ยอมรับวาตัวเองโคตรวาสนาดีเลยที่ได้ผู้ชายดีดีมาเป้นสามี ผู้ชายที่โคตรอบอุ่น ดูและและห่วงใยเราใส่ใจเราในทุกๆรายละเอียดถึงแม้ว่าบางครั้งจะจู้จี้จุกจิกเผด็จการ ปากหมา ง้อเมียไม่เป็น ก็ตามที
หลายคน จะถามว่า สามีอีป้ารวยไหมคะ ทำงานอะไร เงินเดือนเท่าไหร่ ให้เงินอีป้าคนสวยใช้เดือนละเท่าไหร่
อันนี้ ขอบอกแบบไม่อายว่า สามีของอีป้าไม่รวยเลย และตอนนี้ไม่มีงานทำค่ะเพราะป่วยกินแค่เงินเกษียนแค่นั้นเอง ไม่มีเงินเดือนให้เราค่ะ แต่ได้มาทุกบาททุกสตางค์สามีจะเอาให้เราหมด เพราะเราถือบัตรทั้งหมด เงินจะเข้าจะออกต้องผ่านเราหมด ซึ่งมันก็เงินไม่เยอะหรอก แต่ภูมิใจไง ว่าผัวจะอยากได้เงินสักบาทสองบาทต้องมาแบมือขอเรา อันนี้โคตรปลื้มปริ่มหัวใจเลย หุหุหุ
แต่ ถ้าไม่นับเรื่องเงินทองแล้ว ขอบอกว่าตัวเองเป็นคนที่โคตรรวยเลย รวยอะไรเหรอ ก็รวยความสุขไงคะ ดูจากเหง้าหน้าของอีป้าก็ได้ว่าสุขแค่ไหน อย่าไปคิดถึงในแง่ของเซ็กส์นะคะเพราะสามีอีป้าก็ปาเข้าไป 60 กว่าๆ และตัวอีป้าเองก็เข้าสู่วัยทองเหมือนกัน เรื่องนี้เราตัดมันออกไปจากชีวิตนานแล้วค่ะ
ถามว่าจริงหรอตอแหลสร้างภาพหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้จะมาสร้างภาพทำไม คนเราอยู่ด้วยกันจะมีความสุขเราสามารถหาเรื่องอื่นอย่างอื่นมาทดแทนได้ ไม่ใช่คิดแต่ว่าเรื่องใต้สะดือคือความสุขของชีวิต
เซ็กส์ไม่ใช่อาหารขาดมันแล้วไม่ตายค่ะ แต่ ขาดความสุขและขาดสามีดีดีนี่ถึงตายได้ทีเดียวเชียว
หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้คงคิดในใจว่าโถ อีป้ากระแดะสร้างภาพสิท่า ตอแหลเป็นอีใบเตยนะยะ
อันนี้ก็แล้วแต่ความคิดของใครนะคะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ใครคิดอะไรใครทำอะไรก็ได้สิ่งนั้น เน๊าะคะเน๊าะ
ที่ว่าตัวเองเป็นคนรวยความสุขนั่นก็เพราะได้สามีที่เข้าใจเรา ที่ชอบอะไรคล้ายๆกัน ที่โอนอ่อนผ่อนตามกัน คนหนึ่งโกรํคนหนึ่งจะเย็น เราสัญญากันว่า ห้ามงอนหรือโกรธกันข้ามวัน ถ้าไม่พอใจอะไรในการกระทำของกันและกันให้พูดเลย อย่าเก็บให้บอกว่าเราพอใจหรือไม่พอใจอะไร
ชีวิตคู่ของอีป้ากับลุง เชื่อหรือเปล่า อันนี้ไม่ได้โม้ นับตั้งแต่วันแรกที่รู้จกักันจนกระทั่งวันนี้ เรางอนกันแค่ 3 ครั้ง นั่นก็คือ
-ครั้งแรก อีป้างอนให้อีลุงเรื่องการย้ายของย้ายโซฟาในบ้าน เพราะปกติเป็นคนขี้เบื่อชอบย้ายมุมห้องเปลี่ยนโลเคชั่นของห้องของบ้าน แต่อีลุงแกเป้นคนที่ไม่ชอบให้อะไรย้ายออกจากที่จากทาง เลย เกิดอาการงอนกันขึ้นมา แต่เมื่อเรื่องนั่นผ่านไป อีลุงก็ได้เรียนรู้ว่าการตามใจเมียและอยากให้ไม่มีปัญหาคือ มันอยากย้ายอะไรในบ้านก็แค่ช่วยมันย้ายก็แค่นั้นเอง
-เรื่องที่สองคือ เรื่องจำวันเกิดแกไม่ได้ เลยเกิดอาการไม่พอใจงอนและเรียกนังเมียไปนั่งอบรมเป็นชั่วโมงว่า แกซีเรียสกับเรื่องวันสำคัญของแต่ละคนมาก คือแกติอยู่เมืองไทยจะเป็นคนความจำปลากัด ความจำสั้น(แต่รักฉันยาวพะนะ) จะไม่จำวันเกิดอะไรของใครเลยแม้แต่ของลูกหรือของตัวเอง ดังนั้นเมื่อเข้าใจตรงกันก็เลยไม่มีปัญหาเพราะอีป้าจะจดใส่สมุดพกประจำตัวและแมมใส่มือถือให้มันเตือนลวงหน้า 3 วัน เพราะจะได้เตรียมตัวซื้อการ์ดและของขวัญให้คุณสามีได้
-เรื่องสุดท้ายผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้คือ เรื่องการเป็นคนตามใจลูกจนทำให้เขาไม่โตสักทีทั้งๆที่อายอานามก็เกือบจะ 40 แล้ว หลังจากเรียกมาอบรมกัน ก็ผ่านไปได้ด้วยดี และน่าจะโอเคนะ หวังไว้เช่นนั้น
ซึ่งเรื่องที่เรางอนกันโกรธกันเป็นเรื่องขี้หมูขี้หมาทั้งนั้นเลย ด้วยนิสัยของเราสองคนเป็นคนที่ไม่ค่อยจะมองข้อเสียของกันและกันเราเลือกที่จะมองข้อดีของกันและกันมากกว่าเพราะ เราผ่านเรื่องร้ายๆมาด้วยกันแล้ว เราสองคนเลยทนุถนอมทุกวินาทีให้มีค่ามากที่สุดสำหรับเรา(อนุญาตให้ไปอ๊วกกันได้ค่ะแล้วค่อยมาอ่านต่อ)
-ทุกๆคือวันเสาร์-อาทิตย์เราจะดูหนัง หรือโปรแกรมทีวีด้วยกัน
-เราจะออกไปกินข้าวนอกบ้านหรือออกไปในเมืองเพื่อเดินเล่นดูนู้นนี่นั่นเดือนละ 1หรือ2 ครั้งแล้วแต่สถานะการณ์ฝนของประเทศนี้ พะนะ
-เราจะบอกรักกันก่อนนอนและตอนตื่นนอน
ข้อตกลงของบ้านนี้หรือถือว่าเป็นกฎเหล็กของบ้านเลยก็ว่าได้และอีลุงก็ปฎิบัติตามอย่างเครางครัดนั่นก็คือ
1.เมียต้องถูกเสมอ
2.ห้ามทะเลาะกันเกิน12 ชั่วโมง
3.ไม่ว่าใครจะผิดจะถูก สามีต้องเป็นฝ่ายบอกขอโทษก่อนเสมอ และถ้าอีลุงไม่ผิดแกก็จะบอกว่า "ที่รักฉันขอโทษในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรแต่ทำให้คุณโกรธ กรุณายกโทษให้ฉันด้วยนะ"แล้วเราก็จะกอดและหอมกันถึงแม้อารมณ์นังเมียตอนนั้นจะกรุ่นๆอยู่ก็ตาม ก็มันเป็นข้อตกลงนี่นา
4.ถ้าไม่พอใจอะไรให้กลับไปอ่านข้อ 1 ใหม่
ชีวิตคู่มันเป็นเรื่องไม่ยากไม่สลับซับซ้อน ถ้าเรามองข้ามสิ่งไม่ดีและเลือกมองแต่สิ่งดีดีของกันและกัน รัก และให้เกียรติ ซึ่งกันและกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่มีความลับต่อกัน ไว้ใจซึ่งกันและกัน ไม่ทำตัวเอยะจนเกินไป แค่นี้ชีวิตคู่มันก็ลงตัว
แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นมันต้องได้รับความร่วมมือกันทั้งสองฝ่ายนะคะ เพราะถ้าแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพยายามอยู่ฝ่ายเดียวต่อให้ทำแทบตายก็ไม่รอดค่ะ
อยู่ที่ว่าเราจะเลือกทำให้ชีวิตคู่มีความสุขหรือทุกข์ อยู่ทมี่ว่าเราจะเลือกมองและคอยจับผิดหรือรู้มันผัวไปเสียทุกเรื่อง หรือเลือกทำเป็นมองข้ามๆโง่ๆไปบ้างบางเวลาแค่นี้เราก็มีความสุขแล้วค่ะ
อันนี้ถามคนรอบข้างอีป้าได้เลยว่าจริงหรือแหล เหอเหอเหอ
จบข่าว
ป้าแก้ว ยูเค.